“อะไรนะ เดี๋ยว... เดี๋ยว ฉันว่าฉันยังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยน้า! ทำไมต้องอุ้มกันด้วย ฉันเดินเองได้แมนนี่!” มันเป็นความอับอายที่สุดในชีวิตของอันนา กับการไล่ตาม เฮคเตอร์ พี. เกลนนอน! มหาเศรษฐีหนุ่มเจ้าสำราญ เสือหนุ่มเจ้าเล่ห์ที่นักข่าวต่างต้องการที่จะเป็นผู้สัมภาษณ์เขา มันเป็นข้อตกลง เป็นสัญญา เป็นพันธะที่เกิดจากความเสียหน้า! เฮคเตอร์ พี. เกลนนอนไม่เคยคิดเลยว่า ความพึงพอใจที่ไม่เกี่ยวกับความรัก จะดึงให้เขาเข้าไปติดกับดัก! “คุณไม่ได้รักฉัน ฉันพูดถูกไหม ตอนนี้คุณก็แค่ยัง ‘ติดใจ’ แต่ฉันไม่ต้องการอะไรแบบนั้นเหมือนคุณ สามอาทิตย์นั่นฉันเองก็ ‘พลาด’ เพราะดัน ‘เผลอ’ ไปกับบรรยากาศ” แน่นอน ไม่เคยมีใครทำแบบนี้กับเขา และอันนาเป็นคนแรก และแน่นอนอีกเช่นกัน เฮคเตอร์ พี. เกลนนอน ไม่เคยยอมให้ใครมาดูถูก อันนา กานดิศ จะต้องเปลี่ยนมุมมองในตัวเขาใหม่ และเพื่อการนั้น เขาจึงต้องผูกมัดเธอไว้ด้วยสัญญาทาส แม้ว่าเธอจะคิดว่ามันเป็นข้อตกลงโปเกระหว่างเราก็ตาม!
Rotterdam, Netherlands.
จากชั้นบนสุดเพ้นท์เฮ้าส์หรูย่านธุรกิจในรอตเตอร์ดัม บรรยากาศเต็มไปด้วยผู้คนต่างพลุกพล่านในเช้าวันจันทร์ อันเป็นวันแรกของการทำงาน ทุกคนกุลีกุจอเดินทางโดนระบบขนส่งสาธารณะอย่างรีบเร่ง เมืองแห่งนี้จัดเป็นเมืองท่าที่มีความทันสมัยและเป็นจุดศูนย์รวมทางการค้าของยุโรป
แม่น้ำเมิซอันเป็นแม่น้ำสายหลักไหลผ่านเมืองนี้ เป็นแม่น้ำที่เกิดในฝรั่งเศส ไหลผ่านเบลเยี่ยมเพื่อออกสู่ทะเลที่เมืองรอตเตอร์ดัม ทำให้ท่าเรือรอตเตอร์ดัมเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จึงเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของเนเธอร์แลนด์ และเป็นเมืองเพียงแห่งเดียวที่มีสถาปัตยกรรมที่ไม่มีกลิ่นอายของดัชต์อยู่เลย เพราะเคยเป็นเมืองที่ถูกวางระเบิดเมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่สอง จากปฏิบัติการรอตเตอร์ดัมบลิทซ์[ รอตเตอร์ดัมบลิทซ์(การโจมตีสายฟ้าแล่บที่รอตเตอร์ดัม) – เยอรมันทิ้งระเบิดลุฟท์วัฟเฟอที่เมืองรอตเตอร์ดัมอันเป็นเมืองท่าที่สำคัญของเนเธอร์แลนด์ในเวลานั้น ยึดสนามบินรอตเตอร์ดัม เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1940 ในช่วงเยอรมันยึดครองเนเธอร์แลนด์ในสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อหยุดยั้งการต่อต้านของชาวดัชต์บีบบังคับให้ยอมจำนน] จนเมืองย่อยยับและกลายเป็นบาดแผลในใจของชนเมืองนี้ หลังเหตุการณ์เลวร้ายนั้นผ่านไป ชาวดัตช์จึงบูรณะซ่อมแซมเมืองนี้ขึ้นมาใหม่ ในเมื่อสิ่งปลูกสร้างแบบดัชท์ไม่หลงเหลือ พวกเขาก็สร้างมันขึ้นมาใหม่ในสไตล์โมเดิร์นและล้ำสมัยขึ้นมาใหม่เสียเลย
เมืองนี้จึงได้รับฉายาว่า ‘City of Modern Architecture’ เมืองแห่งสถาปัตยกรรมสมัยใหม่...
ตึกสูงระฟ้า ท้องฟ้ากระจ่างใสในช่วงฤดูร้อนของรอตเตอร์ดัม สายลมเอื่อยอ่อน ผู้คนคลาคล่ำ เนื่องด้วยเป็นเมืองเศรษฐกิจ ผู้คนที่นี่เดินทางด้วยขนส่งมวลชนและจักรยานส่วนตัว หากถัดจากถนนเส้นหลักไม่ไกลนั้นมีร่างเล็กของสาวเอเชียที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งอย่างรีบเร่ง ด้วยความสูงไม่น่าจะเกินมาตรฐานหญิงสาวชาวไทย ทรวงทรงสมส่วนในชุดทะมัดทะแมงที่มีกางเกงผ้าเดนิมขายาวเข้ารูป เสื้อยือคอเต่าสีเทาแล้วสวมทับด้วยแจ็คเก็ตยีนส์เอวสั้นสีน้ำเงินเข้มที่พับแขนขึ้นมาถึงข้อศอก ทำให้หน้าปัดนาฬิกาสะท้อนแสงพระอาทิตย์อยู่วิบวับๆ ยามเธอขยับร่างกาย ดวงหน้ารียาวเกือบเป็นรูปไข่ไก่ ปากนิดจมูกหน่อย มองรวมๆ แล้วน่ารักน่ามองมากกว่าสวยจัด ด้วยปราศจากการแต่งแต้มเครื่องสำอางใดๆ หากมีเพียงลิปกลอสชมพูมันวาว และพวงแก้มสีชมพูระเรื่อตามธรรมชาติ หน้าผากมนสวย ด้วยผมสีดำขลับยาวสลวยถูกรวบตึงเอาไว้เป็นทรงหางม้ามันจะปัดแกว่งไปมาเวลาเธอออกวิ่งด้วยความรีบเร่ง
“สายๆ ตายแล้ว ฉันต้องไปก่อนที่หมอนั่นจะหนีไปใช้ชีวิตชิลๆ สโลไลว์ฟที่เกาะนรกนั่น” หญิงสาวกึ่งเดินกึ่งวิ่งพลางยกข้อมือขึ้นดูเวลาที่แม้จะยังเช้าอยู่ก็จริง แต่เธอรับรู้มาว่า ถ้าไปไม่ทันทำภารกิจสำคัญ เธอมีอันต้องตกงานไปถึงชาติหน้าอย่างแน่นอน
เพียงชั่วอึดใจ ร่างเล็กของหญิงสาวชาวไทยไซส์มินิก็มายืนตระหง่านเบื้องล่างของอพาทเม้นท์หรู ร่างเล็กแหงนเงยจนสุดลูกหูลูกตา “ตึกสวย... น่าอยู่จัง คนรวยเขาคงใช้ชีวิตกันอย่างนี้สินะ” ไม่ชักช้าให้เสียเวลาเธอรีบพาร่างขึ้นไปยังจุดหมาย
ดวงตากลมโตของสาวน้อยชาวไทยวัยย่างยี่สิบสี่ปีแหงนมองตึกสูงแทบคอตั้งบ่า มันเป็นตึกที่ดูสวยงามทันสมัย สมกับเป็นแท่งหนึ่งของสิ่งปลูกสร้างที่ตั้งอยู่บนผังเมืองที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง
ถึงแม้ว่าเมืองนี้จะเป็นเมืองที่สวย ประเทศแห่งนี้จะเคยเป็นทริปในฝันที่เคยอยากมาเที่ยว แล้วเธอก็ยืนอยู่ตรงนี้จริงๆ แต่ความรู้สึกที่ต้องแบกรับภารกิจอันหนักอึ้ง แถมมีคำบัญชาการอันเด็ดขาดค้ำคอเอาไว้ว่าถ้างานไม่สำเร็จ ก็อย่าหวังว่าจะได้กลับเมืองไทย... ทำไมเธอถึงรู้สึกเหมือนกำลังถูกลอยแพอย่างไร้อนาคตอย่างไรก็ไม่รู้...
ก๊อกๆๆๆ
ร่างเล็กพาตัวเองขึ้นมายืนอยู่หน้าประตูที่พักของบุคคลที่เป็นเป้าหมาย... หรือจะว่าเขาเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เธอมายืนอยู่ตรงนี้ดี ร่างบอบบางหายใจถี่รัวด้วยความเหนื่อยหอบปนตื่นเต้น แล้วก็เคาะประตูอีกครั้งด้วยจังหวะระรัวยิ่งขึ้น กำมือแน่นเคาะประตูด้วยจังหวะเร่งรีบอย่างไม่เกรงกลัวเจ้าของห้องแม้จนนิดเดียว หลังจากกดกริ่งด้านหน้าแต่ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครแย้มหนวดมาเปิดประตูให้เธอ
“ไม่เปิดใช่มั้ย... ได้!”
สิ้นคำ คีย์การ์ดที่เธอได้รับมาก็ถูกนำมาใช้โดยไม่ต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าของอพาร์ทเม้นท์แห่งนี้ แน่ล่ะระบบรักษาความปลอดภัยที่นี่ใช้การสแกนม่านตาของเจ้าของที่พัก แต่ก็มีคีย์การ์ดไว้สำรองและเธอได้มันมาใช้ยามฉุกเฉินแบบนี้ เธอไม่อยากจะใช้มันเลยจริงๆ จะว่าถือวิสาสะก็คงได้ แต่ทำไงได้ล่ะ ก็พ่อคุณชายเจ้านายน้อยไม่ยอมมาเปิดประตูต้อนรับเธอนี่ ก็คงต้องใช้วิธีนี้
พรวด!
“เฮ้! หล่อนเป็นใคร?” เสียงต้อนรับจากหญิงสาวหน้าตาสวยจัด ผมยาวฟูฟ่องสีทองเป็นประกาย ใบหน้าปราศจากการแต่งเติมเพราะดูเหมือนจะเพิ่งตื่นนอน รวมๆ แล้วหน้าตาเธอจะไปทางโซนรัสเซียน ริมฝีปากบางเฉียบเอ่ยขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ หญิงสาวผู้มาเยือนกวาดสายตามองไปโดยรอบ พบว่าเจ้าหล่อนดูสวย... เอ่อ... ไม่รู้จะเรียกชุดนอนได้มั้ย แต่มันเป็นเสื้อสายเดี่ยวบางเบาที่ทำจากผ้าซาติน ลู่แนบเนื้ออย่างแนบสนิท... เธอว่าไม่ใส่ก็นะ ถ้าผ้าจะมีแค่นี้!
อ้อ... ท่อนล่างของเธอนั่น... จีสตริงสินะ กางเกงชั้นในอะไรกัน... ผ้าไม่พอหรือยังไงถึงได้ใส่แล้วเหมือนไม่ได้ใส่แบบนั้นน่ะ!
“ฉันก็คือภรรยาตัวจริงของผู้ชายที่คาบคอเธอเมื่อคืนน่ะสิ ออกไปนะ ผู้หญิงหน้าไม่อาย” หญิงสาวอ้าง ก็มันมีทางเลือกที่ไหน ยังไงเธอต้องทำภารกิจให้สำเร็จ
“โกหก เขาไม่เคยบอกว่ามีเมียย่ะ โกหกไม่เนียนไปเรียนมาใหม่เถอะหล่อน” ถ้อยคำสื่อสารภาษาสากลที่ถกเถียงกันอย่างชัดถ้อยชัดคำของ Cat fight[ สำนวน หมายถึงผู้หญิงตีกัน]!
“เธอคิดว่าตัวเองมีความสำคัญนักหรือไง ที่เขาต้องบอกทุกเรื่องให้เธอรู้ ออกไปซะ!”
“ไม่!”
ศลิษาไม่พูดพร่ำทำเพลง เพียงเห็นสาวรัสเซีย เธอก็เดาเรื่องออกมาเป็นฉากๆ ได้ว่า พ่อเจ้านายน้อยจอมแสบของเธอจะต้องหนีไปอยู่เกาะกับเจ้าหล่อนแน่ๆ แล้วถ้าเธอมาไม่ทันหมายกำหนดการการเดินทางของเขาและหล่อน นอกจากเธอจะทำภารกิจผิดพลาดแล้ว เธอยังต้องรับสภาพตกงานอย่างไม่ได้รับเชิญอีกด้วย
‘ถ้าคุณทำงานนี้สำเร็จ หน้าที่การงานของคุณก็มีอนาคต หากตรงข้าม เตรียมรับซองขาวได้เลยศลิษา’
คำสั่งนั่นยังวนเวียนอยู่ในสมอง หญิงสาวหลับตาแน่นสลัดมันทิ้งไป ผู้หญิงอย่างลิษา... มีหรือจะยอม เธอไม่ยอมตกงานง่ายๆ หรอก!
ไม่ใครก็ใคร จะต้องพ่ายไปสักข้างระหว่างเธอกับเจ้านายน้อยตัวแสบ
“เฮ้! เอะอะอะไรกันน่ะ” เสียงคำรามลั่นออกมาจากห้องนอน เรียกความสนใจของหญิงสาวทั้งสองให้มองไปตามเสียง
เขาเดินออกมาในสภาพเพิ่งตื่นนอน.... ใช่ เขาแทบไม่ยอมลืมตามามองโลกด้วยซ้ำ ก็เพราะอย่างนี้สิ ถึงไม่รู้ตัวเลยว่า ร่างสูงโปร่งที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อได้รูปสวยงามของเขานั้น มันไม่มีเสื้อผ้าเลยสักชิ้นปกปิดอยู่
‘ชีเปลือยยังไม่สูญพันธุ์!’ แน่ใจนะว่าไม่ได้ออกมาจากถ้ำ!
เขาขยี้ตาเร็วๆ ก่อนร่างจะเดินมาประชิดร่างเล็กที่มาในฐานะผู้คุกคาม
“เธออีกแล้วเรอะ?” น้ำเสียงแหบแห้งเจือแววไม่สบอารมณ์อย่างสุดๆ
“ก็ฉันน่ะสิคะ จะใครล่ะ” หญิงสาวยืนแหงนคอตั้งบ่าตอบหน้าตาเอาเรื่อง เธอไม่มีความกลัวเกรงเขาเลยแม้แต่น้อย
“คราวที่แล้วยังไม่เข็ด?” เขาหรี่ตาแคบมองเธอศีรษะจรดเท้า เบ้ปากอย่างระอา สายตามองมาอย่างเจ้าเล่ห์ มองอย่างไรก็เหมือนคนมีแผนการร้ายๆ ในสมองอยู่ตลอดเวลา เขาน่ะ... อันตรายจะตาย
“มีอย่างอื่นที่น่าเข็ดกว่า” ‘ฉันตกงานแน่ถ้าคุณไม่กลับไปกับฉัน’ สาวไทยตัวเล็กคิดในใจ แม้ไซค์จะมินิแต่หัวใจเธอไม่เล็กอย่างกับใจหรอก เธอได้ทำในสิ่งที่เรียกว่ากล้าหาญอย่างมากมาย อย่างน้อยก็ตอนนี้ล่ะน่ะ
“ก็ดี๊.... งั้นสวย” เขาสรุปพร้อมยกร่างเล็กขึ้นอุ้ม ร่างกายหญิงสาวแนบเนื้อแข็งแรงของเขาจนเธอสะท้านหวั่นไหว
กรี๊ดดด! สาวไทยตัวน้อยแผดเสียงลั่น มันฟังแทบไม่เป็นภาษา
ไม่ใช่แค่ร้องเพราะร่างกายของตนถูกคนร่างยักษ์ยกขึ้นอุ้มพาดไหล่เขาเท่านั้น แต่ศรีษะเจ้าหล่อนจมดิ่งลงมาอยู่บั้นท้ายหนั่นแน่นของเขา สายตาเธอปะทะเข้าอย่างจังเบ้อเริ่มกับสิ่งที่เธอไม่ควรได้ชม ‘ก้นผู้ชาย’ มันล่อแหลมร้ายแรงอย่างไม่น่าให้อภัย ทำไมเขาไม่ใส่อะไรก่อนที่จะออกมา เธออายจนหน้าแดงซ่านหมดแล้วนะรู้มั้ย นี่แค่เบื้องหลังนะ ถ้าเป็นเบื้องหน้าล่ะ หัวใจเธอวายแน่ๆ
“โอ้ย! แสบหู” เขาตวาดลั่น เสียงดุๆ ยังกึกก้องในโสตประสาทของผู้หญิงตัวน้อยๆ อย่างเธอ
“ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้นะ” ปากว่า มือปิดตาเสียมิด หากหัวใจเต้นรัวกระหน่ำ มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย
“ปล่อยแน่ แต่ไม่ใช่ในห้องส่วนตัวของฉันแน่ๆ ยายตัวแสบ” เขาหิ้วร่างน้อยๆ อย่างกับเธอเป็นขยะอันเหม็นเน่าและกำลังจะเอาไปทิ้งให้ไกลๆ
พลั่ก!
“โอ้ย!”
ร่างเล็กร้องเสียงหลง ก้นจ้ำเบ้าเมื่อเขาทุ่มร่างเธอลงไปกองกับพื้นนอกห้องอย่างไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บสักแค่ไหน
“กรี๊ดดด” เสียงเล็กแผดดังลั่นอีกครั้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมาพบเจอกับสิ่งที่ไม่เคยคาดไว้
‘นะ... นี่มันไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ของโลกใช่มั้ย พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยสาด้วย อุจาดตาที่สุด!’ หญิงสาวหลับตาแน่น กลัวจนขนหัวลุก ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งจะเคยพบเคยเจออาวุธลับของท่านชายก็คราวนี้ล่ะ แล้วนี่ไม่ใช่อาวุธลับขนาดธรรมดาๆ เท่านั้น แต่มันมหึมาถ้าเป็นงูก็ต้องอนาคอนดาถึงจะคู่ควร!
“ทำไมไม่ใส่เสื้อผ้า ส่งซักหมดเลยรึไง” เธอตวาดเสียงเกรี้ยว หลับตาปี๋ เท่านั้นยังไม่พอ สองมือน้อยๆ ยกขึ้นปิดตาเอาไว้แน่น
“โวยวายอยู่ได้ยายตัวแสบ ออกไป๊!”
“คุณทำกับฉันมากเกินไปแล้วนะ” สาวไทยร่างเล็กมองมาตาเขียวปั๊ด ลืมไปเลยว่าเขาไม่ใส่อะไรเลย
“น้อยไปสิไม่ว่า... กลับไทยไปซะ อย่ามายุ่งกับฉันอีก” เจ้าของร่างสูงยื่นคำขาด สายตาคมกล้ามองมาอย่างเหี้ยมเกรียม ถ้าไม่รู้ประวัติเขามาก่อน เธอต้องคิดว่าเขาเป็นมาเฟียใหญ่แห่งรอตเตอร์ดัมเป็นแน่
‘อะไรจะโหดปานนั้น ค่อยๆ คุยกันก็ได้นี่นา’
“ไม่ได้นะ.... คุณไม่มีสิทธิ์มาไล่ฉันนะ!”
เขาย่อตัวลง โน้มหน้าเข้ามาใกล้... จมูกโด่งๆ แทบประชิดจมูกเชิดรั้นของเธอ ก่อนเปล่งถ้อยคำข่มขู่อย่างท้าทาย “ฉันจะทำมากกว่าไล่อีก ถ้าเธอไม่ฟังที่ฉันเตือน!”
ปัง!!!
ประตูบานใหญ่ของเพ้นท์เฮ้าส์สุดหรูกระแทกเสียงดังลั่นเมื่อมันถูกผลักจากขุมพลังแรงกำลังของผู้ชายร่างใหญ่ที่อยู่ในอารมณ์ร้อนร้าย ดีแล้วที่มันไม่พังทลายลงมา ดูเหมือนว่าสิ่งที่พังตอนนี้จะไม่ใช่ประตู แต่เป็นแก้มเนื้อนุ่มๆ ของบั้นท้ายใครบางคนต่างหาก เขาใจร้ายไปนะ ทุ่มเธอลงมาได้ยังไง เธอก็เจ็บเป็นนะไม่ใช่ตุ๊กตายาง
“แล้วคุณจะรู้... ว่าที่ทำกับฉันวันนี้ ฉันไม่ยอมเจ็บฟรีๆ แน่ซาเร็ค!”
เพื่อปกป้องชีวิต... คุณทวดของบุหงาจึงเขียนยันต์วิเศษไว้คุ้มครองหลานสาวผู้ที่จะสืบทอดวิชาเขียนยันต์ แต่ด้วยความซุ่มซ่าม เจ้าหล่อนจึงย้อนอดีตไปสมัยทวารวดี เพื่อหนีการตามล่า บุหงาจึงต้องสวมรอยเป็น ‘แม่นาย’ ทำให้ทุกคนในเรือนรัก เพื่อความอยู่รอด กลับไปยุคเดิมที่จากมาอย่างปลอดภัย นั่นก็คือ... ยุครัตนโกสินทร์ตอนปลาย เพื่อทำหน้าที่สืบทอดวิชาเขียนยันต์เก่าแก่โบราณของต้นตระกูล
คริญาไม่ประหลาดใจแม้แต่น้อยในท่าทีหวงก้างของพศุตม์ เธอรู้ว่า... ในสถานการณ์ที่เธออยู่ในสระว่ายน้ำเย็นฉ่ำในเวลานี้ ผู้ปกครองหนุ่มจะต้องโจนจ้วงตามลงมา ดวงใจสาววัยแรกแย้มเต้นตูม ด้วยความรู้สึกหวั่นไหว แม้รู้ดีแก่ใจว่า ชายหนุ่มคือของต้องห้ามและจะแสลงใจจนเจ็บปวดในวันหนึ่ง เพราะพศุตม์เคยยื่นคำขาดว่า... เขาไม่ชอบเด็กน้อยกะโปโลอย่างเธอ และถ้าเกิดอะไรขึ้นเพราะเธอกล้าเล่นกับไฟยั่วยวนเขา เขาจะไม่มีวันรับผิดชอบ! . ‘คำสั่ง’ จากปากเขามันคือคำเตือนจากผู้ชายอันตราย . เขารวบตัวเด็กในปกครองเข้ามาสวมกอดแน่นราวจะสูญเสีย ความร้อนซ่านกำซาบไปทั้งเรือนกายสาว ส่วนเปลือยสวยสัมผัส แนบชิดแทบทุกส่วนสัดของกายแกร่ง แม้ร่างทั้งสองที่โอบล้อมไปด้วยความเย็นเยียบของสายน้ำ แต่การขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวพริ้วพรายตามกระแสน้ำก็ก่อให้เกิดไอความรุ่มร้อนระบายอยู่ในน้ำและพยุงสองร่างให้รู้สึกวาบหวิวแผ่ซ่านถึงกัน... เด็กสาวแรกรุ่นหัวใจเต้นโครมคราม วาบหวิวเมื่อผู้ปกครองหนุ่มประกบริมฝีปากร้อนแรงลงมา ดูดดื่มริมฝีปากสวยอิ่มตึง คริญาตอบสนองจูบเร่าร้อน สอดลิ้นยั่วเย้าให้เขากระดกลิ้นร้อนฉ่าตามมาพัวพัน ร่างเล็กบดเบียดส่วนอิ่มเต็มตึงที่สวยสล้างยั่วยวนสายตาเข้าใกล้แผงอกแกร่งกำยำที่ระบายไปด้วยปอยขนนุ่มกลางอกแกร่งของเขา สร้างความเซ็กซี่ชวนสะท้านยามจ้องมอง เขาบดจูบหนักหน่วงร้อนแรงจนคริญาคราง ไอร้อนสวาทกำลังก่อตัวใต้สายน้ำเย็นฉ่ำ “...” “ฉันต้องได้เธอ... คริญา”
“นะ.. นายเก่งอยู่แล้ว ทำไมต้องจ้างติวด้วยเหรอ?” “ผมก็... แค่อยากจะทำตามคำสั่งพ่อแค่นั้นล่ะ” เขาเอ่ยเสียงพร่า เป่ารดลมหายใจหอมบนใบหน้าสวย มันใกล้กันจนจะจูบกันอยู่แล้ว “แต่ว่า... พ่อนายคงไม่สั่งให้ติวแบบนี้หรอก” ติวเตอร์สาววางปลายนิ้วเรียวบนอกแกร่งของเขา ที่สวมเสื้อเชิ้ตปลดกระดุมสองเม็ดเผยให้เห็นอกแกร่งและดูเร้าใจ เธอค่อยๆ ลูบเบาๆ เขามองตามปลายนิ้วเรียวสวยด้วยดวงตาเปล่งประกาย สองคนสบตากัน ไม่นานเธอก็ถอดเสื้อของเขาออก ขณะที่นักเรียนหนุ่มล้วงมือใต้ชายเสื้อทีเชิ้ตตัวโคล่งที่เธอสวมมันเอาไว้โดยปราศจากบราเซีย “อื้อ...” เขาบีบนวดหน้าอกสวยอย่างเบาๆ สะกิดนิ้วโป้งบนยอดทรวงเบาๆ ก่อนถลกเสื้อขึ้นเหนือศีรษะ ถอดออกจนเธออยู่ในสภาพโป๊ “หิวนมจังครับ... ขอดูดนมพี่หน่อยจะได้ไหม” คำเตือน นิยายเรื่องนี้สร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น เนื้อหาเหมาะสำหรับผู้มีอายุ 18 ปีขึ้นไป โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน เนื้อหาบรรยายถึงการแสดงออกของความรักรุนแรง การร่วมรักชัดเจนโชกโชน บางส่วนตัวละครมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ไม่น่าเอาเยี่ยงย่างหรือเลียนแบบ
"ชลิดา" เป็นเด็กสาวที่โชคร้าย ครอบครัวทิ้งเธอไปไม่ลา เหลือเอาไว้แต่เธอคนเดียว กับชีวิตที่โดดเดี่ยวอ้างว้างท่ามกลางอันตรายที่มองไม่เห็น ทิ้งไว้กับปริศนาว่าเธอและครอบครัวผิดอะไร ในวันที่เหมือนชีวิตเจอฝันร้าย คนเพียงคนเดียวที่ยื่นมือเข้ามาช่วย กลับเป็น 'เขา' ที่ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีครั้งไหนที่ศิวะจะพูดดีกับเธอ ฉากหน้า เย็นชา ปากร้าย เจ้าอารมณ์และแสดงท่าทีรังเกียจเธอ "ศิวะ" แสดงออกอย่างชัดเจนว่าเกลียดชลิดา เพียงเพราะหล่อนเป็นคนรักของพี่ชายเขา ที่รอวันตกกระป๋อง เขาอยากให้เธอเลิกรากับพี่ชาย เลิกยุ่งกับคนมีเจ้าของ มันไม่ใช่เพราะศิวะเกลียดชลิดาหรอก แต่เพราะเขารักหล่อนเสียเอง แต่กลับแสดงออกตรงข้ามกับความรู้สึกที่แท้จริงในใจ คนสองคน ที่ฉากหน้าเกลียดชังกัน แต่ต้องนอนเตียงเดียวกันทุกคน บทสรุปจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน... มหาศาลการรัก
...เหตุเพราะน้องชายตัวดี ไปมีความสัมพันธ์ต้องห้าม กับศัตรู หัวเด็ดตีนขาด “เธอ” ก็ไม่มีวันยอมให้น้องชายลงเอยกับลูกสาวของตระกูลที่เคยดูถูกเธออย่างไม่มีดี . ดูเหมือนทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่เธอวางไว้ หากไม่เพราะ “เขา” ทายาทหนุ่มเสเพลของบ้านนั้น ที่ซ้อนแผนเอาคืนเธอ ทำเอางานนี้ เจ้าหล่อนจะต้องเลือกว่าจะยอมให้น้องชายได้ลงเอยในเรื่องความสัมพันธ์ หรือจะจนมุมไปกับจอมวางแผนที่ตนก็เพิ่งรู้ว่าแท้จริงแล้ว.... เขาช่างเจ้าคิดเจ้าแค้น และต้องการเอาชนะเธอมาตั้งแต่ต้น โดยมี “เรือนร่าง” เธอเป็นเดิมพัน +++++++++++++++++++++++++++++++ “ปล่อยฉันไปนะ นี่คุณเล่นบ้าอะไร?” “เล่นบ้าอะไรงั้นเหรอ... ก็เล่นผัวเมียกันยังไงล่ะ” “คนบ้า! มันใช่เวลามาล้อเล่นแบบนี้มั้ย ปล่อยฉันไปนะ!” “เล่นผัวเมียกันจริงๆ มีลูกด้วยกันจริงๆ สักคนสองคน” “คนบ้า เล่นไปคนเดียวเถอะ” “มีลูกกับผม คุณจะได้รู้... ความรู้สึกที่โดนพรากลูกพรากแม่มันเป็นยังไง” “เลว! นรกขุมไหนส่งคุณมาเกิดกัน คนบ้า!” สิ้นเสียงเล็ก จูบร้อนแรงถูกบดขยี้ลงมาอย่างร้ายกาจ เชลยในอ้อมกอดไม่อาจขัดขืนเขาได้แม้แต่น้อย หญิงสาวรู้ตัวดีว่า จุมพิตนี้หาใช่เกิดจากความรัก หากเขาต้องการแค่เพียงลงทัณฑ์เธอ... “คุณ... ไม่นะ พราวไม่อยากท้อง!” หญิงสาวบ่ายหน้าหนีจนหลุดพ้นพันธนาการจุมพิตร้าย ก่อนวอนขอ... “ไม่ทันแล้วครับ คุณต้องท้องและรับรู้ความเจ็บปวดว่าการถูกพรากลูกมันเป็นยังไง” “คนเลว... ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!” “ถ้าปล่อย... ก็ยังไม่หายแค้นน่ะสิครับ” ถ้อยคำนั้นแสนธรรมดา หากเจือแววเยือกเย็นพร่าผลาญใจ ส่งให้เชลยสาวในอ้อมกอดรู้สึกหนาวยะเยือกกับสิ่งที่ต้องเจอนับจากนี้....
ดูเหมือนโชคชะตาของ ‘รินรุ้ง’ จะไม่มีวันหนีพ้นจากความวุ่นวายได้ ตอนที่ยังเป็นพนักงานขาย ของรีสอร์ตที่ไทย ก็ต้องคอยรองรับอารมณ์ของลูกค้า พอหนีมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กที่สเปน ก็ยังไม่วายต้องสู้รบตบมือกับเด็กหญิงจอมแก่แดด ผู้หวงบิดายิ่งกว่าจงอางหวงไข่ และพร้อมจะใช้ความแสบป่วนหัวผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้ แต่นั่นก็ยังไม่ใช่จุดพีก เพราะลูกสาวที่ว่าร้าย ยังร้อนแรงไม่ถึงครึ่งของตัวพ่อ งานนี้หญิงสาวคงต้องลงทุนลงแรงอย่างหนัก เพื่อหาทางกำราบสองพ่อลูกให้ได้ ก่อนที่ชีวิตของเธอจะกลายเป็นการตกนรกทั้งเป็น ‘เซคิโอ ด็อพบาร์ กอนซาเลซ’ นักธุรกิจหนุ่มมหาเศรษฐีชาวสเปน ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงลึกลับที่เขาขโมยจูบเธอในเรือนร้างกลางสายฝน จะกลายเป็นคนเดียวกันกับพี่เลี้ยงคนใหม่ของลูกสาว ที่สำคัญ เขาเคยคิดว่าการขย้ำ ‘ลูกแกะน้อย’ ที่หลงเข้ามาใน ‘รังหมาป่า’ คงเป็นเรื่องง่าย หากตัวอุปสรรคสำคัญที่ชายหนุ่มต้องจัดการเป็นอันดับแรก ถ้าคิดจะเคลมรินรุ้ง ก็ไม่ใช่อื่นไกล แต่เป็น ‘ลูกหมาป่าตัวน้อย’ ของเขานั่นเอง “เจ็บ” พูดเสียงเครือ “ไหนดูซิ” เซคิโอพุ่งพรวดเข้าไปหา ก่อนจะคุกเข่าลง มองเลือดที่ไหลซึมออกจากเท้าเธอ “กลับห้องก่อน อยากเลือดทะลักหมดตัวหรือไง” เขารีบอุ้มเธอขึ้น น้ำเสียงลนลานเป็นห่วงเจือบงการ “เรื่องของฉัน เลือดนี่มันก็เลือดฉันนะ!” เธอเถียง ที่เจ็บอยู่แบบนี้ เพราะเขาไม่ใช่หรือไง “อย่าดื้อสิ... แต่ถ้าเธออยากเลือดออกจริงๆ ล่ะก็ ฉันมีวิธีที่เจ็บน้อยกว่านี้นะ จะเอาไหม” ++++++++++++++++++++++++++++ เพราะถูกปลดกลางอากาศ ทั้งที่ไม่มีความผิดใดๆ รินรุ้ง หงสกรพงษา จึงตัดสินใจรับข้อเสนอไปทำงานสบายๆ ที่สเปน ตามบัญชาของแม่เลี้ยง หากเธอไม่เคยรู้เลยว่า นั่นจะเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิต! . โฉมหน้าสุภาพบุรุษมหาเศรษฐีทายาทสายการบินที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เจ้าของตำแหน่งสุดยอดหนุ่มในฝันหลายปีซ้อนที่สาวน้อย สาวใหญ่ต่างคลั่งไคล้มาตลอด แต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ภายใต้ฉากหน้าราวเทพบุตรนั้น เซคิโอ เดอ ด็อพบาร์ กอนซาเลซ ได้ซ่อนคราบซาตานร้ายเอาไว้อย่างมิดชิด หัวใจเขาปิดตายนานกว่าแปดปีหลังสูญเสียคู่หมั้นสาวที่เขารัก มันถูกเปลี่ยนเป็นความแค้นรอวันสะสาง และเมื่อ... ‘ลูกแกะตัวน้อย’ ติดกับดักมาให้เขาแก้แค้น . . กลับกลายเป็นว่า เจ้าหล่อนคือหญิงสาวคนเดียวกันที่ขโมย ‘หัวใจ’ ที่เคยเหี่ยวเฉาของเขาไป เพียงเพราะจุมพิตดื่มด่ำไร้เดียงสา ในค่ำคืนแห่งโชคชะตา ที่เขายากจะลืม!
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ