ในวันที่เธออุ้มท้องลูกของเขา เขากลับประกาศแต่งงานกับหญิงอื่นต่อหน้าผู้คนมากมายในงานเลี้ยงวันเกิดของเขา จากสถานะคนรักและกำลังจะแต่งงานกัน กลายเป็นนางบำเรอและดอกไม้ริมทางที่โดนเขี่ยทิ้งเหมือนหมาข้างถนน โมรินหอบหัวใจอันบอบช้ำและลูกน้อยในท้องหนีไปจากชีวิตของเขา ข่าวการแต่งงานอันชื่นมื่นระหว่างเขากับผู้หญิงคนนั้น “เพื่อนสนิทของเธอ” ที่ทำกันได้ลงคอทำให้เธอเสียใจจนแทบไม่อยากจะอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว แต่สติก็ดึงให้เธอกลับมาคิดถึงชีวิตน้อยๆ อีกหนึ่งชีวิต ที่ไม่รับรู้อะไรด้วยเลย เธอไม่เคยคิดอยากจะข้องเกี่ยวกับผู้ชายใจร้ายแบบเขาอีก และไม่คิดที่จะให้เขามารับรู้ด้วยว่าเธอมีลูกน้อยกลอยใจน่ารักเพียงใด แต่ชะตาชีวิตกลับเล่นตลก เหวี่ยงเธอกับลูกน้อยกลับมาให้พบเจอกับเขาอีกครั้ง ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเคยทำร้ายหัวใจของเธอให้เจ็บปวดเจียนตาย เขากำลังกลับมาพรากเอาหัวใจดวงน้อยไปจากอกของเธออีกครั้ง และครั้งนี้เธอจะยอมให้เขาพรากสิ่งใดไปจากเธอได้อีกแล้ว
อุ้มรักเมียซาตาน
บทที่ 1
คนเก่าที่คุ้นเคย
“เชิญคุณโมริน เลิศประวิทย์เข้ามาได้เลยค่ะ” เสียงหวานใสของเลขาหน้าห้องท่านประธานหนุ่ม เจ้าของโชว์รูมรถหรูนำเข้าราคาแพงลิ่วเอ่ยขึ้น
โมรินยิ้มตอบกลับไป ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องทำงานอันโอ่อ่าตรงหน้า เธอรับงานเป็นพริตตี้และงานอีเว้นต่างๆ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงตัวเองและลูกสาวตัวน้อย
ปกติแล้วงานพริตตี้หรืองานอีเว้นที่ทำอยู่ จะมีคนติดต่อเธอมาเองผ่านพี่ ๆ ที่รู้จักกัน ไม่ต้องเรียกสัมภาษณ์โดยตรงกับเจ้าของบริษัทเช่นนี้ แต่เคสนี้ค่อนข้างแปลก เพราะผู้บริหารต้องการที่จะคัดเลือกตัวพริตตี้ที่จะมาทำงานด้วยตัวเอง
โมรินเดินเข้าไปด้านในด้วยท่าทีมั่นใจ เธอยิ้มและยกมือไหว้ท่านประธานหนุ่มที่กำลังนั่งรอเธออยู่
หญิงสาวไหว้ค้าง หุบยิ้มสีหน้าแตกตื่นแทบจะทันที ร่างน้อยถึงกับเซ ถอยหนีแทบล้มเพราะตกตะลึงกับคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หลังโต๊ะทำงานตัวใหญ่ที่มองเธอด้วยสายตาคมกริบ
“สวัสดีครับ” คำเอ่ยทักทายของเขาทำให้โมรินกลืนน้ำลายอันเหนียวหนืดลงคอ ร่างกายของเธอเย็นเยียบราวยืนอยู่บนน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ
ความเสียใจวูบขึ้นมาในอก แต่มันเป็นเพียงแค่แว็บเดียวก่อนจะจางหายไป เธอรีบสลัดความเสียใจนั้นทิ้งไป ดึงสติและกำลังใจกลับมาอีกครั้ง
โมรินเชิดหน้า คอแข็ง บอกตัวเองว่าเธอไม่ควรที่จะเสียใจกับผู้ชายคนนี้อีก ผู้ชายที่ทิ้งเธอไปแต่งงานกับผู้หญิงคนอื่น และผู้หญิงคนนั้นก็เป็นเพื่อนรักของเธอเมื่อหลายปีก่อน
เขาคือผู้ชายใจร้ายที่เธอไม่ควรเข้าใกล้
“ขอโทษนะคะ ดิฉันคงเข้าห้องผิด” เธอหมุนตัวเตรียมหนีออกจากห้องทำงานของเขา ไม่คิดจะรับงานนี้โดยเด็ดขาด
เธอไม่คิดจะข้องเกี่ยวกับผู้ชายที่ชื่อ พันไมล์ พิริยะพงศ์ไพศาลอีกแล้วในชีวิตนี้
“จะรีบไปไหน เรายังไม่ได้คุยกันเลย” เขายืนขึ้นเต็มความสูง ร่างสูงสมาร์ทอันหล่อเหลา รีบเดินมาคว้าแขนของคนที่กำลังจะเปิดประตูหนีออกไป
“นี่ปล่อยนะ!” โมรินสลัดแขนจนหลุดจากมือหนา สีหน้าของเธอบ่งบอกว่าตื่นตกใจและรังเกียจ
พันไมล์ถึงกับอึ้งไป เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้รับสายตาเช่นนี้จากหญิงสาวที่เคยรักเขาสุดหัวใจ
“โมมาสัมภาษณ์งานไม่ใช่เหรอ จะรีบไปไหนล่ะ” น้ำเสียงของเขาบ่งบอกว่าอยากให้เธอได้งานนี้จริงๆ จะด้วยความจริงใจหรือแผนการอะไร เธอก็ไม่สน วินาทีนี้เธออยากไปจากที่นี้เต็มกลืน
“ไม่ใช่ค่ะ” เธอตอบเสียงแข็ง ถอยหนีไปให้ห่างจากเขาอีกหลายก้าว สายตาเหลือบมองประตูห้องทำงานเป็นระยะ ความรู้สึกอึดอัดจุกขึ้นมาจนถึงคอหอย เธออยากจะหายไปจากตรงนี้เหลือเกิน
การได้เจอกับอดีตคนรักอีกครั้งทำให้เธอถึงกับเซ หัวใจช้ำเลือดช้ำหนองที่เคยรักษาจนเกือบหายดี ท่วมท้นไปด้วยแผลเหวอะหวะอีกครั้ง
โมรินพยายามระงับความสั่นระริกของเรือนกายสาว หัวใจเต้นรัวเร็ว ปวดแปลบเจ็บชาไปหมดทั้งร่าง
พันไมล์ยังมีอานุภาพรุนแรงกับหัวใจของเธอ แม้หลายปีที่ไม่ได้เจอกัน เหมือนกับว่าเธอจะลืมเขาไปได้แล้ว แต่เอาเข้าจริงๆ เธอไม่เคยลืมเขาไปจากใจได้เลย
เขาได้ทิ้งชีวิตน้อยๆ อีกชีวิตหนึ่งให้เธอต้องเลี้ยงดูมาด้วยความยากลำบาก การได้เห็นหน้าลูกสาวตัวน้อยทำให้เธอยังคิดถึงพ่อลูกอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
“ถ้าโมมาสมัครเป็นพริตตี้ก็น่าจะไม่ผิดนะ เพราะพี่เป็นเจ้าของโชว์รูมรถ ที่จะจัดงานเปิดตัวรถรุ่นใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า” เขาสอดมือเข้าไปในเสื้อสูทสีเข้มราคาแพง
โมรินคิดว่าเขาดูหยิ่งยโสอยู่เช่นเดิมไม่เคยเปลี่ยน และหัวใจของเขาก็คงด้านชาสารเลวเหมือนเดิม
โมรินตั้งสติ สูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ ลึกๆ ยืนตัวตรงเชิดหน้า และเรียกกำลังใจให้กลับมา แม้ว่าแข้งขาจะอ่อนแรงมากเพียงใด
เธอพลาดมากที่ไม่ได้ศึกษาข้อมูลของผู้ว่าจ้าง ด้วยความที่เธอต้องเร่งทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองและลูกน้อย งานอะไรไม่ผิดกฎหมาย และเป็นงานที่ไม่เปลืองเนื้อเปลืองตัวเธอรับทำทั้งหมด
เธอโชคร้ายเรียนไม่จบ ไปสมัครงานที่ไหนก็ไม่มีใครรับ งานเดียวที่เหลืออยู่คือการใช้รูปร่างหน้าตาเพื่อหาเงินเข้ากระเป๋า หลังจากที่ทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็กอยู่ระยะหนึ่ง
เธอเช่าบ้านหลังเล็กๆ อยู่กับบุตรสาว โชคดีว่าบ้านเช่ามีพื้นที่ไว้ให้ปลูกต้นไม้บ้าง เธอจึงปลูกพืชผักสวนครัวเกือบทุกชนิดที่กินได้ เอาไว้ประกอบอาหารเพราะประหยัดและปลอดสารพิษ
โมรินอยากมีเงินเยอะๆ จะได้ส่งเสียให้ลูกน้อยได้เรียนสูงๆ เธอมีรถกลางเก่ากลางใหม่อยู่คันหนึ่ง ซื้อมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ศึกษาข้อมูลแล้วพบว่าการผ่อนรถมือสองนั้นดอกเบี้ยค่อนข้างสูง จึงเก็บเงินก้อนโดยการประหยัด กัดฟันซื้อจนมีรถยนต์เป็นของตัวเอง เวลาต้องพาลูกไปไหนมาไหนหรือไปเที่ยวที่ไหนจะได้ไม่ต้องลำบาก
“โมเข้ามาแล้ว ไม่คิดจะสัมภาษณ์งานกับพี่ก่อนเหรอ” ประโยคของเขาทำให้เธอหลุดจากภวังค์ความคิด
“ไม่ค่ะ” เธอตอบปฏิเสธ ทำท่าจะเดินหนีออกจากห้องทำงานของเขา แต่เขายังยืนขวางอยู่ตรงนั้นไม่ยอมไปไหน
“กรุณาถอยไปด้วยค่ะคุณพันไมล์” เธอเรียกเขาเต็มยศ สาดประโยคคำพูดที่บ่งบอกว่าเหินห่างกับเขาไม่ต่างกัน
“ไม่คิดว่าพริตตี้แบบโมจะไร้ความรับผิดชอบขนาดนี้” เขาพูดยั่วเพื่อให้เธอรับงานนี้ แต่โมรินไม่หลงกล เขาจะปรามาสหรือด่าว่าอะไรเธอ ก็ช่างหัวเขา แต่สำหรับเธอแล้ว ขอแค่ให้ออกไปจากที่นี่ได้เป็นพอ ถึงเธอไม่ทำงานกับเขา เธอก็มีงานอื่นๆ ให้ทำอีกหลายงาน
“แล้วแต่คุณจะคิด แต่ฉันขอสละสิทธิ์ให้คนอื่นก็แล้วกัน เพราะคงมีหลายคนอยากมาสัมภาษณ์งานกับคุณ ถึงไม่มีฉัน คุณก็มีพริตตี้ในงานเปิดตัวรถรุ่นใหม่ของคุณอยู่แล้ว” เธอทำท่าจะเดินหนี แต่เขาก็ยังขวางเอาไว้
“กรุณาหลีกทางให้ฉันด้วยค่ะ” เธอพูดอย่างเอาจริง นั่นทำให้พันไมล์ต้องหลีกทางให้หญิงสาวตรงหน้า
เธอเห็นว่าเขาหลีกทางให้ก็รีบจ้ำอ้าวออกไปจากห้องของเขาในทันที
โมรินรู้สึกใจหายใจคว่ำ เธอไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะได้เจอกับเขาอีก
เธอหนีหายไปจากชีวิตของเขานานหลายปี ย้ายไปอยู่ต่างจังหวัด ไปดูแลคุณยาย หลังจากที่คุณตาเสียชีวิตและปักหลักอยู่บ้านเกิดอยู่นาน กว่าจะเดินทางเข้ากรุงเทพฯ อีกครั้ง
ชาวบ้านนินทากันว่าเธอท้องไม่มีพ่อ แต่ยายเข้าใจ ไม่เคยตำหนิหรือซักถามให้เธอเสียใจเลยสักคำเดียว เธอเองที่อดรนทนไม่ไหวต้องเล่าให้ท่านฟังทั้งน้ำตาว่าโดนผู้ชายหลอกจนตั้งท้อง แล้วเขาก็ทิ้งไปแต่งงานกับหญิงอื่น
เขาเหยียบย่ำความรักของเธอ เหมือนเธอเป็นสิ่งไร้ค่าที่เขาจะทำร้ายเช่นไรก็ได้ ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเจ็บปวดจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ถูก รู้สึกว่าตนเองโง่งมและไร้เดียงสาเสียเหลือเกินที่หลงเชื่อความรักจอมปลอมลวงโลกของผู้ชายอย่างพันไมล์
เธอแอบชอบเขาเพราะเขาคือพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยเธอเอาไว้ เธอจึงสารภาพรักกับเขาเมื่อเรียนจบและได้เข้าทำงานในบริษัทของเขา แต่เขากลับให้เธอเขียนใบลาออก เธอจึงหนีหายไปจากชีวิตของเขา ได้เจอกันอีกครั้งความจริงก็ถูกเปิดเผย!
เขาเป็นคุณอาของเพื่อน เย็นชา หน้านิ่ง แถมยังดุอีกด้วย ในค่ำคืนหนึ่งที่โดนเพื่อนชายวางยา เขากลับช่วยเธอเอาไว้ แล้วกลายเป็นคุณอาหนุ่มคลั่งรักที่ทำเอาเธอกลายเป็นนางฟ้าตัวน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแกร่งอบอุ่นอ่อนโยนของเขา
เธอพลาดท่าเสียทีเขาในค่ำคืนหนึ่ง เขาออกตามหาเธอจนแทบพลิกแผ่นดิน จู่ ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งอุ้มลูกน้อยมาบอกเขาว่า เขาคือพ่อของลูก แล้วจากไป เขาได้เจอผู้หญิงอีกคน กลับตกหลุมรักเธอในทันที และความลับมากมายที่ถูกเก็บซ่อนก็เปิดเผยออกมาให้เขาได้รับรู้
เธอต้องหมั้นหมายกับหลานชายของเขา แต่เพราะประสบอุบัติเหตุทำให้เกิดผลข้างเคียงกลายเป็นผู้หญิงอ้วนสุดแสนอัปลักษณ์ หลานชายของเขาจึงขอถอนหมั้น แต่เธอไม่คิดว่าเขาผู้มีศักดิ์เป็นอาจะเป็นคนหมั้นหมายกับเธอแทน คุณอาหนุ่ม เพื่อนรุ่นน้องของบิดามารดาที่เธอแอบชอบมานานหลายปีแล้ว ในที่สุดจะได้เป็นสามีของเธอจริงๆ
พิมพ์ลภัสโดนมารดาเลี้ยงกับน้องสาวใจร้ายโยนออกจากบ้านท่ามกลางสายฝน และโพทะนาไปว่าเธอหนีตามผู้ชายไป เพื่อทำลายชื่อเสียงของเธอ กลับมาอีกครั้ง พิมพ์ลภัสจึงเปลี่ยนจากบทนางเอกกลายเป็นนางร้ายเอาคืนคนที่ทำเอาไว้กับเธออย่างสาสม!
หวังจื่อหลินอ่านนิยายจบด้วยความโมโหที่นางเอกในนิยายโดนทำร้ายจนตาย เธอเดินข้ามถนนไม่ทันระวังจึงโดนรถชน หลิวเหวินจงเพื่อนชายคนสนิทที่แอบรักเธอจึงเข้ามาช่วยเอาไว้ แต่ทั้งสองก็โดนรถชนอยู่ดี สองหนุ่มสาวกลายเป็นเจ้าชายและเจ้าหญิงนิทรานอนหลับไม่ฟื้น แต่ขณะเดียวกันก็ทะลุมิติเข้าไปอยู่ในนิยายเล่มที่ตัวเองอ่าน และเข้าไปแก้ไขสถานการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นให้แปรเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย