/0/16159/coverbig.jpg?v=b008581077a035f51981711e682d1b7d)
มู่ลี่หยางใช้ชีวิตเป็นพรานป่าหาของป่าไปขายอยู่หลายปี แต่เข้าป่าครั้งนี้เขาได้พบหญิงสาวผู้หนึ่งหมดสติอยู่จึงช่วยนางไว้ ทว่าทันทีที่นางลืมตา นางกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง เขาจึงจำเป็นต้องดูแลนาง แต่ที่ทำให้เขาหนักใจ ก็คือนิสัยนอนละเมอของนาง เหตุใดทุกครั้งที่นางละเมอต้องมาอยู่บนเตียงเขาด้วยเล่า! “พี่ลี่หยาง!” “นอนดีๆ อย่าฟุ้งซ่าน คืนนี้เจ้าต้องพักผ่อน” “ข้ารู้ แต่ไม่ต้องมัดข้าขนาดนี้ก็ได้”" “ไม่ได้” เขาสะบัดมือเพียงคราวเดียว เปลวเทียนในห้องก็ดับลง “หากจะนอนเตียงเดียวกับข้าก็อย่าดื้อ อย่าซุกซน” “พี่ลี่หยาง” เสียงหวานเอ่ยขึ้น “นอนเสีย!” เขาตวาดทีเดียวหญิงสาวก็เงียบเสียงไป แม้ได้เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา นางก็มีความสุข ขอเพียงได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยอมทำทุกอย่าง แม้จะถูกมัดเป็นบะจ่างก็ยอม.
แนะนำตัวละคร
ไป๋เซ่อ-ฟู่เหยียนอวี้ : มีฐานะเป็นน้องสาวของประมุขฟู่อวิ๋นเชิง
มู่ลี่หยาง : นายพรานหนุ่มเป็นเด็กกำพร้าที่หมอมู่จางหมิ่นอุปการะ
มู่จางหมิ่น : หมอชาวบ้านที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้าหลายสิบชีวิต
ฟู่อวิ๋นเซิง : ประมุขพรรคมาร
หลิวชิง : มือขวาฟู่อวิ๋นเชิง
หญิงสาวขยับข้อมือที่เจ็บไปมาราวกับไม่เคยเห็นมันมาก่อน ยังไม่ทันที่สมองจะลำดับเหตุการณ์ต่างๆนานา เสียงฝีเท้าคนเข้ามาใกล้เรียกดวงตาสีนิลให้หันขวับไปมองทันที ร่างเพรียวขยับลุกขึ้นนั่งในท่าเตรียมพร้อมป้องกันตัว ดวงตาหรี่มองไปทางประตูห้องที่เปิดออกพร้อมกับร่างของเด็กหญิง เด็กน้อยอ้าปากกว้างแล้วหันไปส่งเสียงดังนอกประตู
“ฟื้นแล้ว! ฟื้นแล้ว! พี่ลี่หยางมาดูเร็ว พี่สาวฟื้นแล้ว!”
เสียงของ ‘หงเซ่อ’ เด็กหญิงวัยสิบสองตะโกนเรียกพี่ชายที่ลานบ้าน ร่างเล็กของเด็กสาวประคองถาดอาหารที่มีชามข้าวต้มกับผักดองใกล้ฟูกนอน โดยไม่สนใจท่าทางของอีกฝ่ายที่มองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
“ฟื้นแล้ว...”
‘มู่ลี่หยาง’ ได้ยินเสียงเด็กน้อยชัดเจน เขาโยนฟื้นบนบ่าลงแล้ววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้อง ร่างของชายหนุ่มวัยยี่สิบชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ดวงตาคมจ้องมองไปที่หญิงสาวลุกขึ้นนั่งฟูกนอนในท่าที่เตรียมจะพุ่งกระโจนออกไปทั้งที่สวมเสื้อคลุมเนื้อหยาบและหลวมโพรก เขาเผลอกลืนน้ำลายที่เห็นไหล่เสื้อเลื่อนหล่นเผยผิวกายขาวผุดผ่องดุจหยกใส
“ใจเย็นๆ ไม่มีผู้ใดทำอันตรายเจ้า”
มู่ลี่หยางชูมือสองข้างขึ้นเพื่อแสดงเจตนาว่าไม่มีอาวุธในมือ แต่เด็กหญิงที่เกล้าผมเป็นมวยก้อนกลมๆ สองข้างนั้นกลับทิ้งตัวนั่งข้างหญิงสาวที่ยังมีแววตาตื่นตระหนก หงเซ่อชะโงกหน้าไปใกล้ๆเพื่อจ้องมองดวงตาสีนิล
“หรือนางฟังภาษาเราไม่รู้เรื่อง” หงเซ่อเอียงคอมองอย่างสงสัย เด็กหญิงเป็นคนดูแลหญิงสาวแปลกหน้าด้วยตนเอง นางไม่เคยเห็นสตรีงดงามอย่างนี้มาก่อน “หรือนางอาจเป็นเทพเซียนก็เป็นได้”
“เหลวไหล” มู่ลี่หย่างส่ายหน้าไปมา แต่เขาต้องยอมรับว่านาง ‘งดงาม’ กว่าสตรีใดที่เขาเคยพานพบมา
หญิงสาวบาดเจ็บได้ยินก็ข่มใจหลับตาชั่วครู่ แต่เหมือนสมองกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ร่างที่นั่งอยู่เกิดซวนเซหมดเรี่ยวแรงทรงตัว มู่ลี่หยางรีบเข้ามาประคองร่างบางก่อนที่จะล้มลงหัวฟาดพื้น เขาประคองร่างอ่อนนุ่มให้นอนอีกครั้ง หงเซ่อรีบวิ่งไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามใบหน้าและเนื้อตัวที่พ้นเสื้อผ้าซึ่งเป็นเสื้อของชายหนุ่ม เด็กหญิงร่างเล็ก เสื้อผ้าที่นางมีไม่สามารถให้พี่สาวคนสวยใส่ได้ และที่สำคัญ ฐานะของพวกเขาค่อนข้างยากจน จะซื้อเสื้อผ้าสักคราก็ต้องรอปีใหม่ จึงต้องใช้เสื้อผ้ามู่ลี่ หยางให้อีกฝ่ายใส่แทนไปก่อน
“ใจเย็นๆ ที่นี่ไม่มีใครทำร้ายเจ้า เอ่อ…เจ้าฟังรู้เข้าใจหรือไม่?” มู่ลี่หย่างบ่นก่อนถอนหายใจหนักๆ ผิวขาวเหมือนราวกับหิมะกับดวงตาสีนิลลึกลับทำให้เขาเริ่มหวั่นๆ ที่จะสนทนากับอีกฝ่าย
“ทำอย่างไรดี พ่อบุญธรรมก็ยังไม่กลับ” หงเซ่อพึมพำขณะยื่นผ้าไปเช็ดหน้าให้อีกฝ่าย แล้วหงเซ่อก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกคว้าข้อมือไว้
“ที่-นี่-ที่-ใด” เสียงตะกุกตะกักของหญิงออกมา น้ำเสียงค่อนข้างแหบแห้งจนคนฟังรู้สึกเวทนา
“นางพูดได้!” หงเซ่อดีใจ แต่ต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ “พี่สาว ปล่อยแขนข้าก่อน กระดูกข้าจะหักแล้วนะ”
“อ๊ะ!” หญิงสาวรีบปล่อยมือทันที นางกวาดตามองอย่างตื่นตระหนกแต่ลดความระแวงลง
“ดีจริง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ” มู่ลี่หยางยิ้มดีใจไม่แพ้กัน
“เจ็บ-มือ-ปวด-หัว” หญิงสาวนัยน์ตาสีนิลค่อยพูดที่ละคำ เหมือนพยายามค้นหาคำพูดให้ได้ตามใจคิด
“พ่อบุญธรรมตรวจแล้ว บาดแผลไม่หนักหนาแต่เจ้าหมดสติไปถึงสามวันสามคืน”
ชายหนุ่มยิ้มให้ เขาเห็นนางเพิ่งฟื้นจึงไม่อยากเล่าเรื่องทั้งหมดที่ได้พบนางในสภาพชุ่มโชกไปด้วยโลหิต
“บ้านเจ้าอยู่ที่ใดหรือจะให้พวกเราติดต่อญาติให้เจ้า” หงเซ่อชะโงกหน้าเข้ามาถาม
“บ้าน-ญาติ-หมด-สติ-สาม-วัน”
ดวงตาคู่สวยกลอกไปมาอย่างงุนงง ยิ่งพยายามคิดระลอกคลื่นแห่งความเจ็บปวดก็ถามโถมเข้ามาอย่างรุนแรงจนต้องยกมือขึ้นนกุมศีรษะและร้องครางออกมา
“พี่ใหญ่” หงเซ่อหันไปทางมู่ลี่หยางอย่างร้อนรน “อย่าถามอะไรพี่สาวเลย ท่าทางนางเจ็บปวดมาก”
มู่ลี่หยางพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาเห็นพ้องกับน้องสาว ประคองให้หญิงสาวแปลกหน้าลงนอน
“เจ้าพักผ่อนก่อน อย่าเพิ่งคิดอะไรเลย”
ดวงตาคู่นั้นจ้องมองเขาจนชายหนุ่มหายใจลำบาก นางไม่เหมือนหญิงสาวชาวบ้านเลยสักนิด แววตาหยิ่งทะนงและแม้อยู่ในเสื้อผ้ามอซอแต่กลับไม่อาจปกปิดความงามของนางได้เลย
“ไม่ต้องห่วงนะ ที่ผ่านมาข้าเป็นคนดูแลพี่สาวเอง”
หงเซ่อลูบผมหญิงสาวเบาๆ ท่าทางของนางเหมือนมารดาที่ปลอบโยนลูก แต่นางคงลืมไปว่าตนเองอายุเพียงสิบสองขวบเท่านั้น อาจเพราะนางต้องดูแลเด็กๆ ในบ้านอีกหลายคน จึงทำตัวเป็นผู้ใหญ่เช่นนี้
“ที่นี่เป็นบ้านของท่านหมอมู่จางหมิ่น นี่พี่ชายข้าชื่อมู่ลี่ หยาง ส่วนข้ามู่หงเซ่อ ในบ้านยังมีเด็กๆอีกหลายคน แต่พี่สาวไม่ต้องกลัวนะ พวกเราเป็นเด็กกำพร้าที่ท่านหมอมู่เก็บมาเลี้ยง คนในบ้านนี้จึงแซ่มู่กันหมด เพราะฉะนั้นพี่สาวพักผ่อนให้สบายใจเถิด” หงเซ่อยิ้มจนดวงตาหยีเล็ก
“พี่สาวชื่ออะไร”
“ชื่อ?”
“ใช่!ชื่อที่คนอื่นเรียกเจ้านะ” ทั้งที่บอกว่าจะไม่ถาม แต่เด็กหญิงก็อดไม่ได้
“ชื่อ?” นางนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ย “ไม่-รู้”
“หา!”
มู่หงเซ่อหันไปทางพี่ใหญ่ เขายืนนิ่งมองด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างหงเซ่อนึกได้รีบยกมือขึ้นปิดปาก นางเผลอส่งเสียงดังเกินไป คนป่วยเองก็ตกใจไม่น้อย พี่ชายใช้สายตามองอย่างปรามน้องสาว
“ค่อยๆคิดไม่ต้องรีบร้อน”
เสียงทุ้มเอ่ยให้กำลังใจ ยิ่งเห็นนาง ยกมือกุมศีรษะไปมาร่างบางดิ้นทุรนทุรายได้ความเจ็บปวดเหมือนถูกโบยตีด้วยแส้ที่มองไม่เห็น ชายหนุ่มเห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามากดไหล่สองข้างให้นอนแนบบนฟูกนอน เขาออกจะประหลาดใจที่รู้สึกถึงเรียวแรงที่มากมายกว่าที่คิดไว้ นางพยายามขืนตัวให้หลุดพ้นจากการควบคุมของอีกฝ่าย หญิงสาวตกใจจนกระโดดหนีไปยืนอีกมุมหนึ่งของห้อง หญิงสาวสะบัดศีรษะไปมาจนเส้นผมยาวสยายสะบัดไปมา ชายหนุ่มรวบมือสองข้างของหญิงสาวไว้ด้านหลังก่อนใช้วงแขนรัดเธอไว้ ริมฝีปากเขากระซิบคำปลอบโยนที่ริมหูจนอีกฝ่ายสงบลง เขารู้สึกได้ถึงชีพจรที่เริ่มเต้นสม่ำเสมออีกครั้ง
นางเป็นฮูหยินที่ถูกต้อง แต่เขากลับเฉยชาใส่ มีเพียงบนเตียงเท่านั้นที่เขาเร่าร้อนจนนางแทบมอดไหม้ จ้าวจื่อรั่วอายุเพียงสิบหกปีเป็นลูกอนุของเสนาบดีสกุลจ้าว ถูกสับเปลี่ยนตัวมาเป็นเจ้าสาวมาแต่งงานกับแม่ทัพที่ชายแดนใต้ กู้ตงหยางบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีฉายาแม่ทัพปีศาจที่แสนเหี้ยมโหด "เจ้าติดค้างข้า ไม่ว่าจะเล่นลิ้นอย่างไร เจ้าย่อมรู้ดีว่าสกุลจ้าวปลิ้นปล้อน เจ้าอย่าได้หวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย" พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่นั่งเพียงลำพัง แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้ ชีวิตนางจะได้พบความสุขเช่นคนอื่นบ้างไหม.
มันควรเป็นOne night stand แต่เขากลับไม่ยอมให้จบลงแค่นั้น “ก็บอกแล้วไง ถ้าอยากกัดก็กัดผมนี่ อื้ม” ไรอันพูดเสียงพร่าเร่งขยับเอวสอบถี่รัว ร่องรักคับแน่นดูดรัดลำเอ็นจนทำให้เขาอดกลั้นไม่ไหว กระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุดปลดปล่อยน้ำรักในกายสาวพร้อมแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสม อยากจะบ้า! ไรอันอดสถบไม่ได้ ยัยพนักงานเวอร์จิ้นทำเขาเสียผู้เสียคนจริงๆ จากที่เคยตั้งกฎให้ตัวเองจะไม่ยุ่งกับพนักงาน ไม่มีเซ็กส์ในที่ทำงาน. 4เรื่องสั้น แนวPWP > >หลงสวาท boss คลั่งรัก / คลั่งรัก น้องเมียแสนหวาน/ เมียเด็กของคุณป๋า / เล่นกับไฟ
พันดาว สตั๊นท์เกิร์ลสาววัยยี่สิบหกปี เธอเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุสิบแปดปี แต่ก่อนหน้านี้เธอใช้ชีวิตในค่ายมวยเล็กๆ เธอเป็นเด็กที่ถูกแม่เอามาทิ้งให้ลุงทองดีช่วยเลี้ยง แล้วหายไปไม่ส่งข่าว ด้วยความสงสารลุงทองดีจึงเลี้ยงเหมือนลูก แต่เนื่องจากสภาพร่างกายบอบช้ำ จึงผันตัวเองมาครูมวยแทน ประจวบกับรุ่นน้องเปิดโรงเรียนสตั๊นท์แมนให้ลุงทองดีเป็นครูสอนเทคนิกการป้องกันตัว เบื้องหน้าพันดาวจะเป็นสาวห้าญไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่เธอมีคนรักที่คบหาตั้งแต่อยู่โรงเรียนสอนสตั๊นท์แมนด้วยกัน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นพระเอกละครสุด Hot ในวันที่ทั้งคู่เดินทางไปเข้าฉากสำคัญที่ประเทศจีน พันดาวได้เห็นภาพบาดตาที่คนรักนอกใจ และวันนั้นเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ระเบิดทำงานผิดพลาดพาให้ดวงจิตของพันดาวทะลุมิติมายังดินแดนที่ไม่มีบันทึกไว้ในประวัติศาตร์ พันดาวฟื้นตื่นมาอยู่ในร่างเด็กสาวอายุสิบหกนามว่า เหมยซิง เมืองที่พันดาวไม่รู้จัก ทุกอย่างประหลาดไปหมด ราวกับตัวเองอยู่ในภาพยนตร์จีนกำลังภายใน พล็อตละครแนวย้อนยุคทะลุมิติเคยเห็นมาเยอะแล้ว แต่ทำไมหญิงสาวอย่างเธอต้องมาดูแลชายร่าง ‘ผัก’ อย่างเขา! รับภารกิจส่งร่างผักกลับเมืองหลวง! บุรุษคนหนึ่งแต่งงานมีภรรยาได้หลายคนเป็นที่ยอมรับได้ แต่สตรีนางหนึ่งจะรักใคร่ชายสองคนไม่ได้ คิดถึงเรื่องนี้นางก็อยากเอาหัวโขกต้นไม้ใหญ่ให้ได้สติ นางไม่ใช่หญิงมากรักสองใจนะ! นางแค่...แค่ไม่รู้ว่าตนเองคิดอย่างไรกันแน่.
หมอสาวสู้ชีวิตแต่อกหักทั้งที่ยังไม่ได้บอกรัก เผลอOne Night Standกับผู้ชายคนหนึ่ง ใครเลยจะรู้ว่าเป็นพรหมลิขิตหรือเวรกรรม ทำให้เธอมาเจอกับมาเฟียหนุ่มที่ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องของคืนนั้นผ่านเลยไป . . . . "คุณนี่นะเอาใจผู้หญิงไม่เก่ง" เธอทำจมูกย่นใส่เขา "ผิดแล้วผมเอาใจไม่เก่งแต่เอาเก่งนะ เรื่องนี้ผมมั่นใจ" "อีริค!" เธอขึงตาใส่ด้วยใบหน้าแดงเรื่อ "ให้ตายสิ" เขาพึมพำ "ผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ คุณร่ายมนตร์ใส่ผมหรือเปล่า" "คุณเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนั้นด้วยหรือคะ?" "แต่ก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่องdestiny แต่การได้พบคุณมันอยู่นอกเหนือความคาดหมาย บางทีพรหมลิขิตอาจมีจริงก็ได้" หญิงสาวได้แต่อมยิ้ม นั้นสิ ผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอได้เจอกับผู้ชายสุดเพอร์เฟกต์อย่างเขาได้ ถ้าวันนั้นก้องภพไม่ประกาศตัวคนรัก เธอคงไม่อกหักจนเสียการควบคุมแล้วได้เจอเขาที่หน้าลิฟต์พอดีอย่างนั้น แถมเจอกันด้วยความบังเอิญอีกด้วย
“เมื่อชะตากำหนดมาให้ทั้งสองครองคู่ ไม่ว่าจะพลัดหลงกันไปทางใดก็ย่อมได้กลับมาพบกันอีกครา” เรื่องราวความรักของหลัวเสี้ยวเวยและหยางเหลาหู่ คู่หมั้นคู่หมายที่มิเคยได้พบหน้า แม้เดิมทีหยางเหลาหู่คิดว่านางตายไปแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่า ‘สาวใช้’ ที่เขารับเข้ามาทำงานนั้นจะเป็นคู่หมั้นของเขาเอง เมื่อชะตากำหนดให้ทั้งสองได้เป็นคู่ชีวิต แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ต้องมาคอยลุ้นกันว่า สาวใช้ตัวจิ๋วกับคุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬจะลงเอยอย่างไร ....... “นั้นของข้ามิใช่รึ” เขาปลดสายจูงม้า เห็นนางกินพุทราเชื่อมท่าทางเอร็ดอร่อยจึงอดหยอกล้อนางไม่ได้ “แค่พุทราเชื่อม ท่านจะแย่งข้ารึ” นางทำท่าหวงขึ้นมา มันก็แค่พุทราเชื่อม แต่นางไม่ได้กินนานแล้วนี่ “แต่นั้นมันของๆ ข้า เจ้าควรให้ข้ากินก่อน” เขาไม่ชอบกินขนมของหวาน แต่เห็นนางหวงแบบนี้แล้วนึกอย่างแย่งชิง หลัวเสี้ยวเวยส่ายหน้าไปมา กลัวถูกแย่งของกินจึงอ้าปากงับพุทราเชื่อมลูกสุดท้ายไว้ในปาก เหลือเพียงไม้เสียบเปล่าๆ ในมือ คิดว่าอย่างไรของอยู่ในปากนางแล้วเขาไม่มีทางแย่งชิงเอาไปแน่ ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นมือมารั้งท้ายทอยของนางไว้ โน้มหน้าลงมาประกบปากที่เผยอขึ้นอย่าตกใจของนาง เรียวลิ้นหนาตวัดเอาพุทราเชื่อมในปากของนางมาสู่ปากของเขา 'หวานล้ำเกินคาดคิดจริงๆ'
เธอคือ ‘หลินเหยาซื่อ’ ที่มีชีวิตอยู่ในปีค.ศ.2023 แต่เพราะอุบัติเหตุรถบัสตกเขาลงไปในแม่น้ำ ทำให้เธอลืมตาอีกครั้งและพบว่าตัวเองอยู่ในร่าง ‘หลินเหยาซื่อ’ อายุยี่สิบสอง และยังเป็นคุณแม่ลูกแฝดที่ใช้ชีวิตอยู่ในปี ค.ศ.1980 เหตุการณ์บางอย่างทำให้ 'กั๋วคังเหริน' หายสาบสูญ เมื่อกลับมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองมีลูกฝาแฝดวัยสามขวบ และผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วยจำสามีตัวเองไม่ได้! “คุณต้องการพูดอะไรกันแน่” “เอ่อ...ก็...ก็...เผื่อคุณอยากจะหย่า...อุ๊บ!” ยังไม่ทันพูดจบประโยค ริมฝีปากของเขาก็ปิดปากเธอไว้สนิท มือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยเธอไว้ไม่ให้หลบหนี “ห้ามพูดเรื่องหย่าอีก” เขาทำตาดุใส่แต่สายตามองที่ริมฝีปากหวานที่เพิ่งลิ้มรส “ระหว่างคุณกับผมจะไม่มีเรื่องนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ