ครั้งแรกที่เขาจากไปด้วยข้อเสนอเงินห้าล้านบาทกับเงื่อนไขที่ว่า เขาและเธอไม่เคยเกี่ยวข้องกัน แต่เมื่อผ่านไปหนึ่งปีเขากลับมาง้อขอคืนดี ใช้เวลาเพียงไม่กี่วันก็ทำให้เธอหลอมละลายในอ้อมกอดเขา และหลังจากนั้นอีกไม่นานเขายอมจากเธอไปอีกเป็นครั้งที่สอง ด้วยข้อเสนอที่ว่า “ได้! เพียงคุณสัญญาว่าจะไม่มีใครและจะอยู่เพียงลำพัง...แล้วผมจะไป”
เสียงดนตรีจังหวะครื้นเครงทำให้ผู้คนที่ได้ยินอดไม่ได้ที่จะต้องโยกตัวไปตามจังหวะอย่างเพลิดเพลินใจ คนที่มาที่นี่ร้อยทั้งร้อยคือความสนุกสนาน ซึ่งเอกรินทร์ที่โยกตัวไปมาเหมือนกับคนอื่นๆเป็นส่วนใหญ่จำต้องหยุดเมื่อหันมามองเพื่อนที่ตาเอาแต่จ้องมองแก้วใส่เครื่องดื่มที่ไม่เหมาะต่อผู้เยาว์
“แกจะเสกคาถาให้คุณธมนลอยออกมาจากแก้วหรือไงว๊ะ”
“พูดอะไรของแกว๊ะ”
“โถ่ววววว...คุณเพื่อนยังไม่รู้ตัวเหรอ...” เอกรินทร์เหล่ตามองจับผิดโดยไม่ปิดบัง “ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว ตอนนี้แกน่าจะรู้ใจตัวเองได้แล้วนะว่าจริงๆแล้วแกชอบคุณธมนจริงๆ”
“แกแน่ใจเหรอว่าคนอย่างฉันจะชอบผู้หญิงที่เห็นแก่เงินแบบนั้น”
“เห็นแก่เงิน...แกบ้าหรือฉันหูฝาดกันแน่ที่ได้ยินแกพูดแบบนี้” วิลไม่ตอบคำถามเพื่อน เขากลับมาสนใจของเหลวในแก้วต่อ หนึ่งปีแล้วเหรอทำไมเขาเหมือนรู้สึกผ่านไปแล้วสักสิบปี เวลาช่างเดินช้านักแต่จะหนึ่งปีหรือสิบปีเขาก็ยังลืมเธอไม่ได้นั่นเป็นความจริงที่เกิดขึ้นที่เขาไม่อยากยอมรับ
เธอก็น่ารักดี (แค่หน้าตา) แต่คนระดับอย่างเขาหาน่ารักกว่าเธอได้ร้อยเท่าพันเท่า สิ่งที่วิลย้ำบอกตัวเอง ตั้งแต่ที่เขาจากเมืองไทยมาอีกครั้งเมื่อหนึ่งปีก่อน เขาก็ปฎิเสธเพื่อนในเรื่องการเดินทางกลับไปอีกครั้งตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา
“ฉันเจอเธอเมื่อสามสี่เดือนก่อน” เสียงที่ดังแทรกคลื่นเสียงดนตรี แม้จะไม่ดังมากแต่คนที่ตกอยู่ในภวังค์ก็ยังได้ยิน วิลหันไปมองเพื่อนทันที “อยากฟังต่อ...” เอกรินทร์กระเซ้าแหย่คนปากแข็ง
“ถ้าลำบากใจมาก เพื่อนก็ไม่ต้องเล่าก็ได้ อย่างไรแล้วฉันก็จ่ายค่าเหล้าให้แกอยู่ดี”
ฮาฮาฮา “ค่าเหล้าแกต้องจ่ายอยู่แล้วฉันถูกแกเชิญมานะครับ ค่าเหล้ายังถูกกว่าหลายเท่าถ้าเทียบกับค่าตั๋วเครื่องบินไทย-นิวยอร์ก นะเพื่อน”
“งั้นค่าที่พักแกก็จ่ายเองแล้วกัน”
อ้าวเฮ้ย!!! “เล่าแล้ว...จะว่าเธอเปลี่ยนไปก็พูดยาก แต่ตอนนั้นฉันที่คิดว่าต้องทักทายเธอเสียหน่อยก็เกือบหน้าแตก เพราะแม้จะมองเห็นกัน แต่เธอก็มองผ่านฉันเหมือนมนุษย์ร่วมโลกกันเท่านั้นว๊ะ”
“ไงต่อ”
“ฉันก็เกือบลืมเรื่องของแกกับเธอไปเลยจนได้มาเจอกับเธอตอนนั้น ฉันเลยสืบต่อนิดหน่อย ในวันนั้นบริษัทที่เธอทำงานอยู่มาเช่าห้องจัดงานสัมมนาเลยทำให้ฉันรู้ว่าเธอทำงานที่ไหนนะสิ”
“แกรู้เรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อสี่เดือนก่อน แต่พึ่งจะเปิดปากบอกฉันเนี่ยนะ”
เฮ้ย! “คุณเพื่อน...ก่อนจะด่าทางอ้อมช่วยยั้งคิดพิจารณาหน่อยได้มั้ยว๊ะ ว่าทำไมฉันต้องรีบแจ้นมาบอกแกด้วยละครับ ผมไม่ใช่บุรุษไปรษณีย์ที่มีหน้าที่ส่งข่าวที่คุณเพื่อนไม่ได้ต้องการจะรู้...ไม่ ใช่ หรือ ครับ”
“งั้นโปรเจตงานของแกก็ขนกลับเมืองไทยไปเลย”
“สัมพันธภาพความเป็นเพื่อนขาดสะบั้นลงเพียงแค่หนึ่งนารี...เออๆ เล่าต่อ ยังไม่หมด นอกจากจะทำงานในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาของบริษัทนั้นแล้วเธอยังเรียนต่อด้วยนะ ประมาณว่ากลางวันทำงานกลางคืนก็ไปเรียน ตอนนั้นเธอต้องเดินทางกลับไทยแบบเร่งด่วนเลยยังไม่มีวุฒิปริญญาตรีเลย เงินเดือนตอนนี้ก็ไม่น่าจะได้เยอะ”
“มีแค่นี้”
“เจ้านายของเธอเป็นผู้หญิง”
“บอกฉันทำไมว๊ะ”
“ก็ตอนที่ฉันเจอเธอ บอกเลยว่าสวยขึ้นมาก ตอนเห็นครั้งแรกตอนนั้นจำเธอไม่ได้ยังคิดเลยว่าอยากจะเข้าไปทำความรู้จักให้มากขึ้น แต่พอเข้าไปใกล้ อ๋ายหย้า!!! ผู้หญิงของเพื่อนนี่หว่า”
“แกจะบอกว่า...เธอยังไม่มีใคร”
“แปลไทยเป็นไทยก็แบบนั้นแหละ เอาไงละ! รู้ขนาดนี้แล้วแกจะตัดสินใจว่ายังไง”
“ทำไมต้องตัดสินใจว๊ะ เรื่องระหว่างฉันกับเธอก็จบไปแล้ว ระหว่างเราสองคนไม่มีอะไรติดค้างกัน”
“แน่ใจเหรอว๊ะ เท่าที่ฉันได้ยินจากเพื่อนๆมา เขาว่าแกเก็บตัวอย่างหนักตั้งแต่กลับมาจากเมืองไทยเมื่อหนึ่งปีก่อน ใครๆก็ว่าแกเปลี่ยนไป เหมือนแวมไพร์ที่หัวใจหยุดเต้น”
“ฉันทั้งรวยทั้งหล่อ หาผู้หญิงที่ดีที่เพียบพร้อมได้ไม่ยาก ทำไมฉันจะต้องไปสนใจผู้หญิงแบบนั้นด้วย”
“เพียบพร้อม อืม...ก็จริง อย่างแกหาได้สบาย ก็โอเค๊! ถ้าแกรักผู้หญิงคนที่แกคิดว่าเพียบพร้อม เอาเถอะ! อีกนานอย่างแกไม่จำเป็นต้องรีบหาเมียมีลูก ไม่เหมือนกับคุณธมนหน้าตาอย่างเธอคงมีหนุ่มๆที่เพียบพร้อมมาเห็นและขายขนมจีบกับเธอเข้าสักคนสองคน ถึงตอนนั้นเธอก็ไม่จำเป็นต้องเหนื่อยแบบนี้ แกคิดดูต้องตื่นเช้ามาโหนรถเมย์เพื่อไปทำงาน เลิกงานแทนที่จะได้ไปแฮงค์เอ้าท์เหมือนคนอื่นๆ กลับต้องไปเรียนหนังสืออับเกรดตัวเอง เพื่อรายได้ที่มากขึ้นจากการทำงานอีกนิดหน่อย”
วิล นั่งเงียบคิ้วหนาขมวดเข้าหากันทันที ก็ตอนนั้นเขาผิดหวังกับเธอจริงๆ ถ้าเธอไม่ตอบตกลงรับเงินจำนวนนั้นของเขาเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ ตอนนั้นเขาคงจะมีข้ออ้างตามตอแยเธอเพื่อเรียนรู้เธอ เขาผิดเหรอที่จะคาดหวังผู้หญิงที่รักเขาที่ตัวเขามากกว่าทรัพย์สินเงินทองของเขาแม้เรื่องระหว่างเขากับเธอจะเป็นอุบัติเหตุก็ตามที
“แกรู้ได้ไงว่าเธอไม่มีใครจริงๆ การที่เจ้านายเธอเป็นผู้หญิงก็ไม่ได้เป็นการตอบโจทย์เรื่องนี้ บ้านเธอแกรู้หรือไงว่าเธอไม่ได้อยู่กับผู้ชายคนไหนสักคน” มือกำยำกอบกุมแก้วในมือแน่นขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เมื่อจู่ๆเกิดมโนภาพของเธอกับผู้ชายคนอื่นขึ้น ความโกรธเกรี้ยวอย่างไร้เหตุผลก็เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว กรามแกร่งขบกัดกันจนซีกแก้มปูนโนนขึ้น
“นั่นสินะ เพราะบ้านทาวเฮ้าส์สองชั้นที่มีแค่สองห้องนอนผู้ชายฐานะระดับไหนกันที่เธอเลือก” แสดงว่ารู้จักบ้านของธมน ไอ้เพื่อนรัก...วิลคิดต่อในใจ
“ฉันกำลังคิดว่าถ้าจู่ๆ ฉันลุกขึ้นและเตะแกกลางร้าน การ์ดคุมร้านจะคิดว่าเกิดเหตุทะเลาะวิวาทกันหรือเปล่า”
“เป็นแบบนั้นไป...ทีแกยังลำใยฉันเลย แล้วแกไม่ลองมาเป็นฉันบ้างว่าจะลำใยแกมากแค่ไหน ไอ้คนปากแข็ง ชอบเขามาตลอดทำไมถึงไม่ไปจัดการให้เธอมาเป็นของแกอย่างถูกต้อง...อ๊ะอ๊ะ! ถ้าแกจะอ้างเรื่องเงินห้าล้านที่เธอรับไป ฉันว่ามันไม่แฟร์กับเธอ ทำไมแกไม่คิดบ้างว่าที่เธอรับเงินเพราะต้องการจบเรื่องราวระหว่างแก...คิดง่ายๆนะครับคุณเพื่อนที่ทั้งหล่อและรวยบางทีคุณเพื่อนอาจจะไม่ใช่ผู้ชายที่คุณธมนต้องการ แล้วใครจะมาการันตีว่าถ้าวันนั้นเธอไม่รับเงินแก แกหรือใครที่รู้เรื่องระหว่างแกกับเธอเข้าจะต้องคิดว่าเธอต้องการจับแก ในเมื่อแกมีจ่ายห้าล้านได้ถ้ายื้อกันต่อไปเธอก็อาจจะได้มากกว่านั้น การได้ใช้นามสกุลแกสบายไปทั้งชาติ แกว่ามั้ย”
วิลเงียบอีกครั้ง การที่มีบุคคลที่สามที่รู้เรื่องราวความจริงที่ถูกต้องให้เหตุผลอย่างเป็นกลางมันก็ไม่ต่างกับการเปิดทางสว่างให้กัน ทำไมเขาถึงคิดเหตุผลนี้ไม่ได้ ทำให้เขาอดย้อนคิดถึงเหตุการณ์วันนั้นไม่ได้ เขาไม่ได้ไปด้วยตัวเอง แต่ทุกการพูดคุยเจรจากันตอนนั้นก็เหมือนกับเขาร่วมอยู่ด้วยซึ่งถ้าคิดไตร่ตรองให้ดีๆ วันนั้นจบลงอย่างง่ายดายใช้เวลาไม่ถึงยี่สิบนาทีด้วยซ้ำ ต่างก็แยกย้ายกันกลับ
“ห้าล้าน ผมจ่ายให้คุณห้าล้านกับหนังสือสัญญาหนึ่งฉบับว่าต่อจากนี้ไปเราสองคนไม่รู้จักกัน เดินผ่านก็เป็นเพียงแค่คนแปลกหน้า” วิล เสนอเงื่อนไขซึ่งเธอต้องกระโดดคว้าไว้แน่นอนเพราะหลังจากนี้อีกไม่นานเมื่อเรื่องทางบ้านของเธอเปิดเผยต่อสังคม เธอก็จะเหลือแต่ตัว เงินห้าล้านเป็นการต่อลมหายใจให้กับเธอในการตั้งหลักกับการเปลี่ยนแปลงของชีวิตครั้งยิ่งใหญ่ เธอต้องตกลง...ตกลงอย่างแน่นอน
“ตกลง” เสียงตอบกลับทันทีดังเข้าสู่ปลายสาย คำตอบเป็นไปตามที่วิลคาดหวังไว้ แต่ทำไมหัวใจของเขากลับบีบรัดเบาโหวงอย่างแปลกประหลาด วิลที่อยู่ปลายสายเงียบทันทีเขาไม่ได้ไปพบเธอด้วยตัวเอง เขาส่งทนายไปโดยเปิดสปีกเกอร์โฟนพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์
“ตรงไหนคะที่ฉันต้องเซ็น และพวกคุณเตรียมแคชเชียร์เช็คมาแล้วใช่มั้ยคะ” ประโยคแข็งกร้าวดังสะท้อนสู่โสตประสาทของคนที่อยู่ปลายสาย
วิลได้แต่ยกยิ้มมุมปาก ไม่รู้ว่ารอยยิ้มเยียดหยามที่เกิดขึ้นนี้เพื่อตัวเขาหรือเพื่อเธอ หญิงสาวได้มาโดยไม่ตั้งของเขา
“จู่ๆ ถ้าฉันกลับไปโผล่หน้าอยู่ตรงหน้าเธอ ฉันคิดว่าสิ่งที่ฉันต้องเจอก็ไม่ต่างกับที่แกเจอเมื่อสี่เดือนก่อน”
“แต่ฉันว่าไม่นะ ถ้าตอนนั้นแกเตรียมตัวมาอย่างดี แกต้องจับตามองแววตาของเธอไว้ ฉันว่ามันต้องกระตุกหรือแกว่งสักเสี้ยววินาที เพราะหน้าแกต้องพิเศษกว่าหน้าฉันว๊ะ” วิลมองเพื่อนพร้อมยักคิ้วให้ในทำนองว่าเพื่อนรักจะกวนเบื้องล่างต่อไปอีกนานมั้ย
“มองแบบนี้...ไม่ขำ” เอกรินทร์กระเซ้าอย่างอารมณ์ดีเมื่อเพื่อนเริ่มเปิดใจมากขึ้น
พึ่บ! เสียงประตูห้องถูกปิดลงเมื่อเจ้าของห้องกลับมาแล้ว วิลเดินไปยังบาร์รินเครื่องดื่มที่ไม่เหมาะกับผู้เยาว์ แต่จะว่าวัยไหนก็ไม่เหมาะทั้งนั้น เขาทรุดนั่งลงบนโซฟาหนังแท้ราคาสมฐานะคนอย่างเขา และหวนคิดถึงวิธีที่จะไปพบกับธมนอีกครั้งตามที่เพื่อนเสนอมาให้อย่างลื่นไหลอย่างกับว่าเจ้าเพื่อนรักทำการบ้านมาเป็นอย่างดี
“ตอนนี้คุณย่าของคุณธมนเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลด้วยโรคชราภาพ เท่าที่ฉันรู้มาบางทีก็ต้องนอนโรงพยาบาลบ้าง นี่แหละโอกาสของแกที่จะเข้าหาทางคุณย่าฤทัย”
รวมเรื่องสั้น_เรื่องราวความรัก อ่านเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อ -- เมื่อเขาต้องการ -- มายผู้ที่ไม่เคยปฎิเสธยามเมื่อคุณอาหนุ่มต้องการ ซึ่งเธอไม่ปฎิเสธเขาอยู่แล้ว เพราะไม่รู้จะทำไปทำไม เสแสร้งแกล้งเล่นตัวทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่เหลือความสดใหม่ให้ค้นหาอีกต่อไปแล้ว ทำได้เพียงร่วมมือกับเขาอย่างเร้าร้อนในทุกที่ทุกเวลา ‘เมื่อเขาต้องการ’ -- ชนท้องน้องสาว -- หากน้องสาวที่ผมหวังจะท้องชนกัน กำลังจะมีความรักกับผู้ชายคนอื่น...คุณจะทำอย่างไร? -- ค่าคุ้มครองมาเฟีย -- กานต์ จะว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มก็ได้ ชายหนุ่มวัยขบเผาะก็ไม่ผิด เมื่อเขากลายเป็นค่าตอบแทนชดเชยการล้างแค้น อันแสนเร้าใจ ให้กับ คุณเชอร์รี่ พี่สาวที่มักจะปรากฎตัวในชุดรัดรูปอวดส่วนเว้าส่วนโค้ง ต่อหน้าเขา... เอือก!...เสียงลูกกระเดือกขยับเมื่อกานต์พยายามกลืนน้ำลายไม่ให้ไหลออกมา -- ผู้ชายแพร่พันธุ์ -- “หากภรรยาที่แต่งงานกันมาได้ 5 ปี บอกกับคุณว่า จะให้คุณทำกับผู้หญิงอื่น เพื่อมีลูกให้กับเธอ...คุณจะทำอย่างไร?
...ความรู้สึกที่เธอมีให้กับเขามันหยั่งรากแก้วไปถึงกระดูกทุกมวลในร่างกายเธอแล้ว ถ้าให้เธอถอนมันตอนนี้มันจะต่างอะไรกับการเลาะกระดูกกันเล่า! 🌼 🌼 🌼 ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนไหนที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันมาก่อน มันไม่ใช่พึ่งเกิดขึ้นแต่มันค่อยๆ เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงต่างหาก ความรู้สึกที่เธอมีให้กับเขามันหยั่งรากแก้วไปถึงกระดูกทุกมวลในร่างกายเธอแล้ว ถ้าให้เธอถอนมันตอนนี้มันจะต่างอะไรกับการเลาะกระดูกกันเล่า! ปิ้ง! นั่งอยู่แบบนี้นานแค่ไหนเธอแทบไม่รู้ตัวจนมีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์ ‘พี่จะออกไปข้างนอก อยากได้อะไรอยากกินอะไรส่งข้อความมานะ’ ลำธารมองประโยคที่ปรากฎบนหน้าจอด้วยใบหน้าซีดเผือก ‘...ส่งข้อความมานะ’ ไม่มีช่องโหว่ตรงไหนให้เธอได้มีความหวังเลยว่าเขาจะชวนเธอไปด้วย “พี่หัสพาลำธารไปด้วย” หญิงสาวพร่ำเพ้อเพียงลำพัง แม้ได้ไปแล้วจะต้องเจ็บปวดยามที่ต้องเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แต่ถ้าเธอได้ไปด้วยช่วงกลับเวลาตรงนั้นก็จะเป็นของเธอกับเขาเพียงลำพังสักนิดก็ยังดี แต่เธอก็ได้แต่หลับตาและเอาความต้องการนี้ไปยังความฝัน
พันธะรักวิวาห์จำเป็น [Bond of Love - Wedding] #รุ่งอรุโณทัย เขาเรโนลต์ที่ต้องแต่งงานกับหญิงสาวที่ไม่เคยเห็นหน้าแม้แต่ครั้งเดียวตามคำสั่งพ่อ ซึ่งทำให้เขาต้องเสียทั้งเงินและเสียสถานะโสด เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางที่จะต้องแต่งเมียคนนี้แล้วเอาขึ้นหิ้งบูชาเป็นแน่ พ่อจะจัดหนักให้อย่างไม่แทงกั๊กในทุกๆ ทั้งเรื่องXXXทั้งแสวงหาผลประโยชน์จากเมียที่ได้มาจากวิวาห์จำเป็นคนนี้เท่าทบทวีเงินที่เขาต้องลงทุนจ่ายไปไม่น้อยคืนมาจนครบพร้อมดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่าย... คำโปรย:: … เรโนลต์ เงียบ! เขาประธานผู้มากด้วยอำนาจ เพียบพร้อมไปด้วยรูปร่างหน้าตาที่สามารถขึ้นแท่นสามีแห่งชาติได้อย่างไร้ข้อกังขา ฐานะการเงินแม้ตอนนี้จะเหลือเพียงอสังหาริมทรัพย์กับรถสามคันและเงินเดือนแต่ก็ยังน่าสนใจอยู่ในหมู่สาวๆ และเหล่าไก่วัดที่เต็มใจให้สมภารอย่างเขากัดแทะเล่นเป็นครั้งคราว คนโสดทำอะไรก็ไม่น่าเกลียดไม่ผิด แต่จากคำพูดล่าสุดของคุณพ่อไม่กี่คำ เขาที่เป็นฝ่ายกระดิกนิ้วเรียกสาวๆ กลายมาเป็นคนที่ถูกกระดิกนิ้วเรียกไปแล้วอย่างงั้นเหรอ “เธอเป็นหม่อมเจ้าหรือครับ...ผมหมายถึงว่าที่สะใภ้นะครับ” เขาขยายความเมื่อจู่ๆ เขาเงียบไปนานและเอ่ยขึ้นมาคุณพ่อจึงมุ่นคิ้วไม่เข้าใจในตอนแรก คุณอำพลส่ายหน้า “นางสาวธรรมดา” “เธอเป็นลูกนักการเมืองใหญ่หรือเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของผู้ทรงอิทธิพล” เรโนลต์ยังพยายามต่อ “คุณอำพลส่ายหน้า “กำพร้า” … เรโนลต์ เงียบ! “เป็นผู้มีพระคุณของคุณพ่อ” เรโนลต์ไม่ละความพยายาม “แกดูละครมากไปมั้ย” … เรโนลต์ เงียบ! ======================= SET : Bond Of Love พันธะรักโดยไม่ตั้ง [Bond Of Love - Accidence] พันธะรักวิวาห์จำเป็น [Bond Of Love - Wedding] พันธะรักราคีแค้น [Bond Of Love - Revenge]
“ถอยไปนะ!!!” “ไม่สู้แล้วเหรอ” น้ำใสกำปมผ้าขนหนูไว้แน่น ดวงตากลมจดจ้องเข้าไปในดวงตาสีเทาของเขาเขม็ง แม้ตัวเองจะเสียเปรียบแต่เธอไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ “จะเอายังไง” “นั่นสินะ! ไม่อยากเชื่อเลยว่าอย่างเราสองคนจะมาถึงจุดนี้ได้เหมือนกัน...ใครกันนะที่บอกรักกันได้ทุกเวลา...ไม่อายปากบ้างเหรอ” คำเย้ยหยันที่ถูกพ่นออกมามันไม่ได้แค่ทำร้ายจิตใจคนฟังเพียงฝ่ายเดียว ในทางตรงข้ามคนพูดน่าจะอาการสาหัสยิ่งกว่า “แล้วไง! คุณก็เหมือนของกินมีใครบ้างที่กินของเดิมซ้ำๆกันทุกวัน คำแรกมันก็ชื่นมื่นน่าลิ้มลองเป็นธรรมดา คำที่สองก็ยังน่าพิสมัย แต่คำต่อๆไปใครจะยังกลืนมันลงละในเมื่อรู้รสชาติแล้ว เมื่อถึงเวลาก็ต้องหารสชาติใหม่ๆมาลอง...ใช่มั้ย” แววตาของเอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนไป สีหน้าและแววตาของน้ำใสมันช่างเข้าได้กับคำพูดของเธอเสียจริง นี่เขาเกิดหวั่นไหวใช่เหรอเปล่าว่าเธอคิดอย่างที่พูดจริงๆ ความเบื่อหน่ายอย่างงั้นเหรอ... “ได้!!! ในเมื่อเธอเบื่อรสชาติที่ฉันอุตส่าห์ปรุงแต่งมันเพื่อเธอคนเดียว งั้นลองรสชาติใหม่ก็...แล้ว...กัน!” อร้ายยยย!!! น้ำใสร้องดังลั่นเมื่อเอ็ดเวิร์ดกระชากผ้าขนหนูออกจากการปกป้องเรือนกายเปลือย ควับ!!! แรงเขากับแรงเธอมันเทียบกันไม่ได้หรอก ควับ!!! และอีกผืนที่หลุดล่วงไปคือของเขา สองร่างเปลือยเปล่าแนบชิดกัน เมื่อน้ำใสพยายามจะหนีให้พ้นจากรัศมีไอร้อนของร่างกายเขาที่พวยพุ่งออกมากระทบพื้นผิวเนียนของเธอ
“พามาที่นี่ทำไม” “กินมื้อเช้า” ณิชาเบิกตากว้างมองเขา นี่เขาไปรับเธอมากินมื้อเช้า ดวงตากลมมองนาฬิกาด้านหน้ารถ และหันกลับมามองเขา เขาอยู่ในชุดกึ่งสูท เป็นทางการมาก โอ้! นี่เขาอายุเท่าไหร่กัน ปกติเขาตื่นกี่โมงกัน เพราะตอนนี้พึ่งจะเจ็ดโมงเช้า “ปกติคุณตื่นกี่โมง” “ตีห้าเป็นประจำทุกวัน” “ทุกวันเลยเหรอ” ภีมะพยักหน้า “แล้วนอนกี่โมง” “ก็แล้วแต่...อยากรู้ไปทำไม” “สงสัยบ้างไม่ได้เหรอ...” พวกเขาแปลกหรือเปล่านะ พี่เหนือก็เป็นคนตื่นเช้าเช่นกัน “คุณออกกำลังตอนเช้าทุกวันเลยใช่มั้ยคะ” ภีมะพยักหน้าอีกครั้ง “คนในตระกูลเราไม่สอนให้ลูกหลานนอนตื่นสาย...แต่สะใภ้อย่างเธอฉันจะให้เวลาค่อยๆปรับตัว”
ฉันเป็น ขวัญชนก วงศ์ษา ตั้งแต่อายุ 1 วัน ถึง อายุ 18 ปี 1 วัน อายุ 18 ปี 2 วัน ฉันเป็น ขวัญชนก ฟง เขาคือ ดีแลน ฟง อายุอานามก็ 30 ปี ชายร่างสูงเมื่อสามปีก่อน ปัจจุบันเขาคือสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ขอย้ำว่าถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น คำโปรย : “ห้าแสน!” “เจ็ดแสน!” เสียงประมูลราคาจากคนด้านล่างเวทีดังแข่งกัน “หนึ่งล้าน” การประมูลยังคงดำเนินกันต่อไปเรื่อยๆ ขวัญชนก สาวน้อยวัยใสวัยย่างสิบเก้าสอดส่ายสายตามองไปยังกลุ่มคนด้านหน้า “หนึ่งล้านสองแสน” เอาสิ! ถ้าเขาไม่มา เธอก็...ขวัญชนกยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ กระตุ้นราคาประมูลจนสูงลิ่วถึงสองล้าน “สองล้านครั้งที่หนึ่ง...” ในมุมมืดชายร่างสูงยกยิ้มมุมปากอีกครั้ง เมื่อเห็นดวงตากลมโตแสดงความหวาดหวั่นในที่สุด “ห้าล้าน!” ก่อนที่ราคาสองล้านจะถูกเคาะครั้งที่สาม เสียงบอกราคาใหม่สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนในงาน แต่กลับสร้างรอยยิ้มให้หญิงสาวบนเวที เธอไม่เคยลืมเสียงของเขา “ชนะแล้ว” ขวัญคิดในใจ “ห้าล้านครั้งที่สาม...ขาย!”
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว