เมื่อ 8 ปีก่อน เขาถูกจองจำด้วย ‘ทะเบียนสมรส’ เนโลคลิส ซาเวลลาส ทายาทลำดับที่สองของกลุ่มธุรกิจ Black Dragon ชายหนุ่มคือนักล่าฝีมือฉกาจแห่งคราบสมุทรเมดิเตอเรเนียน เขาหล่อ ดุร้าย และไม่เคยก้มหัวให้ใครมาก่อน แต่ใครจะรู้ล่ะว่าเมื่อในอดีต นักล่าเช่นเขาเคยต้องสละอิสรภาพเพื่อแลกกับอะไรบางอย่างมาก่อน และเหตุการณ์นั้นก็ทำให้เขาต้องแบ่งปันนามสกุลกับเด็กสาววัย 16 ปีอย่างไม่มีทางเลือก เข็มหอม สวัสดิกุล หญิงสาววัย 24 ปีที่ภายนอกเต็มไปด้วยความสดใส แต่ภายในใจกลับเต็มไปด้วยบาดแผลฉกรรจ์ มันเกิดจากผู้ชายใจร้ายอย่างเนโลคลิส เขาแต่งงานกับหล่อน และก็เดินออกไปจากชีวิตของหล่อนในค่ำคืนนั้นทันที ท่ามกลางความสับสน เจ็บปวดที่ไม่เคยจางหาย จนกระทั่งตอนนี้หล่อนพบกับเขาอีกครั้ง เขาที่ก้าวกลับเข้ามาคุกคามความสาวของหล่อนทั้งๆ ที่ไม่มีสิทธิ์นั้นอีกแล้ว “หอมต้องการหย่าค่ะ” “จะไม่มีการหย่าเกิดขึ้น เพราะฉันกำลังจะทำให้การแต่งงานของเราสมบูรณ์”
February 25, 2009
กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย
มันไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไรเลย หากนักธุรกิจที่ในหัวอัดแน่นไปด้วยคำว่า ‘ความสำเร็จ’ จะยอมแลกทุกสิ่งทุกอย่างเพียงเพื่อจะปีนป่ายขึ้นไปให้ถึงเป้าหมายอันหอมหวาน
เนโลคลิส ซาเวลลาส มังกรดำลำดับที่ 2 แห่ง Black Dragon ชายหนุ่มหล่อ รวย และสุดแสนจะอหังการ นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มจัดร้อนแรงราวกับเปลวไฟ ในหัวทระนงมีแต่คำว่าบงการและไร้การผ่อนปรนเสมอมา แต่กระนั้นผู้ชายที่มีสายเลือดซาตานอยู่เต็มตัวเช่นเขา ก็ยังต้องยอมแลกบางอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ปรารถนามาครอบครองเฉกเช่นเดียวกัน
“คุณชายรองครับ คนของเราพึ่งแจ้งกลับมาว่าเจ้าของที่ดินไม่ยอมตกลงขายที่ดินให้เราครับ”
ใบหน้าหล่อจัดปานเทพบุตรเงยขึ้นช้าๆ นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มกลายเป็นสีมืดดำ เสียงลมหายใจผ่อนออกมาจากลำคอสีแทนกำยำแผ่วเบา
“งั้นปรับราคาซื้อให้สูงขึ้นอีก”
ผู้ชายร่างสูงใหญ่หกฟุตสามนิ้วลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินอ้อมโต๊ะทำงานออกมาเผชิญหน้ากับเลขาคนสนิท
“คุณก็รู้ว่าผมต้องการที่ดินผืนนี้มาก แบล็คดาร์กอนจะต้องสร้างโรงแรมตรงนั้นเท่านั้น มันคือทำเลทองที่ผมไม่อาจจะปล่อยให้หลุดมือไปได้”
“ผมทราบครับคุณชายรอง แต่...”
“ไม่มีแต่ ถึงแม้ว่าเราจะถูกปฏิเสธมาแล้วสิบสองครั้งก็ตาม”
สีหน้าของเนโลคลิสเรียบเฉย แต่กระนั้นความหล่อเหลาคมเข้มตามแบบฉบับของหนุ่มกรีกผู้เลอโฉมก็ยังคงสะท้อนออกมามากมาย จมูกโด่งเป็นสันงาม จนน่าตกใจว่าในโลกนี้จะมีมนุษย์คนไหนอีกบ้างที่มีจมูกโด่งสวยพอเหมาะพอเจาะแบบเนโลคลิส แต่ไม่ใช่แค่นั้นหรอก เพราะดวงตารียาวใต้ขนคิ้วดกหนาก็มีมนต์เสน่ห์ไม่แพ้กัน จอกอร์ส ซานพิซิดิส ที่รับใช้ในฐานะเลขาคนสนิทที่ดูแลทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวมานานมาก อดทึ่งในความสมบูรณ์แบบของเจ้านายหนุ่มไม่ได้ บนใบหน้าของเนโลคลิสไม่มีส่วนใดเลยที่ไม่น่าดึงดูดใจ แม้กระทั่งผู้ชายเช่นเขาก็มีบางครั้งที่หวั่นไหวเช่นกัน
“จ้องหน้าผมทำไม จอร์ส”
“เอ่อ เปล่าหรอกครับ ผมก็แค่... แปลกใจว่าทำไมคุณชายรองถึงต้องการที่ดินนั้นหนักหนา”
“เพราะมันคือทำเลทอง และเหมาะที่จะสร้างแบล็คดาร์กอน โฮเทลสาขาที่เก้าสิบแปดที่สุด”
“แต่ยังมีที่ดินตรงอื่นที่น่าสนใจอยู่อีกมากมายนะครับ ถึงแม้ทำเลจะไม่ดีเท่าที่ดินของตระกูลสวัสดิกุล แต่มันก็ไม่ได้ไกลกันสักเท่าไหร่ ผมว่าคุณชายรองน่าจะ...”
จอกอร์สยังพูดไม่ทันจบก็ถูกเนโลคลิสยกมือขึ้นห้าม ดวงตาสีน้ำเงินเข้มเต็มไปด้วยความกระหายอยากได้ความสำเร็จเป็นที่สุด
“ผมต้องการที่ดินตรงนั้นครับ และทางสวัสดิกุลจะต้องขายที่ดินให้ผมด้วย”
“ที่ดินแค่แปดไร่เศษ แต่เราเสนอไปถึงพันห้าร้อยล้านแล้วนะครับ แถมคุณอรณีก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมขายง่ายๆ ด้วย” คนพูดอ่อนอกอ่อนใจจนสัมผัสได้อย่างชัดเจน
“สองพันล้านผมก็จะซื้อครับ คุณไปแจ้งทางเจ้าของได้เลย”
จอกอร์สแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วนใจอย่างที่สุด แต่สุดท้ายก็จำต้องพูดในสิ่งที่เก็บไว้ออกมา
“คุณอรณีแจ้งความประสงค์มาว่า... ต้องการพบคุณชายรองครับ”
คิ้วเข้มหนาดกเลิกสูง มุมปากหยักสวยราวกับอิสตรียกขึ้นเล็กน้อยด้วยความแคลงใจ
“ต้องการพบผม?”
“ใช่ครับ เธอบอกว่าต้องการพบคุณชายรอง”
ไหล่กว้างผึ่งผายไหวน้อยๆ “ก็เอาสิ หากการพบหน้ากันแล้วจะทำให้ผมได้ที่ดินผืนนั้นง่ายขึ้น”
“คุณชายรอง... ตกลงหรือครับ”
“ใช่ แจ้งเจ้าของที่ดินได้เลยว่าผมจะเข้าไปพบที่บ้านในเย็นวันนี้”
“ครับ คุณชายรอง”
คนตัวโตเดินอ้อมโต๊ะทำงานไม้กลับไปนั่งบนเก้าอี้เช่นเดิม มือหนาหยิบปากกาด้ามทองหมุนไปมา
“อ้อ แล้วเตรียมกระเช้าของขวัญให้ผมด้วยล่ะ”
“รับทราบครับคุณชายรอง”
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
ซุปเปอร์คาร์สุดหรูแล่นเข้ามาจอดภายในคฤหาสน์โบราณที่ปลูกสร้างอยู่บนที่ดินแปดไร่เศษใจกลางเมืองกรุง เนโลคลิสก้าวลงจากรถหรู หยุดยืนมองไปรอบๆ สถานที่ตรงหน้าด้วยความแคลงใจ
เขาไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าคฤหาสน์โบราณของตระกูลสวัสดิกุลจะทรุดโทรมขนาดนี้
ชายหนุ่มละสายตาจากตัวคฤหาสน์เก่าแก่มาที่รถ เปิดประตูหยิบกระเช้าผลไม้ที่จอกอร์สเตรียมเอาไว้ให้ขึ้นมาถือ กำลังจะก้าวเท้าเข้าไปภายใน แต่แล้วก็ต้องเซเมื่อถูกวัตถุนุ่มนิ่มบางอย่างชนเข้าอย่างจังที่ด้านหลัง ด้วยสัญชาตญาณของนักล่า มือใหญ่ตวัดคว้าวัตถุที่พุ่งเข้าใส่แผ่นหลังของตัวเองเข้ามากอดเอาไว้แน่น ก่อนที่วัตถุนั้นจะกระเด็นกระดอนหรือลอยหายไป
“ว๊ายยย...”
เสียงหวีดร้องตกใจของผู้หญิง ไม่สิ... เด็กผู้หญิงต่างหากดังขึ้นสนั่นแก้วหู พร้อมกับมือเล็กที่ทุบลงบนต้นแขนล่ำเต็มแรง
“ปล่อยนะ ไอ้คนบุกรุก”
เนโลคลิสปล่อยมือจากเจ้าวัตถุนุ่มนิ่มที่พุ่งเข้ามาใส่ตามคำสั่งแหลมเล็ก แต่ดวงตาคมกริบยังไม่ได้ละไปจากดวงหน้าละมุนอ่อนเยาว์ของสตรีวัยแรกสาวตรงหน้า
เขาพบว่านอกจากใบหน้าที่อ่อนเยาว์ของเจ้าหล่อนแล้ว ไม่มีส่วนไหนของแม่คุณที่บ่งบอกว่ายังเป็นเพียงแค่เด็กหญิงอยู่เลย สัมผัสนุ่มนิ่มที่แนบชิดเมื่อครู่ทำให้เขาอดอมยิ้มเอ็นดูไม่ได้
“ฉันไม่ได้บุกรุกหรอกสาวน้อย”
ดวงตากลมโตขุ่นขวางหรี่แคบมองมาที่เขาอย่างพิจารณา “ไม่ได้บุกรุก แล้วเข้ามาในบ้านของฉันทำไม”
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว