เขา…คือชายที่เธอฝันถึง ฝันว่าได้จูบ ได้กอดและได้ทำอะไรๆ ที่ทำให้เธอสะดุ้งตื่นมาพร้อมความร้อนรุ่ม เขา…นั้นชอบฤดูฝน แต่…เธอ…ไม่ชอบ!! แต่ฝน กลับนำพาความรักฉบับเบลอๆ เข้ามาสู่หัวใจเธอ เปลี่ยนเสียงฟ้าร้องอันน่ากลัว ให้กลายมาเป็นเสียงเต้นรัวของหัวใจ ที่เต็มไปด้วยจังหวะบอกรัก -------------------------------- “คุณรักฉันไหม” แม้จะอายที่ต้องถามประโยคนี้ออกไป แต่แพรรุ้งก็ไม่อาจเก็บซ่อนความสงสัยไว้ได้อีกต่อไป ในเมื่อบุสสธิติ์ทำตัวเหมือนรักเธอมากและบางครั้งเขาก็ช่างเฉยชา หายไปเสียดื้อๆ จนเธอเดาความคิดเขาไม่ออก แต่คำตอบที่เธอได้กลับเป็นเพียงความนิ่งจากชายตรงหน้า ทำให้เธอคิดเองเออเอง พร้อมกับตัดใจจะทำอะไรบางอย่าง “ถึงคุณไม่รักฉัน แต่ฉันกลับรักคุณมากจนถอนตัวไม่ขึ้น” น้ำเสียงสั่นๆ ของแพรรุ้งเอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้บุสสธิติ์แล้วคล้องแขนกับลำคอ พร้อมกับเขย่งปลายเท้าขึ้นไปมอบจูบให้คนที่เธอรัก บุสสธิติ์พยายามแข็งใจไม่จูบเธอกลับมา แต่ก็ไม่อาจทนต่อความหวานจากริมฝีปากอิ่มได้ ทั้งคู่ต่างมอบจูบให้กันและกัน ก่อนที่พวกเขาจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง “ได้ยินอะไรไหม” บุสสธิติ์เอ่ยถาม “อะไรคะ” “เสียงของหัวใจผม ที่มันกำลังตะโกนว่ารักหนูดีมากแค่ไหน” “คุณเพชร” อยู่ๆ แพรรุ้งก็ร้องไห้ออกมา ชายหนุ่มจุมพิตเพื่อเช็ดคราบน้ำตาบนแก้มนวลให้เธอ ก่อนที่จะหยุดตรงริมฝีปากอิ่มแล้วมอบจูบแห่งความรัก ที่ถ่ายทอดมาจากหัวใจให้ ซึ่งแพรรุ้งเองก็จูบตอบบุสสธิติ์กลับไปเช่นกัน ก่อนที่จะได้ยินประโยคบอกรัก -------------------------------- ฝากความโรแมนติก ที่มีกลิ่นอายการสืบสวนเล็กๆ ของ ‘ฤดูรักสีน้ำผึ้ง’ ไว้ด้วยนะคะ หวังว่าทุกคนจะชื่นชอบ
ฤดูรักสีน้ำผึ้ง
ผู้เขียน : วรนิษฐา
ติดต่องานนักเขียนได้ที่ E-Mail : Mindnui@gmail.com
แฟนเพจ : วรนิษฐา
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537
ห้ามลอกเลียนแบบหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้
รวมทั้งการจัดเก็บ ถ่ายทอด สแกน บันทึก ถ่ายภาพ ไม่ว่าในรูปแบบหรือวิธีการใดๆ ในกระบวนการอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ยกเว้นเพื่อการประชาสัมพันธ์เท่านั้น
บทที่ 1
เปรี๊ยง ปัง
เปรี๊ยง ปัง ปัง
เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่าดังระงม ท้องฟ้ามืดครึ้ม เต็มไปด้วยหมู่เมฆสีดำสนิท สลับกับสายฟ้าผ่าส่งเสียงอันน่ากลัวข่มขู่ทุกสรรพสิ่ง เม็ดฝนที่ซัดสาดค่อยๆ ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นเมื่อมีกระแสลมเข้ามาสมทบ เสียงลมหวีดหวิวราวกับเสียงมัจจุราชยิ่งอยู่บนตึกสูงเสียดฟ้าเช่นนี้ ความกลัวก็ยิ่งมีมากยิ่งขึ้น ฝนที่มาต้นฤดูช่างน่ากลัวกว่าที่คิด แต่เสียงที่หลบเร้นซ่อนอยู่ภายใต้เสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า คือเสียงของการลั่นไกปืนที่ได้กระชากวิญญาณไปจากชายคนหนึ่งอย่างไม่มีวันกลับ!!!
“เอาศพมันไปโยนทิ้งลงเหว รีบไป” ร่างสูงใหญ่ในชุดสีดำเอ่ยบอก
“ครับพี่” สิ้นคำรับปาก ร่างกายที่ไร้ซึ่งวิญญาณก็ถูกจับโยนลงไปยังเหวลึกเบื้องล่าง ไร้หลักฐานใดๆ เพราะถูกกระแสฝนชำระไปจนหมดสิ้น ใบหน้าเหี้ยมโหดไร้ซึ่งความปราณีมองภาพการกำจัดขยะตามที่ได้รับคำสั่งจากผู้เป็นนายด้วยเงินก้อนใหญ่ จากนั้นก็ต่างพากันแยกย้ายราวกับก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่พึ่งคร่าชีวิตคนคนหนึ่งไปแท้ๆ ก่อนจะรายงานเจ้าของเงิน ว่างานที่สั่งมานั้นสำเร็จ
“ดี...พวกมึงมาเอาเงินที่เหลือได้” ปลายสายเอ่ยรับ การกำจัดหอกข้างแคร่ให้พ้นทาง คืองานง่ายๆ เพียงแค่มีเงินกับลูกน้องที่คอยรับคำสั่งเท่านั้น แม้ว่าคนที่จะถูกกำจัดบางครั้งเป็นคนของรัฐก็ตามที อำนาจของเงินมักครอบงำและทำให้พ้นผิดได้เสมอ
เปรี้ยง!! เปรี้ยง!!!
แพรรุ้งนั่งขดตัวสลับสะดุ้งกับเสียงฟ้าผ่าอยู่ข้างเตียง เธอคือคนที่ไม่ชอบเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า ไม่ชอบฤดูฝนเช่นนี้นัก แต่เธอคงห้ามฟ้า ห้ามฝนไม่ให้ตกไม่ได้ จึงพยายามอยู่กับสิ่งที่ตนไม่ชอบให้ได้ ร่างบอบบางในชุดนอนเสื้อแขนสั้นกางกางขายาวสีม่วงอ่อนนั่งกอดตัวเอง ขณะที่ลมฝนก็กำลังพัดโหมกระหน่ำอยู่ภายนอก เมื่อหลายปีก่อนฝนได้พรากทุกอย่างไปจากชีวิตเธออย่างไม่มีวันกลับ เพราะฝนทำให้เธอต้องสูญเสียบิดาและมารดาไปพร้อมๆ กัน นั่นจึงเป็นเหตุให้เธอไม่ชอบฤดูฝน
“หยุด หยุดสักที พอได้แล้ว” มือเล็กๆ ยกขึ้นมาปิดหูทั้งสองข้างไว้เพื่อปิดกั้นเสียงที่ไม่อยากได้ยิน ก่อนที่หยาดน้ำตาของความคิดถึงและโหยหาต่อผู้ที่จากไปจะไหลรินอาบแก้ม ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี กี่ฤดูฝน ความรู้สึกไม่ชอบฝนกลับไม่เคยลดน้อยลงไปจากใจของหญิงสาวได้แม้เพียงนิด แต่กลับทำให้ฉากอุบัติเหตุของการสูญเสียครั้งนั้นยิ่งชัดเจนมากขึ้นด้วยซ้ำ
“พ่อจ๋า แม่จ๋า ช่วยหนูดีด้วย” น้ำเสียงสั่นพร่าเอ่ยคำวิงวอนขอความช่วยเหลือช่างฟังดูน่าสงสาร แม้ต่อหน้าใครๆ แพรรุ้งคือผู้หญิงที่เข็มแข็งคนหนึ่ง เธอเต็มไปด้วยอารมณ์ขัน แต่น้อยคนนักที่จะเห็นเธออ่อนแอแบบนี้ ความเหงา ว้าเหว่ถาโถมเข้ามาพร้อมกันในวันฝนตก
แต่ยามใดที่เธออ่อนแอและต้องการที่พึ่ง หญิงสาวกลับเลือกที่จะอยู่ตามลำพังเพียงคนเดียวเท่านั้น อยู่กับตัวเองแล้วเก็บความอ่อนแอไว้ให้ลึกสุดเท่าที่จะทำได้ แต่บางครั้งความอ่อนแอที่ถูกซ่อนไว้ก็หวนกลับมาเล่นงานเธออย่างเช่นในตอนนี้
“หยุดนะ หยุดสักที” แพรรุ้งเอ่ยบอกฟ้าฝนให้หยุดคำรามส่งเสียงอันน่ากลัว แต่เหมือนคำร้องขอของเธอจะไม่ได้ผลสักเท่าไหร่นัก
ในขณะที่อีกคนไม่ค่อยจะชอบฤดูฝน แต่อีกคนกลับชื่นชอบความชุ่มฉ่ำของฤดูนี้ กลิ่นดินหอมๆ มักจะโชยตามลมหลังฝนหยุดตก ชายหนุ่มรูปร่างสมส่วนภายใต้ชุดสูททันสมัยที่ตัดมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ กำลังยืนเท้าสะเอวตรงระเบียงห้องทำงานที่ด้านหน้าคือบรรดาต้นไม้น้อยใหญ่ พร้อมกับสูดอากาศสดชื่นหลังฝนโปรยปรายเข้าปอดลึกๆ สองสามครั้ง ใบหน้าบึ้งตึงที่มักจะเคร่งเครียดด้วยเรื่องงานดูผ่อนคลายลงไปมาก
ชีวิตเขาต้องพบเจอกับเรื่องที่ไม่คาดคิดมาก็หลายต่อหลายหน จากครอบครัวที่อบอุ่นต้องกลับกลายมาเป็นบ้านแตกสาแหรกขาด จากคนที่มีบิดา มารดาครบถ้วน เขากับน้องสาวกลับกลายเป็นเด็กกำพร้าในชั่วข้ามคืน คนที่ชายหนุ่มสงสารจับใจมากที่สุดคือ พลอยณภัส น้องสาวที่ตอนนั้นยังเด็กมาก
แต่โชคชะตาก็หยิบยื่นโอกาสให้บุสสธิติ์ได้ก้าวเดิน เขาฝ่าฟันทุกอย่าง เก็บซ่อนความแค้นไว้ภายใต้รอยยิ้มและใบหน้าอันหล่อเหลาราวเทพบุตรเพื่อรอวันเอาคืนผู้ที่บังอาจพรากสิ่งที่เขารักไป บุสสธิติ์ค่อยๆ ทวงคืนทุกอย่างที่เคยเป็นของครอบครัว พร้อมกับการค่อยๆ ล้างแค้นคนกลุ่มหนึ่งให้สาสมภายใต้เงาของมัจจุราช
“รออีกหน่อยนะครับพ่อ แม่ อีกไม่นาน ผมจะแก้แค้นคนพวกนั้นให้หมด” บุสสธิติ์เอ่ยคำมั่นสัญญากับดวงวิญญาณของบุพการีทั้งสองที่จากไป รอยยิ้มเหยียดตรงมุมปากของชายหนุ่มตอนนี้ช่างดูน่าขนลุก แววตาเต็มไปด้วยความอาฆาตที่น้อยคนจะได้เห็น
แต่แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะทำงานก็ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มหยุดคิดเรื่องอื่น ก่อนจะเดินมาหยิบ ปรับสีหน้าน้ำเสียงให้กลับมาเป็นบุสสธิติ์คนเดิมที่ทุกคนรู้จัก แล้วเอ่ยทักทายปลายสายอย่างสนิทสนม
“ว่าไงเอ”
“พรุ่งนี้ว่างไหมครับ คุณนักธุรกิจใหญ่” สิงหาหรือเอ เอ่ยถามเสียงทุ้ม น้ำเสียงดูจะแฝงไว้ด้วยความขี้เล่น เขาคือเพื่อนสนิทที่คบหากับบุสสธิติ์มาตั้งแต่สมัยมัธยม แม้จะมีระยะเวลาหนึ่งที่ครอบครัวของบุสสธิติ์ประสบกับปัญหาร้ายแรงจนพวกเขาขาดการติดต่อกัน แต่เมื่อสองปีก่อนบุสสธิติ์กลับมาและติดต่อเขา ทำให้สิงหากระโดดโลดเต้นดีใจเป็นเด็กๆ เพราะไม่คิดว่าจะได้พบกับเพื่อนคนนี้อีก
“เดี๋ยวข้าโอนสายให้เลขา เอ็งจะได้เช็คตารางงานข้าได้สะดวก” แทนที่จะตอบไปว่าว่างหรือไม่ว่าง บุสสธิติ์กลับย้อนกลับซึ่งสิงหาก็เออออ
“ดีเลย ข้ากำลังอยากจะคุยกับเลขาคนสวยของเอ็งพอดี”
“ตลกแล้วเอ็ง สรุปมีอะไร” น้ำเสียงห้วนๆ ที่เอ่ยถามทำให้สิงหายิ้ม เพื่อนสนิทเขาคนนี้จะว่าไปก็เหมือนคนสองบุคลิก เวลาอยู่ต่อหน้าผองเพื่อนหรือคนที่สนิทสนมซึ่งมีน้อยคนนักจะร่าเริง ร้อยเต็มร้อย ฟอร์มไม่มี แต่เวลาอยู่ต่อหน้าลูกค้าหรือคนที่ไม่สนิทด้วยแล้ว มาดกลับนิ่งเปลี่ยนไปเป็นอีกคน นั่นก็เพราะทุกคนย่อมมีเบื้องหน้าและเบื้องหลังเสมอ
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
สวาทรักพ่อเลี้ยงภูเมฆ “นี่คุณจะใจดีจ่ายหนี้แทนณดลอย่างนั้นเหรอ” เพราะไม่พอใจกับการตัดสินใจของเภตราทำให้เสียงของภูเมฆนั้นห้วนไม่น่าฟัง “ฉันจ่ายเพื่อซื้ออิสรภาพของตัวเองต่างหากแล้วค่อยไปเอาคืนผู้ชายห่วยๆ นั่น คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” มีหรือที่เภตราจะจ่ายหนี้ให้ณดลกลับกันเธอจะเอาคืนอีกฝ่ายให้สาสมต่างหาก “ผมไม่รับเงินสดไม่รับเช็คหรืออะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือแรงและเวลา ถ้าคุณทำตัวดีๆ สามสี่ปีก็น่าจะใช้หนี้ผมได้หมด” “แล้วสิ่งที่คุณทำกับฉันเมื่อคืนมันมีค่าเท่าไหร่ ไม่พอใช้หนี้เลยหรือไง” เภตราเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ภูเมฆสบตาที่แดงก่ำของเธอแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่พอ” คำตอบของเขาช่างแสนเลือดเย็นจนทำให้เภตราจุกไปทั้งอกก่อนจะกล้ำกลืนน้ำตาลงคอ เพราะไม่อยากให้มันไหลออกมาประจานตัวเอง ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าของมันเธอไปเก็บมาใส่ใจแล้วจะได้อะไร
งานทำบุญครบร้อยวันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ อดีตคนรักของน้องสาวก็ประกาศจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ แถมเธอคนนั้นยังเคยเป็นอดีตคนรักของเขาอีกด้วย นั่นทำให้คริสบินตรงกลับมาที่เมืองไทยเพื่อสะสางความแค้นให้เขาและน้องผู้จากไป +++++++++++++++++ “คุณ” ลลิตาอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่ยืนกดออดอยู่หน้าบ้านเป็นคริส ชายหนุ่มรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ “ขอเข้าไปหน่อย” แขกที่ไม่ได้รับเชิญเอ่ยบอกแต่เจ้าบ้านสาวกลับไม่ยอมทำตามเช่นกัน “ฉันไม่สะดวก คุณมีอะไรก็พูดมาได้เลย” “แน่ใจหรอกว่าจะให้ผมพูดตรงนี้” “แน่ใจ” ลลิตาเชิดหน้าขึ้นสูง เธอต้องเอาชนะผู้ชายคนนี้ให้ได้ จะไม่ยอมให้เขาเห็นความอ่อนแอแน่นอน “โอเค แน่ใจก็แน่ใจ บังเอิญว่าผมยังเก็บคลิปเซ็กซ์ของเราไว้ดูต่างหน้า” “ว่าอะไรนะ!” คำพูดของคริสทำให้ลลิตารู้สึกเย็นวาบไปถึงตัว เพราะอารมณ์ในตอนนั้นมันพาไปเธอจึงยอมให้เขาถ่ายทุกอย่างเก็บไว้ ไม่คิดว่าวันนึงคลิปบ้าๆ นั่นจะตามมาหลอกหลอนเธอ “ได้ยินชัดแล้วนี่” “แต่ฉันลบมันไปแล้วกับมือ” ลลิตามั่นใจว่าเธอลบคลิปที่ว่ากับมือแล้วทำไมคริสถึงยังมีอีกหรือว่าเขาหลอกให้เธอตายใจ “ลบเสียเมื่อไหร่เพราะก่อนหน้านั้นผมสำรองไฟล์ไว้ดูหลายไฟล์ คิดถูกจริงๆ ที่ทำแบบนั้น” “สารเลว” “นอกจากมีคลิปแล้วผมยังเปิดดูมันบ่อยๆ ด้วยนะ คุณไม่อยากดูบทรักของเราหน่อยเราเหรอ” คริสเอ่ยอย่างไม่ไยดีราวกับเรื่องที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งปกติ “คุณมาหาฉันเพื่อเอาคลิปอุบาทว์ๆ นั่นมาขู่อย่างนี้นะเหรอ” “ผมไม่ได้ขู่” “แล้วต้องการอะไร” “วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ช่วยหาเวลาให้ผมหน่อย ขอแค่สามวันเท่านั้น” นั่นคือหนึ่งในแผนที่จะทำลายผู้หญิงตรงหน้าของคริส “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ” ลลิตาจ้องตาเขากลับมาอย่างไม่กลัวเช่นกัน “คุณก็น่าจะเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง คลิปในมือผมมันคงทำให้คุณดังกระฉ่อนทีเดียวล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย คำขู่ของเขายังคงได้ผลกับลลิตาเรื่องแบบนี้คนที่เสียหายที่สุดคงเป็นผู้หญิงแบบเธอ “ถ้าคลิปนั่นหลุดขึ้นมา คุณเองก็จะดังกระฉ่อนไปด้วยไม่ใช่หรอ หน้าที่การงานที่คุณโหยหาและสร้างมันของคุณจะพังทลายไปเหมือนกัน” “มันคือเรื่องส่วนตัวฝรั่งเขาไม่แคร์เรื่องนี้หรอกอีกอย่างในคลิปนั้นก็ไม่เห็นหน้าผมด้วยสิ”
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยังเวอร์จิ้น! มาแก้ไขปริศนาประโยคนี้กันค๊า โดยแกนนำคือรอยส์ซีอีโอหนุ่มที่ตกหลุมรักลูกน้องคนเก่งที่มีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างขวัญชีวาเข้าอย่างจัง กระทั่งเธอก็มีเหตุให้ยื่นใบลาออก รอยส์จึงใช้ความเจ้าเล่ห์เข้าล่อหลอกเพื่อให้เธอตกหลุมพราง แต่ดูเหมือนเขาต่างหากที่จะตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดไว้เสียเอง ในเมื่อต้องการเรื่องอะไรจะปล่อยเธอไป ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องได้ด้วยคาถา โอมมมม เพี้ยงงงงง
เธอถูกคนใกล้ตัวคิดร้ายและเขาคือเจ้าชายขี่ม้าขาว รวีคือหญิงสาวที่รอดตายจากการถูกลอบฆ่า เธอดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากก้นเหมืองและคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้คือภีม บางคนกล่าวไว้ว่าความรักครั้งนี้ของภีมเกิดขึ้นจากความสงสาร แต่ชายหนุ่มก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักที่เกิดจากความสงสารนั้นไม่ผิด เขารักเธอ รักผู้หญิงแปลกหน้าที่ใสซื่อและไร้พิษภัย เพราะรักจึงทุ่มเทและเลือกที่จะปกป้อง ใครหน้าไหนก็แตะเธอไม่ได้
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"