ลูกพ่อ...ไอ้ขวัญ ที่ไม่มีความคิดนอกจากมัวเมาราคะแล้วทำให้เขาเกิด สกาว...แม่ที่ร่ำลือไปทั่วหลายหมู่บ้านดังในตำบลว่าสวย แต่ร่านเสน่ห์... ยาย...ศรีนวลผู้ดีจอมปลอม แต่ใจร้ายหมายจะทุบตีเขาถึงตาย และย่า...ผกาที่เป็นกะหรี่เก่า ...ชีวิตบัดซบฉิบหาย... ภานุกร บอกตัวเองเช่นนั้น ไม่มีพ่อเป็นแบบอย่างชีวิต ไม่มีอกแม่ให้ซุกอุ่นไอ เติบโตมาในมือคนอื่น หาก สกาว เป็นนางแม่มดร้ายกาจตั้งแต่วัย 16 สกาวก็ได้ให้กำเนิด อสูรร้ายอย่างเขา หนุ่มหล่อ มีปมเต็มสี่ห้องหัวใจ ร้ายมาร้ายกลับ ไม่มีหัวใจให้กับใครอย่างแท้จริง จนมาเจอกับ แม่สาวแพว พิชญา อสูรร้ายสงบลง แต่จริงๆ แล้ว แพว พิชญา ก็มีความละม้ายเหมือน สกาว แต่เป็นภาคนางฟ้า มาทำให้อสูรได้เริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง ด้วยคำพูดที่ว่า ผมไม่อาจจะสาบาน เพราะผมไม่เชื่อมั่นแต่หากเชื่อในตัวผม... ก็คงจะเชื่อในคำพูดผม...ผมจะทำในสิ่งที่ดีที่สุด...เพื่อคุณ...”
“แกท้อง...แกท้องกับไอ้เด็กจรจัดนั่นใช่ไหม...”
เสียงร้องถามแหลมปรี๊ด บอกความผิดหวัง บอกถึงโทสะเจ้าของเสียงเป็นหญิงวัยสามสิบเศษ...เธอกำลังยืนโงนเงน ทำท่าเหมือนจะลมใส่ล้มตึงลงได้ทุกเวลา
“แกต้องเอาออก...ไปทำแท้งซะ...”
“ไม่ค่ะ ลูกของกาว”
“แล้วไง...ลูกของแก...ลูกของนางสาวสกาว...ยังเรียนมัธยมปลาย...แกท้อง...ตอนนี้แกอายุสิบหก...แกจะทำหน้าอย่างไร...แล้วหน้าฉัน...แกเห็นแก่หน้าฉันบ้างไหม ละแวกย่านบ้านนี้ มีใครบ้างไม่รู้จักฉัน...”
“ค่า...”
สกาวลากเสียงยาว หล่อนทำท่าไม่ยี่หระ...ท่าทางหล่อนร้ายเหลือ...ด้วยวัยเพียงแค่สิบหกเท่านั้นเอง หล่อนค่อนข้างอวบอัดและสูง มองเผินๆ หล่อนไม่ใช่สาวสิบหก...หล่อนเหมือนสาวอายุเกินยี่สิบไปแล้วหลายปี และสกาวยังเป็นสาวสวย หน้าของหล่อนอิ่มเอิบ ผิวนวลปลั่ง แต่หล่อนกำลังเอาความอับอายขายหน้ามาฝากวงศ์ตระกูล...หล่อนร้ายกาจนัก...หล่อนทำให้คุณศรีนวลอยากจะบ้าตาย...นับจากสกาวออกอาการอย่างคนแพ้ท้องมาได้สักสามสี่วัน สกาวก็ยอมสารภาพว่าตัวเองท้อง
สกาวบอกว่าประจำเดือนขาดไปสามเดือนแล้ว
แต่หน้าท้องของหล่อนยังไม่ปรากฏ...
“ใครๆ ก็รู้จักคุณศรีนวล ผู้กว้างขวาง...”
“แกอย่ามาประชดฉันนะ สกาว...แกจะเกินไปละ”
“แม่ก็...ใจเย็นๆ ซิ”
“ฉันจะทำยังไงกับแกดี”
“ไม่รู้” สกาวไร้ความเดือดร้อน หล่อนจิ้มเอามะยมดิบๆ ใส่ปากเคี้ยวกร้วมๆ “กาวจะลาออกจากโรงเรียน...ดี...กาวไม่อยากเรียนหนังสือนักหรอก เรียนไม่เห็นสนุกอะไรเลย น่าเบื่อ...”
“แกนะแก...” คุณศรีนวลทรุดตัวลงนั่ง น้ำตาคลออยู่ในดวงตา ผิดหวังและอับอายระคนกัน อยากจะบีบคอสกาวให้ตายไปซะ...แต่เธอก็ไม่กล้า...สกาวคงไม่อยากให้เธอบีบคอง่ายๆ สกาวเอาแต่ใจตัวเอง...เธอไม่โทษตัวเอง แต่โทษไปถึงนายเสกสรรสามีที่ตามใจสกาวมาอย่างหนัก เพราะสกาวเป็นลูกคนเดียวในหมู่พี่น้องสามชายด้วยกัน สกาวเลยไม่คุ้นกับระบบระเบียบ วินัยของบ้านไม่เคยครอบงำสกาวได้
“กาว...แกไม่อายบ้างหรือ...ทำไมแกหน้าด้านนัก แล้วลูกแกมันลูกใคร...หน้าไหนเป็นพ่อมัน”
สกาวชะงักเล็กน้อย ดวงตาของหล่อนปรากฏแววไหววูบ แล้วหล่อนก็เอ่ยตอบอย่างไม่สนใจอะไรเหมือนเดิม
“ไม่รู้”
“อะไรนะ กาว
คุณศรีนวลทะลึ่งพรวดขึ้นมาแล้วทิ้งตัวลงไปใหม่
“มันหลายคนน่ะ แม่...กาวไม่รู้ว่าใครเริ่มก่อน...กาวจะเอาใครดีละ แม่ว่าใครเหมาะ...แม่จะเลือกใครมาเป็นเขย...โชคไหม...โชคลูกลุงกำนัน...พี่เทอด...หรือจะให้เป็นเจ้าขวัญ”
มีเสียงเหมือนลมตีเอิ้กมาจากคอของคุณศรีนวล และเธอก็หมดสติ...สกาวมองหน้าตาเฉย หล่อนร้องบอกนางมะลิแค่ว่า
“น้าลิดูแม่หน่อย เป็นลมซะแล้ว โธ่เอ๊ย...ใจเสาะจัง...”
แล้วสกาวก็กระดิกเท้ากินมะยมดิบๆ จิ้มเกลือต่อ หน้าตาแสนจะปกติอย่างยิ่ง แต่จะมีใครบ้างรู้ใจของสกาว...
ใจที่กำลังเคียดแค้น...เพราะอาทิตย์ก่อนหน้า หล่อนเจอกับผู้ชายที่หล่อนเอ่ยเรียกอย่างประชดว่าเจ้าขวัญ...หล่อนมั่นใจว่าเขาเป็นพ่อของลูกหล่อน แต่เจ้าขวัญปฏิเสธ...เขาไม่ยอมรับลูกของเขาเอง...ขวัญอ่อนแอเกินไป...เขาทำท่าตระหนกอกสั่นราวกับเขาทำบาปมหาศาลกระนั้นแหละ...
และเขาบังเอิญเป็นคนที่สกาวรักมากที่สุด สกาวเลยแบกความแค้นแน่นอก ขวัญทำให้หล่อนเจ็บ...และคนอย่างสกาวเป็นคนรุนแรง...หล่อนจะขอจำจนวันตาย หล่อนจะไม่ยอมให้อภัยต่อเขาเป็นอันขาด...และสกาวจะไม่ระบุชื่อเขาเป็นพ่อของลูก...
หล่อนจะแบกแค้นนี้เอาไว้
จนกว่าหล่อนจะได้สะสาง
นายเสกสรรรับรู้เรื่องราวของสกาวเมื่อเขากลับมาจากกรุงเทพฯ คุณศรีนวลแซ่วบนเตียงในห้อง เธอร้องไห้ฟ้องกับเขา
“ลูกพี่เสกทำเอาฉันเจ็บปวดจนอยากจะตาย...”
“กาวหรือ...”
เขายังไม่รู้รายละเอียด...แต่เขากลับบ้านคราวนี้ เขาไม่เห็นหน้าสกาวเลย สกาวเคยกระโดดโลดเต้นเสมอเมื่อเขาถึงบ้าน...แต่เขากลับคิดว่าสกาวคงจะออกไปหาเพื่อนฝูง สกาวเป็นคนกว้างขวาง...หล่อนเป็นสาวน้อยสวยที่สุดของหมู่บ้านนี้ ความสวยของหล่อน ความมั่งคั่งของทางบ้านทำให้สกาวเหมือนนางฟ้ามากกว่าเด็กสาวธรรมดาสามัญ
คุณศรีนวลเล่าให้เขาฟัง นายเสกสรรก็ทรุดฮวบลง
“กาวน่ะรึ...กาวท้อง...กับใคร!”
แม้เธอจะรู้ว่าเขาเจ็บปวดมาก แต่เธอก็ต้องบอกเขา...
“กาวมันว่าไม่รู้ มันมั่วหลายคน...”
ความจริงที่ถูกถ่ายทอดจากปากของภรรยา ทำเอานายเสกสรรมีสีหน้าประหลาด และเขาก็สุดจะระงับความเครียดของตัวเอง...เขาเบิกตากว้าง หายใจแบบตะกุยตะกายเอาอากาศเข้าทรวงอก แล้วต่อจากนั้นเขาก็ล้มฟาดลง
คุณศรีนวลร้องกรี๊ด...เมื่อเห็นร่างสามีล้มลงเหยียดยาว...หมดสติสมประดีไปต่อหน้าต่อตา...
นางมะลิถลันเข้ามาแล้วพลอยหวีดร้องประสาน...
นายเสกสรรเส้นโลหิตในสมองแตก ร่างกายซีกขวาของเขาไม่อาจจะขยับได้ตลอดตัว...
ถ้าชีวิตเติบโตขึ้นมาด้วยความเจ็บแค้น วันนี้เขาก็เต็มไปด้วยความแค้นในทุกอณูของชีวิต ภายใต้ท่าทีสงบ นิ่งเงียบ และแข็งกร้าวประดุจหินผาของ "ศิลา"... แต่ภายในใจเขานั้น กลับระอุคุกรุ่นไปด้วยไฟแค้นที่รอวันชำระสะสาง! อสูรตนนี้ ผ่านวันเวลาแห่งความเคียดแค้นชิงชัง และพร้อมที่จะเริงไฟแล้ว...และสำหรับเธอ "มินตา"...สาวน้อยผู้อ่อนเยาว์ต่อโลกแห่งความเคียดแค้นชิงชัง ไฟแห่งอสูรครั้งนี้ มันน่าหวาดผวาสำหรับเธอแค่ไหน เพราะมันเป็นไฟแค้น ที่หลอมรวมมากับไฟแห่งปรารถนา...
(นิยายทำละคร เกมเสน่หา) เพราะเย่อหยิ่ง ถือตัว และเหยียดทุกคนที่ต่ำต้อยกว่า จึงทำให้ใครๆ ก็มองว่าเธอ "ร้ายกาจ" แต่ทว่า...นั่นเพราะเธอร้ายกาจจริงๆ หรือเพราะเธอสร้างสิ่งเหล่านั้นขึ้นมา เพียงเพราะเธอกำลังเผชิญกับปัญหาบ้านแตก! และความรัก ความเป็นหนึ่งในครอบครัวถูกแย่งชิงจาก "เขา" ผู้เป็น "คนนอก" ครอบครัว เพราะเขาได้รับความไว้วางใจและเชื่อมั่นจากครอบครัวของเธอมากกว่าเธอเสียอีก เธอจึงเกลียดเขาอย่างมากมาย และต้องกดเขาไว้ให้เป็นเพียง "เด็กในบ้าน" อย่าให้เขาเข้ามาชุบมือเปิบ ฮุบทุกอย่างในบ้านของเธอ และเมื่อเธอค้นพบว่า เขาหลงรักเธอ และหมายปองดอกฟ้าอย่างเธอ เธอจึงวางแผนขุดหลุมล่อ วาง บ่วงเสน่หา เพียงเพื่อให้เขาพบกับความผิดหวังและทุกข์ทรมาน โดยที่ไม่รู้เลยว่า เธอเองต่างหาก...ที่จะตกอยู่ในบ่วงเสน่หาที่วางไว้เอง!
กี่ครั้งกี่หน ก็แพ้ก็พ่าย ผู้ชายไม่เคยซื่อสัตย์ ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ รูปโฉม กะรัต เทพทัต ไม่อาจนำมาทระนงได้ กี่คราที่ต้องแก้มือใหม่ ถูกตราหน้า ประณามว่าสามผัว มิหนำซ้ำหนสุดท้าย เมื่อเขาตายจากไปมิได้จบกันแค่นั้น แต่ สายน้ำผึ้ง เพื่อนสนิท คบกันมา 12 ปี กลับกลายเป็นเพื่อนสนิท คิดคด อุ้มท้องเยาะเย้ยว่าเป็นเมียหลวง ส่วนเธอคือเมียน้อย กะรัต ผู้แสนฉลาดเลิศล้ำ เฝ้าตรวจสอบปัญหาชีวิตแล้วพลันคิดได้ เธอไม่เคยจับผู้ชายคนไหน ตีตรา ขึ้นทะเบียน เป็นสามีถูกต้องตามกฎหมาย ครานี้ เห็นทีจะต้องให้ถูกต้องครบถ้วนกระบวนความ พิศุทธิ์ หนุ่มผู้ดี ผู้เกิดมาเป็นอภิชาตบุตรเกินหน้าพ่อแม่ เธอพบว่าเขาเหมาะสมยิ่งอนิจจา... กะรัต เธอมองข้ามสิ่งสำคัญของการครองเรือน เธอลืมความรักแล้วเธอจะรู้ว่าหนนี้ ผู้ชายหรือเธอกันแน่ที่ผิด การตีตราด้วยทะเบียน มันเป็นยันต์ป้องกันชีวิตคู่แตกร้าวได้หรือไม่
จากเด็กหญิงเล็กๆ ที่ได้รับการปลุกปั้นขึ้นมาเป็นนักร้องเสียงทองสุดสวยแห่งยุค พิจิกา โลดแล่นไปตามจังหวะเสียงเพลงจนถึงจุดสุดยอดในชีวิต และเส้นทางนั้นก็ไม่ได้งดงามเสมอไปเมื่อ สุวิชา ชายหนุ่มรูปงามก้าวผ่านมา เขาไม่ได้เป็นเทพบุตรสำหรับเธอ แต่เป็นมารร้ายที่ทำให้เธอตระหนกตกใจสุดขีด เขาทำให้จังหวะเพลงชีวิตของเธอผิดเพี้ยนไป กว่าเธอจะรู้ว่ามารร้ายมีหัวใจรักมั่นคง...ก็เกือบจะสายเกินไป
ชาวัน หนุ่มหล่อ รวย เอาแต่ใจตัวเอง และไม่เคยสนใจความรู้สึกของใครมาก่อน ต้องจำยอมรับผิดชอบ รุ้งทอง หญิงสาวที่ความจำเสื่อมเพราะเขาเป็นต้นเหตุ ชาวันรับสมอ้างเป็นสามีของรุ้งทอง ด้วยเหตุนี้รุ้งทองจึงถือสิทธิ์ว่าเป็น “เมีย” โดยที่ชาวันเองไม่มีทางขัดขืน เพราะหัวใจเขาไปอยู่ในมือของเธอ หัวใจของอสูรตัวแสบ...นามชาวัน ฉายา “ชาละวัน” ไอ้เข้ตัวเอ้ ยอมสยบในอุ้งมือของสาวน้อย รุ้งทอง อย่างหมดลาย
โชคชะตาพัดพา ศรา เข้ามาในเส้นทางชีวิตของเกสร หนุ่มดิบเถื่อนจากป่าดง มาเจอสาวสวยเปรี้ยวจี๊ด สาวมองหนุ่มเป็น อสูร ตัวร้าย และเขาก็เต้นระบำรอบตัวเธอ คนสองคนถูกเหวี่ยงเข้าไปในเส้นทางของการแต่งงาน จาก บังเอิญ เป็น ผูกพัน เมื่อต่างมีปม และปูมหลังครอบครัวที่แหว่งวิ่น พวกเขาเริ่มเห็นใจกันเข้าใจกันพร้อมจะสร้างครอบครัวใหม่ เกสร จับมือ ศรา เริ่มร่ายระบำรำฟ้อน ไปด้วยกัน อสูรตัวนั้นก็เป็นได้เพียง อสูรในหัวใจเกสร...ที่ทำให้ครอบครัวเติมเต็ม
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!