เพราะความดื้อรั้นทำให้เธอต้องพบกับอันตราย เพราะความดื้อรั้นครั้งนั้น…ทำให้เธอพบหัวใจอีกครึ่งดวง ---------- “ทำได้ดีมากทะเล” เซบาสเตียนเอ่ยชมลูกน้อง งานนี้สำเร็จอย่างสวยงาม แม้จะใช้คนน้อยไม่ถึงห้าคนด้วยซ้ำแต่ก็ลุล่วงและคล่องตัวได้มาก ส่วนคนอื่นๆ ตอนนี้คงกระจายกันไปตามแผนและคงไปรวมกันอีกครั้งบนเกาะ “ครับ” ทะเลยิ้มแห้งๆ รับคำชมนั้น เพราะรู้ว่างานนี้ตนทำพลาดไปบางอย่างแล้วนั่นเอง แต่ท่าทางแบบนี้มีหรือจะรอดพ้นสายตาของเซบาสเตียนไปได้ “เป็นอะไร” “คือว่าผม” ทะเลอ้ำๆ อึ้งๆ ก่อนที่เซบาสเตียนจะคิ้วขมวดเมื่อได้ยินเสียงดังเล็ดลอดออกมาจากท้ายรถ ชายหนุ่มจึงเดินอ้อมไปดูโดยมีทะเลตามมาติดๆ “อื้อ...อ่อย อ้านนนน (อื้อ...ปล่อยฉัน)” เซบาสเตียนเปิดท้ายรถออกดูก็พบว่าเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ฝนทิพย์ที่ตอนนี้ถูกมัดมือ มัดเท้าและยังมีผ้าปิดปากดิ้นรนเพื่อช่วยเหลือตัวเอง ชายหนุ่มยืนเท้าสะเอวมองคนที่ไม่ต้องการ ก่อนจะหันไปมองทะเลด้วยแววตาไม่พอใจ ทำเอาทะเลสะดุ้ง “เอ็งทำอะไรทะเล” “คือตอนที่ผมจะกลับ บังเอิญเจอผู้หญิงคนนี้เข้า เธอเห็นผมกับของก็เลยจับมาด้วยครับ” คำตอบของทะเลทำให้เซบาสเตียนลอบถอนหายใจออกมาหนักๆ เรื่องยุ่งๆ คงตามมาในอีกไม่ช้าแน่ เขาไม่รู้เลยว่าทะเลจะจับฝนทิพย์มาด้วย กระทั่งถึงเฮลิคอปเตอร์ที่จอดรับเพื่อเดินทางไปยังเกาะ “ผมขอโทษครับนาย ตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออกก็เลยพาเธอมา ยังไงเราปล่อยเธอไปตอนนี้ก็ได้นะครับ” “ไม่ได้ เอ็งจัดการฆ่าทิ้งซะ จะได้จบๆ” คำสั่งของเซบาสเตียนทำเอาทะเลหน้าซีดเป็นไก่ต้ม “อ้ายยยย (ไม่)” ดวงตาของฝนทิพย์เบิกกว้างทันทีที่ได้ยินคำว่าฆ่าทิ้ง ผู้ชายคนนี้ทำไมถึงได้เลือดเย็นและโหดเหี้ยมแบบนี้ ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะเขาเป็นโจรที่ขโมยเพชรมาไม่ใช่เหรอ เซบาสเตียนกำลังคิด เขาพูดว่าฆ่าแต่ไม่ได้ต้องการฆ่าแค่ทำให้ส่วนเกินเกิดความกลัวเท่านั้น ซึ่งก็ได้ผล เพราะตอนนี้เธอนิ่งเป็นหุ่นไปแล้ว ฝนทิพย์ต้องตั้งสติ ถ้าเธอเกิดต้องตายในหน้าที่ขึ้นมาจริงๆ ทุกคนต้องภาคภูมิใจในตัวเธอแน่
ปลายเท้าคู่หนึ่ง วางตั้งฉากอยู่ในมุมที่ได้องศาเพื่อการทรงตัวที่มั่นคงโดยทิ้งน้ำหนักบนขาทั้งสองข้างเท่าๆ กัน หันหน้าไปยังเป้าที่อยู่ห่างออกไปในระยะยี่สิบเมตร มือขวาซึ่งเป็นข้างที่ถนัดจับปืนลูกโม่ที่บรรจุกระสุนไว้หกนัดพร้อมกับยกมือซ้ายขึ้นจับปืนให้มั่นอีกมือ หลับตาด้านซ้ายเพื่อใช้ตาด้านขวาในการเล็งเป้าให้ศูนย์หน้าของปืนอยู่ในระดับเดียวกับศูนย์หลัง มือทั้งสองที่จับปืนขยับขึ้นลงเพื่อหาพิกัดยิง เป้าหมายนิ่ง ใจนิ่ง เสียงปืนจึงดังขึ้น
ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นอย่างต่อเนื่องกระทั่งกระสุนหมดแม็ก ร่างบอบบางไหวโยกเพียงนิดจากแรงของปืนในมือแต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอต้องเสียสมาธิ ก่อนจะเคลื่อนเป้ากระดาษเข้ามาดูผลงานใกล้ๆ ไร้ซึ่งรอยยิ้มที่บ่งบอกว่าตนนั้นพอใจกับผลการยิง มือเรียวบรรจุกระสุนอีกครั้งอย่างชำนาญ จากนั้นเสียงปืนจึงดังขึ้นอีกชุด แทบไม่ต้องนับจำนวนครั้งในการยิงให้ยุ่งยาก เพราะปลอกกระสุนที่ตกเกลื่อนอยู่รอบๆ ตัวดูจะบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าเธอนั้นยิงปืนไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
ขณะที่ ร.ต.ต.หญิง ฝนทิพย์ เกียรติราช หรือ ฝน ผู้หมวดสาววัยยี่สิบสองปี ผู้มีใจรักในงานตำรวจจึงสมัครเรียนและเข้ามาเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ตามแบบของบิดากำลังซ้อมมือยิงเป้ากระดาษอยู่นั้น นายตำรวจรุ่นพี่คนหนึ่งก็ยืนกอดอกมองหญิงสาวอยู่ใกล้ๆ ก่อนที่ชายหนุ่มคนดังกล่าวจะเข้าไปร่วมวงยิงปืนในครั้งนี้ด้วย เสียงปืนจึงดังรัวอยู่หลายนาที
“อารมณ์ดีขึ้นหรือยัง” เมื่อกดปุ่มเลื่อนเป้ากระดาษอันล่าสุดที่ถูกยิงจนได้คะแนนเกือบเต็มเข้ามาใกล้ ร.ต.อ.ตรีภพ นายตำรวจรุ่นพี่ที่สนิทกับฝนทิพย์มาหลายปีก็เอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอถอดหูฟังสำหรับกันเสียงปืนแล้ว
“ก็ช่วยได้นิดหน่อย” น้ำเสียงเซ็งๆ เอ่ยตอบกลับไป ขณะที่มือกำลังบรรจุกระสุนอีกชุด ทุกครั้งที่เธอเบื่อกับงานที่ต้องทำเพราะหน้าที่ไม่ได้ทำด้วยความชอบ ฝนทิพย์มักจะมาหมกตัวอยู่ในสนามยิงปืนเป็นวันๆ
“นี่ตกลงฝนจะยิงจนกระสุนหมดกรมเลยหรือไง พี่หิวแล้วนะ เราไปหาอะไรกินกันเถอะ”
“งั้นขออีกชุดนะคะ” พูดจบเสียงปืนก็ดังขึ้นอีกครั้ง พอได้ทำในสิ่งที่รักอารมณ์ของฝนทิพย์ก็ดูจะดีขึ้นเป็นกอง ก่อนที่ทั้งสองคนจะออกไปหาอะไรทานยังห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ๆ การเดินเคียงคู่ของหนุ่มสาวที่ถือว่าหน้าตาดีด้วยกันทั้งคู่ทำให้คนรอบๆ ตัวหันมามองทั้งสองอยู่เป็นระยะๆ
ชายหนุ่มมองหญิงสาวอย่างฝนทิพย์พร้อมส่งสายตาอิจฉาไปยังตรีภพ ส่วนหญิงสาวก็มองตรีภพด้วยสายตาแบบเดียวกับที่ชายหนุ่มคนอื่นๆ มอง ฝนทิพย์ ฝนทิพย์เดินดุ่มๆ อย่างไม่สนใจสายตาใครทั้งนั้น แม้ใบหน้าของตรีภพจะนิ่ง แต่สำหรับความคิดเขาสวมรอยว่าเป็นแฟนหนุ่มของฝนทิพย์ไปเรียบร้อยแล้ว ถ้าสิ่งนี้เป็นมากกว่าที่เขาคิดก็คงดี
“พี่ภพ ทานร้านนี้นะคะ”
“ครับ” เสียงทุ้มๆ เอ่ยรับ ก่อนจะเดินตามหญิงสาวที่ตนนั้นหลงรักมาหลายปีเข้าไปยังร้านอาหาร ก่อนที่ทั้งคู่จะสั่งอาหารที่ตนอยากทาน ขณะที่นั่งรออาหารที่สั่งไปตรีภพจึงเอ่ยขึ้น “งานที่กรมน่าเบื่อขนาดนั้นเลยเหรอ” แม้จะรู้คำตอบแต่นายตำรวจหนุ่มก็อยากถาม
“ค่ะ...เมื่อไหร่ฝนจะได้ออกนอกพื้นที่เหมือนพี่ภพสักทีก็ไม่รู้ อุตส่าห์มาเป็นตำรวจ แต่กลับต้องไปนั่งเป็นเลขานายแทนที่จะออกพื้นที่จับคนร้าย แค่คิดว่าพรุ่งนี้ฝนต้องเข้าประชุมกับนายตั้งแต่เช้ายันเย็น แถมพอเสร็จก็ต้องทำสรุปผลการประชุมส่งนาย รับสายโทรศัพท์ นัดหมาย ทำเอกสารราชการ ทำแบบนี้ซ้ำๆ ทุกวัน คิดแล้วเซ็ง เซ็งมากกกก” ฝนทิพย์ลากเสียงยาวบ่งบอกว่าเธอเซ็งสุดโต่ง ทั้งๆ ที่อุตส่าห์สอบเข้ามาเป็นตำรวจได้แล้วแท้ๆ แต่กลับไม่เคยได้ออกนอกพื้นที่เพื่อทำงานตำรวจอย่างที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก เพราะเธอต้องมาเป็นเลขาหน้าห้องนายซะอย่างนั้น วันๆ เข้าประชุมกับพิมพ์เอกสารราชการจนคล่อง แค่หลับตาก็พิมพ์ได้ชนิดไม่ตกหล่น
“แต่งานที่ฝนอยากทำมันอันตรายนะ”
“ถ้ากลัวอันตรายฝนก็ไม่มาเป็นตำรวจแล้ว ปืนฝนก็ยิงแม่นได้เหรียญมาประดับหน้าอกก็ตั้งเหรียญทองเชียวนะ”
“เรื่องยิงปืนพี่ไม่ว่า เพราะฝนเก่งยิงแม่น แต่ในเวลาทำงานจริงคนร้ายไม่ได้อยู่นิ่งๆ เหมือนเป้ากระดาษที่ฝนยิงเมื่อครู่ ไหนจะเรื่องป้องกันตัว เรื่องไหวพริบ เรื่องอื่นๆ ฝนยังขาด” คำพูดตรงๆ ของตรีภพทำเอาคนฟังหน้ายู่
“พี่ภพ” ฝนทิพย์รู้สึกจี๊ด เพราะนายตำรวจรุ่นพี่พูดถูกนั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็มั่นใจว่าเธอเอาตัวรอดได้
“หรือไม่จริง”
“จริง” น้ำเสียงอ่อยๆ เอ่ยรับทำให้คนฟังลอบยิ้มออกมา นั่นทำให้ตรีภพดูมีเสน่ห์มากขึ้นเป็นกอง แต่คนหัวรั้นก็ไม่ยอมง่ายๆ
“แต่ฝนเอาตัวรอดได้อยู่แล้ว ไม่เชื่อให้ฝนไปทำงานนอกสถานที่สักครั้งสิ จะพิสูจน์ให้เห็น”
“อาหารมาแล้ว ทานเถอะ” ตรีภพไม่ตอบรับกลับชวนคุยเปลี่ยนเรื่องไปดื้อๆ ฝนทิพย์นั่งหน้าบึ้งมองชายหนุ่มที่ยังทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน แต่กลิ่นอาหารหอมๆ ที่ลอยมาเตะจมูกก็ทำเอาฝนทิพย์เลิกคิดเรื่องนี้ไปทันที ตรีภพยื่นมือไปรับจานอาหารที่หญิงสาวสั่งมาทาน ซึ่งเป็นปลามาแกะก้างออกให้แล้วส่งกลับไปยังคนรอ
“ขอบคุณนะคะ พี่ภพน่ารักที่สุดเลย สมแล้วที่เป็นพี่ชายของฝน” คำพูดของฝนทิพย์ทำให้หัวใจที่พองโตของตรีภพห่อเหี่ยวลงไปถนัดตา เมื่อไหร่ฝนทิพย์จะรู้ว่าเขานั้นไม่ได้คิดกับเธอแค่น้องสาว และเมื่อไหร่เขาถึงจะกล้าพอที่จะบอกเรื่องนี้ให้เธอรู้ เข้าดงกระสุนไล่ล่าคนร้าย เจอเหตุการณ์ไม่คาดฝันมาก็ตั้งมาก แต่กลับไม่ได้ทำให้ตรีภพมีความกล้าพอสำหรับเรื่องการสารภาพรักเลยแม้แต่น้อย
เมื่อทานข้าวอิ่มทั้งคู่ก็ไปประลองฝีมือโยนบาสเกตบอลลงห่วงเหมือนเด็กๆ ท่าทางสนุกสนานและแข่งกันเอาเป็นเอาตายของเด็กโข่งทั้งคู่ เรียกให้บรรดาเด็กๆ มายืนออลุ้นกันเป็นแถวว่าใครจะเป็นผู้ชนะ ทั้งสองเล่นเกมแข่งโยนลูกบาสเกตบอลอยู่นานจนเหรียญสิบหมดกระเป๋าจึงกลับออกไปจากโซนของเล่น ผลการแข่งขันฝนทิพย์ชนะขาดโดยที่ตรีภพเป็นคนยอมให้เธอชนะทั้งๆ ที่เขาทำแต้มนำเธอไปทุกเกมก็ว่าได้
ทั้งคู่มักจะใช้เวลาในช่วงวันหยุดด้วยกันบ่อยๆ หากมีเวลาว่างตรงกัน ซึ่งคนที่ดูจะไม่ค่อยว่างคือตรีภพมากกว่า เนื่องจากชายหนุ่มมีงานในทางลับให้ทำตลอด ก่อนที่พรุ่งนี้ต่างฝ่ายก็ต่างต้องทำงานของตัวเอง ตรีภพกำลังได้รับงานสำคัญและอาจเข้าไปประชุมที่บ้านของ ฝนทิพย์ เนื่องจากงานนี้บิดาของเธอซึ่งเป็นนายตำรวจใหญ่รับผิดชอบโดยตรง แต่ก่อนจะถึงงานตัวนี้ ตรีภพมีงานอีกชิ้นที่ต้องทำคือการแฝงตัวเข้าไปสืบหามือปืนคนสำคัญที่เพิ่งปลิดชีพคนดังไปเมื่ออาทิตย์ก่อน งานนี้ไม่ใช่งานง่าย เพราะถ้าพลาดนั่นหมายถึงชีวิต
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
ภูตะวัน นายหัวแห่งอาณาจักรยางพาราทางปักษ์ใต้ที่จู่ๆ ก็ถูกมารดาเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเกย์ ถึงขนาดไหว้วานลูกน้องของชายหนุ่มให้ตามสืบข่าวแต่ก็ถูกจับได้เสมอๆ เมื่อคนใกล้ตัวถูกจับได้จึงต้องส่งคนไกลตัวเข้าไปทำหน้าที่แทน นั่นจึงทำให้ภูตะวันได้พบกับสาวน้อยที่ชื่อว่านับพันดาว หญิงสาวตัวเล็กผมประบ่าแววตาซุกซนและอยากรู้อยากเห็น ที่จู่ๆ ก็ทำให้หัวใจของนายหัวหนุ่มเต้นด้วยจังหวะแปลกๆ เธอมาเพื่อจับผิดเขา แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นมีใจให้กันอย่างไม่รู้ตัว เพราะมีใจจึงปกป้องได้แม้กระทั่งชีวิต "จูบของนับพอจะทำให้พี่ลืมจูบคุณไมค์ได้ไหมคะ" น้ำเสียงกระเส่าเอ่ยถาม "เหมือนจะยังไม่ได้" คนเจ้าเล่ห์ยิ้มตอบแล้วจูบปากอิ่มอย่างดุดันอีกครั้ง เรียวลิ้นของทั้งคู่ตะหวัดหยอกเย้าสลับดูดเม้มอย่างเป็นจังหวะ ทุกอย่างเกิดขึ้นเนิ่นนานก่อนที่ภูตะวันจะถอนจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง ทั้งคู่สบตากันและกันและนั่นก็คือคำตอบโดยไม่จำเป็นต้องเอ่ยอะไร "นับดีใจจังที่ได้รักพี่" นับพันดาวเอ่ยรับพร้อมกับซุกตัวเข้าหาภูตะวันมากขึ้น ชายหนุ่มปัดปอยผมที่ชื้นด้วยเหงื่อออกจากหน้าผากเธอแล้วจุมพิตหนักๆ อย่างเอาใจ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่หยุดแค่นั้น "อย่ารุ่มร่ามนะคะ พอแล้ว" นับพันดาวตีมือที่เริ่มซุกซนของภูตะวันเบาๆ นอกจากบ้ากามแล้วเขายังบ้าพลังอีกด้วย เธอยังไม่ทันหายเหนื่อยเขาก็จะเริ่มใหม่อีกแล้ว "ยังไม่พอ" เขาว่าอย่างติดตลกพลอยทำให้คนฟังค้อน เขาสูบพลังไปจากเธอจนหมดยังจะบอกว่าไม่พออีกหรือไง สำหรับภูตะวันแล้วเซ็กซ์แต่ล่ะวันแต่ล่ะคืนไม่เคยมีคำว่าครั้งเดียว "คนบ้ากาม" คำพูดของนับพันดาวทำให้คนฟังหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ "มีเมียน่ารักแบบนี้ใครที่ไหนจะอดใจไหว" เพราะเขินอายทำให้นับพันดาวทุบแผงอกของภูตะวันไปแรงๆ ก่อนที่เขาจะทำให้เธอครางกระเส่าออกมาอีกครั้ง ซึ่งนับพันดาวก็ไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด จูบที่อ่อนหวานกลายเป็นเร่าร้อนดุดันชนิดที่ไม่มีใครยอมใคร
สวาทรักพ่อเลี้ยงภูเมฆ “นี่คุณจะใจดีจ่ายหนี้แทนณดลอย่างนั้นเหรอ” เพราะไม่พอใจกับการตัดสินใจของเภตราทำให้เสียงของภูเมฆนั้นห้วนไม่น่าฟัง “ฉันจ่ายเพื่อซื้ออิสรภาพของตัวเองต่างหากแล้วค่อยไปเอาคืนผู้ชายห่วยๆ นั่น คุณอยากได้เท่าไหร่ก็ว่ามา” มีหรือที่เภตราจะจ่ายหนี้ให้ณดลกลับกันเธอจะเอาคืนอีกฝ่ายให้สาสมต่างหาก “ผมไม่รับเงินสดไม่รับเช็คหรืออะไรทั้งนั้น สิ่งเดียวที่ผมอยากได้คือแรงและเวลา ถ้าคุณทำตัวดีๆ สามสี่ปีก็น่าจะใช้หนี้ผมได้หมด” “แล้วสิ่งที่คุณทำกับฉันเมื่อคืนมันมีค่าเท่าไหร่ ไม่พอใช้หนี้เลยหรือไง” เภตราเอ่ยถามเสียงสั่นพร้อมกับน้ำตาที่จู่ๆ ก็เอ่อออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง ภูเมฆสบตาที่แดงก่ำของเธอแล้วเอ่ยขึ้น “ไม่พอ” คำตอบของเขาช่างแสนเลือดเย็นจนทำให้เภตราจุกไปทั้งอกก่อนจะกล้ำกลืนน้ำตาลงคอ เพราะไม่อยากให้มันไหลออกมาประจานตัวเอง ในเมื่อเขาไม่เห็นค่าของมันเธอไปเก็บมาใส่ใจแล้วจะได้อะไร
งานทำบุญครบร้อยวันยังมาไม่ถึงด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ อดีตคนรักของน้องสาวก็ประกาศจะแต่งงานกับผู้หญิงคนใหม่ แถมเธอคนนั้นยังเคยเป็นอดีตคนรักของเขาอีกด้วย นั่นทำให้คริสบินตรงกลับมาที่เมืองไทยเพื่อสะสางความแค้นให้เขาและน้องผู้จากไป +++++++++++++++++ “คุณ” ลลิตาอุทานออกมาอย่างตกใจ เพราะไม่คิดว่าคนที่ยืนกดออดอยู่หน้าบ้านเป็นคริส ชายหนุ่มรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่นี่ “ขอเข้าไปหน่อย” แขกที่ไม่ได้รับเชิญเอ่ยบอกแต่เจ้าบ้านสาวกลับไม่ยอมทำตามเช่นกัน “ฉันไม่สะดวก คุณมีอะไรก็พูดมาได้เลย” “แน่ใจหรอกว่าจะให้ผมพูดตรงนี้” “แน่ใจ” ลลิตาเชิดหน้าขึ้นสูง เธอต้องเอาชนะผู้ชายคนนี้ให้ได้ จะไม่ยอมให้เขาเห็นความอ่อนแอแน่นอน “โอเค แน่ใจก็แน่ใจ บังเอิญว่าผมยังเก็บคลิปเซ็กซ์ของเราไว้ดูต่างหน้า” “ว่าอะไรนะ!” คำพูดของคริสทำให้ลลิตารู้สึกเย็นวาบไปถึงตัว เพราะอารมณ์ในตอนนั้นมันพาไปเธอจึงยอมให้เขาถ่ายทุกอย่างเก็บไว้ ไม่คิดว่าวันนึงคลิปบ้าๆ นั่นจะตามมาหลอกหลอนเธอ “ได้ยินชัดแล้วนี่” “แต่ฉันลบมันไปแล้วกับมือ” ลลิตามั่นใจว่าเธอลบคลิปที่ว่ากับมือแล้วทำไมคริสถึงยังมีอีกหรือว่าเขาหลอกให้เธอตายใจ “ลบเสียเมื่อไหร่เพราะก่อนหน้านั้นผมสำรองไฟล์ไว้ดูหลายไฟล์ คิดถูกจริงๆ ที่ทำแบบนั้น” “สารเลว” “นอกจากมีคลิปแล้วผมยังเปิดดูมันบ่อยๆ ด้วยนะ คุณไม่อยากดูบทรักของเราหน่อยเราเหรอ” คริสเอ่ยอย่างไม่ไยดีราวกับเรื่องที่เขาทำนั้นเป็นสิ่งปกติ “คุณมาหาฉันเพื่อเอาคลิปอุบาทว์ๆ นั่นมาขู่อย่างนี้นะเหรอ” “ผมไม่ได้ขู่” “แล้วต้องการอะไร” “วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ช่วยหาเวลาให้ผมหน่อย ขอแค่สามวันเท่านั้น” นั่นคือหนึ่งในแผนที่จะทำลายผู้หญิงตรงหน้าของคริส “ถ้าฉันปฏิเสธล่ะคะ” ลลิตาจ้องตาเขากลับมาอย่างไม่กลัวเช่นกัน “คุณก็น่าจะเดาได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง คลิปในมือผมมันคงทำให้คุณดังกระฉ่อนทีเดียวล่ะ” ชายหนุ่มยิ้มมุมปากพร้อมหัวเราะออกมาเล็กน้อย คำขู่ของเขายังคงได้ผลกับลลิตาเรื่องแบบนี้คนที่เสียหายที่สุดคงเป็นผู้หญิงแบบเธอ “ถ้าคลิปนั่นหลุดขึ้นมา คุณเองก็จะดังกระฉ่อนไปด้วยไม่ใช่หรอ หน้าที่การงานที่คุณโหยหาและสร้างมันของคุณจะพังทลายไปเหมือนกัน” “มันคือเรื่องส่วนตัวฝรั่งเขาไม่แคร์เรื่องนี้หรอกอีกอย่างในคลิปนั้นก็ไม่เห็นหน้าผมด้วยสิ”
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวที่ยังเวอร์จิ้น! มาแก้ไขปริศนาประโยคนี้กันค๊า โดยแกนนำคือรอยส์ซีอีโอหนุ่มที่ตกหลุมรักลูกน้องคนเก่งที่มีสถานะเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวอย่างขวัญชีวาเข้าอย่างจัง กระทั่งเธอก็มีเหตุให้ยื่นใบลาออก รอยส์จึงใช้ความเจ้าเล่ห์เข้าล่อหลอกเพื่อให้เธอตกหลุมพราง แต่ดูเหมือนเขาต่างหากที่จะตกหลุมพรางที่ตัวเองขุดไว้เสียเอง ในเมื่อต้องการเรื่องอะไรจะปล่อยเธอไป ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องได้ด้วยกลไม่ได้ด้วยมนต์ก็ต้องได้ด้วยคาถา โอมมมม เพี้ยงงงงง
เธอถูกคนใกล้ตัวคิดร้ายและเขาคือเจ้าชายขี่ม้าขาว รวีคือหญิงสาวที่รอดตายจากการถูกลอบฆ่า เธอดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากก้นเหมืองและคนที่ช่วยชีวิตเธอไว้คือภีม บางคนกล่าวไว้ว่าความรักครั้งนี้ของภีมเกิดขึ้นจากความสงสาร แต่ชายหนุ่มก็พิสูจน์ให้เห็นว่าความรักที่เกิดจากความสงสารนั้นไม่ผิด เขารักเธอ รักผู้หญิงแปลกหน้าที่ใสซื่อและไร้พิษภัย เพราะรักจึงทุ่มเทและเลือกที่จะปกป้อง ใครหน้าไหนก็แตะเธอไม่ได้
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เดิมทีนางเป็นทายาทของตระกูลแพทย์เทพ แต่จู่ๆ นางก็กลายเป็นบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีที่พ่อไม่สนใจใยดีและแม่ก็เสียชีวิตตั้งแต่ยังนางยังเด็ก ในวันที่นางย้อนยุค นางถูกใส่ร้ายว่าเป็นผู้ร้ายตัวจริงที่สังหารฮูหยินจวนโหว นางพยายามพลิกผัน พลิกสถานการณ์ และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนาง นางคิดว่าภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกนั้นจบลงแล้ว แต่นางไม่รู้ว่าสิ่งที่นางจะต้องเผชิญคือเหวอันไม่มีที่สิ้นสุด เป็นถึงบุตรีของภรรยาเอกจากจวนเสนาบดีกลับมีอันตรายอยู้รอบตัวมากมาย ทุกคนก็รังแกนางได้ พ่อไม่สนใจนางจะเป็นหรือจะตาย แม่เลี้ยงและน้องสาวต่างแม่สนุกกับการทรมานนาง คู่หมั้นชั่วร้ายของนางอยากจะใช้นางเป็นประโยชน์เพื่อขึ้นไปที่สูง และแม้แต่น้องชายแท้ๆ ของนางยังทรยศนาง นางจึงเริ่มต่อสู้กับคนเจ้าเล่ห์ ข่มเหงแม่เลี้ยงของนาง และดูแลน้องชายและน้องสาวของนาง ดังนั้นนางวางแผนที่จะเล่นงานผู้ชายชั่ว เอาคืนแม่เลี้ยง และแก้แค้นน้องๆ ระหว่างที่นางแก้แค้นนั้น นางมีชีวิตที่มีความสุข แต่กลับไม่รู้ว่าไปยั่วยุคนใหญคนหนึ่งเข้าเมื่อไร เมื่อนางจะทำเรื่องไม่ดีหรือฆ่าคน เขาก็ช่วยนางหมด ในที่สุดนางก็อดไม่ได้ที่ถามออกมาว่า "ท่าน แม้ว่าข้าจะทำลายโลกที่ไม่มความยุติธรรมนี้ ท่านก็จะช่วยข้าเช่นกันหรือ" เขาทำหน้าใจเย็น "ตราบใดที่เจ้าอยู่เคียงข้างข้า แม้ว่าจะเป็นโลกใบนี้ ข้าก็สามารถให้เจ้าได้"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"