ครั้งหนึ่ง องค์ชายเฟซาน บิน นาห์ยาน อัล-ซาอัด เจ้าชายแห่งทะเลทราย เคยลุ่มหลง เมริสา สาวไทยแสนสวยจนถึงขั้นคิดจะอภิเษกสมรสด้วย แต่แล้วก็ถูกสาวเจ้าทรยศ หักหลังอย่างร้ายกาจ หลายเดือนต่อมาวงล้อการแก้แค้นหมุนมาบรรจบอีกครั้ง องค์ชายเฟซานจะทำทุกทางที่จะลากตัวเมริสามาชดใช้ความผิดในอดีตให้จงได้ “เมย์ไม่คิดว่าจะเจอคุณที่นี่... ไม่คิดว่าชาตินี้จะมีวาสนาพบคุณอีก” “ก็อุตส่าห์บินมาหาไม่ใช่หรือ...” นิ้วแกร่งไล้กลีบปากอิ่มที่เขาเคยดูดดื่มแผ่วเบา “ค่ะ เมย์อยากเจอคุณ เมย์อยากจะอธิ...” “หุบปาก! คำพูดของผู้หญิงแพศยาแบบเธอไม่สามารถทำให้ฉันเคลิบเคลิ้มได้อีกแล้ว” เมริสาน้ำตาไหล พยายามอ้อนวอน “แต่เฟซานคะ เมย์ต้องสารภาพกับคุณ เรื่องวันนั้น เมย์กับโจเซฟเราไม่...” “ฉันไม่อยากฟังเรื่องอัปปรีย์ของเธออีก!” นัยน์ตาสีทองเรืองรองไปด้วยความเคียดแค้น “เลิกพยายามคิดที่จะพูดให้ตัวเองดูดีได้แล้วเมริสา เพราะไอ้เฟซานคนโง่คนเดิมมันตายไปพร้อมๆ กับอุบัติเหตุเมื่อหกเดือนก่อนแล้วล่ะ” “อย่าค่ะ... อย่าทำกับเมย์แบบนี้ ได้โปรดหยุดเถอะ” เฟซานหัวเราะอย่างดูถูก “ปกติโดนมากกว่านี้อีกไม่ใช่หรือ... ไม่เอาน่า แค่ขย้ำนิดหน่อย ไม่สึกหรอกว่าที่เป็นอยู่หรอก” “แต่เมย์... เมย์ไม่เคยมีใคร...” “เอาไปหรอกควายที่บ้านเธอเถอะ... แต่ถึงเธอจะมี หรือไม่มีใครฉันก็ไม่เคยใส่ใจอยู่แล้ว เพราะเธอมันก็แค่อีตัวที่ฉันลากมาขึ้นเตียงเพื่อชำระแค้นเท่านั้น...” “เฟซานคะ ได้โปรดอย่าพูดแบบนี้กับเมย์เลย... เมย์รักคุณนะ” “ฉันมีผู้หญิงที่คู่ควรรออยู่แล้ว เธอมันก็แค่เครื่องบำบัดความใคร่เท่านั้น จำใส่กะโหลกของเธอเอาไว้ซะด้วย เมริสา!”
เสียงร้องอ้อนวอนของเด็กสาวผู้เป็นลูกที่วัยเพียงสิบขวบดังสลับกับเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดของนางอัมพรผู้เป็นมารดาดังขึ้นเป็นประจำทุกวัน จนชาวบ้านใกล้ ๆ ในย่านชุมชนแออัดหรือที่เรียกว่า ‘สลัม’ นั้นต่างพากันถอนใจด้วยความเอือมระอาในความระยำของไอ้ทัดเทพผู้เป็นทั้งพ่อและผัวของสองคนแม่ลูก
“กูบอกว่าให้เอาเงินมา! เอามาสิ มึงจะเก็บเอาไว้ทำไม อีห่า!”
ทัดเทพที่ถูกทั้งผีพนัน ผีสุรา และอบายมุขอีกหลายตัวเข้าสิง เตะอัดเข้าใส่ร่างของเมียไม่หยุด พอลูกสาวเข้าไปห้าม มันก็เหวี่ยงร่างของเมริสาออกไปแรง ๆ จนลอยไปติดกับผนังบ้าน
“อย่าทำลูกนะพี่เทพ”
แม้จะถูกทารุณอย่างหนัก แต่อัมพรก็ยังมีจิตใจของความเป็นแม่ เมื่อเห็นลูกสาวนอนตัวงอด้วยความเจ็บปวดจึงรีบร้องห้ามสามี และนั่นก็ทำให้คนใจสัตว์อย่างทัดเทพหันมาประเคนฝ่าเท้าเตะเข้าที่เบ้าตาของภรรยาอย่างแรง
“กูบอกให้มึงเอาเงินมาไง อีดอก”
“ฉัน... ฉันไม่มีจ้ะพี่เทพ... ไม่มี”
ใบหน้าที่ฟกช้ำดำเขียวรีบส่ายไปมา น้ำตาไหลออกมานองหน้า มองผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีด้วยความเจ็บช้ำ ทัดเทพไม่เคยช่วยทำมาหากิน แถมยังมาคอยขูดเลือดเอากับหล่อนอีก ขนาดเมริสาเป็นเด็กยังออกไปช่วยขายพวงมาลัยที่สี่แยกเพื่อหาเงินเข้าบ้าน
“ไม่มีอะไร กูเห็นนะว่ามึงมี เอาออกมา ก่อนที่กูจะฆ่ามึงตายคามือ”
ใบหน้าของทัดเทพแดงก่ำด้วยโทสะ กลิ่นเหล้าฟุ้งกระจาย จนอัมพรแทบอาเจียน มือใหญ่ของมันขยุ้มลงบนเส้นผมของอัมพร ก่อนจะกระชากแรง ๆ
“อย่าพี่! ฉันเจ็บ...”
“พ่ออย่าทำแม่นะ” เมริสาร้องไห้คร่ำครวญเข้าไปกอดขาบิดา แต่ก็ถูกเหวี่ยงกระเด็นออกมาอีกครั้ง
“มึงไปให้พ้นเลยอีเมย์ ก่อนที่กูจะกระทืบมึงอีกคน”
มันหันมาขู่บุตรสาวที่มันไม่เคยเห็นว่าเป็นลูก ก่อนหันไปทำร้ายอัมพรผู้ไม่มีทางสู้อีกครั้ง และในที่สุดเมริสาก็ทนเห็นมารดาเจ็บมากไปกว่านี้ไม่ไหว จำต้องควักเงินของตัวเองออกมาให้บิดาที่อยู่ในสภาพเมามายทั้งน้ำตา
“อย่าทำแม่เลยพ่อ อ่ะนี่เงินของเมย์ที่ขายพวงมาลัยได้ เอาไปเลยพ่อ”
“เมย์อย่าให้ลูก... เราจะไม่มีเงินซื้อกับข้าวเย็นนี้” อัมพรรีบร้องห้าม แต่ก็ถูกทัดเทพหันมากระทืบซ้ำด้วยความหมั่นไส้ จนตัวงอด้วยความเจ็บ
“อีดอก มึงอย่ามาแส่ได้ไหม เอามานี่อีเมย์”
ทัดเทพรีบคว้าเงินในมือของเมริสาที่มีไม่กี่ร้อยบาทอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหย่อนใส่กระเป๋ากางเกงและเดินผิวปากออกจากบ้านไปทันที
เมริสารีบวิ่งเข้าไปประคองมารดาที่นอนหมดสภาพอยู่ด้วยความเป็นห่วง น้ำตาไหลออกมาไม่หยุด เจ็บแค้นยิ่งนักที่บิดาไม่เคยเห็นหล่อนกับแม่เป็นคน ทั้งทุบ ทั้งตี ราวกับพวกหล่อนเป็นสัตว์
“แม่จ๋า... แม่เป็นอย่างไรบ้าง เราหนีพ่อไปอยู่ที่อื่นกันเถอะนะจ๊ะแม่...”
นางอัมพรได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญกับสภาพฟกช้ำดำเขียวที่เกิดจากมือและเท้าของสามี คงทำให้หล่อนไม่สามารถออกไปทำงานได้อีกหลายวัน แล้วหล่อนกับลูกจะเอาอะไรกิน
“แม่... เมย์เกลียดพ่อ”
“ไม่เอาเมย์อย่าพูดแบบนั้น ยังไงเขาก็ได้ชื่อว่าเป็นพ่อของหนู”
“แต่เมย์เกลียดพ่อ เกลียดจริง ๆ พ่อทำกับแม่เหมือนไม่ใช่คน ถ้าคืนนี้พ่อเสียไพ่มาอีก พ่อก็คงจะ...”
แม้เมริสาจะยังเด็ก แต่ก็พอจะรู้ว่าบิดาให้เพื่อนของตัวเองมาทำอะไรอัมพร เพราะเสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ตนได้ยินแม่ร้องออกมานั้นช่างเต็มไปด้วยความเจ็บปวด จนเด็กน้อยต้องนั่งกัดมือตัวเองเพื่อข่มความน่ารังเกียจนั้นเอาไว้
ผู้ชายมันสารเลวทุกคน...
อัมพรก้มหน้าด้วยความอดสู หล่อนรู้ดีว่าเมริสารู้เรื่องความอัปยศที่ทัดเทพทำไว้กับหล่อนทุกอย่าง โดยเฉพาะการให้เจ้าหนี้มาย่ำยีตนเองที่บ้าน เพื่อชดใช้หนี้พนัน แม้หล่อนจะขัดขืนเพียงไร แต่ก็ไม่มีทางดิ้นหนีความหยาบช้าของซาตานร้ายพวกนั้นได้เลย
แม้อยากจะตายไปจากโลกนี้นัก แต่หล่อนก็เป็นห่วงลูกสาว จึงต้องจำใจทนอยู่ แม้จะเจ็บปวดมากมายแค่ไหนก็ตาม
“นะแม่ เราไปกันเถอะ อยู่ไปมันก็ไม่มีอะไรดีขึ้น”
“แล้วเราจะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะเมย์ เราไม่มีเงิน ไม่มีญาติ แม่ไม่อยากพาลูกไปเร่ร่อน”
เมริสาส่ายหน้าทั้งน้ำตา มองมารดาอย่างอ้อนวอน
“เมย์ยินดีนอนข้างถนน ยินดีเป็นขอทาน ยินดีอดตาย ขอเพียงแค่เราไปพ้นจากผู้ชายคนนี้ เมย์เกลียดเขา เกลียดผู้ชายทุกคน”
อัมพรกอดร่างเล็กของลูกสาวที่มีเพียงเสื้อผ้าเก่า ๆ ที่ผ่านการปะชุนมาแล้วหลายครั้งไว้แน่น เมริสาเป็นดั่งแก้วตาดวงใจ หล่อนไม่อยากให้ลูกสาวต้องลำบาก ต้องเร่ร่อน แต่ครั้งนี้มันก็สุดจะทานทนแล้ว เพราะหากหล่อนยังฝืนทนอยู่กับทัดเทพต่อไป เมริสาเองนั่นแหละจะต้องลำบาก
บางทีทัดเทพอาจจะขายเมริสาให้กับเจ้าหนี้เหมือนที่ทำกับหล่อนก็ได้
“ถ้าเมย์ต้องการ... แม่ก็จะไปกับหนู”
เมริสาฉีกยิ้มกว้างทั้งน้ำตา เงยหน้าขึ้นมองมารดาด้วยความดีใจ
“จริงเหรอแม่ เมย์ดีใจเหลือเกิน งั้นเมย์ไปเก็บของก่อนนะแม่”
ผู้เป็นมารดาพยักหน้าช้า ๆ มองตามร่างเล็ก ๆ ของบุตรสาวไปด้วยสายตาเศร้าหมอง เมริสายังเด็กนัก แต่ก็ต้องมารับรู้ มาทนทุกข์ยากกับสิ่งที่ตัวเองไม่ได้ก่อขึ้น
เมื่อ คิมหันต์ ชายหนุ่มหล่อ รวย ทายาทคนเดียวของตระกูล ถูกใจ พอฤทัย นักกายภาพบำบัดที่คุณย่าจ้างมา เขาคิดว่าหล่อนง่าย แต่หล่อนกลับไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคิดเลย หล่อนสวย แต่ยาก และนั้นก็ยิ่งทำให้เขากระหาย ยิ่งอยากได้หล่อนจนใจจะขาด ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ประตูห้องยังไม่ทันจะปิดสนิท คิมหันต์ก็ดึงคนตัวเล็กเข้ามาประกบปากจูบดูดดื่ม ราวกับว่าถ้ารออีกนิดเดียวเขาจะขาดใจตาย "คุณคิมหันต์ อย่าค่ะ...คุณปวดเอวอยู่ไม่ใช่เหรอ?" หล่อนจับมือที่บีบขยำนมออก แต่เขาก็เอาขึ้นมาบีบใหม่ ก้มหน้าลงกระซิบข้างหู "ปวดก็ต้องซ้ำครับ จะได้หายปวด" พูดจบก็อุ้มร่างบางขึ้นแนบอกทันที พอฤทัยรู้ว่าโดนหลอก ก็โมโหเอาฟันกัดที่หัวไหล่เขาไปทีหนึ่ง แล้วก็รู้ว่าตัวเองทำผิดพลาดครั้งใหญ่ เมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูดออกมา "ที่แท้คุณก็ชอบความรุนแรงนี่เอง ได้เลยครับเมียจ๋า...เดี๋ยวผัวจัดให้" เขาเดินก้าวยาว ๆ จนมาถึงเตียง วางร่างบางบนที่นอน จากนั้นก็ถอดเหมือนกระชากชุดของหล่อนออกจากร่าง ตามด้วยเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วทาบทับลงไป "เห็นคุณชอบความรุนแรงแบบนี้ แสดงว่าต้องชอบแบบจูบแรกของเราด้วยใช่ไหม?" เขาเคลื่อนหน้าลงมาถาม หล่อนถลึงตาใส่เขา เมื่อนึกถึงจูบรุนแรง ที่มีแต่ความเจ็บตรงหน้าห้องน้ำ "ก็ลองทำอีกสิ คราวนี้ฉันจะกัดลิ้นคุณให้ขาดเลย" เขาได้ยินก็หัวเราะเสียงร่วนออกมา ก่อนจะก้มหน้าลงไปจูบกลีบปากอิ่มอ่อนโยน และเปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้นในเวลาต่อมา
นนท์ปวิธคือคุณหมอหนุ่มรูปงามและใจดี และมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้นที่ได้เห็นมุมมืดของผู้ชายคนนี้ มุมมืด... ที่เขาสร้างเอาไว้เพื่อทำร้ายเธอเพียงคนเดียว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "นอนกับฉัน แล้วฉันจะยอมช่วยลูกสาวของเธอ" นี่คือข้อเสนอของนายแพทย์นนท์ปวิธ อริณวัฒน์ ศัลยแพทย์หัวใจชื่อดังของเมืองไทย เขาคือเทพเจ้าแห่งการผ่าตัดหัวใจ เพราะคนไข้ทุกคนที่ผ่านมีดผ่าตัดของเขาจะประสบความสำเร็จทุกราย ทุกคนต่างชื่นชมในฝีมือและความมีน้ำใจของคุณหมอหนุ่มหล่อคนนี้มาก เขาคือเทพบุตร คือเทวดาสำหรับคนไข้และญาติๆ แต่ในมุมมืดของเขามีเพียงแค่หล่อนคนเดียวที่ได้เห็น แน่ล่ะ... เขาสร้างมุมมืดเอาไว้เพื่อทำร้ายหล่อนแค่เพียงคนเดียวเท่านั้น "ตกลงค่ะ" รอยยิ้มหยันเกลื่อนใบหน้าหล่อเหลาของนายแพทย์นนท์ปวิธ ขณะที่เคลื่อนเรือนร่างสูงโปร่งหกฟุตสามนิ้วเข้ามาหยุดใกล้ๆ "งั้นก็คืนนี้เลย" "ตาว... ขอเวลา..." "ลูกสาวของเธอ มีเวลาเหลือเยอะสินะ" "เอ่อ..." "ฉันต้องการเอาเธอคืนนี้..." แล้วเท้าใหญ่ก็ขยับเข้ามาใกล้ขึ้นอีก จนตอนนี้ร่างกายอยู่ห่างกันแค่เพียงฟุตเดียวเท่านั้น กลิ่นหอมเฉพาะตัวของเขาโชยฟุ้งเข้ามาในจมูก ทำให้รจิตราตัวสั่นเทา หล่อนช้อนตาขึ้นมองคนตัวสูง ซึ่งเขาก็ลดสายตามองลงมามองพอดี ดวงตาสองดวงสบประสานกัน โลกทั้งใบหยุดหมุน ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาราวกับสายน้ำไหลหลาก ความทรงจำที่หล่อนไม่เคยลืม... และใช้มันหล่อเลี้ยงหัวใจมากว่าห้าปี
ในสายตาของทุกคน คชาวุฒิเก่งฉลาด สุภาพเรียบร้อย และสุดเนิร์ด คงมีเพียงแค่เธอคนเดียวเท่านั้น ที่รู้ว่าใต้แว่นตาหนาของเขาซ่อนความร้อนแรงเอาไว้มากแค่ไหน ไม่รู้จะอวยยศให้อาจารย์ฟิสิกส์คนนี้ยังไงดี แต่รับประกันว่าอาจารย์แซ่บมาก แซ่บฉ่ำแฉะ^^ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "ตรงไหนดี..." หล่อนควรต่อต้านสิ ควรผลักไส เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่ควรเกิดขึ้นเลย แต่... แต่ร่างกายของหล่อนมันอ่อนระทวยไม่มีแรงเลย "ตรงไหนดีเด็กน้อย..." เขากระซิบถามเสียงกระเส่า "ถ้าคุณไม่ตอบ ผมจะเลือกเองนะ..." "อาจารย์... หนู... หนู..." ใบหน้านวลแดงระเรื่อ ตอนนี้สมองของหล่อนขาวโพลนไร้ความคิดชั่วคราว รอยยิ้มจากปากหยักสวยของอาจารย์ฟิสิกส์สุดหล่อช่างบาดใจเหลือเกิน เขาค่อยๆ ย่อตัวลง และคุกเข่าลงกับพื้น ขณะที่สายตาช้อนขึ้นมาสบประสานกับหล่อนตลอดเวลา ไฟร้อนๆ ในดวงตาของเขากำลังแผดเผาให้หล่อนมอดไหม้ "อา... จารย์..." นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ เขาคุกเข่าทำไม
พระเอกเรื่องนี้แรกๆ จะออกแนวปากหมา ใจร้าย ชอบทำนางเอกช้ำใจ แต่หลังจากเห่าหอนเป็นแล้ว ก็จะกลายเป็นหมาโบ้คลั่งรักสุดๆ เลยค่ะ ไรต์นอนยันเลย 555+++ คำเตือน... พระเอกเรื่องนี้โบ้ซ้ำโบ้ซ้อนโบ้ไม่ปรานีใคร 55 ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "คุณ... ภาม... เป็นอะไรคะ..." คำถามของหล่อนตะกุกตะกักจนแทบฟังไม่เป็นคำ "หึ... ยังจะมีหน้ามาถามอีกหรือคาลิสา!" เขายื่นมาบีบคอของหล่อน และนั่นก็ทำให้หล่อนตกใจแทบช็อก "คุณภาม... ครีม... กลัว..." ทำไมเขาทำแบบนี้ ทำไมภาวินทร์ถึงบีบคอหล่อนล่ะ แม้จะไม่ได้บีบแรงนัก แต่ก็ทำให้หล่อนกลัวจนแทบหยุดหายใจ "เธอนี่มันเลี้ยงไม่เชื่อง" "คุณภาม... พูดอะไรคะ ครีมไม่เข้าใจ... อ๊ะ..." นิ้วยาวของเขาบีบเค้นลงกับลำคอขาวผ่องของหล่อนแรงขึ้น จนหล่อนเกือบจะหายใจไม่ออก "ยังจะมีหน้ามาถามอีกเหรอ เธอไปทำอะไรเอาไว้ล่ะ" "ครีม... ครีมเปล่า..." "เลิกตอแหลเถอะ ฉันรู้เรื่องจากน้องอัญหมดแล้ว" "..." "เธอจงใจละเมิดข้อตกลงของเรา" "ครีมเปล่านะคะ คุณอัญเธอรู้อยู่แล้ว... เธอรู้จากคุณภามไม่ใช่เหรอคะ..." หล่อนพยายามจะอธิบายในมุมของตัวเอง แต่ชายหนุ่มไม่ยอมรับฟัง "เธอเดือดร้อน ฉันก็ช่วย ให้ข้าวให้น้ำ ให้เงิน เซ็กซ์ดีๆ ฉันก็ให้ งานก็มีให้ทำ แล้วเธอยังต้องการอะไรจากฉันอีก อยู่เงียบๆ อยู่ในที่ตัวเองไม่ได้หรือไง หื้อ!" "ครีม... ฮืออออ..." "แล้วเธอยังมีหน้าไปโกหกน้องอัญว่าท้องกับฉันอีกเหรอ เธอกล้าดียังไงพูดแบบนั้นออกไป คาลิสา!" หากหล่อนบอกออกไปว่าตัวเองกำลังตั้งท้องลูกของเขาจริงๆ ภาวินทร์ก็คงจะไม่เชื่อ ใช่... เขาไม่มีทางเชื่อหรอก ตอนนี้เขาเชื่อคำพูดของคู่หมั้นคนสวยของเขาคนเดียวเท่านั้น "ตอบมาสิ... เธอท้องลูกของฉันจริงหรือเปล่า" ใบหน้าที่เปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาส่ายไปมา ก่อนจะตอบเสียงสะอื้น "ไม่... ไม่ได้ท้องค่ะ..." "หึ... นึกอยู่แล้วเชียว เธอมันก็แค่ผู้หญิงมารยา ที่ต้องการทำให้ฉันเดือดร้อนเท่านั้นเอง" เขาหยุดบีบคอของหล่อน และผลักร่างของหล่อนออกห่าง แสดงท่าทางรังเกียจออกมา "เราเลิกกันเถอะ"
เรื่องนี้พระเอกเป็นพวกชอบวิ่ง ตอนแรกวิ่งหนี ตอนหลังวิ่งชนจนมดลูกน้องแทบอักเสบ ฝากติดตามเป็นกำลังใจให้ไรต์ด้วยค่ะ เลิฟ เลิฟ ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "พี่วิศ... ทำไมพี่เปลี่ยนไปแบบนี้คะ... อื้อ... อย่าทำแบบนี้สิคะ... " แม้จะพยายามขัดขืน แต่เสียงก็แผ่วเบา และอ่อนแรงเหลือเกิน "แล้วชอบพี่แบบนี้ไหมล่ะครับ... อืมม หอมจัง" ปลายจมูกของเขาซุกไซ้อยู่ที่ลำคอ ในขณะที่ฝ่ามืออบอุ่นลูบไล้ซุกซน "พี่ชอบก้นของเธอจัง นุ่มนิ่มมาก" "พี่วิศ..." "และพี่ก็ชอบเสียงครางของเธอด้วย ฟังแล้วยิ่งมีอารมณ์..." เขาเงยหน้าขึ้นจากลำคอของหล่อนที่ดูดเม้มจนแดงช้ำ ดวงตาสบประสานกัน ก่อนที่ปากหยักสวยจะแนบชิดลงมาหา เขาจูบเบาๆ หนึ่งครั้ง ก่อนจะกระซิบเสียงแปร่งพร่า "ให้พี่เอานะ... พี่หิว..."
เพราะแอบรักจึงยอมทุกอย่าง ยอมแม้กระทั่งเป็นคนในความลับ อยู่เงียบๆ ในเงามืดชั่วนิรันดร์ กฎของเขาก็คือ มีอะไรกัน นอนด้วยกัน สนุกกัน แต่ห้ามบอกใคร ห้ามให้ใครรู้ว่ามีความสัมพันธ์กันแบบไหน ในที่ทำงานเขาคือท่านประธาน และเธอก็คือพนักงานคนหนึ่งในบริษัทเท่านั้น เมื่อเจอกันก็ทักทายกันบ้างแบบเจ้านายกับลูกน้อง ห้ามแสดงท่าทางหรือแสดงความเป็นเจ้าของ ห้ามโพสต์สถานะในโซเชียล แม้จะไปเที่ยวด้วยกัน ไปถึงไหนต่อไหนด้วยกันก็แล้วแต่ห้ามเปิดเผยทั้งนั้น ซึ่งด้วยความรักที่มีต่อเขา ทำให้เธอตกลงยอมเป็น คนในความลับของเขาอย่างเต็มใจ +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ "มามี๊ขา..." วชิรวัฒน์มองเด็กหญิงตัวน้อยที่อายุน่าจะไม่ถึงสามขวบวิ่งเข้ามาสวมกอดฟาริดาด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขามองใบหน้ากลมๆ ของเด็กหญิงคนนั้น สลับกับใบหน้าของฟาริดา ซึ่งก็พบว่าหญิงสาวกำลังหน้าซีดเผือดไร้สีเลือด "นี่มันอะไรกัน น้องฟาง... เด็กคนนี้... เป็น..." เขายังพูดไม่ทันจบ ฟาริดาก็ดันร่างของเด็กหญิงไปไว้ด้านหลัง ก่อนจะตอบเขาด้วยสุ่มเสียงดังฟังชัด "ลูกสาวของฟางเองค่ะ" วชิรวัฒน์ถึงกับอึ้ง เขาหันไปมองสบตากับอภิวัฒน์ ก็พบว่าเลขาฯ หนุ่มก็อึ้งไม่ต่างกัน หลังจากตั้งสติอยู่ชั่ววินาที เขาก็หันกลับมาจ้องหน้าฟาริดาเขม็ง "เด็กคนนี้เป็นลูกของใครครับ" เขาพยายามที่จะถามเสียงสุภาพ ทั้งๆ ที่ภายในในเต็มไปด้วยเพลิงไฟกัลป์ เพราะอย่างนี้เองเหรอ ฟาริดาถึงได้หนีจากเขาไป เพราะหล่อนท้อง... แล้วหล่อนท้องกับใครล่ะ นอกจากเขาแล้ว หล่อนยังแอบมีความสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นอีกอย่างนั้นเหรอ บ้าชิบ! นี่หล่อนกำลังจะทำให้เขาโมโหจนเป็นบ้าอยู่แล้วนะ! "ลูกของใครก็ช่างเถอะค่ะ แต่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพี่โรมแน่นอน"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว