หนี้สินที่พ่อหยิบยืมเอามาลงทุนกับไร่ถึงเวลาที่ต้องส่งทั้งเงินต้นและดอก แต่โชคร้ายที่ปีนั้นขาดทุน ด้วยความรักลูกไม่อยากให้รู้เรื่องนี้จึงปิดไว้ แต่ความลับไม่มีในโลก! อวัสดาที่เพิ่งเรียนจบหมาด ๆ ตั้งใจกลับมาช่วยสืบทอดกิจการของที่บ้านต้องเจอเข้ากับเรื่องไม่คาดคิด เธอต้องหาเงินมาใช้หนี้ภายในหนึ่งเดือน ด้วยจำนวนเงินมากมายทำให้เธอหมดหนทางเลือก จำใจต้องไปคุยกับเจ้าหนี้ให้รู้เรื่อง
ไร่อวัสดา กำลังตกอยู่ในขั้นวิกฤตหนัก เมื่อผลประกอบการช่วงปีที่ผ่านไม่ดีเอาเสียเลย ผลไม้เน่าเสีย ราคาตกต่ำไม่พอแม้จะจ่ายค่าจ้างต่าง ๆ ทำให้ชีวิตสะดุดไปมากนัก กระทั่งเขาต้องไปกู้หนี้ยืมเงินมาหมุนเวียนในไร่ แต่ก็ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้
ชรันตร์นั่งทำหน้ากลุ้มใจมองหน้าขุนพลลูกน้องพ่อเลี้ยงพันกร เมื่อครบกำหนดต้องชำระเงินตามสัญญา เอกสารสัญญาฉบับสำเนาถูกวางไว้ตรงหน้า
“เงินที่พ่อเลี้ยงยืมไปใกล้ถึงกำหนดคืนทั้งต้นและดอกแล้วนะ”
“ปีนี้ขาดทุน ผมไม่มีเงินคืนให้ ขอเป็นปีหน้าได้ไหม รับรองจะคืนทุกบาททุกสตางค์แน่นอน” เขาพูดด้วยความมั่นใจแม้จะไม่เต็มร้อยแต่ก็แน่ใจว่าต้องหาเงินมาคืนให้ได้แน่นอน
“ไม่ได้ กำหนดคือสิ้นเดือนนี้ถ้าไม่เอาเงินมาคืน พ่อเลี้ยงก็เตรียมตัวย้ายออกจากที่นี่ได้เลย”
“เงินมากมายแบบนั้นผมหาคืนให้ตอนนี้ไม่ได้หรอก ขอเวลาอีกหน่อยได้ไหมคุณเลขา ช่วยพูดกับพ่อเลี้ยงหน่อยนะ”
“ผมคุยให้คุณมาสามครั้งแล้ว พ่อเลี้ยงกำชับมาต้องได้สิ้นเดือนนี้”
ชรันตร์ทำหน้ากลุ้มใจ ยกมือขึ้นลูบหน้า อย่างจนหนทาง ไม่ใช่
เพียงแค่เขาต้องเสียไร่ ยังต้องรับผิดชอบชีวิตคนงานที่หลายสิบคนที่ต้องขาดรายได้ และยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับบุตรสาว
รถแท็กซี่แล่นเข้ามาจอดด้านหน้าออฟฟิศในไร่ พร้อมร่างอวัสดาที่ตั้งใจจะมาเซอร์ไพรส์ผู้เป็นพ่อก้าวเท้าลงมา ดวงตาสดใส ริมฝีปากอมชมพูคลี่ยิ้มมองภาพตรงหน้า แม้จะเปลี่ยนไปไม่มากแต่ยังคงภาพเดิมเหมือนก่อนที่เดินทางไปเรียนต่างประเทศ
“ฉันกลับมาแล้ว” เธอเอ่ยกับสายลมพัดยามเย็น แสงสีทองจากฟากฟ้าสาดส่งกระทบกับสิ่งของ
“คุณหนู!” ปราบปลื้มที่เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ก็รีบวิ่งมาหาด้วยท่าทางดีอกดีใจ
“โตขึ้นกว่าเดิมหรือเปล่าเนี่ย” เธอมองเด็กหนุ่มที่สูงใหญ่กว่าเธอมากนัก จำได้ว่าครั้งล่าสุดที่เจอตัวไม่สูงไม่เท่าไหร่
“พี่เรียนจบแล้วเหรอ จะกลับมาอยู่ยาวเลย”
“ตั้งใจจะอยู่ช่วยงานที่นี่สักพักใหญ่เลย” เธอบอกพร้อมรอยยิ้ม แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยิ้มตามแถมยังมีความกังวลใจจนเห็นได้ชัด พอได้เห็นแบบนั้นในใจก็เริ่มเป็นห่วงผู้เป็นพ่อ “พ่ออยู่ไหน”
“อยู่ในห้องทำงานครับ เอ่อ คุณหนู”
“มีอะไรหรือเปล่า”
“ไม่มีครับ”
อวัสดาเดินเข้าไปในออฟฟิศผู้เป็นพ่อ ทันทีที่บานประตูเปิดกว้าง ดวงตากลมโตก็เห็นชายคนหนึ่งยืนตรงหน้าก่อนจะหลีกทางให้เธอเดินเข้ามาด้านในแล้วสวนออกไป ความสงสัยจากคำพูดของปลาบปลื้มและยังมาเห็นคนจากไร่พันกรที่นี่อีกยิ่งเพิ่มมากขึ้น
“เซอร์ไพรส์ค่ะ” เธอเดินเข้าไปส่งยิ้มกว้างให้ผู้เป็นพ่อแต่ต้องแปลกใจกับสีหน้าไม่สู้ดีของอีกฝ่าย “มีอะไรหรือเปล่าคะ”
“ไม่มีอะไร ลูกมาเหนื่อย ๆ ไปพักผ่อนก่อนนะเดี๋ยวพ่อให้คนทำกับข้าวเลี้ยงต้อนรับ” ชรันตร์ฝืนยิ้มให้ เพราะไม่อยากให้ลูกสงสัย
“ขอบคุณค่ะ แต่หนูอยากเดินดูไร่ของเราก่อน”
“เอาสิ เดี๋ยวพ่อให้ปลื้มพาไปนะ” ชรันตร์บอกพยายามซ่อนพิรุธไว้
“พ่อไม่ได้มีอะไรปิดบังหนูจริง ๆ ใช่ไหมคะ” อวัสดาเปิดปากถามหลังรอให้อีกฝ่ายเป็นคนเล่า แต่ก็ไม่ยอมพูด
“ไม่มี เดี๋ยวพ่อเรียกปลื้มมาหานะ” ชรันตร์เดินไปเปิดประตูเรียกหาปราบปลื้ม
เธอไม่เล้าหลือต่อความยาว ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายเก็บเงียบ ก่อนเดินไปสำรวจไร่ที่เคยอยู่อาศัยมาตั้งแต่เด็ก เห็นการเปลี่ยนแปลงไปมาก
อวัสดาเดินมาหยุดมองวิวภูเขาสูง เริ่มเห็นกลุ่มอากาศที่ลอยจับตัวกันเป็นวงสีขาว หญิงสาวหันมองหน้าปราบปลื้มที่กำลังสนใจของที่เธอซื้อมาฝาก ก่อนจะเดินไปแย่งมาถือไว้
“ปลื้ม ที่ไร่มีอะไรหรือเปล่า”
“เอ่อ”
“บอกฉันมาเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันเอาเสื้อผ้าพวกนี้ไปขายทิ้งให้หมด
ไม่สิเอาไปให้คนงานคนอื่นดีกว่า เผื่อว่าเขาจะบอกว่าเกิดอะไรขึ้น” อวัสดาหยิบป้ายราคาที่ยังติดอยู่กับตัวเสื้อขึ้นมาก่อนจะทำท่าเก็บใส่ถุง ทว่าถูกปราบปลื้มแย่งไป
“ผมบอกก็ได้ แต่พี่อย่าบอกพ่อเลี้ยงว่าผมเป็นคนพูดนะ”
ปราบปลื้มเล่าเรื่องที่พอทราบให้อีกฝ่ายฟังแม้จะลงรายละเอียดไม่ลึกมากนักแต่พอทำให้รู้ว่าไร่อวัสดากำลังตกที่นั่งลำบาก และพ่อของเธอกำลังแบกรับทุกอย่างเอาไว้
เย็นวันเดียวกัน หลังกินข้าวเสร็จเรียบร้อย อวัสดาเดินมานั่งข้างผู้เป็นพ่อที่กำลังตรวจสอบบัญชีอยู่ เธอมองหน้าอีกฝ่ายชั่วครู่แล้วเอ่ยปากถาม
“พ่อช่วยเล่าเรื่องให้แพทฟังหน่อยได้ไหม มันเกิดอะไรขึ้นถึงต้องกู้เงินคนอื่นแบบนี้”
ชรันตร์ชะงักสิ่งที่กำลังทำอยู่ เงยหน้ามองบุตรสาวก่อนจะถอดแว่นตาลงถอนหายใจหนัก ๆ ไม่ว่าเรื่องอะไรเขาไม่อาจปิดบังลูกสาวคนนี้ได้เลย
“สามปีก่อน พ่อไปงานเลี้ยงที่อำเภอมีคนแนะนำให้คนที่จะช่วยบริหารจัดการด้านการเงินให้ พ่อหลงเชื่อให้เขาช่วยดูแล แต่สุดท้ายพ่อจับได้ว่าเขาไม่ได้ช่วย แต่โกงเงินพ่อไปจนหมด โชคดีที่คุณพันกรเข้ามาช่วยไว้ แต่พ่อมารู้ตัวก็สายแล้วพ่อต้องช่วยคนงานให้ยังมีงานมีเงินทำ” ชรันตร์เล่า พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรก็เจ็บใจทุกครั้ง แต่จะโทษใครได้ หากไม่ใช่ความโง่ หูเบาของตัวเอง
หากคุณเชื่อเรื่องความบังเอิญ คุณก็คงเชื่อเรื่อง พรหมลิขิต เช่นกัน ทิศเหนือสะดุดรักแรกพบ และเฝ้ารอคอยการเจอกับเธออีกครั้งและสัญญากับตัวเองจะไม่มีวันปล่อยเธอให้หลุดมือไป
ทุกคนมีความชื่นชอบเป็นของตัวเอง แต่เธอที่ชอบและมโนหยามใจพิมพ์ลงเป็นเรื่องราวจนเกิดความเดือดร้อน แต่รสสุคนธ์ก็ได้ชดใช้ให้เขาไปแล้ว ทว่าเรื่องราวไม่จบเมื่อธราธิปรู้ว่าเจ้าหล่อนหอบลูกในท้องหนี
ทศกัณฐ์ หวงความโสด และถูกเข้าใจผิดคิดว่าชอบผู้ชายด้วยกัน จันทร์จิราถูกไหว้วานให้ทำยังไงก็ได้ให้หลานชายของเรืองศักดิ์กลับมาเป็นชายชาตรีอีกครั้ง โดยที่เธอไม่รู้ลยว่ามันเป็นแผน
เมื่ออยู่ๆ เจ้านายที่สาวๆ หมายปองปรากฏกายต่อหน้าแถมยังให้ไปทำงานใกล้ชิด ตำแหน่ง ช่างเสื้อส่วนตัว แต่หน้าที่ของเธอนั่นเหมือนสาวใช้ส่วนตัวเสียนี่สิ แถมยังมีหน้าที่พิเศษที่ทั้งสุขปนซาบซ่านรออยู่อีกด้วย.... “ก็ได้ ฉันยอมหยุด ออกไปซะ แต่ถ้าอยากให้ฉันคลายความทรมานให้ก็ถอดเสื้อผ้าออกให้หมด”
“จะทำอีกเหรอ ไหนว่าจะอาบน้ำไง” “ช่วงนี้ฤดูหนาว ไม่อาบน้ำก็ไม่เหม็นหรอก” เมื่อพ่อเลี้ยงหนุ่มหล่อเหลาต้องการเพื่อนรักของน้องสาว แผนการรักหื่น ซาบซ่านจึงอุบัติขึ้น เนื้อหาในเรื่องเน้นความหื่นเป็นหลัก พิจารณาก่อนกดซื้อเพราะคุณอาจพลาดความมันส์.....
“ทำอะไรกัน” มัลลิกาได้ยินเสียงลูอิสก็พยายามลุกขึ้นเดินไปหาเขา กำเสื้อเชิ้ตไว้ทั้งสองมือ “กลับมาแล้วเหรอคะ” “คุณดื่มเหรอ” ลูอิสก้มลงดมกลิ่นใกล้ ๆ เธอส่ายหน้าหันไปชี้ทางโดมินิกและอลิส “คุณหมอบอกเป็นยาบำรุงร่างกายค่ะ” ลูอิสมองหน้าเพื่อน คว้าเอวคอดไว้เมื่อเจ้าหล่อนทำท่าจะเซล้มไปทางอื่นให้ขยับมาพิงกายตัว แต่คนเมาดื้อยันมือออกห่างแถมยังใจกล้ากำเสื้อเขาไว้ “จริงไหมคะ” “เรื่องอะไรครับ” ลูอิสควงหญิงสาวไปทางโซฟารั้งเธอให้นั่งบนตัก มัลลิกาแกะมือที่จับเอวขยับขึ้นนั่งคร่อมสอดแขนคล้องลำคอมองหน้าเขาอย่างเรื่อง โดยไม่รู้เลยว่าการกระทำของเธอกำลังทำให้เก๊กขรึมหลุดภาพลักษณ์ “ก็คุณโดมินิกเล่าว่าคุณแอบซุกกิ๊กไว้ที่บริษัท ที่ให้พลอยอยู่แต่บ้านเพราะตัวเองจะได้มีความสุขส่วนพลอยก็นั่งโง่ ๆ ทำกับข้าวรอสามี รอนอนพร้อมคุณเท่านั้น” เธอชี้ไปทางคนเล่าที่ยกมือขึ้นฉับ ลูอิสมองหน้าเพื่อนอีกฝ่ายรีบลุกขึ้นขยับถอยห่าง “พวกเรากลับก่อนนะ” อลิสลุกขึ้นตามแรงสะกิดส่งยิ้ม “กลับแล้วเหยอ” คนเมาหันไปถามเสียงยาน “แล้วอลิสมาหาใหม่นะคะ” “ค่ะ บ๊ายบาย” มัลลิกาที่เมากรึ่มพยักหน้าโบกมือให้ ก่อนจะหันกลับไปมองหน้าสามีอย่างเอาเรื่อง ลูอิสมองอาการขู่เป็นลูกแมวแล้วยิ้ม ยกมือขึ้นลูบเส้นผมนุ่มความเหนื่อยจากการทำงานถูกเธอช่วยชำระล้างอย่างง่ายดายอยู่ทุกวัน เสียงเตือนข้อความเข้า “อลิสบอกว่าวันนี้เหมาะที่สุดสำหรับการปั๊มลูก ฉันเอาใจช่วยนายนะ” มัลลิกาแย่งมือถือเขาแล้ววางไว้ข้างกาย กุมหน้าคมคายให้หันมาสนใจ “จริงไหมคะ” “เรื่องไหน” ลูอิสถามเธอพร้อมกระเตงร่างหญิงสาวขึ้นเดินออกจากห้องนั่งเล่นตรงไปห้องนอน ทุกจังหวะการเดินมั่นคงหนักแน่น สายตาก็มองหน้าคนเมาแล้วยิ้มอารมณ์ดี ไม่ว่าจะมองอีกกี่ครั้ง มัลลิกาก็เป็นคนที่สามารถทำให้เขารู้สึกดีโดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย “ที่ไม่ยอมให้พลอยไปทำงานเพราะจะได้มีความสุขกับพวกหล่อน” มัลลิกาว่าพรางทำแก้มป่องสอดสองแขนคล้องคอ ลูอิสยิ้มชอบใจที่ได้เห็นอาการคล้ายหึงหวงตนจากเจ้าหล่อน ประตูห้องถูกเปิดและปิดลงพร้อมสองกายเดินเข้ามาด้านใน สะโพกได้รูปถูกวางบนเตียงกายชายกำลังจะถอยออกห่างแต่ถูกแขนที่คล้องคอรั้งไว้ จนเขาต้องตอบเสียงหนักแน่น “ผมมีแค่คุณ”
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง