ฉันตามหาคนที่ฉันรัก แต่กับได้คนที่รักฉัน
เมื่อช่วงบ่ายบอมบอมไปหาพ่อกับแม่ที่บริษัท ซึ่งพ่อของบอมบอมเป็นท่านประธานในบริษัทแห่งนี้ บอมบอมนั่งรอผู้เป็นพ่อนานนับชั่วโมง แต่ก็ยังไม่เห็นจะมาตามนัด สักพักพ่อของบอมบอมก็โทรมาหาว่าติดธุระด่วน เย็นนี้เลยไม่สามารถที่จะไปทานข้าวกับบอมบอมได้ ในระหว่างนั้นเองก็มีหนุ่มใหญ่วัยสี่สิบห้า เดินตรงเข้ามาหาบอมบอมซึ่งกำลังโทรคุยกับผู้เป็นพ่อ พอบอมบอมวางสายชายหนุ่มผู้นี้จีงแนะนำตัวกับบอมบอม
"อาชื่ออาเอกนะ เป็นผู้จัดการฝ่ายขายที่นี่"เขายิ้มให้บอมบอม
“คุณบอมบอม วันนี้ท่านประธานให้อาไปส่งที่บ้านนะ เพราะเป็นทางผ่านบ้านอาพอดี ท่านประธานได้บอกแล้วใช่มั้ยครับ”
บอมบอมเงยหน้ามองผู้ชายทีเรียกตัวเองว่าอา เขาถึงกับสะดุดตาต้องใจ เพราะด้วยหน้าตาน่าจะซักสามสิบนิดๆ แต่ความจริงแล้ว เอกอายุสี่สิบห้าพอดี พ่อของบอมบอมวานให้เอกผู้จัดการฝ่ายขาย ไปส่งบอมบอมที่บ้าน จะได้ไม่ต้องเรียกคนขับรถมารับให้เสียเวลา
"บอกแล้วครับ"
“เรากลับกันเลยมั้ยคุณบอมบอม”เอกยิ้มให้บอมบอมอย่างละมุน
“ครับอา”บอมบอมยิ้มตอบแล้วก้มหน้าเดินตามอาเอกไปยังที่จอดรถ
เอกเปิดประตูรถให้บอมบอมเข้าไปนั่งข้างหน้า
“ขอบคุณครับ”บอมบอมอมยิ้ม และรู้สึกถูกชะตากับหนุ่มใหญ่หน้าเด็กคนนี้
เมื่อเอกปิดประตูรถให้บอมบอมเสร็จ เขาจึงเดินอ้อมหน้ารถเปิดประตูฝั่งคนขับ แล้วขึ้นไปนั่งพร้อมที่จะขับรถแล่นออกไปในทันที
“คุณบอมบอมจะกลับบ้านเลยใช่มั้ย”เอกหันหน้ามามองบอมบอมด้วยสายตาเอ็นดู
“ไม่ไปไหนแล้วครับ พรุ่งนี้ผมต้องไปเรียนแต่เช้า แถมเป็นวันแรกด้วย”
“ใช่อาก็ลืมไปเลย ท่านประธานเคยเล่าให้ฟังอยู่เหมือนกัน ดูท่านจะภูมิใจในตัวคุณบอมบอมมากเลยนะ”
บอมบอมไม่รู้จะพูดอะไรต่อจากนี้ เพราะรู้สึกเขินที่เจอหนุ่มใหญ่ที่พูดจาสุภาพมาก
“แล้วเรียนคณะอะไรอาลืมไปแล้ว”
“คณะบริหารธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยพิพัฒนเมธาครับ”บอมบอมพูดอย่างภูมิใจ เพราะมหาวิทยาลัยแห่งนี้เข้าเรียนได้ยาก เพราะเป็นมหาวิทยาลัยอันต้นๆของประเทศ
“คณะเดียวกับอาเลย แต่อาเรียนที่ต่างจังหวัด”
“มหาวิทยาลัยที่ไหนครับ”บอมบอมอยากรู้ขึ้นมาทันที เพราะดูจะปลื้มอาเอกมากเป็นพิเศษ
“จังหวัดเพชรบูรณ์ มหาวิทยาลัยอิงฟ้า”
“อูว์”บอมบอมทำเสียงตกใจ
“ตกใจอะไรทำเสียงซะดังขนาดนั้น”เอกหันหน้ามามองแว่บหนึ่งแล้วหันกลับ
“บอมบอมอยากไปเรียนที่ต่างจังหวัดแบบอาเอกเพราะเรียนที่กรุงเทพรถติด”บอมบอมมีสีหน้าเบื่อหน่ายอย่างเห็นได้ชัด
“ทำไมไม่ขอคุณพ่อไปล่ะ”
“ขอแล้ว คุณพ่อให้ไปแต่คุณแม่ไม่ให้ไป บอกว่าลำบากเป็นห่วงอยู่กรุงเทพนี่แหล่ะดีแล้ว จะได้ใกล้หูใกล้ตา อันหลังผมพูดเองครับ”
“แหม คุณแม่เขาก็เป็นห่วงนั่นแหล่ะ คุณบอมบอมไม่เคยลำบากนี่”เอกเลยคิดย้อนถึงตัวเองในอดีต ที่ต้องต้มมาม่ากินตอนเย็นทุกวันกับเพื่อนๆที่หอพัก
“ก็จริง ถ้าให้ผมไปอยู่หอพักคงอยู่ไม่ได้หรอก คนเยอะนอนกันหลายคน ผมไม่ชินชอบนอนคนเดียวมากกว่าครับ”
“แต่อาว่าสนุกดีออก ได้อยู่กับเพื่อนๆและอิสระดีด้วย”
“คิดอีกทีก็จริงไม่ต้องมีใครมาคุม คิดแล้วอยากไปจังเลย”
“ถ้ายากไปจะไปที่ไหนล่ะ “เอกหันมาถาม
“ที่เดียววกับอาเอกนั่นแหล่ะ ถ้ามีอะไรจะได้ปรึกษาอาเอกที่เป็นศิษย์เก่า”
“ศิษย์เก่ารุ่นเดอะซิไม่ว่า เวลาผ่านมาตั้งยี่สิบกว่าปีแล้ว”เอกหัวเราะเพราะอดขำความไร้เดียงสาของบอมบอมไม่ได้
“คุยกับอาเอกสนุกจัง ไม่เหมือนพ่อที่เคร่งเครียด ให้ตั้งใจเรียนจะได้มาช่วยพ่อกับแม่ทำงาน”
“ก็ท่านประธานมีบอมบอมเป็นลูกคนเดียวนี่ เขาก็ต้องฝากความหวังไว้ที่บอมบอมนี่แหล่ะ”
“นั่นน่ะซิ” บอมบอมถอนหายใจ นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย อยากไปเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกับอาเอก ไม่อยากเรียนที่กรุงเทพ แต่คงไม่ทันแล้วแหล่ะมหาวิทยาลัยเปิดพรุ่งนี้ ถึงทันพ่อกับแม่ของเขาก็คงไม่ให้ไปอยู่ดี
บอมบอมนั่งคิดตลอดทาง อยากไปเรียนที่เดียวกับอาเอก คงจะสนุกและได้เห็นอะไรแปลกใหม่ ที่อยู่ในต่างจังหวัดแต่กรุงเทพไม่มี บอบอมคิดเช่นนั้นเพราะต้องอยู่ในกรอบตลอดเวลา ถ้าไปเรียนไกลๆจะได้มีอิสระ บอมบอมคิดวนมาวนไปจนหลับในที่สุด
เอกใช้เวลาขับรถนานพอสมควร กว่าจะมาถึงบ้านของบอมบอมก็เย็นพอดี
“น้องบอมบอมถึงแล้ว”เอกสะกิดที่แขนของบอมบอม
บอมบอมค่อยๆลืมตาขึ้นจึงทำให้ สายตาได้ประสานกับอาเอกของเขา จนบอมบอมต้องเม้มปากหลบสายตาไปทางอื่น
"น้องบอมบอมเป็นอะไรหรือเปล่า"เอกสงสัยในท่าทีเขินอายของบอมบอม เพราะเขาก็ไม่รู้ตัวว่าเสน่หนุ่มใหญ่ต้องตาหนุ่มน้อย
“อาเข้าบ้านผมก่อนซิ ไปทานอะไรกันก่อน”บอมบอมยังไม่ลงจากรถ เพราะอยากคุยกับเอกต่ออีก จึงชวนให้ทานข้าวด้วย
“ไม่ได้หรอกอาต้องไปทานข้าวกับภรรยาและลูกที่บ้าน” เอกยิ้มให้บอมบอมด้วยนัยน์ตาที่โอนโยน
“ครับ”บอมบอมรู้สึกสะดุดใจคำนี้ แต่ก็ไม่คิดอะไรมากเพราะอายุขนาดนี้แล้ว ก็ต้องมีลูกและภรรยาเป็นเรื่องธรรดา ถ้าไม่มีก็จะเป็นเรื่องที่น่ายินดีกว่านี้บอมบอมคิดเช่นนั้น
“ขอบคุณครับ” บอมบอมรีบลงจากรถแล้วยิ้มลายกมือไหว้เอก รีบเดินเข้าไปภายในบ้าน ส่วนเอกก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงแต่คิดถึงลูกชายวันสิบห้าของเขาที่กำลังโตเป็นหนุ่มไล่ๆกับบอมบอม
บอมบอมเข้ามาในบ้านหลังใหญ่โต ที่แสนจะเงียบเหงา มีเพียงเขากับคนรับใช้ร่วมสิบ ส่วนพ่อแม่ของบอมบอมกลับดึกทุกค่ำคืน
บอมบอมมักจะรับประทานข้าวคนเดียวอยู่เป็นเนืองนิจ ค่ำคืนนี้ก็เช่นเดิมไม่อาจหลีกพ้น ซึ่งเป็นบรรยากาศที่เขาแสนจะเบื่อหน่าย
อาหารเต็มโต๊ะชั้นเลิศที่ใครเห็นต้องอยากทาน แต่บอมบอมเพียงแค่เห็นก็แท่บจะอิ่ม เขาทานเพียงน้อยนิดก่อนจะขึ้นมาที่ห้องเพื่อนอนเล่นมือถือ แซทคุยกับเพื่อนเรื่องไปเรียนในมหาวิทยาลัยพรุ่งนี้เป็นวันแรก แต่แล้วบอมบอมก็ต้องหยุดเล่นทันทีเพราะเสียงเคาะประตู
บอมบอมจึงออกไปเปิดประตู ก็ได้เห็นแม่ของเขายังอยู่ในชุดทำงาน
“บอมบอมยังไม่นอนอีกเหรอ มัวทำอะไรอยู่”
“คุยกับเพื่อนอยู่ครับ”
“วันนี้แม่กับพ่อต้องขอโทษบอมบอมนะ ที่ไม่ได้พาไปทานข้าว พอดีลูกค้าเรื่องมากต้องคุยกันยาว”
“ผมเข้าใจครับ” บอมบอมพยักหน้า
“วันนี้พ่อเลยโทรให้อาเอกมาส่งลูก”
พอได้ยินชื่ออาเอกเท่านั้นแหล่ะ บอมบอมกระชุ่มกระซวยขึ้นมาทันที เลยอยากถามไถ่ประวัติของอาเอกทันที
“อาเอกทำงานที่นี่นานแล้วเหรอครับแม่”
“ก็นานอยู่นะสิบกว่าปีเห็นจะได้”
“ถามทำไมลูก”แม่บอมบอมมีท่าทีสงสัย
“ผมไปทีไรก็ไม่เห็นอาเอกเลย”
“อ๋อ ก็อาเอกเป็นผู้จัดการฝ่ายการขาย จึงออกไปพบปะลูกค้าบ่อยๆ ไม่ค่อยได้อยู่ออฟฟิคหรอก"
“อาเอกนี่เขาชื่อจริงอะไรเหรอครับ”บอมบอมถามเพื่อจะไปค้นหาในโซเซียล เฟสบุ๊ค ไอจี เพราะอยากรู้เรื่องราวของอาเอก
“อยากรู้ไปทำไม”
“ก็ลูกน้องพ่อกับแม่นี่ก็อยากรู้จักไว้บ้าง อาเอกเขาใจดีสุภาพ อาเอกเขารับปากว่าจะเป็นที่ปรึกษาให้บอมบอม ตอนเรียนหนังสือในมหาวิทยาลัย”บอมบอมโกหกหน้าตาย
“อ่อ ดีมากลูก อาเอกเขาเป็นคนเก่งถ้าลูกได้เรียนรู้จากเขาถือว่าโชคดีมาก อาเอกเขาชื่อ เอกราช สุดใจ “
“เอกราช สุดใจ “ บอมบอมพูดจบก็อมยิ้ม
แม่ของบอมบอมเห็นว่าดึกพอสมควร และในส่วนของตัวเธอก็รู้สึกง่วงนอนมากจนผิดสังเกต
“บอมบอมนอนได้แล้ว พรุ่งนี้ต้องไปเรียนวันแรกแต่เช้า”
ผู้เป็นแม่จับไหล่ของบอมบอมแล้วดึงร่างบอมบอมมากอดไว้
“พ่อกับแม่รักบอมบอมมากนะ วันนี้ไม่รู้ว่าแม่เป็นอะไรอยากกอดบอมบอม กลัวบอมบอม ฮือ แม่คงคิดไปเรื่อย นอนเถอะลูก แม่ก็ง่วงนอนเหมือนกัน”
แม่ของบอมบอมละร่างออกจากลูกชาย แล้วจ้องมองบอมบอมสักพักก็หันหลังกลับเดินไปที่ห้องของตัวเอง
ส่วนบอมบอมนั้นรู้สีกใจหายที่แม่มีท่าทีแปลกไป บอมบอมมองแม่ของเขาเดินไปจนถึงห้องนอน หลังจากนั้นเขาจึงปิดประตู ส่วนแม่ของบอมบอมก็หันหลังกลับมามอง แต่ก็ไม่เห็นลูกชายแล้วเธอจึงถอนหายใจ พร้อมเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนด้วยความรู้สึกแปลกๆ
บอมบอมรีบเดินมาที่เตียงนอน เพื่อที่จะค้นหาประวัติอาเอกในเฟสบุ๊ค บอมบอมมลองพิมชื่อ เอกราช สุดใจ ก็เด้งขึ้นมาทันที บอมบอมจึงไล่ดูรูปของเอกทุกรูป จนมาถึงรูปเก่าๆสมัยยี่สิบปีกว่าปีที่แล้ว ที่เอกนำมาลงในเฟสบุีค
บอมบอมจ้องมองไม่กระพริบตา พราะหน้าตาของเอกนั้นหล่อคม บอมบอมเลยไล่ดูไปเรื่อยๆถ้ามีรูปคู่กับภรรยาและลูก บอมบอมจะเลื่อนผ่านไปในทันที ดูในเฟสจบก็ต่อด้วยไอจี เพราะเอกทำลิงค์ไว้ให้ติดตามกัน
บอมบอมไล่ดูจนเวลาเกือบเที่ยงคืน เขาก็ยังไม่นอน เพราะไม่ได้ดูรูปเอกในเฟสและไอจีแคนั้น แต่ยังดูคลิปติ๊กต๊อกที่เอกลงคลิปเล่นกีต้าร์ร้องเพลงยุค 90 บอมบอมเลื่อนฟังไปเรื่อยๆ จนมาสะดุดกับเพลงปาฏิหารย์ บอมบอมกดรีเฟรชหลายรอบมาก เขาเลยมีความคิดแปลงไฟล์เพลงนี้บันทึกลงเครื่องทำเป็นMP3 บอมบอมจึงเริ่มแปลงไฟล์เพลงในทันทีทันใด
ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานนัก
เมื่อใกล้ถึงเวลาเที่ยงคืนซึ่งเหลือเพียงไม่กี่นาที บอมบอมรู้สึกง่วงนอนจนอดรนทนไม่ไหว เขาจึงล้มตัวลงนอนบนเตียงพร้อมนำมือถือมาวางไว้ข้างหู เปิดเพลงปาฏิหารย์ของเอกที่ทำเป็นmp3ฟังโดยตั้งค่าเล่นซ้ำอัตโนมัติ บอมบอมฟังได้ไม่กี่รอบก็หลับไปอย่างไม่รู้ตัว
รักแล้วไม่กลัวเจ็บ แต่ต้องเก็บเป็นความลับ เพราะไม่สามารถเปิดเผยรักที่แท้จริงได้ จึงต้องฝืนทนกล่ำกลืนรักที่แสนรันทัด แต่ถึงกระนั้นทั้งคู่ก็ไม่กลัวที่จะได้รักกัน ถึงแม้จะเป็นรักที่เจ็บๆแต่จริงใจและห่วงใย
สุดท้ายเราก็รักกันไม่ได้ ถึงแม้ถ่ายไฟเก่าจะลุกขึ้นจนมอดไหม้ ไม่มีเหลือชิ้นดี
ชายหนุ่มผู้เดินตามความฝัน ซึ่งในระหว่างทางต้องพบเจออุปสรรคมากมาย กว่าจะเจอรักแท้ที่โหยหามานาน
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"