แรกคือความไม่เต็มใจ แต่เมื่อได้ใกล้ชิดและรู้จักกันมากขึ้นจึงกลายเป็นความผูกพันอย่างไม่รู้ตัว และปรินทรทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอเป็นเมียของเขาจริงๆ ไม่ใช่แค่เมียคั่นเวลาอีกต่อไป ....... “อยู่กับคุณ? ในฐานะอะไรคะ? ลูกหนี้เหรอ?” ปรินทรขมวดคิ้ว “เป็นเมียผมไง” “มะ..เมีย...คุณ” เธอรู้สึกร้อนผ่าวไปทั่วใบหน้า “ผู้หญิงที่ไหนก็อยากเป็นเมียผมทั้งนั้นแหละ” เขาพูดหน้าตาเฉย แต่ไม่ได้พูดทั้งหมดว่าเขาไม่เคยอยากได้ใครเป็นเมียเท่าเธอมาก่อน “ไม่อยากเป็นเมียผม อยากเป็นเมียพ่อผม หรือเป็นเมียไอ้นิพัฒน์” “ทำไมต้องเป็นเมียด้วยเล่า เป็นอย่างอื่นไม่ได้หรือไง” เธอเบ้ปากไม่พอใจ แต่ใบหน้าดื้อรันของเธอนั้นแสนน่ามองนัก “ไม่มี” เขาตอบเร็วแบบไม่ต้องคิด หรือคิดแล้วก็อยากได้คำตอบเดียว “ทำไมละคะ” “ผมดูแลคุณได้ในฐานะผู้หญิงของผม ไม่มีใครกล้าแตะคุณหรอก แม้กระทั่งที่ทำงานคุณก็ด้วย”
พิชญ์นรี หญิงสาวสวยสะกดใจชาย เธอทำงานเป็นพนักงานประชาสัมพันธ์โรงแรมห้าดาวในกรุงเทพฯ ไม่ใช่เพียงแค่สวยเท่านั้น เธอยังเก่งขนาดที่มีบริษัทหลายแห่งจีบให้ไปทำงานด้วย ภายใต้ใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มซุกซ่อนความหม่นเศร้าไว้ หญิงสาววัย25ปีย้ายจากบ้านที่เคยอบอุ่นมาอยู่คอนโดได้สองปีแล้ว หลังจากที่มารดาของเธอแต่งงานใหม่ พิชญนรีเข้าใจมารดาที่ต้องอยู่ลำพังมาเกือบสิบปี ตั้งแต่ที่บิดาจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ มารดาก็ไม่เคยมีผู้ชายคนใหม่ กัดฟันทนส่งเธอร่ำเรียนจนจบ เธอเคยคิดจะมีอยู่กับแม่ดูแลไปตลอดชีวิต
ทว่าสองปีที่แล้ว มารดาแนะนำผู้ชายคนหนึ่งให้รู้จักและจะอยู่กินด้วย เธอเข้าใจแต่..เธอเข้ากับพ่อเลี้ยงไม่ได้
นั้นเป็นเหตุผลที่เธอต้องเก็บเสื้อผ้าออกมาใช้ชีวิตตามลำพัง
พิชญ์นรีโอนเงินเข้าบัญชีให้แม่ เธอทำแบบเป็นประจำสม่ำเสมอทุกเดือนเมื่อได้รับเงินเดือนแล้ว แม้จะออกจากบ้านมาอยู่คนเดียวแล้วก็ตาม ใบหน้าหวานถอนหายใจเบาๆ อยู่หน้าตู้ ATM มือเรียวหยิบบัตรATMและสลิปจากตู้ใส่กระเป๋าสะพายของตัวเองแล้วก็นเดินออกมา
“หวังว่าแม่จะได้ใช้เงินที่ลูกโอนไปให้นะคะ”
พิชญ์นรีบ่นกับตัวเอง เธอโอนเงินให้แม่ทุกเดือน เดือนล่ะสี่พันบาท มันอาจไม่มากนัก แต่จริงๆ เธอแอบเก็บบางส่วนให้แม่ ถ้าแม่ต้องการจริงๆ เธอก็จะโอนให้ หญิงสาวในชุดพนักงานต้อนรับโรงแรมระดับห้าดาวถอนหายใจเหนื่อยๆ นึกถึงเสียงของแม่เมื่อครั้งที่โทรศัพท์ไปหา
“ไม่ต้องโอนเงินให้แม่หรอกลูก น้ำพั้นซ์เก็บไว้ใช้เองเถอะลูก”
“หนูทำงานแล้วพอมีเงินเดือนแล้วก็อยากให้แม่เอาไว้ใช้จ่ายบ้าง”
“ลูกต้องจ่ายค่าใช้จ่ายตั้งหลายอย่างเอง เอาไว้ว่างๆแวะมาหาแม่บ้างนะ ไปกินข้าวนอกกันแบบแม่ๆลูกๆ”
“ค่ะแม่”
ถึงแม่จะบอกว่าไม่ต้องโอน เธอก็โอนให้สม่ำเสมอ เงินเดือนเธอไม่มากแต่มีเงินพิเศษบ้าง อยู่ประหยัด กินข้าวที่โรงแรมก็ช่วยได้เยอะ จริงๆที่เธอก็ไม่ได้อยากอยู่คอนโดหรอก ตั้งใจจะหาห้องเช่าราคาประหยัด แต่ก็ต้องเดินทางไกลเพราะเธอทำงานเป็นกะ คอนโดฯนี้อยู่ใกล้เดินไปกลับได้อยู่ ยอมจ่ายค่าเช่าแพงนิดได้ที่พักใกล้เดินทางสะดวกและปลอดภัย
“เป็นไปยัยพั้นซ์ทำหน้าเครียดเชียว”
หญิงสาวสะดุ้งแล้วส่งยิ้มให้เพื่อน เธอเดินเหม่นจากตู้ATMมาถึงห้องล็อกเกอร์เก็บของของพนักงาน มือเรียวไขตู้เหล็กเอากระเป๋าเก็บข้างใน หยิบหวีออกมาแปรงผมผาวแล้วรวบขึ้นให้เรียบร้อย
“ก็เรื่องเดิมๆแหละปลา” พิชญ์นรีมีเพื่อนสนิทไม่กี่คน หนึ่งในนั้นคือปาจรีย์หรือปลา ที่เข้ามาทำงานรุ่นเดียวกับเธอ ก็เท่ากับว่าเป็นเพื่อนกันมาสองปีแล้ว
“ไปโอนเงินให้แม่มาแล้วซิ” ปาจรีย์แตะไหล่เพื่อนเบาๆให้กำลังใจเพื่อน แล้วเมื่อเห็นอีกฝ่ายพนักหน้ารับก็ได้แต่ถอนหายใจ
“ปลาว่านะ พั้นซ์เก็บเงินให้แม่ต่างหากดีกว่า โอนไปก็ไม่รู้แม่จะได้ใช้หรือเปล่า มีคนช่วยใช้ตั้งสองคน”
ปาจรีย์เป็นคนพูดตรงไปตรงมาแต่ก็พูดด้วยความจริงใจ บางครั้งการพูดจาตรงๆของเธอก็ทำให้หลายคนไม่ชอบ ซึ่งเธอก็รู้ดีและไม่ได้สนใจด้วย
“พั้นซ์เป็นห่วงว่าแม่จะไม่มีเงินใช้แล้วไปกู้นอกระบบนะซิ” เธอยิ้มเศร้า
“เอาเถอะๆ ได้เวลาทำงานแล้ว เรื่องนี้พักไว้ก่อนเถอะ เราต้องตั้งสติไปเจอลูกค้า”
“ฮืม ขอบใจนะปลา”
“เรื่องอะไร?”
“ก็ที่เป็นเพื่อนกันอย่างนี้ไง”
“บ้านะซิ ก็มีแต่คนเพี้ยนๆ อย่างพั้นซ์นั้นแหละที่มาคบปลาเป็นเพื่อน”
ปาจรีย์หัวเราะคิกคัก สองสาวพากันเดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์ของโรงแรมซึ่งเป็นที่ทำงานของหญิงสาวสองคน พนักงานต้อนรับที่มีใบหน้ายิ้มแย้มอยู่เสมอ พูดจาอ่อนหวานและบริการด้วยรอยยิ้ม พิชญนรีทำงานนี้มาสองปีแล้ว เธอเรียนจบการโรงแรมและได้ทำงานตรงสายที่ตัวเองเรียนมา แต่แรกๆ เธอก็อยู่หลายแผนกกว่าจะได้มาถึงจุดนี้
งานพนักงานต้อนรับหรือ Receptionist ในโรงแรมถือว่าเป็นพนักงานที่ได้รับการอบรมเกรดดีกว่าพนักงานสาขาอื่นๆ ด้วยมารยาทและกิริยากับวิธีการปฏิบัติต่อแขกผู้ใช้บริการ สังเกตว่าทางโรงแรมได้ยกระดับการต้อนรับได้ดีตามสถานภาพของโรงแรมด้วย เพื่อสร้างความประทับใจสำหรับผู้ใช้บริการทุกระดับ แม้เงินเดือนไม่มากแต่ก็มีเบี้ยเลี้ยงพิเศษในแต่ละเดือนหลายพันถึงหลักหมื่น บางคนมองว่าเป็นงานสบายแต่พนักงานด้วยกันมักรู้สึกว่าตัวเองไม่ต่างจากกระโถน
นางเป็นฮูหยินที่ถูกต้อง แต่เขากลับเฉยชาใส่ มีเพียงบนเตียงเท่านั้นที่เขาเร่าร้อนจนนางแทบมอดไหม้ จ้าวจื่อรั่วอายุเพียงสิบหกปีเป็นลูกอนุของเสนาบดีสกุลจ้าว ถูกสับเปลี่ยนตัวมาเป็นเจ้าสาวมาแต่งงานกับแม่ทัพที่ชายแดนใต้ กู้ตงหยางบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีฉายาแม่ทัพปีศาจที่แสนเหี้ยมโหด "เจ้าติดค้างข้า ไม่ว่าจะเล่นลิ้นอย่างไร เจ้าย่อมรู้ดีว่าสกุลจ้าวปลิ้นปล้อน เจ้าอย่าได้หวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย" พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่นั่งเพียงลำพัง แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้ ชีวิตนางจะได้พบความสุขเช่นคนอื่นบ้างไหม.
มันควรเป็นOne night stand แต่เขากลับไม่ยอมให้จบลงแค่นั้น “ก็บอกแล้วไง ถ้าอยากกัดก็กัดผมนี่ อื้ม” ไรอันพูดเสียงพร่าเร่งขยับเอวสอบถี่รัว ร่องรักคับแน่นดูดรัดลำเอ็นจนทำให้เขาอดกลั้นไม่ไหว กระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุดปลดปล่อยน้ำรักในกายสาวพร้อมแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสม อยากจะบ้า! ไรอันอดสถบไม่ได้ ยัยพนักงานเวอร์จิ้นทำเขาเสียผู้เสียคนจริงๆ จากที่เคยตั้งกฎให้ตัวเองจะไม่ยุ่งกับพนักงาน ไม่มีเซ็กส์ในที่ทำงาน. 4เรื่องสั้น แนวPWP > >หลงสวาท boss คลั่งรัก / คลั่งรัก น้องเมียแสนหวาน/ เมียเด็กของคุณป๋า / เล่นกับไฟ
พันดาว สตั๊นท์เกิร์ลสาววัยยี่สิบหกปี เธอเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุสิบแปดปี แต่ก่อนหน้านี้เธอใช้ชีวิตในค่ายมวยเล็กๆ เธอเป็นเด็กที่ถูกแม่เอามาทิ้งให้ลุงทองดีช่วยเลี้ยง แล้วหายไปไม่ส่งข่าว ด้วยความสงสารลุงทองดีจึงเลี้ยงเหมือนลูก แต่เนื่องจากสภาพร่างกายบอบช้ำ จึงผันตัวเองมาครูมวยแทน ประจวบกับรุ่นน้องเปิดโรงเรียนสตั๊นท์แมนให้ลุงทองดีเป็นครูสอนเทคนิกการป้องกันตัว เบื้องหน้าพันดาวจะเป็นสาวห้าญไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่เธอมีคนรักที่คบหาตั้งแต่อยู่โรงเรียนสอนสตั๊นท์แมนด้วยกัน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นพระเอกละครสุด Hot ในวันที่ทั้งคู่เดินทางไปเข้าฉากสำคัญที่ประเทศจีน พันดาวได้เห็นภาพบาดตาที่คนรักนอกใจ และวันนั้นเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ระเบิดทำงานผิดพลาดพาให้ดวงจิตของพันดาวทะลุมิติมายังดินแดนที่ไม่มีบันทึกไว้ในประวัติศาตร์ พันดาวฟื้นตื่นมาอยู่ในร่างเด็กสาวอายุสิบหกนามว่า เหมยซิง เมืองที่พันดาวไม่รู้จัก ทุกอย่างประหลาดไปหมด ราวกับตัวเองอยู่ในภาพยนตร์จีนกำลังภายใน พล็อตละครแนวย้อนยุคทะลุมิติเคยเห็นมาเยอะแล้ว แต่ทำไมหญิงสาวอย่างเธอต้องมาดูแลชายร่าง ‘ผัก’ อย่างเขา! รับภารกิจส่งร่างผักกลับเมืองหลวง! บุรุษคนหนึ่งแต่งงานมีภรรยาได้หลายคนเป็นที่ยอมรับได้ แต่สตรีนางหนึ่งจะรักใคร่ชายสองคนไม่ได้ คิดถึงเรื่องนี้นางก็อยากเอาหัวโขกต้นไม้ใหญ่ให้ได้สติ นางไม่ใช่หญิงมากรักสองใจนะ! นางแค่...แค่ไม่รู้ว่าตนเองคิดอย่างไรกันแน่.
หมอสาวสู้ชีวิตแต่อกหักทั้งที่ยังไม่ได้บอกรัก เผลอOne Night Standกับผู้ชายคนหนึ่ง ใครเลยจะรู้ว่าเป็นพรหมลิขิตหรือเวรกรรม ทำให้เธอมาเจอกับมาเฟียหนุ่มที่ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องของคืนนั้นผ่านเลยไป . . . . "คุณนี่นะเอาใจผู้หญิงไม่เก่ง" เธอทำจมูกย่นใส่เขา "ผิดแล้วผมเอาใจไม่เก่งแต่เอาเก่งนะ เรื่องนี้ผมมั่นใจ" "อีริค!" เธอขึงตาใส่ด้วยใบหน้าแดงเรื่อ "ให้ตายสิ" เขาพึมพำ "ผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ คุณร่ายมนตร์ใส่ผมหรือเปล่า" "คุณเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนั้นด้วยหรือคะ?" "แต่ก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่องdestiny แต่การได้พบคุณมันอยู่นอกเหนือความคาดหมาย บางทีพรหมลิขิตอาจมีจริงก็ได้" หญิงสาวได้แต่อมยิ้ม นั้นสิ ผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอได้เจอกับผู้ชายสุดเพอร์เฟกต์อย่างเขาได้ ถ้าวันนั้นก้องภพไม่ประกาศตัวคนรัก เธอคงไม่อกหักจนเสียการควบคุมแล้วได้เจอเขาที่หน้าลิฟต์พอดีอย่างนั้น แถมเจอกันด้วยความบังเอิญอีกด้วย
“เมื่อชะตากำหนดมาให้ทั้งสองครองคู่ ไม่ว่าจะพลัดหลงกันไปทางใดก็ย่อมได้กลับมาพบกันอีกครา” เรื่องราวความรักของหลัวเสี้ยวเวยและหยางเหลาหู่ คู่หมั้นคู่หมายที่มิเคยได้พบหน้า แม้เดิมทีหยางเหลาหู่คิดว่านางตายไปแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่า ‘สาวใช้’ ที่เขารับเข้ามาทำงานนั้นจะเป็นคู่หมั้นของเขาเอง เมื่อชะตากำหนดให้ทั้งสองได้เป็นคู่ชีวิต แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ต้องมาคอยลุ้นกันว่า สาวใช้ตัวจิ๋วกับคุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬจะลงเอยอย่างไร ....... “นั้นของข้ามิใช่รึ” เขาปลดสายจูงม้า เห็นนางกินพุทราเชื่อมท่าทางเอร็ดอร่อยจึงอดหยอกล้อนางไม่ได้ “แค่พุทราเชื่อม ท่านจะแย่งข้ารึ” นางทำท่าหวงขึ้นมา มันก็แค่พุทราเชื่อม แต่นางไม่ได้กินนานแล้วนี่ “แต่นั้นมันของๆ ข้า เจ้าควรให้ข้ากินก่อน” เขาไม่ชอบกินขนมของหวาน แต่เห็นนางหวงแบบนี้แล้วนึกอย่างแย่งชิง หลัวเสี้ยวเวยส่ายหน้าไปมา กลัวถูกแย่งของกินจึงอ้าปากงับพุทราเชื่อมลูกสุดท้ายไว้ในปาก เหลือเพียงไม้เสียบเปล่าๆ ในมือ คิดว่าอย่างไรของอยู่ในปากนางแล้วเขาไม่มีทางแย่งชิงเอาไปแน่ ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นมือมารั้งท้ายทอยของนางไว้ โน้มหน้าลงมาประกบปากที่เผยอขึ้นอย่าตกใจของนาง เรียวลิ้นหนาตวัดเอาพุทราเชื่อมในปากของนางมาสู่ปากของเขา 'หวานล้ำเกินคาดคิดจริงๆ'
มู่ลี่หยางใช้ชีวิตเป็นพรานป่าหาของป่าไปขายอยู่หลายปี แต่เข้าป่าครั้งนี้เขาได้พบหญิงสาวผู้หนึ่งหมดสติอยู่จึงช่วยนางไว้ ทว่าทันทีที่นางลืมตา นางกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง เขาจึงจำเป็นต้องดูแลนาง แต่ที่ทำให้เขาหนักใจ ก็คือนิสัยนอนละเมอของนาง เหตุใดทุกครั้งที่นางละเมอต้องมาอยู่บนเตียงเขาด้วยเล่า! “พี่ลี่หยาง!” “นอนดีๆ อย่าฟุ้งซ่าน คืนนี้เจ้าต้องพักผ่อน” “ข้ารู้ แต่ไม่ต้องมัดข้าขนาดนี้ก็ได้”" “ไม่ได้” เขาสะบัดมือเพียงคราวเดียว เปลวเทียนในห้องก็ดับลง “หากจะนอนเตียงเดียวกับข้าก็อย่าดื้อ อย่าซุกซน” “พี่ลี่หยาง” เสียงหวานเอ่ยขึ้น “นอนเสีย!” เขาตวาดทีเดียวหญิงสาวก็เงียบเสียงไป แม้ได้เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา นางก็มีความสุข ขอเพียงได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยอมทำทุกอย่าง แม้จะถูกมัดเป็นบะจ่างก็ยอม.
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"