"มึงเป็นขี้ข้า มีหน้าที่ทำตามคำสั่ง"
ตอนที่ 1 เมฆ
ภายในผับกลางกรุงกลางดึก แสง สี เสียงเพลงของวงดนตรีสดกำลังเล่นจังหวะสนุกสนาน นักเที่ยวกลางคืนต่างออกมาโยกย้ายส่ายสะโพกกันอย่างสุดเหวี่ยง บ้างก็วาดลวดลายไม่เกรงเท้าใคร บ้างก็นัวเนียล้วงกันภายในร่มผ้าอย่างลืมอายตามแต่ใจชอบ เพราะในเวลานี้ต่างคนก็สนุกสนานไม่มีใครสนใจว่าใครจะทำอะไร
เมฆหรือเมฆา อายุ 27 ปี เจ้าของธุรกิจนำเข้ารถหรูและมีสนามแข่งรถระดับประเทศอีกสองแห่ง รวมทั้งสถานบันเทิงอีกนับไม่ถ้วนที่เขาปล่อยให้ลูกน้องดูแล กำลังเดินเข้ามากลางฝูงชนที่ต่างก็ต้องหลีกทางให้เขา ด้วยเพราะความมีอิทธิพลที่ใครต่างก็รูว่าเฮียเมฆดุแค่ไหน หน้าตาหล่อเหลา และหุ่นสูงกำยำกราวใจสาวแก่แม่หม้ายนั่นอีก เมฆต่างก็เป็นที่หมายปองของบรรดาสาวสวยและหนุ่มหล่ออีกมากที่อยากจะลิ้มลองรสรักสักครั้ง เพราะคำร่ำลือที่ใครต่างก็กล่าวขานว่าเขาดุและเก่งแค่ไหนแต่ยังไม่เคยมีใครได้หัวใจผู้ชายคนนี้ไปครองเลยสักคน
เมฆเดินเข้ามาพร้อมบอดี้การ์ดร่างโตอีกนับสิบ แต่มีเพียงคนสนิทที่ชื่อชิน หรือชินวุฒิเท่านั้นที่จะได้เข้ามานั่งหรือยืนอยู่ข้างเฮียเมฆเสมอ จนใครๆก็รู้ว่าชินเป็นเด็กโปรดของเฮีย เห็นเมฆที่ไหนก็จะต้องมีชินที่นั่น บางครั้งไม่เว้นแม้กระทั่งยามออกรบกับข้าศึกบนเตียง
"เฮียเมฆ ทางนี้ครับที่ของเฮียผมเตรียมไว้แล้ว"
เบลเจ้าของคลับรีบกุลีกุจอออกไปต้อนรับแขกสำคัญ ผู้มีพระคุณคนหนึ่งที่ทำให้เขามีวันนี้ ทุกๆวันศุกร์เมฆจะออกมาที่เบลคลับ เพื่อออกมาเปิดหูเปิดตาและผ่อนคลายให้กับตัวเอง
"คนเยอะดีนี่ กิจการรุ่งเรืองละสิ" เจ้าของใบหน้าเฉี่ยว รูปหล่อคมสัน รูปร่างสูงใหญ่แข็งแรงอย่างคนออกกำลังกายอยู่เสมอเอ่ยถามเจ้าของคลับ
"เรื่อยๆครับแต่ที่มีวันนี้ได้ก็เพราะเฮียเมตตา ผมขอบคุณเฮียมากจริงๆ"
"ไม่ต้องมาขอบคุณกู ถ้าผับไม่ดีจริง ลูกค้าก็คงไม่ติด" เมฆพูดเสียงเรียบสายตาคมกวาดมองแขกตามโต๊ะต่างๆ ทุกคนส่วนใหญ่ต่างก็ค่อมศีรษะให้เพราะรู้ว่าเขาเป็นใคร
"สบายดีไหมชิน ดูหล่อขึ้นเป็นกองเลยนะมึง"
"สบายดีครับเฮีย ขอบคุณครับ" คนอายุน้อยกว่าโค้งศีรษะขอบคุณเจ้านายเก่าเบาๆ
เจ้าของร้านมองเด็กหนุ่มที่เคยทำงานที่คลับแห่งนี้ ชินอายุเพียงแค่ 21 ปีเท่านั้น เด็กหนุ่มคนนี้มีนิสัยถ่อมตน เป็นคนไม่ค่อยพูด ดูท่าทางนิ่งๆ แต่เป็นคนที่หนักเอาเบาสู้ทำงานทุกอย่างขอแค่ให้ได้เงินไปจุนเจือครอบครัว ชินหรือชินวุฒิเป็นคนหนุ่มที่ทำงานเก่งและฉลาดทันคน ชินเคยเข้าไปพัวพันกับแก๊งเงินกู้นอกระบบแต่เกือบเอาชีวิตไม่รอดแต่ดีที่เมฆมาเห็นเหตุการณ์และช่วยไว้อย่างไม่ตั้งใจ สุดท้ายเลยได้เอาไปทำงานด้วยเพราะตนขอร้องไม่อยากให้ชินต้องเจอกับแก๊งพวกนั้นอีก พอพวกมันรู้ว่าชินทำงานกับเมฆก็จะรามือไม่กล้ามาทำอะไรเพราะเกรงกลัวอิทธิพลของเมฆเช่นเดียวกัน
เสียงเอะอะโวยวายดังมาจากด้านในคลับที่มีนักศึกษาสองโต๊ะที่กั้นกลางแค่ช่วงทางเดินเท่านั้น สายตาคู่คมหันไปมองเจ้าของคลับ แต่เบลห้ามการ์ดของร้านเพราะรู้ว่าด้านในเป็นโต๊ะของใคร
"มีอะไร"
เสียงเข้มเอ่ยถามสายตาคมจ้องไปยังตัวต้นเหตุที่ยืนเท้าสะเอวโมโหใครสักคนที่นั่งหันหลังให้ดูไม่สนใจหรือกลัวเลยสักนิด ทั้งที่อีกคนยืนจ้องแทบจะกินหัวได้อยู่แล้ว
"อ่อ แขกประจำของที่ร้าน ผมรู้จักมันดีชื่ออคิณ วนารมย์ เป็นนักแข่งรถด้วย ผมว่าเฮียก็น่าจะคุ้นชื่อ คนนี้มันร้ายไม่ใช่เล่นเอาหมดทุกอย่าง อีกกลุ่มเจ้าปัญหาก็เด็กของมันเอง คงหึงหวงกันตามประสาวัยรุ่น"
"ใช่เด็กที่เราเจอเมื่อวันก่อนหรือเปล่า" ชินที่ยืนประกบเจ้านายอยู่ทางด้านหลังได้ยินเจ้านายเปรยขึ้นก็หันไปตามเสียงที่โวยวาย ก่อนจะพยักหน้า
"ใช่ครับพี่...ไอ้คนที่ชักปืนขู่เรา"
"ไอ้นี่มันหน่วยก้านดี แต่กูชอบเด็กของมันมากกว่า"
ไม่พูดเปล่าแต่ท่าทางของเฮียที่มองเจ้าของใบหน้าหวานรูปร่างสูงโปร่ง ปากแดง แต่ทำหน้าหงิกงอนั่งอยู่โดยไม่สนใจคนที่ยืนโวยวายหน้าดำหน้าแดง ดูน่าสนใจ แต่ก็อย่างว่าเขาไม่ชอบเป็นมือที่สามโดยเฉพาะกับเด็กหนุ่มที่ชื่ออคิณ
"คนนี้ขอเถอะนะครับ มันหวงของมันมากแต่ดูท่าจะยังไม่รู้ตัว ว่าแต่วันนี้มีเด็กใหม่ไซด์ไลน์สวยๆจัดมาไว้ให้เฮียด้วย ยังไงเฮียเรียกผมนะครับ ผมขอตัวออกไปดูลูกค้าฝั่งโน้นก่อน”
เมฆพยักหน้าก่อนจะหันไปมองผู้หญิงสวยโต๊ะข้างๆที่มีแต่สาวสวยหมวยอึ่มกำลังชูแก้วให้เขาอย่างเชิญชวน เขาเพียงพยักหน้ายิ้มให้เล็กน้อยก่อน กระดกวิสกี้ขึ้นรวดเดียวหมดแก้ว เพียงแค่นี้พวกเจ้าหล่อนก็กระดี๊กระด๊าดีอกดีใจกันยกใหญ่ คิดว่าพียงไม่นานสาวๆเหล่านั้น ไม่คนใดก็คนหนึ่งจะต้องได้มาขึ้นเตียงกับเขาในคืนนี้แน่
"มานานหรือยังวะ"
เบสและริวเพื่อนสนิทที่เขามักจะไปไหนมาไหนด้วยเสมอยิ้มร่าเข้ามา ทั้งคู่หน้าตาหล่อเหลา คมคายไม่ต่างกัน แต่หุ่นไม่ล่ำเท่ากับเมฆ ก่อนจะหันไปตบบ่าชินคนสนิทของเพื่อนอย่างแรงเป็นเชิงทักทาย
ชินที่มีรูปร่างสูงโปร่งแต่ไม่หนาเท่าสามหนุ่ม เขาไม่ทันระวังตัวตกใจเซเกือบจนโต๊ะข้างๆ แต่ดีที่มือหนาคว้าเอวบางเกี่ยวไว้ได้ทันไม่เช่นนั้นได้กองไปนอนกับพื้นอย่างแน่นอน
"ระวังหน่อยสิวะ ซุ่มซ่ามชะมัด!!" สายตาต่อว่าเมื่อเห็นว่าคนของตนมัวแต่เหม่อมองไปบนเวทีไม่สนใจแก้วเหล้าที่ตัวเองยื่นให้สักนิด
"มึงจะสนใจเวทีหรือจะชงเหล้าให้กู ถ้าไม่ชงกูจะได้เรียกเด็กมา รำคาญ!!"
น้ำเสียงเริ่มหงุดหงิดไม่พอใจเมื่อลูกน้องคนสนิทไม่สนใจที่จะทำหน้าที่ เพราะมัวแต่มองตรงไปยังเวที ประเมินจากหางตาแล้วมีสาวสวยหลายโต๊ะออกอาการอ่อยมายังคนของเขาอยู่ไม่น้อย ยิ่งรู้สึกขัดหูขัดตาไปหมด
"ผมทำเอง ทำไมพี่เมฆต้องโกรธด้วยละครับ" ชินถามเจ้านายที่นั่งหน้าเครียดอย่างไม่เข้าใจ
"ใครโกรธกูแค่รำคาญ!!" อีกฝ่ายลงเสียงหนักแต่ก็ยื่นแก้วให้อยู่ดี
"แก้วของกูกับไอ้ริวด้วย ออนเดอะร็อคนะโว้ย" เบสกับริวก็ยื่นแก้วไปตรงหน้าชินเช่นกัน ก่อนสายตาคมดุจะเหลือบมองไม่พอใจ
"อยากแดกก็ไปชงกินเองหรือไม่ก็เรียกเด็กในร้านมาชงให้"
"กูอยากให้มือขวาคนสนิทหน้าตาดีอย่างไอ้ชินชงเหล้าให้กูบ้าง อยากรู้ว่ามันจะหวานเหมือนหน้าตามันหรือเปล่า มึงว่าเหมือนกูไหมไอ้เบส" ริวแซวเพื่อนสนิทที่หวงแม้กระทั่งลูกน้อง ก่อนจะหันไปขอความเห็นจากเบส
"เอ่อ มึงจะหวงลูกน้องอะไรนักหนา กูขอใช้บริการแค่นี้ ทำไมมึงต้องดุด้วยวะ" เบสเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย
"เอ่อ นั่นสิ กูก็อยากรู้"
"นี่มันลูกน้องของกู พวกมึงจะแดกไหมเหล้าถ้าไม่แดกกูจะได้กลับ" เมฆเริ่มโมโหกระแทกแก้ววางบนโต๊ะจนเกิดเสียงดัง เขาไม่ชอบให้ใครมาใช้คนของเขา กับเพื่อนสนิทก็ไม่มีข้อยกเว้น มีเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นที่จะออกคำสั่งกับมันได้
"ส่วนมึง มีหน้าที่แค่เสิร์ฟเหล้ากูคนเดียว แล้วอย่าเสือกไปเสิร์ฟให้คนอื่นล่ะถ้ากูรู้ มึงเจ็บแน่"
น้ำเสียงดุและสายตาขมขู่ลูกน้องคนสนิท ทำให้ชินและเพื่อนๆของเขาเงียบไปทันที ไม่รู้ว่าอีกคนกำลังโมโหอะไรดูหงุดหงิดไปเสียหมด
"พวกพี่ทำให้ผมเดือดร้อนแล้วนะครับ" ชินเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงขบขันไม่ได้กลัวคำขู่ของเจ้านายเลยสักนิด
"เออ...กูเรียกเด็กของร้านก็ได้วะ ทำไมมึงต้องหงุดหงิดด้วยเนี่ย"
หลังจากนั่นเด็กสาวสวยหน้าตาดีสองคนก็มานั่งลงข้างๆเบสกับริวและบริการอย่างรู้หน้าที่ แต่สายตากลับชม้ายชายตามาให้คนร่างหนาเป็นระยะๆ แต่เมฆไม่สนใจ
"เดี๋ยวหนูชงให้เฮียเองนะคะ" หญิงสาวสวยใส่เสื้อเกาะอกที่ปิดแทบไม่มิดกับกระโปรงสั้นรัดรูด เอื้อมมาจะหยิบแก้วเหล้าของเมฆไปชงเหล้ามาให้ ตั้งใจจะอ่อยเต็มที่เพราะก้มลงมาแต่ละทีแทบจะทะลักออกมานอกอก เมฆแค่เหลือบตามองผ่านๆก่อนจะเอ่ยเสียงห้วน
"ไม่ต้อง!! แก้วนี้มีคนชงให้ฉันอยู่แล้ว เธอมีหน้าที่บริการเพื่อนของฉันก็ทำไปหรือจะไม่ทำแล้ว!!"
"แหม่..เฮียหนูก็แค่อยากจะชงให้เฮีย บริการเฮียบ้างเผื่อเฮียชอบรสชาติของหนู"
คำพูดสองแง่สามง่ามของเธอทำไมเขาจะไม่เข้าใจว่าหญิงสาวตรงหน้ากำลังต้องการอะไร ไม่ใช่แค่เขาที่เธอกำลังทอดสะพานให้แต่สายตาคู่สวยยังเหลือบขึ้นมองคนข้างหลังเขาอีกด้วย
"ฉันจะกินเฉพาะคนที่ฉันเลือกเท่านั้น หวังว่าจะเข้าใจ" สายตาเย็นชาจ้องหญิงสาวตรงหน้าด้วยใบหน้านิ่งเรียบ ก่อนจะเอ่ยเรียกคนข้างหลัง
" ไอ้ชิน มึงไปเลือกผู้หญิงให้กูได้แล้ว"
"ได้ครับ"
"แล้วมึงก็รออยู่หน้าห้องเลยไม่ต้องไปไหน เดี๋ยวกูตามไป"
"ครับ"
ชินก้าวยาวขึ้นไปหาเจ้าของร้านที่รออยู่ด้านบน เพื่อเลือกผู้หญิงคืนนี้ให้กับนายด้วยตัวเอง เพราะเขารู้ดีว่าเมฆชอบผู้หญิงแบบไหน และทุกครั้งก็เลือกก็ถูกใจอีกคนได้เป็นอย่างดี แต่ถึงแม้ชินจะเลือกใครให้ เมฆก็ไม่บ่นหรือว่าลูกน้อง เพราะเขามอบหมายหน้าที่นี้ให้แล้ว ถ้าชินว่าดี เขาก็ไม่เกี่ยง
"ไอ้เชี้ยเมฆ ขนาดผู้หญิงที่มึงจะนอนด้วยเนี่ย มึงยังต้องให้มันเลือกให้อีกหรือไงวะ"
"อืม"
เมฆมองตามร่างสูงโปร่งที่เดินก้าวขึ้นบันไดไปชั้นบนด้วยท่าทางนิ่งเรียบ สายตาที่มองตามไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำ แทบจะยี่สิบสี่ชั่วโมงที่เขากับชินต้องใช้เวลาอยู่ด้วยกัน จนเป็นภาพชินตาของใครต่อใครหลายคน ชินเป็นคนเรียนรู้เร็ว รู้ว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร จนกลายเป็นคนรู้ใจและทำให้เขาทุกอย่างโดยไม่ต้องบอกซ้ำ
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ก็ไม่เคยคิดว่าจะมีใคร เพราะว่ามีคนในหัวใจอยู่แล้ว แม่มดตัวร้ายเข้า มาวิ่งวุ่นวายอยู่ในใจเขาตั้งแต่เด็ก แล้วจะให้เขามองหาหญิงอื่นอีกทำไม เมื่อคนที่อยู่ในหัวใจกำลังหลงเข้ามาในอาณาจักรของเขา เพราะตั้งแต่โตมาจนป่านนี้แทนคุณยังไม่เคยเห็นว่าจะมีผู้ชายคนไหนเข้ามาเป็นเจ้าของหัวใจยัยแม่มดน้อยได้เลย เขาเองก็อยากจะลองดูสักครั้ง หากมีโอกาส สุดท้ายใครจะชนะเกมนี้ มารอลุ้นกัน
เพราะเด็กหนุ่มที่เขาช่วยไว้ในคืนนั้นได้สูญเสียความทรงจำหมอหนุ่มจำต้องรับไว้ดูแลความใกล้ชิดทำให้หัวใจแกร่งของเขาหวั่นไหวจนเกิดเป็นความรัก แต่เมื่อความทรงจำกลับคืนมา เจ้านายกลับจำเรื่องราวของเขาไม่ได้
"หนาว" ฉันเริ่มหนาวไปทั้งตัว แต่ข้างในก็ยังคงร้อนรุ่มจนอยากที่จะปลดปล่อยออกมา "อดทนไว้ ให้มันลดความร้อนรุ่มในกาย" เจ้าคุณเอ่ยบอกเสียงต่ำ คงเห็นว่าฉันสั่นสะท้านจนเขาเองแอบสงสาร “ไอ้เชี้ยชาร์ค” ฉันคำรามออกมา นึกโกรธตัวเองทีเสียทีหนุ่มฝรั่งตาน้ำข้าวคนนั้น แต่ยังดีที่ไม่ได้เสียความสาวให้กับมัน “มันเป็นใคร” เจ้าคุณมองฉันอย่างคาดคั้น แต่ฉันไม่บอกหรอกยังมีหลายอย่างที่ฉันยังปิดบังเขา ฉันยังคงประท้วงให้เขาปล่อยโดยการเตะ ถีบ ต่อย เพื่อให้หลุดพ้นจากพันธนาการของคนตัวโต ยิ่งดิ้นแรงผ้าขนหนูที่พันอกไว้ก็ยิ่งหมิ่นแหม่ พอขยับเคลื่อนไหวแรงๆและถูกน้ำจากฝักบัวยิ่งพาลจะหลุดกองลงพื้น "ไม่ตอบใช่ไหม” เจ้าคุณเริ่มหงุดหงิดเมื่อฉันไม่ยอมตอบ แต่พอผ้าขนหนูหลุดไปกองลงพื้นการสนทนาของเราทั้งคู่ก็ตัดบทจบทันที (⊙_⊙;) "มึงอย่าท้ากูนะ..ลูกศร" ยิ่งเธอท้าทาย ยิ่งทำให้ผมอยากลอง!
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
นุชพินตา ควรเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุดที่ได้แต่งงานกับ ปุลวัชร เจ้าบ่าวที่ทั้งหล่อ รวย เนื้อหอม เป็นเจ้าชายในฝันของสาวๆ ทั้งเมือง แต่ใครจะรู้ว่าเจ้าบ่าวในฝันนั้น...ทั้งไร้หัวใจ และไม่ได้รักเธอสักนิด! การแต่งงานที่ไร้รัก อยู่กันไปก็มีแต่เจ็บปวดเท่านั้น แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อเธอไม่อาจปฏิเสธ แม้จะต้องถูกเขาทำร้ายหัวใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า จะทำอย่างไรหากใจที่ไม่คิดปรารถนารักกลับอยากได้ความรักจากเขา ------------------------------ “เธอเคยนอนกับผู้ชายหรือเปล่า” เขาถามออกมาจากปากร้าย ตอนที่เธอได้ยินถึงกับสะอึก ไม่คิดว่าเขาจะถามตรง ๆ และในนาทีต่อมา นุชพินตาก็รู้สึกโกรธมาก หญิงสาวโต้เขากลับ “ทำไมผู้ชายดี ๆ การศึกษาดี ๆ ถึงได้พูดจาแบบนี้คะ มาพูดดูถูกกัน เมื่อกี้ก็หาว่าพวกเราขายตัว และตอนนี้ยังมากล่าวหาฉันอีกว่าฉันสำส่อน คุณถามคำถามแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน ที่คุณเคยนอนด้วยหรือยังไงคะ” ความเจ็บปวดระบายออกมาทางสายตา เขาเป็นบ้าอะไรกันนี่ คำพูดแบบนี้มาจากสันดานข้างในหรือเพราะว่าเขาเมา “แล้วเธอเคยมีอะไรกับผู้ชายหรือเปล่าล่ะ” เขาย้ำอีกครั้ง จ้องสบตาด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ “ปากร้าย ประโยคนี้คุณไม่ควรถามออกมาด้วยซ้ำไป” จากที่เรียกเขาว่าพี่ปุ่น ชักขุ่นและมีอารมณ์โมโหขึ้นมาเปลี่ยนสรรพนามที่คนฟังก็รู้ว่าห่างเหิน “ผู้หญิงที่ดี ๆ ที่ไหน จะตอบตกลงแต่งงานกันชายแปลกหน้าอย่างรวดเร็วโดยไม่คิด เวลาเพียงแค่หนึ่งเดือนเท่านั้น” “แล้วมันยังไงคะ” นุชพินตาก็ไม่ยอมเหมือนกัน “เธออาจจะเป็นมือสองก็ได้” ‘เมื่อคืนเขาไปนอนที่ไหน แล้วไปนอนกับใคร’ ‘อ้อ… ก็คงจะเป็นผู้หญิงคนนั้นสินะ’ ดวงตาเศร้าลง เธอลุกขึ้นไปเปิดม่านหน้าต่าง และมองออกไปยังท้องทะเล แสงอาทิตย์กระทบกับระลอกคลื่นที่ไล่เรียงกันกระทบเข้าฝั่ง นุชพินตาถึงกับถอนหายใจดังเฮือก ‘ฉันมาทำอะไรอยู่ตรงนี้ มาให้เขาย่ำยีเล่นใช่หรือไม่’ เฝ้าถามตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ‘ยะหยาอย่าเสียใจไปเลยนะ เธอต้องทำตัวเองให้เข้มแข็ง แข็งแรงเถอะ ในเมื่อเธอก็ไม่ได้รักเขาเหมือนกัน’ คำพูดปลอบโยนตัวเอง ‘ใช่… ฉันไม่ได้รักเขา และจะเกลียดเขาให้มากกว่านี้’ เธอตอกย้ำคำนี้เข้าไปในหัวใจของตัวเองด้วยความมุ่งมั่นและสายตาที่แน่วแน่ แม้จะรู้สึกเจ็บแน่นในหัวอก ------------------------------ “ฉันจะหย่ากับเธอ” เขาเอ่ยอย่างใจดำ หญิงสาวถึงกับใจหล่นวูบ เธอเม้มขบริมฝีปาก กลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่อยู่แล้ว นุชพินตาพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว “นางผู้หญิงไร้ยางอาย แพศยาฉันเกลียดผู้หญิงหลายใจ ฉันเกลียดผู้หญิงที่นอกใจ ไปให้พ้นจากบ้านของฉัน ไปให้พ้นจากหน้าฉัน พรุ่งนี้จะให้ทนายทำใบหย่า” “พี่ปุ่นคะ” เธอยกมือขึ้นมาไหว้เขาปลก ๆ “เราสองคนเพิ่งแต่งงานกันเองนะคะ ยะหยาไม่อยากให้คุณลุงและคุณย่าเสียใจ” “แต่สิ่งที่เธอทำล่ะ มันน่าอาย แล้วเธอไม่ละอายบ้างเหรอ หน้าด้าน” เขามีอาการเสียใจ และหัวเสีย นุชพินตาเอง เธอไม่คิดว่าปุลวัชรจะปากร้ายด่าทอเธอได้ถึงเพียงนี้ “ฉันจะหย่ากับเธอแน่นอน เตรียมปากกาไว้เซ็นใบหย่าในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกัน” พูดจบ เขาเดินเข้าไปใช้มือปัดแจกันที่อยู่ใกล้ และชกบานกระจกที่ใช้ตกแต่งอยู่ในห้องโถงด้วย จนกระจกแตกละเอียดทั้งบาน มือของปุลวัชรมีเลือดไหลซึม เขาจะเดินเข้าห้องทำงานและปิดประตูตามหลังดังโครม นุชพินตาตกใจ และหวาดกลัวกับสิ่งที่เธอได้เห็น ความดีใจที่สามีจะกลับมา เธอจะบอกข่าวดีเขา และกินข้าวด้วยกัน ได้มลายหายไปสิ้น มีเพียงความเศร้าเข้ามาทับถมอยู่ในจิตใจของนุชพินตา แล้วหญิงสาวยกมือขึ้นมาปิดหน้าปิดตาปล่อยโฮ
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย" รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
หลังจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ เจียงหว่านฉือตื่นขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด ทีแรกเธอยังคิดว่าสามีของเธอที่แต่งงานกันมาเป็นเวลาสามปีนั้นมาที่นี่เพื่อดูอาการของเธอ แต่ไม่คิดเลยว่า ชายคนนั้นกลับเดินไปที่ห้องผู้ป่วยข้างๆ เพื่อดูแลผู้หญิงอีกคนหนึ่ง และเพื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว เขายังต้องการส่งเธอเข้าคุกด้วย "2500 ล้าน เพื่อแลกกับการตบผู้หญิงของคุณหนึ่งฉาด"เจียงหว่านฉือมองไปที่เขาอย่างเย็นชา "เราหย่ากันเถอะ"" เธอรับใช้เขาอย่างอดทนมาเป็นเวลาตั้งสามปี ตอนนี้ เธอขอไม่ทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เธอจะกลับไปสืบทอดมรดกมหาศาลของตระกูล