“เก็บคำขอโทษที่ไม่มีค่าของเธอเอาไว้ ฉันไม่ต้องการ” “ขะ...คลื่น จะให้แนนนี่ทำยังไงคลื่นถึงจะยกโทษให้” ธัญญาธรไม่สบายใจที่เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีอนวัฒน์ก็ยังโกรธพ่อเธออยู่ รวมไปทั้งเธอด้วย “เธอได้ชดใช้แน่” ชายหนุ่มเอ่ยด้วยสีหน้าและแววตาที่น่ากลัว ก่อนจะกระชากธัญญาธรเข้าหา ร่างบางกระแทกกับแผงอกชายหนุ่มอย่างแรง เขาจู่โจมรวดเร็วพร้อมกับขยี้จูบที่ปนด้วยความโกรธ ความคิดถึงให้คนในอ้อมกอด จูบที่เหมือนการลงโทษจนทำให้ธัญญาธรหายใจไม่ออก ความรู้สึกกลัวและตกใจปนกันจนแยกไม่ออก “อื้อ...อื้อ” หญิงสาวพยายามผลักร่างกายที่หนักอึ้งให้ออกห่าง แต่มันกลับไม่เป็นผล ธัญญาธรฝืนตัวเองด้วยการเม้มริมฝีปากเข้าหากันให้แน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นก็เพื่อไม่ให้อนวัฒน์ส่งลิ้นเข้าไปในโพรงปากหวานได้สำเร็จ มือทั้งสองข้างก็ทุบตีเข้าที่แผ่นหลังเขาหลายต่อหลายครั้ง แต่ชายหนุ่มกลับไม่สะทกสะท้าน ยังคงมอบบทลงโทษให้เธออย่างต่อเนื่อง ในที่สุดอนวัฒน์ก็ชนะ เมื่อเขาสามารถส่งลิ้นอันร้อนชื้นเข้าไปทำหน้าที่สำรวจความหวานในโพรงปากของธัญญาธรที่เขาเคยสัมผัสเมื่อนานมาแล้วได้สำเร็จ ชายหนุ่มค่อยๆ ละเล็มความหวานจากเธอ แม้ว่าครั้งแรกเขาจะรุนแรงเพราะมีความโกรธปนอยู่บ้าง แต่เมื่อส่งลิ้นเข้าสู่โพร่งปากด้วยความดุดันได้สำเร็จก็เปลี่ยนมาเป็นจูบที่เรียกร้อง โหยหา สัมผัสที่ได้รับทำให้ธัญญาธรสับสน ส่งผลให้เจ้าของความหอมหวานตอนนี้กลับนิ่งเงียบ ไม่ต่อต้านเขาเลยสักนิด อนวัฒน์รับรู้ความรู้สึกที่เปลี่ยนไปนี้ได้ จึงถอนจูบออก “พอใจแล้วใช่ไหม?” คำพูดเรียบๆ ไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ของธัญญาธรก็ทำเอาอนวัฒน์พูดอะไรไม่ออกเช่นกัน เธอเอ่ยขอโทษเขาแล้วแต่สิ่งที่ได้รับมันเป็นแบบนี้นะเหรอ แม้จะตกใจกับแววตาเย็นชาแฝงไปด้วยความเจ็บปวดของธัญญาธรที่มองมาให้ ส่งผลต่อจิตใจของคนที่ได้เห็นแม้จะเป็นเพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้นก็ตาม ถึงอย่างนั้นอนวัฒน์ก็พยายามปัดความรู้สึกที่ว่าออกไป ก่อนจะเอ่ยคำพูดที่ปาดลึกหัวใจคนฟัง “นี่มันยังน้อยไป คนอย่างเธอลงไปดิ้นตายตรงหน้าฉันก็ไม่สงสารสักนิด”
อนวัฒน์ ชายหนุ่มผู้ที่ยังจมอยู่กับความรู้สึกในอดีตกำลังมองรูปในมือด้วยสายตาว่างเปล่า รูปที่เขาถ่ายเก็บไว้เมื่อหลายปีก่อน และก็นานมากแล้วที่ไม่ได้หยิบมันออกมาดู วันนี้ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่ ถึงได้รู้สึกอยากเห็นมันนักจนต้องรื้อห้องเก็บของหยิบกล่องที่ถูกปิดผนึกมานานจนฝุ่นเกาะเต็มไปหมดมาปัดฝุ่น รำลึกความหลังที่แสนเจ็บปวด แม้จะผ่านมานานหลายปีแต่เขากลับจำได้แม่นว่าในกล่องมันมีอะไรบ้าง
“แนนนี่” ชายหนุ่มเอ่ยชื่อหญิงสาวในรูปถ่าย สีหน้าแสดงออกถึงความไม่พอใจเมื่อนึกถึงสิ่งที่พ่อเธอได้ทำกับพี่สาวเขาเมื่อหลายปีก่อน และที่สำคัญหลังจากที่เกิดเรื่องเขาก็ไม่ได้พบเธออีกเลยจนถึงตอนนี้
“ไอ้คลื่น ทำอะไรอยู่วะเอ็ง” เสียงของตะวัน ผู้เป็นเพื่อนรักและมีฐานะพี่เขยเอ่ยทักขึ้นทางด้านหลัง เขาเข้ามาในห้องนานแล้วแต่อนวัฒน์กลับนั่งนิ่งไม่รู้สึกตัวสักนิดว่าไม่ได้อยู่คนเดียว
“เปล่า” อนวัฒน์รีบหันหลังกลับไปมองยังต้นเสียง ก่อนจะรีบเก็บของลงกล่องและปิดมันไว้อย่างเดิม
“มารับข้าหรือไง”
“เออน่ะสิ” ตะวันยักคิ้วให้ ก่อนจะเอ่ยต่อ
“งานวันเกิดลูกข้าปีนี้เป็นปีแรกนะเอ็ง รีบๆ หน่อย ป่านนี้ฟ้ากับทุกคนรอแล้ว” น้ำเสียงนั้นแฝงไว้ด้วยความตื่นเต้น ถ้าไม่ติดว่าเขามาเสนองานให้ลูกค้าแถวนี้ รับรองไม่มีทางเข้ามารับอนวัฒน์ถึงที่บ้านอย่างแน่นอน
“ยังไม่เลิกเห่อลูกๆ กันอีกหรือครับคุณพี่เขย” คนพูดออกแนวดูจะค่อนขอดในความบ้าเห่อลูกแฝดของเพื่อนรัก แต่จะว่าไปเขาก็เห่อและรักหลานทั้งสองคนไม่แพ้ใครเหมือนกัน ตะวันไม่พูดอะไรเขาได้แต่ยิ้มให้อนวัฒน์ ก่อนจะลงไปยังรถที่จอดอยู่หน้าบ้าน
ระยะทางจากบ้านอนวัฒน์ไปบ้านของตะวันไม่ไกลมากนัก ขณะที่อยู่ในรถตะวันที่ทำหน้าที่เป็นคนขับก็เอ่ยถามคำถามที่อนวัฒน์มักจะได้ยินบ่อยๆ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
“เอ็ง…ได้ข่าวน้องแนนนี่บ้างหรือเปล่า”
“ไม่…เลิกถามถึงผู้หญิงคนนี้ซะทีได้ไหมเอ็งน่ะ จะไปสนใจเขาทำไมนักหนาวะ” อนวัฒน์ทำเสียงเหมือนหงุดหงิดเต็มประดา แต่ตะวันนั้นรู้จักเพื่อนคนนี้ดีว่าภายในใจกำลังคิดอะไรอยู่
“สนสิ…ในเมื่อเขาเป็นคนที่เอ็งรัก” ตะวันหันมามองหน้าเพื่อนผ่านๆ เขานั้นอยากช่วยให้อนวัฒน์สมหวังในเรื่องความรัก เพราะการที่เขามีวันนี้ มีครอบครัวที่อบอุ่น ก็เพราะอนวัฒน์ช่วยเช่นกัน
“ก็แค่ความรู้สึกในอดีต ที่สำคัญข้ายังไม่เคยบอกเอ็งสักคำว่ารักผู้หญิงคนนั้น”
“ไม่รักแล้วจะรอเขาทำไม” คำพูดของตะวันทำให้อนวัฒน์ถึงกับสะอึก ก่อนที่เพื่อนสนิทจะพูดอีกประโยคที่แทงใจดำเข้าอย่างจัง
“ข้ารู้ว่าที่เอ็งทำตัวเจ้าชู้ประตูดินควงสาวไม่ซ้ำหน้าแบบนี้ก็เพราะใคร”
“หึหึ…ใช่ ข้ายังรอผู้หญิงคนนั้นอยู่ แต่รอเพื่อเอาคืนกับสิ่งที่ครอบครัวนั้นได้ทำกับพี่สาวข้า ทำกับเมียเอ็ง” อนวัฒน์กำหมัดแน่น ตะวันได้แต่ส่ายหน้าให้กับความเจ้าคิดเจ้าแค้นนี้ เพราะเขากับพัทธนันท์ไม่คิดติดใจกับเรื่องนั้นแล้วโดยเฉพาะกับธัญญาธร เพราะมันคืออดีตที่กลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ และที่สำคัญธัญญาธรเองก็ไม่ได้รู้เรื่องที่พ่อเธอได้ก่อไว้ แต่อนวัฒน์กลับโทษว่าเป็นความผิดของเธอไปด้วย
“ปล่อยวางเถอะว่ะไอ้คลื่น เล่นกับหัวใจมันเจ็บเอ็งก็รู้” ตะวันได้แต่พูดเตือนเท่านั้น เพราะถ้าอนวัฒน์ยังทำแบบนี้มันมีแต่ความเจ็บเท่านั้น แค่นี้เขาก็รู้ว่าอนวัฒน์เฝ้ารอธัญญาธร รอให้เธอกลับมายังสถานที่ที่ได้พบกันครั้งแรก เพราะถ้าไม่รอยังจะไปทำงานพิเศษเป็นไลฟ์การ์ดที่โรงแรมนั่นตอนว่างๆ อย่างนั้นน่ะเหรอ
อนวัฒน์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขานั่งนิ่งไปตลอดทาง ในใจชายหนุ่มตอนนี้อาจจะเป็นอย่างที่ตะวันพูดก็เป็นได้ ความรู้สึกที่มีต่อธัญญาธรคือทั้งรักทั้งแค้นปะปนกันจนแยกไม่ออก ถ้าวันหนึ่งเกิดมีเหตุการณ์ทำให้เขาได้พบหน้ากับเธออีกครั้ง อนวัฒน์เองก็ยังไม่รู้ว่าเขานั้นจะทำตัวยังไง แต่เหมือนความคิดในใจตอนนี้จะกลายเป็นจริงเสียแล้ว เมื่อสายตาของอนวัฒน์มองเห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังนั่งอยู่ในรถคันที่กำลังขับสวนทางกับรถของเขาบนถนน ความที่ซอยค่อนข้างแคบ ทำให้ความเร็วรถนั้นมีไม่มากนัก
“แนนนี่” ชายหนุ่มเผลอเรียกชื่อหญิงสาวคนนั้นออกมาอย่างแผ่วเบา อยู่ๆ หัวใจก็เต้นแรงรัวอย่างตื่นเต้น แต่ใบหน้ากลับยังคงเรียบเฉย เพราะคิดว่าตัวเองตาฝาดไป นั่นทำให้อนวัฒน์เพ่งสายตามองออกไปนอกรถ และเพื่อความแน่ใจจึงลดกระจกรถลง แต่ก็สายไปเสียแล้ว เมื่อรถคันดังกล่าวขับสวนไปเสียก่อนที่เขาจะแน่ใจว่าคนที่มองเห็นคือธัญญาธร
“เป็นอะไร” ตะวันที่ขับรถอยู่เห็นท่าทางแปลกๆ ของเพื่อนก็อดที่จะเอ่ยถามขึ้นไม่ได้
“เปล่า…สงสัยจะตาฝาด” อนวัฒน์คิ้วขมวด แต่ในใจนั้นกำลังคิดว่าผู้หญิงที่เขาเห็นเมื่อครู่จะใช่ธัญญาธรหรือเปล่า แม้จะดีใจแต่ลึกๆ ชายหนุ่มกลับตอบตัวเองอย่างหนักแน่นและเด็ดเดี่ยว ว่าต่อให้ใช่ ธัญญาธรหรือไม่ใช่ มันก็ไม่สำคัญสำหรับเขาทั้งนั้น
ธัญญาธร วีระพันษ์ติโชติ หรือแนนนี่ ก้าวเท้าลงจากรถยนต์ส่วนบุคคล เหม่อมองโรงแรมเลยไปถึงชายหาดขาวสะอาด สถานที่ที่เธอเคยมีแต่ความทรงจำดีๆ แต่ตอนนี้เธอกลับไม่มีมันอีกแล้ว โรงแรมที่เคยเป็นของพ่อตอนนี้ได้เปลี่ยนมือไปเป็นของคนอื่น รวมทั้งบ้านหลังใหญ่ที่เคยอยู่อาศัยเป็นหน้าเป็นตาก็หลุดลอยไปเช่นกัน
หลังจากเหตุการณ์ที่พ่อเธอลอบวางเพลิงทำร้ายคนที่เธอรักไปครังนั้นดูทุกอย่างจะเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็ว่าได้ แม่จากคนที่เข้าสังคมกลับเก็บตัวเงียบเพราะทนต่อสายตาคนรอบข้างไม่ได้ แต่ก็แค่ช่วงเวลาสั้นๆ พอคิดว่าคนอื่นลืมเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว แม่ก็กลับไปเป็นแม่ผู้หลงวัตถุนิยมและดูจะมากขึ้นไปอีก แม้จะอยู่บ้านหลังเล็กลงจากเมื่อก่อน แต่ของตกแต่งกลับหรูหราผิดกับสภาพภายนอกลิบลับ
เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เธอสูญเสียหลายอย่างมาก หนึ่งในนั้นคือความรักที่เธอเพิ่งเคยสัมผัสมันครั้งแรก และครอบครัวที่ดูจะแยกกันไปคนละทิศคนละทางจนต่อกันไม่ติด คำว่าครอบครัวค่อยๆ เลือนหายไปกับหน้าที่การงานของแต่ละคน พ่อแม่ไปทาง ส่วนเธอก็ไปอีกทาง
“คิดถึงจัง” หญิงสาวรำพึงกับตัวเอง มองไปยังโรงแรมที่แสนคิดถึงและอยากเอามันคืนมา หลายปีแล้วที่ไม่ได้มาเหยียบที่นี่ แต่หลังจากร่ำเรียนบริหารจนจบด้วยความยากลำบากทางการเงินเนื่องจากค่าใช้จ่ายทุกอย่างมันมาจากน้ำพักน้ำแรงของเธอทั้งนั้น ธัญญาธรตัดสินใจอย่างเด็ดขาดว่าจะกลับมา เธอเลือกโรงแรมแห่งนี้เป็นที่แรกในการสมัครงานและก็ได้มันจริงๆ แม้จะเป็นแค่พนักงานต้อนรับธรรมดาเมื่อเทียบกับวุฒิปริญญาตรี แต่เธอก็ไม่เกี่ยงงอน
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
สวาทรักพ่อเลี้ยงภูเมฆ “นี่คุณจะใจดีจ่ายหนี้แทนณดลอย่างนั้นเหรอ” เพราะไม่พอใจกับการตัดสินใจของเภตราทำให้เสียงของภูเมฆนั้นห้วนไม่น่าฟัง “ฉันจ่ายเพื่อซื้ออิสรภาพของตัวเองต่างหากแล้วค่อยไปเอาคืนผู้ชายห่วยๆ นั่น คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” มีหรือที่เภตราจะจ่ายหนี้ให้ณดลกลับกันเธอจะเอาคืนอีกฝ่ายให้สาสมต่างหาก “ผมไม่รับเงินสดไม่รับเช็คหรืออะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือแรงและเวลา ถ้าคุณทำตัวดีๆ สามสี่ปีก็น่าจะใช้หนี้ผมได้หมด” “แล้วสิ่งที่คุณทำกับฉันเมื่อคืนมันมีค่าเท่าไหร่ ไม่พอใช้หนี้เลยหรือไง” เภตราเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ภูเมฆสบตาที่แดงก่ำของเธอแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่พอ” คำตอบของเขาช่างแสนเลือดเย็นจนทำให้เภตราจุกไปทั้งอกก่อนจะกล้ำกลืนน้ำตาลงคอ เพราะไม่อยากให้มันไหลออกมาประจานตัวเอง ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าของมันเธอไปเก็บมาใส่ใจแล้วจะได้อะไร
งานทำบุญครบร้อยวันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ อดีตคนรักของน้องสาวก็ประกาศจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ แถมเธอคนนั้นยังเคยเป็นอดีตคนรักของเขาอีกด้วย นั่นทำให้คริสบินตรงกลับมาที่เมืองไทยเพื่อสะสางความแค้นให้เขาและน้องผู้จากไป +++++++++++++++++ “คุณ” ลลิตาอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่ยืนกดออดอยู่หน้าบ้านเป็นคริส ชายหนุ่มรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ “ขอเข้าไปหน่อย” แขกที่ไม่ได้รับเชิญเอ่ยบอกแต่เจ้าบ้านสาวกลับไม่ยอมทำตามเช่นกัน “ฉันไม่สะดวก คุณมีอะไรก็พูดมาได้เลย” “แน่ใจหรอกว่าจะให้ผมพูดตรงนี้” “แน่ใจ” ลลิตาเชิดหน้าขึ้นสูง เธอต้องเอาชนะผู้ชายคนนี้ให้ได้ จะไม่ยอมให้เขาเห็นความอ่อนแอแน่นอน “โอเค แน่ใจก็แน่ใจ บังเอิญว่าผมยังเก็บคลิปเซ็กซ์ของเราไว้ดูต่างหน้า” “ว่าอะไรนะ!” คำพูดของคริสทำให้ลลิตารู้สึกเย็นวาบไปถึงตัว เพราะอารมณ์ในตอนนั้นมันพาไปเธอจึงยอมให้เขาถ่ายทุกอย่างเก็บไว้ ไม่คิดว่าวันนึงคลิปบ้าๆ นั่นจะตามมาหลอกหลอนเธอ “ได้ยินชัดแล้วนี่” “แต่ฉันลบมันไปแล้วกับมือ” ลลิตามั่นใจว่าเธอลบคลิปที่ว่ากับมือแล้วทำไมคริสถึงยังมีอีกหรือว่าเขาหลอกให้เธอตายใจ “ลบเสียเมื่อไหร่เพราะก่อนหน้านั้นผมสำรองไฟล์ไว้ดูหลายไฟล์ คิดถูกจริงๆ ที่ทำแบบนั้น” “สารเลว” “นอกจากมีคลิปแล้วผมยังเปิดดูมันบ่อยๆ ด้วยนะ คุณไม่อยากดูบทรักของเราหน่อยเราเหรอ” คริสเอ่ยอย่างไม่ไยดีราวกับเรื่องที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งปกติ “คุณมาหาฉันเพื่อเอาคลิปอุบาทว์ๆ นั่นมาขู่อย่างนี้นะเหรอ” “ผมไม่ได้ขู่” “แล้วต้องการอะไร” “วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ช่วยหาเวลาให้ผมหน่อย ขอแค่สามวันเท่านั้น” นั่นคือหนึ่งในแผนที่จะทำลายผู้หญิงตรงหน้าของคริส “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ” ลลิตาจ้องตาเขากลับมาอย่างไม่กลัวเช่นกัน “คุณก็น่าจะเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง คลิปในมือผมมันคงทำให้คุณดังกระฉ่อนทีเดียวล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย คำขู่ของเขายังคงได้ผลกับลลิตาเรื่องแบบนี้คนที่เสียหายที่สุดคงเป็นผู้หญิงแบบเธอ “ถ้าคลิปนั่นหลุดขึ้นมา คุณเองก็จะดังกระฉ่อนไปด้วยไม่ใช่หรอ หน้าที่การงานที่คุณโหยหาและสร้างมันของคุณจะพังทลายไปเหมือนกัน” “มันคือเรื่องส่วนตัวฝรั่งเขาไม่แคร์เรื่องนี้หรอกอีกอย่างในคลิปนั้นก็ไม่เห็นหน้าผมด้วยสิ”
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยังเวอร์จิ้น! มาแก้ไขปริศนาประโยคนี้กันค๊า โดยแกนนำคือรอยส์ซีอีโอหนุ่มที่ตกหลุมรักลูกน้องคนเก่งที่มีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างขวัญชีวาเข้าอย่างจัง กระทั่งเธอก็มีเหตุให้ยื่นใบลาออก รอยส์จึงใช้ความเจ้าเล่ห์เข้าล่อหลอกเพื่อให้เธอตกหลุมพราง แต่ดูเหมือนเขาต่างหากที่จะตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดไว้เสียเอง ในเมื่อต้องการเรื่องอะไรจะปล่อยเธอไป ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องได้ด้วยคาถา โอมมมม เพี้ยงงงงง
เธอถูกคนใกล้ตัวคิดร้ายและเขาคือเจ้าชายขี่ม้าขาว รวีคือหญิงสาวที่รอดตายจากการถูกลอบฆ่า เธอดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากก้นเหมืองและคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้คือภีม บางคนกล่าวไว้ว่าความรักครั้งนี้ของภีมเกิดขึ้นจากความสงสาร แต่ชายหนุ่มก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักที่เกิดจากความสงสารนั้นไม่ผิด เขารักเธอ รักผู้หญิงแปลกหน้าที่ใสซื่อและไร้พิษภัย เพราะรักจึงทุ่มเทและเลือกที่จะปกป้อง ใครหน้าไหนก็แตะเธอไม่ได้
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน