พวงกุญแจตุ๊กตาเน่าที่แขวนอยู่บนกระเป๋าเอกสารของเขานั้น เหมือนเป็นเครื่องย้ำเตือนว่าอดีตเมื่อสิบปีก่อนเขาเคยเจอใครมาก่อน
มาร์กัสหันมองนอกหน้าต่างนึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น ตอนที่เขาได้กลับมาอยู่กับครอบครัวตัวเองอีกครั้ง หลังจากที่ปู่และย่าพาตัวเขาไปเลี้ยงดูตั้งแต่เด็กๆ
ความทรงจำในวัยเยาว์นั้นเขามักจะได้คิดเสมอว่าตัวเขาอาจจะไม่ใช่ลูกรัก หรือลูกที่พ่อแม่ต้องการ ยามที่เห็นพี่และน้องมาเยี่ยมแล้ว พวกเขาสนิทสนมกันหัวเราะมีความลับต่อกัน
เขาก็มักจะคิดว่าตัวเองเป็นคนนอกเสมอ ถึงแม้ตอนหลังเขาได้กลับมาอยู่กับพ่อแม่แล้ว แต่เวลามันล่วงเลยผ่านไปสิบปี
เสียงเรียกของแอร์เพื่อรับเครื่องดื่มทำให้เขาหลุดจากความคิด หันมารับเครื่องดื่ม ในชั้นเฟิร์สคราสมองเห็นเด็กน้อยด้านหน้าเกตกำลัง วิ่งเล่นอยู่ตรงห้องน้ำ ความทรงจำครั้งเดิมก็กลับมาอีกครั้ง
สิบปีที่เขาได้บินกลับมาไทยพร้อมพ่อแม่ครั้งแรก ครั้งนั้นเขาเดินไปยังด้านหลังคิดจะเข้าห้องน้ำชั้นเฟิร์สคลาสแต่พบว่ามีคนเข้าอยู่แล้ว เขารู้สึกปวดหนักจึงเลือกเดินไปยังด้านหลังชั้นรองแทน มาถึงห้องน้ำก็มีคนเปิดประตูพอดี เขาจะเข้าแต่แล้วก็มีเด็กสาวที่ไหนไม่ทราบวิ่งเข้ามา ตัดหน้าเขาจากนั้นก็ปิดประตูใส่
“นี่คุณผมมาก่อนนะ” เขาพูดเป็นภาษาฝรั่งเศสแต่คนด้านในฟัง ไม่รู้เรื่อง
ปอฝ้ายพยายามที่จะเร่งมือไม่ถึงสองนาทีก็เปิดประตูออกแล้วบ่นกับคนตรงหน้า “เป็นผู้ชายเสียเปล่าทำไมไม่รู้จักเสียสละ” เธอพูดเป็นภาษาไทยเพราะคิดว่าอีกฝ่ายฟังไม่ออก
มาร์กัสหันมองหญิงสาวที่ใส่ชุดสีชมพูกำลังจะจากไปจึงพูดภาษาไทยให้เธอฟัง “แล้วเราล่ะคำว่ามารยาทรู้จักไหม”
ปอฝ้ายหันมองอีกรอบทำไมคนหน้าตาฝรั่งตรงหน้าถึงได้พูดภาษาไทยได้ กำลังจะพูดตอบเขาก็เข้าห้องปิดประตูใส่เหมือนที่เธอทำ
เธอยกแขนขึ้นกอดอกรู้สึกโมโห จนลืมไปว่าสิ่งที่เขาพูดนะพูดถูก และเพราะว่าเธอยังอยู่ทำให้ได้ยินเสียงปวดหนักจากคนด้านใน ที่แท้ก็โมโหเพราะปวดหนักนั่นเอง เสียงปู้ดป้าดยิ่งทำให้ปอฝ้ายกลั้นขำ
ผ่านไปสิบนาทีมาร์กัสก็ออกจากห้อง ก็เจอหญิงสาวยังอยู่
“เธออยู่ตั้งแต่เมื่อไร”
“ก็ตั้งแต่นายเข้าไปนั่นแหละ เลยได้ยินเสียงอะไรดีๆ เยอะเลย” จากนั้นก็ทำเสียงปู้ดป้าดให้เขาฟัง
“เธอนี่มัน” เขากำมัดแน่น แต่เมื่อคิดว่าต่อไปคงไม่ได้เจออีกก็เลยพยายามควบคุมอารมณ์
ปอฝ้ายหลังจากแกล้งจนพอใจแล้ว จึงถามชื่ออีกฝ่าย “นายชื่ออะไร”
เป็นมาร์กัสเองที่แปลกใจกับอารมณ์ของเด็กสาว “เธอจะรู้ไปทำไม”
“เราชื่อปอฝ้ายนะ”
คนที่หันหลังให้ไม่คิดจะบอกชื่อ ปอฝ้ายก็เหมือนเด็กสาวดื้อรั้น จึงเดินไปขวางทางอีกครั้ง “ไม่ให้ไปเราบอกชื่อแล้วนายต้องบอกชื่อตัวเองด้วย”
เขาไม่ได้อยากรู้ชื่ออีกฝ่ายเสียหน่อย มาร์กัสที่กำลังจะกลับไปที่นั่งก็ผลักเธอไปโดยไม่ตั้งใจ ทำให้ปอฝ้ายล้มลง
“โอ๊ย!!” เสียงเธอร้องดังลั่นคนทำเลยตกใจรีบก้มลงมาถาม
“เจ็บตรงไหนไหม” พอจะจับแขนเธอ เธอก็สะบัดหนีแล้วลุกขึ้น มาร์กัสก็เลยได้แต่ขอโทษในใจและบอกชื่อตนเองในใจ ถามว่าเธอได้ยินไหม แน่นอนว่าไม่
มาร์กัสกำลังจะลุกขึ้นก็มองเห็นมีของตกหล่นอยู่ เขาหยิบมันขึ้นมาก็พบว่าเป็นพวกกุญแจหน้าตาหน้าเกลียดหัวหยิกผมฟู เขาจึงลุกขึ้นเปิดผ้าเพื่อมองหาที่นั่งของเธอแล้วเอาไปให้ แต่มองเท่าไรก็มองไม่พบ เมื่อเสียเวลาไปมากแล้ว เขาจึงกลับไปยังชั้นตนเอง มองไปยังกระเป๋าสะพายของตนเองก็เลยหยิบพวงกุญแจคล้องไปกับกระเป๋า
กระพริบตาหนึ่งครั้งเขาก็กลับมายังปัจจุบันดวงตาก็มองไปยัง เจ้าตุ๊กตาหน้าเกลียดหัวหยิกผมฟูที่อยู่ตรงกระเป๋าแล้วก็ยกยิ้มขึ้นโดย ไม่รู้ตัว
“จะได้เจอกันแล้วนะยัยเด็กหัวหยิก”