“ปากเธอทั้งหวานทั้งหอมเลย” ฟาฎิลปล่อยปากสาวให้เป็นอิสระเพื่อให้อนัญญาได้หายใจ ทั้งที่ไม่อยากทำสักเท่าไหร่ “คอยดูนะ ถ้าฉันขึ้นไปจากสระได้เมื่อไหร่ ฉันจะชกหน้าคุณ จะชกเป็นร้อยทีเลย” อนัญญาอยากทำตามปากว่าตอนนี้เลย แต่ก็ทำไม่ได้เพราะหล่อนอยู่ในน้ำ กลัวจมน้ำก็กลัว อยากอัดหมัดใส่หน้าฟาฎิลก็อยากทำ และที่สำคัญหญิงสาวเขินอายที่ถูกชีคหนุ่มขโมยจูบแรกไปแบบไม่ทันตั้งตัว พวงแก้มขึ้นเลือดฝาดส่งผลให้ใบหน้าหล่อนชวนมองมากขึ้น “จูบหนึ่งครั้งถูกชกหนึ่งทีก็คุ้มนะ งั้นฉันต้องจูบเธอบ่อยๆ ซะแล้ว” ฟาฎิลพูดไปยิ้มไป “จะบ้าเหรอ ฉันไม่ให้คุณจูบหรอก ถ้าคุณจูบฉันอีกล่ะก็ฉันจะชกหน้าคุณให้ดั้งหักเลยคอยดู” หล่อนขู่ “แล้วก็จะกัดลิ้นคุณให้ขาดด้วย” “เธอไม่มีวันได้กัดลิ้นฉันหรอก” อนัญญาใจชื้นเพราะคิดว่าเขากลัวคำขู่ตน ทว่าคำพูดประโยคต่อมา ทำให้หล่อนถึงกับตกใจ “เพราะครั้งหน้าฉันจะจูบเธอแบบไม่สอดลิ้น”
1
จดหมายในมือชีคฟาฎิล อิสบาฮิม ราซิม สุไลลาถูกคลี่ออก จดหมายฉบับนี้ส่งมาจากประเทศไทย ผู้ส่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษระบุชื่อ อภิญญา อินทร์กรรชัย เขาทวนความจำกับบุคคลชื่อนี้ กว่าจะนึกชื่อนี้ได้ก็ใช้เวลาพอสมควรเพราะมันผ่านมากว่าเจ็ดปีแล้ว
7 ปีที่ไม่ได้ติดต่อกับเจ้าของจดหมายฉบับนี้
อภิญญาคือคู่นอนของเขาพักหนึ่ง พักหนึ่งที่ว่าก็ร่วมสองเดือน ตอนนั้นเขาไปเมืองไทยเพื่อติดต่อเรื่องธุรกิจและพักผ่อน อภิญญาเป็นพนักงานทำความสะอาดภายในโรงแรมที่เขาพักอาศัย เจอกันครั้งแรกต่างถูกใจซึ่งกันและกัน สุดท้ายก็จบลงที่เตียง
ชีคฟาฎิลตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมสุดหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา และสถานที่แห่งนั้นคือรังเสน่หาระหว่างเขากับอภิญญา จนกระทั่งเขากลับประเทศซาเมียร์ก็ไม่ได้ติดต่อกับอภิญญาอีกเลยชีคหนุ่มจำได้ว่าก่อนกลับได้ให้เงินอภิญญาสามแสนบาทก็ไม่น่ามีเรื่องติดค้างกัน อีกทั้งยังตกลงกันไว้ว่า เรื่องที่เกิดขึ้นไม่มีการผูกมัดทุกอย่างจบเมื่อเขาบอกให้จบ ซึ่งหล่อนก็ยอมรับในข้อตกลงนี้ แล้วทำไมจดหมายฉบับนี้ถึงมาอยู่ในมือตนได้ ด้วยความอยากรู้ฟาฎิลเปิดจดหมายเพื่ออ่านข้อความในนั้น
ฟาฎิลคะ
คุณคงจำฉันไม่ได้ คุณเรียกฉันว่า ซาเรีย ฉันมีความลับเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้บอกคุณ ครึ่งเดือนก่อนคุณกลับซาเมียร์ ฉันแอบใช้เข็มเจาะถุงยางอนามัยเพราะฉันอยากมีลูกกับคุณ ฉันรักคุณแต่รู้ดีว่า คุณไม่รักฉันและไม่ต้องการมีพันธะ พอคุณกลับซาเมียร์ได้เกือบเดือนฉันก็ตั้งท้อง ลูกในท้องของฉันคือลูกของคุณ เขาเป็นเด็กฝาแฝดหน้าตาเหมือนคุณไม่มีผิด ลูกของเราชื่ออานัสและอานีส ตอนนี้อายุหกขวบกว่าแล้วค่ะ
ที่ฉันเขียนจดหมายมาบอกคุณเพราะฉันกำลังจะตายด้วยโรงมะเร็ง ฉันไม่แน่ใจว่า วันที่คุณได้รับจดหมายฉันยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ฉันไม่อยากทิ้งภาระให้พี่สาวของฉัน พี่สาวฉันลำบากเพราะฉันกับลูกมามากแล้ว เธอทั้งเหนื่อยและทุกข์ใจทุกวันเพราะต้องหาเงินมาเป็นค่ารักษาพยาบาลฉันและเลี้ยงลูกของเรา ฉันจึงอยากให้คุณมารับลูกของเราไปอยู่ด้วย
คุณอาจไม่เชื่อเรื่องที่ฉันบอก แต่ทางการแพทย์สามารถยืนยันได้ คุณพาอานัสและอานีสไปตรวจดีเอ็นเอได้ค่ะ ฉันมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่า อานัสกับอานีสเป็นลูกของคุณ ภาพถ่ายสองแฝดฉันส่งมาพร้อมกับจดหมาย หน้าตาเหมือนคุณไม่มีผิดค่ะ ฉันเขียนที่อยู่ไว้ให้ด้วยนะคะ คุณจะได้ไปรับลูกของเราได้ถูกที่
ท้ายนี้ฉันดีใจที่ได้พบคุณ ดีใจที่เรามีความสุขร่วมกันในระยะเวลาสั้นๆ เป็นความสุขและความทรงจำที่ฉันไม่เคยลืม และขอโทษที่สร้างภาระให้กับคุณ คุณไม่รักฉันไม่เป็นไรค่ะ ขอให้คุณรักลูกของเราบ้างแค่เพียงเสี้ยวใจก็ยังดี
รักคุณเสมอ
ซาเรีย
มือฟาฎิลสั่นไปหมด หัวใจเขาก็สั่นตามไปด้วย รู้สึกมึนไปชั่วขณะไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับตน ใครจะไปคิดว่าอภิญญา ผู้หญิงนิสัยเรียบร้อยที่สุดเท่าที่เขาเคยรู้จักมาจะทำเช่นนี้ ทว่าใจหนึ่งก็ไม่คิดว่าคือเรื่องจริง
ฟาฎิลวางจดหมายลงบนโต๊ะ หยิบภาพถ่ายออกมาจากซองจดหมาย หัวใจเขาเต้นแรงอีกครั้งเมื่อได้เห็นหน้าเด็กผู้ชายสองฝาแฝด ใบหน้าตาเหมือนเขาในวัยเดียวกันไม่มีผิด ฟาฎิลเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่า ความคิดที่ว่าไม่ใช่เรื่องจริง อาจเป็นจริงก็ได้ ทางเดียวที่จะพิสูจน์ว่าเด็กชายอานัสและอานีสเป็นลูกเขาหรือไม่ คงต้องตรวจดีเอ็นเอตามที่อภิญญาบอกในจดหมาย
“ไหน ไหน ลูกหลานใครมาว่าหลานฉันว่าเป็นลูกไม่มีพ่อ” เสียงชวนหาเรื่องเต็มที่ของอนัญญาดังขึ้น เจ้าตัวยืนเท้าเอวมองหน้าคนที่เรียกตัวเองว่าผู้ใหญ่ อายุรวมๆ กันแล้วเกือบสี่ร้อยปีเรียงคน โต๊ะม้าหินใกล้ๆ มีสาววัยเดียวกับหล่อนนั่งดื่มกาแฟเย็นนั่งอยู่ โดยมีเด็กชายกลุ่มหนึ่งนั่งเล่นอยู่ด้วย ทั้งหมดนั่งอยู่หน้าร้านอาหารตามสั่งประจำซอย “ใครว่าหลานฉันแสดงตัวออกมาซะดีๆ อย่าให้โมโหนะ”
เป็นการเตือนครั้งที่หนึ่ง แต่ก็ยังไม่มีใครยอมรับ
“เตือนครั้งที่สองนะ ถ้าไม่แสดงตัวออกมา ที่นี่แหลกแน่”
เตือนครั้งนี้เด็กชายรูปร่างอ้วนสุดที่นั่งตรงโต๊ะม้าหินลุกขึ้นมายืนหลบอยู่ด้านหลังวาสนาหรือนาที่นั่งดื่มกาแฟเย็นที่ไม่ได้ช่วยให้จิตใจหล่อนเย็นเลย กลับร้อนๆ หนาวๆ ด้วยซ้ำไป
“ไอ้นนท์ แกว่าหลานฉันใช่ไหม” อนัญญาเรียกชื่อเด็กชายเจ้าเนื้อเสียงดังลั่น เจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้งเกาะแขนน้าสาวแน่น
“เด็กมันก็คงพูดหยอกกันน่ะเปรี้ยว แกก็อย่าถือสาเด็กมันเลยนะ”
วาสนาน้าสาวของนนท์พูดเสียงสั่น รู้สึกแหยๆ กับท่าทางของอนัญญาที่พร้อมตบเต็มที่
“นั่นสิ เอ็งก็อย่าโกรธเป็นฝืนเป็นไฟไปหน่อยเลย เด็กมันพูดไม่คิด พูดตามความจริง” คนพูดคือป้าอิ่ม แม่ของวาสนาและเป็นยายของนนท์
“ความจริงอะไรป้า ฉันถามป้าข้อนึงว่า ใครในโลกนี้เกิดมาโดยไม่มีพ่อบ้าง ไม่ใช่ปลากัดนะที่มองตากันแล้วจะท้องน่ะ ขนาดทำเด็กหลอดแก้ว ทำกิฟฟ์ยังต้องมีเชื้อของคนเป็นพ่อเลยไม่งั้นลูกจะเกิดมาได้ไง” อนัญญาพูดด้วยความไม่พอใจ มองหน้าเอาเรื่อง “อย่ามาแถแทนหลานตัวเองเลย หัดสั่งสอนหลานตัวเองบ้างนะ ถ้าฉันได้ยินอีกครั้งว่า หลานของป้าพูดแบบนี้กับหลานของฉันอีกล่ะก็ แม่จะเอาไม้เผ่นกบาลให้แตกเลยคอยดู”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อนัญญามาอาระวาดผู้ปกครองเด็กในละแวกบ้าน แต่ก็ยังมีเด็กปากไม่ดีพูดล้อเลียนอานัสและอานีส หลานชายฝาแฝดสุดที่รักของหล่อนว่า ‘ไอ้ลูกไม่มีพ่อ’ คนเป็นป้าถึงกับเลือดขึ้นหน้า ไปจัดการเด็กที่พูดประโยคนี้ จนไม่มีใครพูดซ้ำสอง
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"