เป็นเรื่องราวดราม่าในครัวเรือน เน้นความรักความสัมพันธ์ในครอบครัว ระหว่างพี่น้องทั้ง 5 คน แต่ยังมีกลิ่นอายความรักของหนุ่มสาวที่เป็นพระเอกนางเอกของเรื่องไว้ด้วย ตามสไตล์หนังฝรั่ง --- ฟาร่า เตฮะราน นักร้องสาวสวยชื่อดัง เชื้อสายเบรย์เมนพลอสที่ไปโด่งดังในฮอลลีวู้ด กลับมาบ้านเกิดปีนี้มี ‘บางอย่าง’ กำลังจะเปลี่ยนไป ครั้งหนึ่งเธอเคยทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวงกับอดีตคนรักเก่าเพื่อแลกกับการเดินตามความฝัน... วันนี้...เธอจึงกลับมาแก้ไขเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นจากการกระทำของตัวเอง ไม่ว่าผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นเช่นไร...เธอจะยอมรับมันให้ได้ ดีกว่ามานั่งเสียใจที่ไม่คิดทำอะไรเลย “ยะ...อย่าหลบหน้ากันอีกเลยนะคะ ---” “…” “ฉะ...ฉันกลับมาเพื่อขอโทษคุณ และฉันมา...เพื่อขอโอกาส จะ...จากคุณอีกครั้ง” เธอกลืนลมหายใจสะท้าน รอคอยคำตอบจากเขาแม้เพียงสักนิด “...” ทว่าเขาก็ยังเงียบสนิท ไม่ปริปากใดๆ “คะ...คุณจะให้อภัยฉันได้ไหม ?” “ฮึ ! ไม่มีประโยชน์หรอก คุณกลับไปเสียเถอะ” เสียงทุ้มเย็นชากล่าวขึ้นในท้ายที่สุด “กลับไป...แล้วต่างคนต่างอยู่เหมือนที่เคยทำมาตลอด” “ฉะ...ฉันจะไม่ไปไหนทั้งนั้น กะ...กว่าฉันจะตามหาคุณเจอต้องใช้เวลาเกือบสองปี !” ดัรวีชทำสีหน้าเจ็บปวด “คะ...คุณทำแบบนี้ไปเพื่ออะไร นะ...ในเมื่อตัวคุณเองไม่ใช่เหรอ ทะ...ที่ทิ้งผมไว้ข้างหลัง ยะ...อย่างไม่ไยดี ละ...แล้วตอนนี้คุณจะมาเอาอะไรอีกไม่ทราบ ฮะ คุณนักร้องฮอลลีวู้ด ?!!!” ฉันเหมือนโดนมีดกรีดแล่ไปในเนื้อหัวใจ ปวดร้าวทุรนทุราย “ฉะ...ฉันขอโทษ ฉะ...ฉันผิดไปแล้ว ฉะ...ฉัน ฉันรู้สึกผิดและละอายแก่ใจจริงๆ กะ...กับทุกสิ่งที่ทำกับคุณเอาไว้ คะ...คุณ จะยกโทษให้ฉันได้ไหม” เธอร้องไห้ระงม ระบายสิ่งที่อัดอั้นในอกออกมา “เฮอะ ! ช่างน่าขันสิ้นดี คุณทำกับผมเอาไว้เจ็บแสบมาก...คุณฟาร่า แล้วอยู่ๆ คุณคิดเหรอว่ากับการที่คุณแค่มาขอโทษผมง่ายๆ แบบนี้มันจะทำให้ผมยกโทษให้คุณได้ ตลกนัก...ฮะๆ” เขาหัวเราะหยัน “ความรู้สึกคนนะครับไม่ใช่แผ่นกระดาษที่หน้าขาดแล้วคุณจะใช้สกอตเทปแปะติดคืนกลับไปใหม่ได้ !!!” “…” “มันสายไปแล้วละครับ ทุกอย่าง...มันสูญสิ้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว เช่นเดียวกับที่ไอ้เด็กผู้ชายใสซื่อคนนั้นที่คิดว่าความรักสวยงามก็ได้ตายจากโลกนี้ไปแล้วเช่นกัน !” “…” “อย่ามายุ่งกับผมอีก เราต่างคนต่างใช้ชีวิต ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ แล้วก็จำเอาไว้ด้วยว่า...ผมเกลียดคุณ --- คุณฟาร่า เตฮะราน !!!” เรื่องราวของพวกเขาสองคนจะเป็นยังไงต่อไป จะดำเนินไปในทิศทางไหน อุปสรรคและปัญหาที่มาในรูปแบบต่างๆ กันก็ถาโถมโจมตีมาทดสอบไม่จบสิ้น ฟาร่าจะหาทางออกได้ไหม แล้วจะเอาชนะใจ ‘ดัรวีช’ ได้หรือเปล่า ต้องติดตามได้ในเล่มครับ ###
1
กลับบ้าน
ฉันเห็น ‘อาบีร’ น้องคนที่สองจากห้ายืนผึ่งผายคอยอยู่แล้วเมื่อออกมาจากประตูผู้โดยสารขาเข้า ฉันโบกมือทักทายเขาแล้วสวมกอดน้องชายคนนี้ด้วยความคิดถึง
“หวัดดีจ้าบีร”
“สวัสดีครับพี่ฟา ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ”
ฉันอายุมากกว่าน้องห้าปี ปีนี้อาบีรอายุแตะหลักสามพอดิบพอดี
“ขอบใจจ้ะ สบายดีนะเรา”
“ครับผม”
“เอ...ผอมลงหรือเปล่าเนี่ย เหมือนจะซูบลงไปเยอะเลยนะ” ฉันสังเกตน้องชายที่ดูอิดโรยและซีดเซียวผิดจากเดิม “ทำงานหนักเหรอช่วงนี้ ?”
“อะ...เอ่อ คงงั้นมั้งฮะ” อาบีรหลุบตาลงต่ำ พลางส่งยิ้มแห้งๆ เจื่อนๆ
เขาเป็นตำรวจ แต่งงานมีครอบครัวแล้วแต่ยังไม่มีลูก
“จ้ะ ดูแลตัวเองบ้างนะ เพิ่งจะสามสิบเอง บีรดูแก่กว่าวัยไปเยอะเลยเที่ยวนี้” ฉันเอ่ยตรงๆ เมื่อก่อนอาบีรเป็นเด็กหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลา ผิวขาวใส แต่ช่วงหลังๆ เหมือนเขาจะปล่อยตัวและทำงานหนัก ใบหน้ากับรูปร่างเลยเปลี่ยนแปลงไปตามเวลา เขาดูคล้ำขึ้นและผอมลงจากเดิมค่อนข้างมาก
“ได้ฮะ”
“งั้นเราไปกันดีกว่า พี่คิดถึงทุกคนจะแย่แล้ว ---”
หลังจากนั้นเราสองคนพี่น้องก็เริ่มออกเดิน อาบีรช่วยลากกระเป๋าของฉันให้ มีเพียงใบใหญ่ใบเดียวกับกระเป๋าสตางค์สีแดงที่ถือติดมือ ระหว่างทางก็มีพวกปาปารัสซี่ที่แอบถ่ายฉัน เสียงชัตเตอร์กับแฟลชจึงสาดมารัวๆ ท่ามกลางความสนใจของผู้คนรอบข้าง
แชะ ! แชะ !
“นั่นฟาร่านี่ !”
“ตัวจริงสวยจังเลย”
“กรี๊ดดด !”
ฉันยกมือทักทายทุกคนขณะรีบจ้ำเอาๆ เพื่อดิ่งไปยังด้านหน้าสนามบิน โดยมีบอดี้การ์ดสี่คนช่วยกันประชาชนและพวกปาปารัสซี่เอาไว้
ใช่แล้วละ ฉันเป็นคนดัง เป็นนักร้องเชื้อสายเบรย์เมนพลอสที่ไปโด่งดังในฮอลลีวู้ด...
แชะ ! แชะ !
ฉันกลับมาเยี่ยมพ่อกับแม่ทุกปี ส่วนใหญ่จะเป็นในช่วงเทศกาลปีใหม่ แต่ปีนี้มี ‘บางอย่าง’ กำลังจะเปลี่ยนไปจากเดิมฉันเลยมาในช่วงต้นฤดูหนาว ทันทีที่รถตู้คันสีดำทึบจอดเทียบมุขคฤหาสน์หลังใหญ่ใจกลางกรุงวาเฮด ผู้คนในตึกก็ทยอยมายืนต้อนรับฉันกันแน่นขนัด
ฉันก้าวลงจากรถ คนแรกที่กอดและหอมเลยคือแม่ ตามมาด้วยพ่อที่นั่งอยู่บนรถเข็น จากนั้นก็ปิดท้ายกับ ‘ฮาริส’ น้องชายคนสุดท้องที่ฉันรักมาก ด้วยอายุที่ห่างกันถึงสิบห้าปี ประกอบกับที่เขาเป็นเด็กน่ารักฉันเลยหลงรักเขาตั้งแต่ที่น้องลืมตาดูโลก
ปีนี้ฮาริสตัวสูงใหญ่และล่ำสันกว่าปีก่อนมาก ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มดูเป็นชายหนุ่มเต็มตัว
“โอ้โฮ น้องใครเนี่ย หล่อไม่เบาเลยนะ” ฉันสัพยอก ยีผมน้องชายคนเล็กเล่น
“ไม่ต้องมายอเลยพี่ฟา” ฮาริสเอ่ยขำๆ
“ฮะๆ”
“พี่สบายดีนะครับ”
“จ้ะ สบายดี เราล่ะ เป็นไง”
“เหมือนเดิมครับ”
“อื้มๆ” เธอเพียงพยักหน้ารับ ไว้คุยต่อกันทีหลัง ก่อนหันไปทักทายแม่บ้านเก่าแก่ เด็กรับใช้ รวมไปถึงคนสวนและคนขับรถ รวมๆ แล้วก็ประมาณสิบคน เสร็จจากนั้นก็เคลื่อนย้ายกันไปในบ้าน
มื้อเที่ยงวางพร้อมสรรพแล้วบนโต๊ะกระจกในห้องทานอาหาร ฉัน พ่อ แม่ อาบีรและฮาริส เลยเริ่มลงมือจัดการเมนูรสเด็ดบนโต๊ะกันทันที
“โห...อร่อยจัง ไม่ได้กินฝีมือแม่มานานมากกก” ฉันลากเสียงยาว มื้อนี้ฉันขอให้แม่เป็นคนลงมือทำเองเพราะอยากกินฝีมือแม่ที่สุด
“อร่อยก็กินให้หมดนะลูก” แม่ระบายยิ้มสดใส ใบหน้าเบ่งบานเปล่งประกาย
“ค่าาา หนูต้องเบิ้ลจานสองแน่”
ทุกคนหัวเราะกันอย่างมีความสุข นานๆ จะได้มาร่วมทานอาหารกันสักมื้อ
“หนูคุยกับ ‘มูนา’ แล้วใช่ไหม” พ่อถามขึ้นขณะที่อ้าปากรอรับอาหารจากพยาบาลพิเศษที่ฉันจ้างมาดูแลพ่อ เนื่องจากท่านสุขภาพไม่ดีมาสองสามปีแล้ว แถมปีนี้ยังต้องมานั่งรถเข็นอีก พ่อแก่ลงมากนับจากปีก่อน
“ค่ะพ่อ น้องบอกจะไปเจอเราที่ซาลาซะห์เลย”
มูนาคือน้องสาวคนที่สี่ที่ฉันส่งไปเรียนต่อโทที่อังกฤษ เหลืออีกปีเดียวก็จบ เธอทำงานในสถานทูตไทยและเรียนปริญญาโทไปพร้อมกันด้วย ปีนี้น้องอายุย่างยี่สิบสาม
“อื้อ” พ่อเพียงพยักหน้ารับทราบ
“นาดา...ติดเคสด่วนใช่ไหมคะ เห็นน้องไลน์มาบอกตอนอยู่สนามบิน”
“จ้ะฟา เคสผ่าตัดด่วนเลยผลัดไม่ได้” แม่ตอบ
“ค่ะ” ฉันไม่ติดใจอะไรเพราะน้องเป็นหมอผ่าตัดเลือกเวลาคนไข้ฉุกเฉินไม่ได้ งานช่วยชีวิตคนต้องมาก่อน
ฉันภูมิใจกับน้องๆ ทุกคน แต่ละคนทำงานดีและมั่นคงกันหมดแล้ว ที่มีห่วงนิดหน่อยก็คือฮาริส แต่เขายังเด็ก ทุกอย่างที่แสดงออกจึงเป็นไปตามกลไกของเด็กในช่วงวัยนี้ ฉันเองก็เข้าใจเลยไม่ได้ซีเรียสเกินกว่าที่จำเป็น อีกหน่อยพอเรียนจบ เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นนิสัยก็คงเปลี่ยนไปเอง
หลังทานอาหารเที่ยง เราทั้งครอบครัวก็มานั่งถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันต่อในห้องโถง
“พี่ฟา ผมได้ยินข่าวลือว่าพี่ได้รับเชิญไปร้องเพลงเปิดงานฟุตบอลโลกปีหน้าเหรอครับ ?” อาบีรถามอย่างสนใจ
“จ้ะ แต่ยังไม่ได้คอนเฟิร์มอะไรนะ”
“อ้าว ทำไมล่ะพี่” ฮาริสขมวดคิ้วมุ่น “โอกาสทองเลยนะนั่น ผมจะได้อวดเพื่อนๆ ด้วย”
“ฮะๆ ถึงไม่มีพี่...ชากีร่ากับเจโลว์ก็ทำได้ดีอยู่แล้วละ”
“โธ่ ถ้าพี่ไม่ไปนี่เสียดายมากเลยนะครับ” อาบีรทำหน้ายับ
“ไม่หรอกบีร พี่ยังไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธเขาซะทีเดียว ต้องดู-สถานการณ์และอะไรหลายๆ อย่างก่อนว่าลงตัวหรือเปล่า” ฉันบอกกลางๆ
“ครับ”
“เอ้อ ฟา แม่อ่านเดอะ ฮอลลีวู้ด รีพอร์ตเตอร์ หนูจะรับเล่นหนังคู่กับคีนู-รีฟส์เหรอลูก” แม่หน้าบานเป็นดอกบัว
“ฮ่ะๆ ค่ะแม่ เข้าไปออดิชั่นมาน่ะค่ะ หนังโรแมนติกคอเมดี้ เขาติดต่อมาก็เลยไปแคสต์ดู ไม่อยากให้ทางค่ายหนังเขาเสียน้ำใจ อีกเรื่องก็ได้รับทาบทามให้ประชันฝีมือกับเดมี่ มัวร์ แต่หนูก็ยังไม่ได้คอนเฟิร์มอะไรเหมือนกัน ต้องหลังจากกลับนี่ก่อน” ฉันบอกตรงๆ หลายๆ อย่างกำลังจะเปลี่ยนไปในอีกไม่นานนี้...
“จ้ะลูก”
“พี่จะมาเที่ยวกี่วันครับรอบนี้” ฮาริสถามแต่ตากับมือจดจ้องอยู่กับโทรศัพท์
“เที่ยวนี้น่าจะหลายอาทิตย์ ต้องดูอีกทีหนึ่ง อย่างต่ำก็สิบห้าวันขึ้นล่ะ แล้วนี่คุยกับสาวใช่ไหม ?” ฉันหรี่ตามองน้องอย่างสงสัย
“ครับ”
“คนเดิมที่เคยบอกพี่หรือเปล่า”
“ใช่ครับ คนนี้ละตัวจริงแล้ว --- ผมรักคนนี้” ฮาริสยิ้มเผล่ ดวงตากรุ้มกริ่ม
“ฮั่นแน่” ฉันร้องแซว “ในที่สุดสินะ... น้องพี่จะได้เลิกทำให้สาวๆ หยุดร้องไห้เสียที”
“ฮะๆๆๆ ว่าไป ---” ฮาริสหัวเราะขำ “เอ้อพี่ฟา”
“ฮึ ?”
“ถ้าผมจะชวนซัลมาไปเที่ยวกับครอบครัวเราด้วยจะได้ไหมครับ”
“ได้สิ ใครจะว่า” ฉันอนุญาต เดี๋ยวนี้เรื่องหนุ่มสาวคบกันเปิดกว้างกันหมดแล้ว อยู่กินกันก่อนแต่งทั้งนั้น ดีกว่ากีดกันแล้วไปลักลอบได้เสียกันอยู่ข้างนอก ทำอะไรผิดถูกบ้างก็ไม่รู้ ฉันยอมให้น้องทำแล้วอยู่ในสายตาครอบครัวดีกว่าปล่อยให้ไกลหูไกลตาแบบนั้น
“ขอบคุณครับพี่” ฮาริสลิงโลด โผมากอดฉันหน่อยหนึ่ง
“แล้วเมียบีรล่ะ ลางานได้ไหม จะได้ไปเที่ยวกันครบทั้งครอบครัว” ฉันถามถึง...ตัสกีน ภรรยาของอาบีร พวกเขาสองคนคบหากันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย พอเรียนจบ ทำงานกันได้หนึ่งปีก็จัดงานแต่งใหญ่โต สองคนนี้รักกันมาก...ฉันรู้ดี เห็นน้องมีความสุขแบบนั้นคนเป็นพี่มีหรือจะไม่ชื่นใจตาม
“เธอคงไปไม่ได้แล้วละครับ” อาบีรหน้าหมองเศร้า
“อ้าว ทำไมล่ะ ?”
“ผมกับกีน...เราหย่ากันแล้ว”
#Yaoi ชีวิตเขาตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับไอ้นักโทษแหกคุกในวันนั้นเมื่อห้าปีก่อน ก็เหมือนกับยืนอยู่บนเส้นทางสายกลาง ระหว่างความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกับความต้องการของหัวใจ จะรักก็ไม่ได้...จะเกลียดก็ไม่ลง ใช่...มังกรไม่ใช่คนดี เขาเป็นคนเลว เป็นนักโทษ เป็นฆาตกร ซึ่งแน่นอนคนดีๆ กับโจรย่อมอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้อยู่แล้ว ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาต้องกักเก็บความรักที่เขามีต่อมังกรเอาไว้ภายใน โดยที่เขาไม่สามารถจะแสดงอะไรออกมาให้มังกรเห็นได้เลย รักของเขากับมังกรมันไม่มีทางเป็นไปได้ ไม่ว่าจะทำหรือใช้วิธีไหนก็ตาม !
ดวงใจในไอรัก...เป็นเรื่องราวของ ‘บรูซ’ และ ‘คิมซอนมิน’ สองศิลปินชื่อดังจากทางฝั่งฮอลลีวู้ดและเกาหลีใต้ พวกเขาเจอกันเพราะงานภาพยนตร์ที่มีโอกาสได้เล่นร่วมกัน วินาทีแรกที่สองหนุ่มสบตาทั้งคู่ก็รู้เลยว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติ พวกเขาตกหลุมรักกัน ซึ่งมันเป็นความรักต้องห้ามที่ไม่มีวันจะมาบรรจบกันได้ ทั้งสองจะทำอย่างไรในเมื่อหัวใจได้หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ซ้ำยังปัญหาร้อยแปดประการที่โถมใส่พวกเขาจนยากที่จะหาทางออก มาร่วมกันค้นหาบทสรุปของบรูซและคิมซอนมินกันนะครับ “ผะ...ผมทำให้ชีวิตคุณ ขะ...เขวหรือเปล่า” “ทะ...ทำไมคุณถึงพูดอย่างนั้นล่ะ ?” ซอนมินตกใจ หันขวับมาจ้อง “อะ...อนาคตคุณกำลังจะไปได้สวย ตะ...แต่พอเราเจอกันทุกอย่างก็วูบดับลง” “บะ...บรูซ !!!” “...” “คะ...คุณอย่าพูดอย่างนี้อีกนะ ผมไม่เคยมีความคิดอะไรแบบนี้เลย !” “ฮะ...ฮึก...” บรูซสะอึกสะอื้น “คุณเองก็ยังยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อผมเหมือนกัน มะ...ไม่ใช่เหรอ ?” “ชะ...ใช่ครับ ตะ...แต่มันต่างกัน ผะ...ผมอยู่ในวงการนี้มาตั้งแต่สามขวบ ผิดกับคุณ...ที่เพิ่งจะสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมาได้ไม่กี่ปี คะ...คุณไม่เสียดายหรือไง !” ซอนมินจอดรถตรงข้างทาง ตะโกนก้องด้วยความเจ็บช้ำ “ทะ...ทำไมคุณถึงดูถูกความรู้สึกผมขนาดนี้ !!!” “ฮือออออ...” ที่สุดแล้วนักแสดงหนุ่มก็ร้องไห้โฮ ละล่ำละลักอย่างหมดอาย “ผะ...ผมกลัว กะ...กลัวจะเสียคุณไปไง !”
เพราะถูกสามีเก่าทุบตีทำร้ายร่างกาย ‘เมลลี่ มัลเบิร์ต’ สาวจากเมืองทางใต้จึงทิ้งทุกอย่างไว้ข้างหลังแล้วดิ้นรนมาตายเอาดาบหน้า เธอขนข้าวของขึ้นมาหางานทำทางภาคเหนือ ที่นี่...เธอได้งานแม่บ้านในไร่แห่งหนึ่ง หลายคนบอกว่า ‘คุณทรัค’ ชายหนุ่มรูปงามผู้เป็นเจ้าของไร่วัยเพียง 25 นั้น ดุร้ายเหมือนเสือ แต่ทำไมกับเธอ...เขาถึงใจดีนัก ดี...จนน่าใจหาย แต่แล้ว...เขาก็แสดงธาตุแท้ออกมาไม่นานจากนั้นว่าสุดท้ายเขาก็ไม่ต่างอะไรจากชายที่เธอวิ่งหนีมาทั้งชีวิต
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"