เมื่อน้องชายทำผิดใหญ่หลวง ฟางข้าวจึงต้องเดินทางมาหาคนเถื่อนอย่างเขา เพื่อรับผิดชอบแทนทุกการกระทำของน้องชาย... “ตอนกลางวันคุณก็ทำงานบ้าน แล้วก็ไปช่วยงานในไร่ ส่วนตอนกลางคืนก็ทำหน้าที่ที่คุณถนัด ดีไหม” หล่อนเงื้อมือจะฟาดหน้าของขุนเขาอีกครั้ง แต่เขาคว้าเอาไว้เสียก่อน “ถ้าตบผมอีก ผมจะฆ่าไอ้น้องระยำของคุณเดี๋ยวนี้แหละ” ฟางข้าวน้ำตาซึม สะบัดมือแรงๆ ออกจากอุ้งมือหนาของเขา “คุณมันคนชั่วร้าย” ขุนเขาหัวเราะร่วน เขาไหวไหล่กว้างของตัวเองขึ้นลงอย่างไม่แสแยน้ำตาของฟางข้าวเลย “ผมให้เวลาคุณสิบวินาที ตัดสินใจว่า จะทำตามข้อเสนอของผม หรือว่าจะออกไปจากที่นี่ แล้วปล่อยให้ไอ้ต้นน้ำมันเข้าไปนอนในคุก”
สีสันยามราตรีของเมืองหลวงที่อยู่เบื้องหน้า ไม่ได้สร้างความสุนทรีย์ใดๆ ให้กับ ขุนเขา อาโอยามะ ได้เลยแม้แต่น้อย
แต่ที่เขาต้องมาเฉียดเข้าใกล้สถานที่อโคจรเช่นนี้ เพราะว่ามีนัดกับเพื่อนสนิทที่เคยเรียนที่ประเทศอังกฤษมาด้วยกันนั่นเอง
ขุนเขา อาโอยามะ ชายหนุ่มผู้เกิดมาพร้อมกับรูปลักษณ์ดั่งเทพเจ้าปั้นแต่ง บิดาของเขาคือหนุ่มญี่ปุ่นผู้มีใบหน้าหล่อเหลา ในขณะที่มารดานั่นเป็นสาวงามเลื่องชื่อของชุมพร
เขาคือชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น ผู้มีผิวขาวใสอมชมพู แม้ว่างานของเขาจะอยู่กลางแดดแทบจะตลอดเวลาก็ตาม
จมูกของขุนเขาโด่งเป็นสัน รับกับริมฝีปากหยักสวยสีแดงระเรื่อคล้ายสีของเลือดสดๆ ดวงตาของเขาก็ทั้งดุดันและหวานฉ่ำในเวลาเดียวกัน
เรียกได้ว่าบนใบหน้าของขุนเขานั้น มีแต่จุดเด่น หาจุดด้อยไม่เจอเลยแม้แต่จุดเดียว
นอกจากคนงานในไร่กาแฟนับหมื่นไร่ของเขาแล้ว ก็แทบไม่มีใครล่วงรู้เลยว่า ภายใต้ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรของขุนเขานั่น ซ่อนความเย่อหยิ่ง ป่าเถื่อนเอาไว้แค่ไหน
ขุนเขามีรูปลักษณ์งดงามราวกับเทพบุตร แต่ลักษณะนิสัยของเขานั้น เกินกว่าคำว่า ซาตาน หากใครบังอาจทำให้เขาไม่พอใจ
แม้อายุของเขาจะเพิ่งสามสิบสาม แต่ชายหนุ่มก็สามารถดูแลไร่กาแฟกว้างใหญ่ และลูกน้องภายในไร่อีกหลายร้อยชีวิตได้เป็นอย่างดี
คนงานในไร่ ขยันขันแข็ง และก็พยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด เพราะทุกคนรู้ดีว่า หากทำดี พวกเขาก็จะได้รับรางวัลตอบแทน แต่ถ้าทำผิดพลาด ทำงานสะเพร่า ก็จะต้องถูกขุนเขาลงโทษอย่างสาสมเช่นกัน
หลังจากเรียนจบจากประเทศอังกฤษ ขุนเขาก็เดินทางเข้ามาในประเทศไทย และปักหลักช่วยคุณตาของตัวเองทำไร่กาแฟออร์แกนิก จนตอนนี้กิจการรุ่งเรืองก้าวหน้า จนตอนนี้ไม่มีใครไม่รู้จักไร่กาแฟออร์แกนิกที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้
ผลั่ก...!
เสียงคล้ายกับมีอะไรบางอย่างมากระแทกเข้ากับรถยนต์ที่ติดเครื่องจอดอยู่ เสียงที่ดังแว่วเข้ามาทำให้ความคิดทุกอย่างหยุดลง ดวงตาคมกริบมองหาต้นเหตุของเสียง
ผู้หญิงคนหนึ่งก้มศีรษะอยู่ข้างๆ รถยนต์ และเจ้าหล่อนก็ยกมือขึ้นไหว้
หล่อนสินะที่เป็นต้นเหตุของเสียงที่เขาได้ยิน
ขุนเขาเปิดประตูรถ พร้อมกับก้าวลงไปเผชิญหน้า
ด้วยรูปร่างสูงใหญ่ของเขา ทำให้ผู้หญิงที่ยืนยกมือไหว้อยู่ข้างๆ รถตัวเตี้ยลงไปถนัดตา ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเส้นผมสีดำขลับยาวสลายถึงกลางแผ่นหลังนั้นอยู่ในระดับของปลายคางของเขาเท่านั้นเอง
“ขอโทษนะคะ ขอโทษที่ฉันเดินชนรถของคุณค่ะ ขอโทษจริงๆ ค่ะ”
เขาได้ยินคำพูดของผู้หญิงตรงหน้าไม่ชัดนัก คงเพราะตอนนี้สายตาของเขากำลังสำรวจรูปลักษณ์ของเจ้าหล่อนอยู่นั่นเอง
ผู้หญิงคนนี้มีดวงตาที่สวยอย่างที่เขาไม่เคยเห็นมาก่อน แม้ว่าตอนนี้หล่อนจะอยู่ในอารมณ์ตื่นตกใจ แต่ดวงตาคู่ตรงหน้าที่เขาได้เห็น กลับดึงดูดให้เขาไม่สามารถละสายตาได้เลย
ดวงตากลมโต ขนตายาวและงอนเหมือนกับดัดขนตาอยู่ตลอดเวลา ขนคิ้วเรียงเส้นกันสวยเหมือนกับวาดแต่งด้วยดินสอจากช่างแต่งหน้ามืออาชีพไม่มีผิด จมูกของหล่อนโด่งเชิด รับกับริมฝีปากอวบอิ่มที่ไม่หนาไม่บางจนเกินไป สีปากของหล่อนที่เขาเห็นในตอนนี้คือสีแดงระเรื่อ เหมือนสีของผล
สตอเบอรี่สุก
หล่อนสวย...
และหล่อนก็ทำให้เขายืนงงอยู่ในดงความงดงามของหล่อนไปหลายอึดใจเลยทีเดียว
“ฉัน... รีบเดินน่ะค่ะ ก็เลยไม่ทันระวัง ขอโทษนะคะ...”
หล่อนกล่าวขอโทษอีกครั้ง และนั่นก็ทำให้เขาสามารถดึงสติออกมาจากความงามของหญิงสาวตรงหน้าได้ชั่วขณะ
ทำไมรู้สึกเหมือนเพิ่งร่วงหล่นลงไปในเหวลึกแบบนี้นะ
ผู้หญิงตรงหน้ากำลังทำให้เขารู้สึกหวั่นไหวแปลกประหลาด
มันคือความรู้สึกที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนเลยในชีวิต
กรามแกร่งของขุนเขาขบกันแน่น เมื่อพยายามที่จะดึงสติของตัวเองให้เป็นปกติที่สุด
“รถไม่เป็นไรหรอกครับ ว่าแต่คุณเถอะ เจ็บตรงไหนหรือเปล่า”
ความหวาดวิตกในดวงตากลมโตแสนหวานของสตรีตรงหน้าค่อยๆ จางหายไป โดยมีรอยยิ้มเล็กๆ ที่มุมปากสวยเข้ามาทดแทน
“ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ ว่าแต่... คุณไม่โกรธฉันใช่ไหมคะ เอ่อ... ที่ฉันรีบร้อนจนเดินกระแทกเข้ากับรถของคุณน่ะค่ะ”
เขาชอบรอยยิ้มของหล่อนจัง...
“ผมไม่ใช่คนใจแคบแบบนั้นหรอกครับ”
“งั้น... ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ” ผู้หญิงที่เขายังไม่ได้รู้จักแม้แต่ชื่อยกมือไหว้อีกครั้ง ก่อนจะรีบเอ่ยขอตัว
“ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ นี่ใกล้เวลาทำงานแล้ว”
คิ้วเข้มของขุนเขาเลิกสูง และเขาก็หันมองไปรอบๆ ตัว
“คุณทำงานแถวนี้หรือครับ”
“ใช่ค่ะ ฉันทำงานที่นั่น”
เขามองตามสายตาของหญิงสาวไป ก็พบว่าหล่อนทำงานในไนต์คลับ สถานที่ที่เขากับเพื่อนนัดเจอกันนั่นเอง
“อ๋อ...” เขาพยักหน้าขึ้นลงเล็กน้อย
“ขอตัวก่อนนะคะ และก็ขอบคุณมากเลยค่ะที่ใจดีกับฉัน”
หล่อนทำท่าจะปลีกตัวเดินจากไป แต่เขายื่นมือไปคว้าแขนเรียวเอาไว้เสียก่อน
เจ้าหล่อนมองมือใหญ่ของเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ เขาจึงต้องรีบปล่อย และเอ่ยขอโทษ
“ขอโทษทีครับ ผมลืมตัวไป”
หล่อนทำเพียงแค่ยิ้มบางๆ ให้เท่านั้น
“ผมก็แค่... อยากจะรู้จักชื่อของคุณ”
หล่อนมองเขานิ่ง และแววตาก็ยังมีความไม่ไว้ใจฝังอยู่ในนั้น
“ฉันชื่อฟางข้าวค่ะ ขอตัวนะคะ”
“ผมชื่อขุนเขาน่ะครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ขอตัวค่ะ”
ในขณะที่เขาตอบกลับไปว่า ยินดีที่ได้รู้จักหล่อนเช่นกัน แต่หญิงสาวก็เดินจากไปไกลแล้ว
ขุนเขามองตามร่างเล็กกะทัดรัดของผู้หญิงที่บอกเขาว่าชื่อฟางข้าวไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ
ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะรู้สึกใจเต้นแรงได้ขนาดนี้ กับผู้หญิงที่ชื่อฟางข้าว
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
สังคมภายนอกต่างรับรู้กันว่า ดุจตะวันหรือหมอซันเป็นนายแพทย์ เป็นเจ้าของโรงพยาบาล เป็นหนุ่มหล่อ ผู้ดิบผู้ดี ท่าทีสุขุมนุ่มลึก แต่แท้จริงแล้วเขามีด้านมืดซุกซ่อนอยู่ในภายใน เขามี ‘ ห้องขาว ’ อยู่ติดห้องนอน ใช่ เขาชอบสีขาว ชอบทุกอย่างที่ขาวสะอาดรวมไปถึงผู้หญิงด้วย... บ่อยครั้งที่เขาจะซื้อผู้หญิงบริสุทธิ์สะอาดมาไว้รองรับความใคร่ของตัวเองด้วยราคาแพงลิบลิ่ว แน่นอนว่าพวกเธอต้องยินยอมพร้อมใจ ไม่ได้เกิดจากการบังคับแต่อย่างใด การมอบพรหมจรรย์ให้กับผู้ชายที่ทั้งหล่อและหุ่นดีสูสีดารานายแบบ แลกกับเงินทองและความสะดวกสบายนั้น มันช่วยให้ทำใจได้ง่ายขึ้นเยอะ แค่ต้องเป็นนางบำเรอให้จนกว่าเขาจะเบื่อ สิ่งเดียวที่ต้องบังคับตัวเองให้ไม่ทำนอกเหนือไปจากหน้าที่ คืออย่าเผลอไปตกหลุมรักเขาเด็ดขาด เพราะคนอย่างดุจตะวันไม่มีหัวใจ... ตัวอย่างความคลั่งไคล้ของคูมหมอ : “ ดีไหม ” จู่ ๆ เขาก็ถามขึ้นเล่นเอาเธอตกใจ “ อะไรคะ ” “ เอากับฉัน ดีไหม ” ใบหน้าของเธอร้อนวูบ พวงแก้มซับสีเลือดแดงระเรื่อ เธอกัดริมฝีปากอย่างเขิน ๆ แต่กิริยานั้นทำให้เขาเกิดอารมณ์ ริมฝีปากจิ้มลิ้มน้อย ๆ นั่นน่าแทงของใหญ่เข้าไปชะมัด ! *** “ เจ็บมากหรือเปล่า ” ห่วงหนูด้วยเหรอคะ ตอนขอให้เบาไม่เคยเบา ! เด็กสาวแอบคิดในใจ แต่ก็ตอบออกไปสั้น ๆ อย่างสุภาพ “ ค่ะ ” “ ขย่มฉัน ” เธอเงยหน้ามองเขาอย่างตกใจ ถามอย่างไม่เชื่อหู “ อะไรนะคะ ” “ ฉันอยากให้เธอขย่มฉันในน้ำ ” แล้วจะถามทำไมว่าเจ็บหรือเปล่า ?!
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
เกิดใหม่ในชาตินี้ นางแค่ต้องการอยู่อย่างสงบสุขปกป้องครอบครัวจากเรื่องร้ายที่จะเกิดขึ้น นางไม่อยากตกอยู่ในบ่วงรักอันทำให้ครอบครัวต้องพบกับวิบัติอีกต่อไปแล้ว... คำเตือน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า มีฉากความรุนแรง ฉาก NC และมีฉากเศร้าสะเทือนใจ โปรดพิจารณาก่อนดาวโหลดนะคะ กราบขอบพระคุณค่ะ
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"