เพียงสายตาที่เขามองฉันอย่างเว้าวอน...ก็ทำให้ฉันเผลอมอบกาย มอบใจให้เขาไปทั้งหมด เขาคือ ‘มอร์แกน แคมป์เบลล์’ ชายชาวอเมริกันทรงเสน่ห์ที่ฉันได้เจอกับเขาผ่านแอพลิเคชั่นหาคู่ แล้วฉันก็ตกหลุมรักเขาจากสายตาที่เขาใช้มองฉัน มันเป็นเรื่องที่บ้ามาก แต่ฉันก็รักเขาไปแล้ว...รักผู้ชายที่แทบไม่รู้จักกันนอกจากชื่อ ทุกอย่างมันควรจะจบลงหลังจากความสัมพันธ์ลึกซึ้งของเราสิ้นสุดลงในวันออกเดตครั้งแรก ทว่าฉันกลับได้หวนมาเจอเขาอีกครั้งในฐานะ ‘ผู้ปกครอง’ ของนักเรียนอนุบาลที่ฉันเป็น ‘ครูพี่เลี้ยง’ อยู่ นี่เขามีลูกแล้วเหรอ!? ฉันควรจะตัดใจแล้วสินะ แต่...จู่ๆ เขาก็มาบอกว่า... ‘ผมคิดถึงช่วงเวลาที่คุณใช้กับผมในวันนั้นนะ’ ถ้าฉันคล้อยตามเขา ฉันจะตกอยู่ในสถานะเมียน้อยของเขาหรือเปล่า? ให้ตายเถอะ ถ้าเป็นอย่างนั้น มันก็เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง! ทว่า...หัวใจของฉันกลับไม่เชื่อฟังเอาเสียเลย ยิ่งเห็นสายตาของเขา ฉันก็เหมือนจะลืมสิ้นซึ่งศีลธรรมไปเสียหมด ได้โปรดเถอะ มอร์แกน...อย่ามองฉันด้วยสายตาอย่างนั้น อย่ามองฉันด้วยสายตาเว้าวอนอย่างนั้นเลย...
ฉันตกหลุมรักผู้ชายคนหนึ่งจากแอพลิเคชั่นหาคู่โดยไม่ได้ตั้งใจ...
ตอนแรกที่นัดเจอกัน ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะจริงจังกับความสัมพันธ์นี้หรอกนะ เพราะฉันเพิ่งคุยกับเขา...ผู้ชายที่ชื่อ ‘มอร์แกน แคมป์เบลล์’ ได้เพียงไม่กี่สัปดาห์เอง
ใช่ เขาเป็นชาวต่างชาติ เป็นชาวอเมริกันร้อยเปอร์เซ็นต์เลยล่ะ แต่ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าเขามีเชื้อชาติไหนผสมอีกบ้าง ซึ่งมันก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับการที่เขาคุยกับฉันค่อนข้างถูกคอ เขาไม่เคยชวนคุยเรื่องใต้สะดือ ให้เกียรติ และไม่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัวเท่าไรนัก นั่นทำให้ฉันสบายใจที่จะคุยกับเขา รวมถึงการออกมาเจอเขาด้วยเมื่อเขาเสนอมาว่า...
‘เราลองเจอกันสักครั้งดีไหมครับ’
เขาพิมพ์มาเป็นภาษาไทยล่ะ ตอนที่เห็นครั้งแรก ฉันแปลกใจมากทีเดียวด้วยปกติเราจะคุยกันเป็นภาษาอังกฤษตลอด ตอนแรกคิดว่าเขาให้เพื่อนหรือคนรู้จักที่เป็นคนไทยช่วยพิมพ์ให้ แต่เปล่าเลย เขาบอกว่าเขาพิมพ์เอง มิหนำซ้ำตอนที่เราคุยโทรศัพท์กัน เขายังพูดไทยปร๋ออีก ทำให้คนที่คุยภาษาอังกฤษกับเขามาโดยตลอดต้องกลับหน้าเทปแทบไม่ทัน
ความน่าสนใจของเขาในเรื่องนี้ทำให้ฉันตอบตกลงที่จะไปเจอเขา แน่ล่ะว่าฉันไม่ได้จริงจัง คิดแค่ว่าเจอหน้า กินข้าวด้วยกัน อาจจะพูดคุยกันด้วยอีกสักเล็กน้อย แล้วก็จะแยกย้ายกลับบ้านใครบ้านมัน
แต่...ความตั้งใจของฉันก็ผิดพลาดทั้งหมดเมื่อได้มาเจอกับเขาตัวเป็นๆ
กลับกลายเป็นว่าฉันอยู่ยาวหลังจากกินข้าวด้วยกันเสร็จ ส่วนสาเหตุที่ฉันอยู่ยาวน่ะหรือ?
เชื่อเรื่องรักแรกพบหรือเปล่าล่ะ ถ้าเชื่อ ฉันจะเล่าให้ฟังว่าตอนแรกที่ฉันเจอเขา นอกจากรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลาคมคายตามประสาชาวตะวันตกแล้ว เขายังมีดวงตาที่มีเสน่ห์เป็นอย่างมากอีกด้วย
ดวงตาสีน้ำตาลมะฮอกกานีคู่นั้นฉุดรั้งให้ฉันต้องอยู่กับเขาต่อโดยที่เขาไม่ต้องร้องขอ ยิ่งถูกเขาจับจ้องด้วยดวงตาคู่นั้น ก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายก็ฉันก็เต้นระทึกชนิดที่ควบคุมไม่อยู่
มันช่างเย้ายวน...และดูเว้าวอนเป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่ทำให้ฉันคล้อยตามเขาไปได้แทบทุกอย่าง แม้กระทั่งตอนที่เขาพูดขึ้นมาว่า...
‘ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมอยากจะชวนคุณไปต่อ...ที่คอนโดฯ ของผม’
บอกตามตรงว่าฉันไม่ชอบผู้ชายที่หวังจะแอ้มฉันตั้งแต่เดตแรก แต่ก็อย่างที่บอก ฉันตกหลุมรักเขาไปแล้ว ถึงจะรู้ดีแก่ใจว่ามันจะเป็นเพียงความสัมพันธ์ลึกซึ้งชั่วครั้งชั่วคราวที่เกิดขึ้นแล้วจบลงไป ฉันก็ยังจะตอบตกลงเขาไป โดยที่เขาก็ยิ้มกว้างให้กับคำตอบของฉัน
‘ผมดีใจที่คุณยอมรับคำชวนของผมนะ...โรสแมรี่’
เป็นชื่อของฉันเวลาที่ใช้คุยกับคนต่างชาติ จริงๆ แล้วฉันมีชื่อว่า ‘รสมาลี’
ตอนที่บอกมอร์แกนว่าชื่อภาษาไทยของฉันคืออะไร เขาสนใจเป็นอย่างมาก
‘มันแปลว่าอะไร’
‘รสแปลว่ารสชาติ ส่วนมาลีก็ดอกไม้ รวมๆ กันก็คงจะแปลว่ารสชาติของดอกไม้มั้งคะ’
‘รสชาติของดอกไม้...ผมชอบความหมายนะ’ มอร์แกนยิ้มกริ่ม ก่อนจะส่งสายตายั่วยวนมาให้ ‘ผมชักอยากรู้แล้วสิว่าดอกไม้อย่างคุณมีรสชาติยังไง’
สายตาของเขาอาจจะเป็นการจับจ้องธรรมดาก็ได้ แต่สำหรับฉัน ฉันตีความว่ามันยั่วยวนไปแล้วล่ะ และมันก็ทำให้ฉันตามเขามาถึงคอนโดฯ ที่เขาอยู่ หลังจากนั้น...ดอกไม้ของฉันจะมีรสชาติอย่างไร มอร์แกนก็ได้รู้ในตอนนี้
ฉันถูกเขาบดจูบด้วยความกระหายทันทีที่เราเข้ามาในห้อง มอร์แกนจูบฉันพร้อมๆ กับการพาไปที่โซฟาในห้องรับแขกด้วย พอฉันทิ้งตัวลงนอนราบ เขาก็โถมกายทาบทับแล้วชำแรกปลายลิ้นเข้ามาในโพรงปาก เกี่ยวกระหวัดเข้ากับปลายลิ้นของฉันจนเราทั้งสองแทบจะหลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกัน
เขาร้อนรุ่มเป็นอย่างมาก รีบร้อนมากด้วยเช่นกัน เพราะหลังจากที่เราจูบกันดูดดื่มอย่างนั้นเพียงไม่กี่วินาที ฝ่ามือหนาก็กำจัดเสื้อของฉันออกไปโดยแทบไม่รู้ตัว ก่อนที่เขาจะเคล้นคลึงหน้าอกหยุ่นผ่านบราเซียตัวเล็กทีละน้อยจนฉันเคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสของเขา
มันหนักหน่วง...และร้อนเร่าเป็นอย่างมาก ทำเอาฉันแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาจูบจรดมาตรงส่วนไหนก็แอ่นสะท้านรับเอาความเสียวกระสันนั้นไปเสียหมด มารู้สึกตัวอีกทีก็ตอนเขาจูบที่ปลายติ่งหูแล้วขบเม้มเบาๆ
‘มันเกะกะ ผมขอถอดออกนะ’
เขากระซิบบอก ฉันพยักหน้า ไม่ทันไร บราเซียก็ถูกกำจัดออกไป เหลือเพียงหน้าอกหน้าใจที่เผยให้เขาเห็นเต็มสองตา ฉันผินหน้าหนีเล็กน้อย กลัวเหลือเกินว่าเขาจะบอกว่าหน้าอกฉันเล็ก หากแต่เมื่อเขาวางมือทาบทับลงมาแล้วเคล้นคลึงอีกครั้ง เขาก็ส่งเสียงคำรามในลำคอเบาๆ
‘อืม...’
ฉันเดาว่าเขากำลังพึงพอใจ และฉันก็อยากจะทำให้เขาพอใจมากกว่านี้ ทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
‘ถ้าผมจะทำอะไรที่มากไปกว่านี้ คุณจะไม่ว่าอะไรใช่ไหม’
เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!
เพราะไปตีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่บังอาจเอานิยายเธอมาวิจารณ์หยาบๆ คายๆ ว่างานเธอเชิดชูระบอบปิตาธิปไตย ตามมาด้วยการดูแคลนเหยียดหยามทางเพศสภาพอีกหลายอย่าง ทำเอา ‘อาคิรา’ นักเขียนนิยายประโลมโลกถึงกับเลือดเฟมินิสต์ในกายเดือดพล่าน กล้าดียังไงมากล่าวหาเธออย่างนี้ งานเธอถึงจะเป็นงานประโลมโลก แต่ใช่ว่าจะเชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่สักหน่อย! ต้องตามไปตบตีจนกว่าจะชนะ เถียงแพ้รอบนั้น แต่คนไม่แพ้ ตามหาแอคเคาทน์ของคนที่ใช้นามแฝงว่า ‘เวนไตย’ ไปจนเจอเข้ากับตอจังเบ้อเร่อ โดยหารู้ไม่ว่าเวนไตยคนนี้ หาใช่ไอ้เวรตะไลที่ประนามหยามเหยียดแต่อย่างใดไม่ ทว่าเป็นบรรณาธิการหนุ่มผู้คว่ำหวอดในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างหาก “ฉันจะทำให้ดูว่างานเขียนฉันมันไม่ได้เชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่!” “งั้นก็ลองเขียนมาดู ผมอยากอ่านเหมือนกัน อยากรู้ว่านักเขียนอย่างคุณจะทำได้ดีสักกี่น้ำ” โดนท้าทายมาถึงกับปรี๊ด คอยดูเถอะ เธอจะเอารางวัลมาฟาดหน้าไอ้เวรตะไลนี่ให้ได้เลย!
“ฉันจะเป็นเมียของนายดินค่ะ” ไม่รู้ว่าส้มหล่นหรือโชคร้ายกันแน่ที่จู่ๆ คุณหนู ‘หยาดฟ้า’ ของตระกูลเศรษฐีเมืองกรุงก็มาถวายตัวยอมเป็นเมียของ ‘ไอ้ดิน’ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น ไอ้ดินค่อนข้างจะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร เขาไม่รู้จักมัดจี่กับเจ้าหล่อนนี่ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นเมียเขา เป็นใครก็งงทั้งนั้นแหละ! ก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะหยาดฟ้าถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน เธอจึงหนีมาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และได้เจอกับกุลีหนุ่มที่นี่ ประจวบเหมาะกับที่บิดาของเธอโทรมาคาดคั้นให้เธอกลับไปแต่งงานพอดี เธอถึงได้ลั่นวาจานี้ออกมาให้บิดารู้ว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็น ‘เมีย’ ของเขาแล้ว หาใช่ผู้ชายที่บิดาจัดเตรียมมาให้ สำหรับไอ้ดิน นี่คงไม่ใช่ส้มหล่นหรอก เป็นคราวเคราะห์เสียมากกว่า เขาจึงรีบบอกปัดหัวขวิด “ไม่ล่ะครับคุณหนู ผมคงไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าหรอก ผมก็แค่กุลีใช้แรงงานไปวันๆ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงให้คุณหนูอยู่ดีกินดีได้” “ไม่ต้องกินดีอยู่ดีก็ได้ แค่ให้ฉันอยู่ด้วยก็พอ” “ให้อยู่ด้วยก็ไม่ได้ครับ ก็คุณหนูน่ะเป็น...” “เป็นเมียนายดินไงล่ะ” เป็นที่ไหนกัน เขายังไม่ได้ซั่มเธอเลยสักกะยก! ไอ้ดินปวดขมับตุบๆ ขณะที่หยาดฟ้าเชื้อเชิญเขาเป็นการใหญ่ “แล้วนี่มัวรออะไรอยู่ รีบพาฉันเข้าบ้านสิ จะได้ทำอะไรอย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? ไอ้ดินไม่แน่ใจนัก แต่แวบเดียวก็แน่ใจแล้ว เพราะจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงคอเสื้อให้หน้าอกอิ่มล้นทะลักออกมา ไอ้ดินมองจ้องตาไม่กะพริบ ได้สติมาอีกครั้งก็ตอนที่สาวเจ้าเอ่ยปาก “มาสิพี่ดิน มาเอากัน ฟ้าพร้อมจะเป็นเมียพี่แล้ว” ดูพูดจาเข้า เรียกแทนตัวด้วยชื่อ แทนเขาว่าพี่ชวนให้เอ็นดูอีก! โอ๊ย! ไอ้ดินจะบ้าตาย! เห็นทีเขาคงหนีไม่พ้นการถูกยัดเยียดความเป็น ‘ผัว’ ด้วยฝีมือหยาดฟ้าแล้วล่ะ
เพราะอกหักจากคนที่แอบชอบมานาน ทำให้ ‘ภีม’ พาตัวเองไปในที่อโคจรเพื่อที่จะระบายความเศร้าเสียใจออกไปบ้าง หากทว่าในคืนนั้น เขากลับได้พบกับชายแปลกหน้าอย่าง ‘สุดเขต’ ที่บังเอิญเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองเกือบจะลงเอยกันด้วยความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือที่เรียกกันว่า One night stand หากทว่าก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เสียก่อน ก่อนที่ภีมจะพบว่าผู้ชายที่เขาได้เจอในคืนนั้น เป็นคนคนเดียวกับคนที่เขาแอบชอบตกหลุมรัก ให้ตาย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ ‘ลัก’ ความรักของภีมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสุดเขตไม่สามารถลืมความน่ารักของภีมลงได้เลย เขาต้องเอามาให้ได้ ทั้งตัวภีม และความรักของภีม จะเอามาให้ได้ทั้งหมดเลยคอยดู!
แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ทว่าปีศาจกวางอย่าง ‘ลู่ลู่’ กลับหาได้พิสมัยการระรานมนุษย์สักเท่าไรนัก สะอาดบริสุทธิ์เสียจนแทบจะลุแก่ตบะแล้ว ทว่า... ชีวิตของเขาก็หาได้สงบสุขอีกต่อไปเมื่อนักพรตปราบปีศาจอย่าง ‘เยี่ยนเฉิน’ หนีตายจากการถูกล่าเพราะดันไปต้มตุ๋นชาวบ้านวิ่งทะเล่อทะล่ามาสลบอยู่หน้าถ้ำ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ก็หาได้ไร้น้ำใจนัก มอบไมตรีช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน หากแต่เยี่ยนเฉินกลับตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ชีวิตของลู่ลู่แปดเปื้อนด้วยมลทิน บีบบังคับให้ปีศาจกวางน้อยรวมหัวในแผนต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเอาคืน! นักพรตจอมกะล่อนผงาด ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ขณะที่ปีศาจน้อยถูกจิกหัวใช้ให้ไประรานชาวบ้านไม่เว้นวัน อะไรไม่ว่า เยี่ยนฉินยังขยันลูบหางเล็กๆ ของเขาเสียเหลือเกิน ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นน่ะ...มะ...มัน... ...ทำให้ตัวร้อนผะผ่าวนะ! ต้องมีสักวันที่พลั้งเผลอไปมากกว่านี้แน่ สวรรค์! ลู่ลู่ผู้นี้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายโลหิตแล้ว!
หากผู้ใดเชื่อว่าทะเลทรายผืนนี้โหดร้าย ผู้นั้นย่อมเชื่อในสิ่งที่ผิด เพราะสิ่งที่โหดร้ายกว่าผืนทะเลทรายแห้งแล้ง คือกองกำลังโจรทะเลทรายของ 'อัลมิราน' ผู้นี้ต่างหาก โหดร้าย...ชั่วช้า...เลวสามานย์ ดูเหมือนจะเป็นคำสร้อยที่พ่วงท้ายชื่อของโจรหนุ่มนามเลื่องลือไปเสียแล้ว แต่เขาจะสนใจสิ่งใดกัน ในเมื่อเขาถูกตราหน้าว่าชั่ว เขาก็จะเป็นคนชั่วให้สมดั่งที่ถูกบีบคั้น เพียงเพื่อให้ได้อัญมณีแห่งสุลต่านมาครอบครอง เขาก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว หากแต่หารู้ไม่ว่าสวรรค์จะนำพาให้เขาพบกับอัญมณีมีชีวิตแห่งทะเลทราย...'จามิล' นักระบำร่อนเร่ผู้มีเสน่ห์เย้ายวน เพียงได้ชมระบำทะเลทรายของจามิลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หัวใจของอัลมิรานก็ถูกครอบครองไปสิ้น โดยหารู้ไม่ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่หุบเหวอเวจีแสนหวานที่จะฉุดคร่าชีวิตเขาไปเสียแล้ว...
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."