© 2018-now MeghaBook
2. Forbidden Love ของต้องห้ามทายาทมาเฟีย
4. ท่านแม่ผู้นี้คืออดีตสุดยอดนักฆ่า
7. เจ้าสาวจำยอม สามีเศรษฐีนอกสายตา
9. สุลต่านร้ายขังรัก ชุด ทัณฑ์ทราย
10. หนี้ร้ายพ่ายรัก
ผู้เขียน: Calv Momose
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ลูกของพวกเขา
“คุณเวิน ผลการตรวจพบว่า คุณมีผนังมดลูกบางมาตั้งแต่กำเนิด ทารกในครรภ์จึงไม่แข็งแรงดี คุณควรระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหาร และการออกกำลังกายให้มากขึ้นนะครับ”
แพทย์สั่งยาพร้อมกับให้คำแนะนำ แล้วก็ส่งบัตรใบหนึ่งมาให้ “นี่ครับ เชิญไปเอายาได้ครับ”
“ค่ะ ขอบคุณมากนะคะคุณหมอ” เวินเหลี่ยงรับบัตรมา แล้วก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน
ทันใดนั้นหมอก็เตือนขึ้นมาอีกครั้งว่า “ต้องระมัดระวังหน่อยนะครับ อย่าประมาทเด็ดขาด!”
ผนังมดลูกบางทำให้มีแนวโน้มที่จะแท้งบุตรได้ง่าย สตรีมีครรภ์จำนวนมากไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีก หลังจากที่เคยแท้งไปแล้ว
“ขอบคุณค่ะคุณหมอ ฉันจะระวังให้มาก ๆ ค่ะ” เวินเหลี่ยงยิ้ม และพยักหน้า
หลังจากแต่งงานมาได้สามปี ไม่มีใครรอคอยการมาถึงของเด็กคนนี้มากไปกว่าเธออีกแล้ว ดังนั้นเธอจะต้องปกป้องเขาอย่างดีที่สุด
หลังจากไปเอายาเสร็จ เวินเหลี่ยงก็ออกมาจากคลินิกผู้ป่วยนอก และกลับไปที่รถ
คนขับสตาร์ทรถ และมองดูเธอในกระจกมองหลังพลางถามขึ้นว่า “คุณผู้หญิงครับ เที่ยวบินของคุณผู้ชายจะมาถึงเวลาบ่ายสามโมง ตอนนี้ยังมีเวลาอีกยี่สิบนาที คุณอยากจะไปที่สนามบินเลยไหมครับ?”
ผู้เขียน: ณดารินทร์
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ตอนที่ 1 สาวน้อยร้อยบอดี้การ์ด
ตอนที่ 1 สาวน้อยร้อยบอดี้การ์ด
“อีกแล้วหรอคะพ่อ พลอยบอกแล้วไงคะ ว่าพลอยไม่อยากมีบอดี้การ์ด แล้วดูสิ ไม่มีใครอยู่กับพลอยได้เกินสองเดือนเลย เห็นไหมคะ ว่าพลอยไม่เหมาะกับการมีบอดี้การ์ด”
คนสวยโอดครวญ เพราะเช้าวันนี้แทนที่จะเป็นวันที่ปลอดโปร่งโล่งสบายของเธอ เมื่อบอดี้การ์ดคนล่าสุดมาขอลาออก แต่บิดาที่เคารพดันบอกว่าหาบอดี้การ์ดคนใหม่ให้เธอได้แล้ว นี่มันยังผ่านมาแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง ความปลอดโปร่งใจของเธอก็หายไปหมดแล้ว
“เพราะพลอยเอาแต่ใจตัวเองมากไปไงลูก ขี้เหวี่ยงขี้วีน ไม่ทำตามที่คนของพ่อบอกเลย ใครเขาจะทนอยู่กับลูกได้”
“พลอยก็ปกตินะคะ ไม่ได้ขนาดนั้นซะหน่อย อีกอย่างก็ไม่เห็นมีเหตุการณ์อันตรายอะไรเลย ให้พลอยใช้ชีวิตปกติเหมือนเพื่อนๆ ก็ได้นี่คะ”
คนตัวบางขยับมานั่งใกล้บิดาอีกนิด แล้วสวมกอดเขาไว้อย่างต้องการออดอ้อน ซึ่งคนเป็นพ่อก็ยกแขนกอดลูกสาวสุดที่รักเอาไว้แนบอก เมื่อเธอต้องการอะไร ไม่ว่าจะยากเย็นหรือแพงแสนแพงแค่ไหน เขาพร้อมจะหามาบรรณาการเจ้าหญิงของเขาได้หมด แต่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวที่เขาไม่เคยตามใจลูกสาวสุดที่รักเลย เพราะนั่นมันหมายถึงความปลอดภัยและชีวิตของเธอ
“เห้อ ลูกก็รู้ว่ามันไม่ได้”
“แต่พ่อขา”
“ไม่ต้องมาออดอ้อนพ่อเลยยัยพลอย เราน่ะมันจำเป็นที่สุดที่จะต้องมีคนดูแล ส่งเรียนต่อสู้ป้องกันตัวก็ไม่ได้เรื่อง ชอบเที่ยวกลางคืน แต่งตัวก็โป๊ ถ้าไม่มีคนดูแล เราอาจไปเมาจนโดนลากไปทำมิดีมิร้ายแล้วก็ได้”
พชร พี่ชายคนรองเดินเข้ามาทันได้ยินน้องสาวออดอ้อนคนเป็นพ่อในเรื่องเดิมๆ ที่ไม่ว่าจะขอมากี่ครั้ง ทั้งพ่อ แม่ พี่ชาย และเขา ก็ไม่มีใครยอมตามใจเธอเลยสักคน
ผู้เขียน: ณดารินทร์
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ตอนที่ 1 สูญเสีย
สาวน้อยร่างบางผิวขาวจัดดวงตาบวมช้ำแดงก่ำนั่งมองรูปหน้าศพที่ตั้งคู่กันสองรูปนิ่งๆ ไม่ขยับตัวไปไหนมาหลายชั่วโมง เป็นที่น่าสลดใจแก่ผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
“พั้นช์ หักอกหักใจซะเถอะลูก หนูเป็นแบบนี้พ่อกับแม่จะยิ่งเป็นห่วงนะ เชื่อป้านะลูก”
พิมพ์มาดา เพื่อนที่สนิทที่สุดของผู้หญิงที่นอนอยู่ใน
โลงศพ ตรงเข้าสวมกอดและเอ่ยปลอบใจสาวน้อยตรงหน้าที่ตัวเองรักเหมือนลูกที่มีชะตาชีวิตที่น่าสงสาร เพราะต้องเสียพ่อและแม่ซึ่งเป็นที่พักพิงสุดท้ายไปพร้อมๆกันจากอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างกะทันหัน
“ป้าพิมพ์”
สาวน้อยกอดเพื่อนรักของแม่แน่นอย่างต้องการที่พักพิง สาวน้อยวัยสิบแปดปีอย่างเธอ โลกทั้งใบมันถล่มไปตรงหน้าแล้วกับเหตุการณ์ในครั้งนี้
“ป้าเสียใจด้วยนะลูก แต่พั้นช์ต้องเข้มแข็ง พ่อกับแม่จะได้ไม่ห่วง”
พิมพ์มาดากอดสาวน้อยที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นเจียน
จะขาดใจแน่นขึ้น ไม่รู้ว่าทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงบ่ายวันนี้ หลานสาวของเธอได้หลับได้นอนหรือได้กินอะไรบ้างหรือยัง เพราะเด็กผู้หญิงตัวคนเดียวที่ต้องเผชิญกับความสูญเสียพร้อมกัน
แบบนี้ คงยากที่จะรับไหว
แม้เธอเองพอรู้ข่าว ก็ส่งเลขาและผู้ช่วยมาจัดการเรื่องรับศพและจัดงานศพให้เรียบร้อย แล้วรีบหาตั๋วเที่ยวที่เร็วที่สุด
บินจากอเมริกาแล้วตรงดิ่งมาที่นี่ทันที แต่ก็ยังช้าไปเป็นวัน
“พั้นช์ไม่เหลือใครแล้ว พ่อกับแม่ทิ้งพั้นช์ไปแล้วค่ะ”
“พั้นช์ยังเหลือป้า ป้าจะไม่มีวันทิ้งพั้นช์ไปไหน ไปอยู่
กับป้านะลูก ต่อจากนี้ป้าจะดูแลพั้นช์แทนแม่เอง ไปเป็นลูกสาวของป้าอีกคน แม่ก็จะได้หมดห่วงด้วย โอเคไหม”
“ได้หรอคะ แล้วครอบครัวของป้าพิมพ์จะไม่ว่าอะไร
หรอคะ”
“ได้ลูก ไม่มีใครว่าอะไรหรอก ป้าอยู่คนเดียว ส่วนใหญ่ลุงเขาก็อยู่อเมริกา ส่วนพี่ๆ ตอนนี้ก็เรียนกันอยู่ที่อเมริกากันหมด ยังไม่มีใครกลับมาเลย ต่อให้กลับมาก็ไม่มีปัญหาเพราะบ้านเราใหญ่โตขนาดนั้น มีพั้นช์มาอยู่เป็นเพื่อนป้าก็ดีจะตาย ทุกวันนี้
ก็เหงาจะแย่ เดี๋ยวป้าจะให้คนไปจัดการเรื่องของใช้และเสื้อผ้า
ให้ไปขนเข้าบ้านป้าเลย ส่วนเรื่องอื่นๆ เดี๋ยวเราค่อยทยอยๆจัดการนะลูก”
“ขอบคุณมากค่ะ ป้าพิมพ์”
ผู้เขียน: NovelHall
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ตอนที่ 1 อย่ารังแกแม่จ๋า
ตอนที่ 1 อย่ารังแกแม่จ๋า
“แม่จ๋า! ตื่นสิ! อย่าเพิ่งตาย! ฮือออ...แม่จ๋า...”
เหลิงหยุนเจียวฟื้นสติท่ามกลางหัวสมองที่เต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย เสียงร้องไห้โฮของเด็กน้อยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะดังลั่นอยู่ข้างหู ร่างทั้งร่างของเธอสั่นสะท้านรุนแรง
แต่อย่างไร เธอรู้สึกหายใจหายคอลำบากเหลือเกิน เปลือกตาก็ยังหนักอึ้งเกินกว่าจะเปิดมองได้ และทุกอณูร่างกายก็ยังปวดร้าวระบมแสนสาหัสราวกับเพิ่งโดนจับไปทรมานมาก็ไม่ปาน
ทันใดนั้น ก็มีสุ้มเสียงอันชั่วร้ายของหญิงแปลกหน้านางหนึ่ง แหกปากตะโกนลั่นอย่างหยามเหยียดว่า
“เจ้าสวะน้อย แม่สุนัขตัวเมียของเจ้าได้สิ้นใจตายไปแล้ว! ควรจะดีใจที่เจ้ายังไม่ตายโหงตายห่าตามมันไป แต่....”
น้ำเสียงอันชั่วร้ายของหญิงแปลกหน้าชะงักหยุดกลางคัน ตามมาด้วยเสียงหัวเราะคิกคักเจือผสมความอาฆาตพยาบาทดั่งพิษร้าย
“แต่ชีวิตหลังจากนี้ของเจ้าต่อให้อยู่ก็เสมือนตายทั้งเป็น! พวกเจ้า! พาตัวเศษสวะน้อยไป!”
“พวกเจ้า! อย่าเข้ามา! อย่าเข้ามานะ! แม่จ๋า…แม่จ๋า! ช่วยข้าด้วย!”
สุ้มเสียงของเด็กน้อยที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะดังกึกก้องขึ้นอีกครา สิ่งนี้เปรียบเสมือนเหล็กแหลมที่พุ่งเสียบทะลุใส่ดวงใจของเหลิงหยุนเจียว
เธอเบิกตาคู่เย็นชาโพล่งขึ้นในทันใด รีบหันศีรษะขวับและใช้แรงเฮือกสุดท้ายพุ่งทะยานเข้าใส่ต้นเสียงอย่างรวดเร็ว
ยังไม่ทันที่ชายฉกรรจ์เหล่านั้นจะแตะสัมผัสร่างกายของเด็กชายตัวน้อยเสียด้วยซ้ำ กรงเล็บเรียวยาวทั้งห้าของเหลิงหยุนเจียวก็พุ่งตะปบเข้าใส่ลำคอของอีกฝ่ายไว้เสร็จสรรพ
แกร๊ก!
เสียงกระดูกคอลั่นหักสนั่นหวั่นไหวโดยพลัน แม้กระทั่งไออากาศมวลความร้อนรอบตัวยังสั่นไหวบิดเบี้ยว
ก่อนที่ผู้คนรอบข้างจะทันตอบสนองอันใด ชายฉกรรจ์ร่างกำยำผู้นั้นก็ล้มลงต่อหน้าต่อตาเหลิงหยุนเจียว ม่านตาดำของเด็กชายตัวน้อยตีบเล็กเท่ารูเข็ม สีหน้าการแสดงออกดูตกใจสุดขีด ไม่สามารถระงับคลื่นอารมณ์ให้สงบได้
“แม่จ๋า!”
เด็กชายตัวน้อยรีบวิ่งมากอดต้นขาของเหลิงหยุนเจียวด้วยความปิติตื้นตัน โดยพร้อมกันนั้นเอง จู่ๆก็มีกระแสความทรงจำแปลกประหลาดมากมายทะลักหลั่งไหลเข้าสู่ห้วงความคิดของเธอราวกับน้ำป่า
ในฐานะสายลับผู้มีนิสัยใจคอเหี้ยมโหดอันดับต้นๆแห่งยุคศตวรรษที่22 เธอได้รับภารกิจสุดท้ายโดยต้องสังหารผู้ทรยศในองค์กร จุดจบในตอนจบคือจำต้องพลีชีพตายไปพร้อมกับพวกมัน และนั่นส่งผลให้เธอทะลุมิติมายังโลกแห่งนี้!
ผู้เขียน: เนื้อนวล
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ตอนที่ 1
คิรินธาร คือ ตระกูลมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
ครอบครัวคิรินธาร ประกอบด้วย นายพิษณุ คิรินธาร เป็นหัวหน้าครอบครัว ซึ่งเขามีภรรยาชื่อ วัชรี คิรินธาร ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน และเขากับวัชรีมีลูกชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยกันหนึ่งคน นั่นก็คือ ลมทะเล คิรินธาร หนุ่มหล่อวัยยี่สิบแปดปี และเขากับภรรยาก็ยังได้อุปการะเด็กสาวเอาไว้หนึ่งคน ซึ่งก็คือ สกาวเดือน เสนาศักดิ์
หลังจากภรรยาเสียชีวิตลงกะทันหัน ทำให้นายพิษณุล้มป่วยเจ็บออดๆ แอดๆ เพราะตรอมใจ ทำให้ลูกชายต้องไปบริหารงานทั้งหมดของบริษัทแทน
ระยะเวลาสามเดือนตั้งแต่ภรรยาเสียชีวิตไป พิษณุก็ยังไม่สามารถทำใจได้ เขาเศร้าหมองและกินอะไรไม่ลง ทำให้โรคประจำตัวกำเริบ ซึ่งก็ยังโชคดีที่ได้สกาวเดือนที่เพิ่งเรียนจบพยาบาลมาดูแลอย่างใกล้ชิด
“ยาหลังอาหารเย็นค่ะคุณท่าน”
“ขอบใจมากนะหนูเดือน”
พิษณุรับถ้วยใส่ยาพลาสติกสีขาวขุ่นจากมือของสกาวเดือนขึ้นมาถือเอาไว้ เขาก้มลงมองเม็ดยาจำนวนหลายเม็ดในนั้นอย่างท้อใจ
“แค่กินยา ฉันก็อิ่มแล้ว”
สกาวเดือนมองผู้มีพระคุณอย่างเป็นห่วง ก่อนจะพูดปลอบใจ
“พอคุณท่านอาการดีขึ้น คุณหมอก็คงจะลดยาบางตัวที่ไม่จำเป็นให้แน่นอนค่ะ”
พิษณุไม่ได้พูดอะไรออกไป นอกจากอมยิ้มบางๆ และกินยาทุกเม็ดจนหมด
“คุณท่านนอนพักผ่อนนะคะ ถ้าต้องการอะไรกดกริ่งเรียกเดือนได้ทุกเวลาเลยค่ะ”
คนที่เพิ่งรับถ้วยพลาสติกมาถือเอาไว้ในมือพูดขึ้นอย่างมีน้ำใจ
“ขอบใจหนูเดือนมาก ไม่มีอะไรแล้ว หนูเดือนไปพักผ่อนเถอะ”
“ค่ะคุณท่าน”
หลังจากประคองร่างของพิษณุให้นอนราบลงกับเตียง พร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงหน้าอกของท่านเรียบร้อยแล้ว สกาวเดือนก็เอื้อมมือไปปิดโคมไฟที่หัวเตียง ก่อนจะปลีกตัวออกไป
แต่ทันทีที่หล่อนก้าวพ้นธรณีประตูห้องนอนของพิษณุ และปิดประตูห้องลง แขนเรียวของหล่อนก็ถูกกระชากอย่างไม่ปรานี
ผู้เขียน: เนื้อนวล
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ตอนที่ 1
คฤหาสน์หรูสไตล์นีโอคลาสสิกบนเนื้อที่กว่า 180 เอเคอร์แทรกอยู่กลางแมกไม้อันเขียวขจีย่านชานเมืองของกรุงมอสโก ประเทศรัสเชีย เจ้าของคือคอร์เนล ซีร์ยานอฟ เจ้าพ่อยักษ์ใหญ่แห่งวงการโทรคมนาคม คอร์เนลเป็นบุตรชายของวีแลน ซีร์ยานอฟ อดีตมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ในกรุงมอสโก หลังจากบิดาถูกคู่อริลอบสังหารจนเสียชีวิต คอร์เนลก็จำต้องเข้ามามีบทบาทในธุรกิจของตระกูลซีร์ยานอฟอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง
แม้จะไม่ชอบ แม้จะรังเกียจ แต่ก็ต้องทำเพื่อความอยู่รอด และการเข้ามาบริหารงานของเขาในครั้งนี้นั้นไม่ได้ยึดถือกฎเกณฑ์อันธพาลของพวกมาเฟียรุ่นเก่าๆ เอาไว้อีกเลย
คอร์เนลละเลิกทุกอย่างที่ผิดกฎหมายที่บิดาเคยทำไว้ ไม่ว่าจะเป็นบ่อนการพนัน สินค้าหนีภาษี การเรียกเก็บค่าคุ้มครอง หรือแม้แต่สถานบันเทิงที่มีการค้าประเวณี ธุรกิจสกปรกพวกนี้ถูกยกเลิกไปตั้งแต่เขาก้าวเท้ามาบริหารงานแทนบิดาที่เสียไป
และเพียงไม่กี่ปีคอร์เนลก็สามารถผงาดขึ้นมาเป็นผู้นำของวงการโทรคมนาคมของโลกตะวันตกทั้งหมดได้อย่างน่าทึ่ง การบริหารคนด้วยสมอง การตอบโจทย์ธุรกิจยากๆ และการชิงไหวชิงพริบในสนามแข่งขัน เป็นสิ่งที่เขาคลั่งไคล้ คอร์เนลสนุกกับการบดขยี้คู่แข่งด้วยกลยุทธ์ที่แยบยล ทำให้คู่แข่งไม่มีโอกาสแม้แต่จะร้องอุทธรณ์
ชายหนุ่มโหดเหี้ยม เลือดเย็น และไร้หัวใจอย่างที่สุดเมื่อก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของตระกูลซีร์ยานอฟ ไม่มีใครขวางทางของเขาได้ ไม่ว่าเขาต้องการอะไร ทุกอย่างเหล่านั้นก็ต้องมากองอยู่แทบเท้า แต่ตอนนี้สิ่งที่เขากำลังต้องการที่สุดก็คือ...
คนทรยศ!
“ตามมันเจอไหม?”
“ไม่เจอเลยครับนาย ผมหาจนทั่วแล้วครับ”
เซอร์เกคนสนิทของคอร์เนลก้มหน้ารายงานด้วยน้ำเสียงยำเกรง อารมณ์ของหนุ่มหล่อตรงหน้านั้นร้อนและแรงแค่ไหน เขารู้ดีกว่าใครทั้งนั้น เพราะทำงานด้วยกันมาหลายปี ตั้งแต่คอร์เนลยื่นมือเข้าไปช่วยชีวิตบุตรสาวของเขาจากไอ้มาเฟียกระจอกเมื่อห้าปีก่อน เขาก็ได้ให้สัญญากับตัวเองว่าจะจงรักภักดีต่อคอร์เนลไปตลอดชีวิต
“ระยำ! พวกนายทำงานประสาอะไรฮ้า! แค่คนต่างชาติคนเดียวก็หาไม่เจอ ทำงานกันแบบนี้มันน่าเอายิงทิ้งนัก”
เซอร์เกรู้ดีว่านายน้อยรูปหล่อปานเทพบุตรของตนเองไม่มีทางทำอย่างที่พูดแน่ เพราะคอร์เนลไม่ชอบตัดสินปัญหาด้วยวิธีที่รุนแรง มือของคอร์เนลไม่เคยเปื้อนเลือด พอๆ กับที่คอร์เนลไม่เคยสั่งให้ลูกน้องอย่างพวกเขาไปทำร้ายศัตรูนั่นแหละ นายน้อยของเขาใช้สมองทุกครั้งในการต่อสู้ ไม่ว่าจะในสนามชีวิต หรือจะในสนามของธุรกิจ และคอร์เนลก็สามารถกำชัยชนะเอาไว้ได้ทุกครั้งอย่างน่าทึ่ง
ผู้เขียน: Roana Javier
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 นอกใจ
“ฉันยอมเป็นของคุณแล้ว แต่ทำไมคุณยังไม่เลิกกับชูจี้อีกล่ะคะ?” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่ชวนให้ลุ่มหลง พลางถอนหายใจออกมาเบา ๆ ขณะที่นั่งอยู่บนตักของชายหนุ่มด้วยร่างที่เปือยเปล่าครึ่งท่อน
“เวลาอยู่บนเตียงอย่าพูดถึงเรื่องนี้อีก” ชายหนุ่มกำลังอารมณ์พลุ่งพล่าน เขาเอื้อมมือไปเค้นคลึงอกที่อวบอิ่มของหญิงสาวอย่างเบามือ
หญิงสาวไม่พอใจนัก เมื่อไม่ได้รับคำตอบตามที่ต้องการ “ฉันจะพูด! ก็แค่เด็กที่เก็บมาเลี้ยง แม้แต่หมาของฉันยังมีค่ากว่าหล่อนเลย หล่อนมีอะไรดีนักหนาคะ? ”
ชายหนุ่มไม่ได้พูดอะไร เขาประคองเอวบาง แล้วเร่งจังหวะขยับเข้าออกแรงขึ้น ทำให้เธอถึงกับร้องครวญครางออกมาอย่างไม่ขาดสาย
หลินชูจี้ที่กำลังยืนอยู่หน้าประตู ใบหน้าที่งดงามของเธอเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า เธอได้ยินสิ่งที่ทั้งคู่คุยกันทั้งหมด นัยน์ตาของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าหมอง
เธอเพิ่งกลับมาจากโรงพยาบาล
ยายซุนผู้ซึ่งเลี้ยงดูชูจี้มาตั้งแต่เด็ก ถูกตรวจพบว่าเป็นโรคตับแข็งระยะสุดท้าย คุณยายจำเป็นจะต้องได้รับการปลูกถ่ายตับอย่างรวดเร็ว และชูจี้จำต้องหาเงินมาเพื่อจ่ายค่ารักษาพยาบาล
แต่แล้วเรื่องแย่ ๆ ในชีวิตเธอยังไม่หมดแต่เพียงเท่านั้น ทันทีที่เธอกลับมาถึงบ้านเธอก็ได้รู้ว่าน้องสาวของเธอกำลังมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับแฟนหนุ่มของเธออยู่ ชูจี้รู้สึกเหมือนโลกทั้งใบได้พังทลายลงตรงหน้าเธอ
ผู้เขียน: Kaleb Mugnai
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 เราหย่ากันเถอะ
“คุณฉวี่ ยินดีด้วยนะคะ คุณตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วค่ะ”
ขณะที่กำลังอ่านผลการตรวจร่างกายและได้ยินสิ่งที่หมอพูด ดวงตาของฉวี่ชิงเกอก็สั่นขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้ เธอท้องงั้นเหรอ?
หลังจากยืนยันอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจ ฉวี่ชิงเกอก็ออกจากโรงพยาบาลมาด้วยใบหน้าที่มีความสุข พอเดินไปถึงประตูก็ยกโทรศัพท์โทรออก
“มีเรื่องอะไร?” เสียงทุ้มต่ำของผู้ชายในสายดังขึ้นมา
เขาคือสามีของเธอเอง ฟู่หนานจิ่น พอได้ยินเสียงที่เย็นชานั้น ฉวี่ชิงเกอก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่พอนึกถึงเรื่องลูก เธอก็มีความสุขขึ้นมาอีกครั้ง
คำพูดมันติดอยู่ที่ปากแล้ว แต่ฉวี่ชิงเกอกลับลังเล เธอเพียงแค่ถามออกไปว่า “คืนนี้คุณจะกลับมาไหม? ฉันมีเรื่องบางอย่างอยากจะบอกคุณ”
เรื่องนี้ ค่อยเก็บไว้บอกเขาเองต่อหน้าเขาดีกว่า!
“ไม่รู้เหมือนกัน”
หลังจากเขาพูดจบ โทรศัพท์ก็ถูกตัดสายไปทันที
ฉวี่ชิงเกอถอนหายใจและกลับไปที่บ้าน ทันทีที่เธอเปลี่ยนรองเท้าเสร็จ เสียงสาปแช่งด่าทอก็ดังมาจากห้องนั่งเล่น “ฉวี่ชิงเกอ ตอนบ่ายเธอหายหัวไปไหนมา เสื้อผ้าก็ไม่ซัก งานบ้านก็ไม่ทำ แถมยังไม่รับโทรศัพท์อีก เดี๋ยวนี้ปีกกล้าขาแข็งใหญ่แล้วนะ!”
คุณแม่ฟู่ยืนขึ้น พลางมองมาที่ฉวี่ชิงเกอด้วยสายตารังเกียจเดียดฉันท์ แล้วก็พูดขึ้นอีกครั้งว่า “รีบไปทำกับข้าวให้ฉันกินสิ!”
ฉวี่ชิงเกอก้มหน้าลง เธอเคยชินกับนิสัยท่าทางแบบนี้ของคุณแม่ฟู่ตั้งนานแล้ว เธอไม่ตอบโต้อะไรกลับ ได้แต่ตอบด้วยน้ำเสียงที่อ่อนแรงไปว่า “ได้ค่ะคุณแม่”
หลังกินข้าวเสร็จ ฟู่หนานจิ่นก็ยังไม่กลับมา ฉวี่ชิงเกอนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น เธอลูบท้องตัวเองไปมา และรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
ผู้เขียน: เนื้อนวล
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ตอนที่ 1
ในค่ำคืนที่เงามืดกลืนกินแสงสว่างรอบตัวจนหมดสิ้น แสงไฟจากพุ่มไม้ประดับที่ถูกปลูกเอาไว้เป็นแนวยาวส่องให้เห็นสองร่างที่กำลังกอดรัดกันนัวเนีย
ริมฝีปากของคนที่บังเอิญมาพบเห็นเผยอค้างเติ่ง ไม่ต่างจากดวงตาที่แทบจะถลนออกมากับภาพที่ได้เห็น แม้จะไม่ชัดเจนนัก แต่ก็สามารถบอกได้เต็มปากเต็มคำเลยว่าสองร่างนั้นคือผู้ใด
มือเรียวเล็กขาวสะอาดขององค์หญิง มารีอาห์ บิน ชารีฟ อัล ซานัล น้องสาวแท้ๆ ขององค์สุลต่าน ลูฟาส บิน ชารีฟ อัล ซานัล ผู้ปกครองนคร ฟาดิลาห์อันยิ่งใหญ่ไพศาล ยกขึ้นปิดปากเพื่อไม่ให้เสียงอุทานด้วยความตกใจเล็ดลอดออกมา
ฮันนา ลูกสาวคนสวยของอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย กำลังนั่งกอดจูบพลอดรักอยู่กับ ฮูเซ็น พี่ชายบุญธรรมของตนเอง
ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดเรื่องนี้ขึ้นมาได้ เพราะฮันนาคือว่าที่องค์สุลตาน่าแห่งนครฟาดิลาห์ ซึ่งจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสอันแสนยิ่งใหญ่กับเสด็จพี่ของหล่อนในอีกสองอาทิตย์ข้างหน้า
องค์หญิงมารีอาห์รีบเร้นตัวห่างออกไปอย่างระมัดระวัง ความตกใจยังคงอัดแน่นอยู่ภายในอก หากค่ำคืนนี้หล่อนไม่ได้ลอบหนีออกจากตำหนักเพื่อปลอมตัวไปเที่ยวนอกวัง หล่อนก็คงจะไม่บังเอิญมาเห็นเหตุการณ์น่าสะอิดสะเอียนในครั้งนี้ มือขาวสะอาดกำเข้าหากันแน่น และแน่นอนว่าหล่อนจะต้องนำเรื่องที่พบเจอไปบอกพี่ชายของตนเอง
เรือนร่างสูงใหญ่ราวๆ หกฟุตสามนิ้วก้าวออกมาจากห้องประชุม ใบหน้าหล่อจัดเคร่งเครียดไม่ต่างจากทุกครั้ง ดวงตาสีสนิมรียาวหรี่แคบมองเรือนร่างอรชรของน้องสาวที่มาดักรออยู่ถึงหน้าห้องประชุมด้วยความแคลงใจ
หลังจากที่บิดาและมารดาสิ้นพระชนม์ไปในเวลาไล่เลี่ยกัน ตั้งแต่เขาอายุได้เพียงแค่สิบห้าปี ทิ้งให้เขาต้องแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่นั่นก็คือการปกครองนครฟาดิลาห์ และก็ดูแลน้องสาวเพียงคนเดียวนั่นก็คือเจ้าหญิง มารีอาห์ผู้แสนซุกซน
ผู้เขียน: กวินทร์แก้ว
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 บทนำ
บทนำ
บ้านสวน, อัมพวา
เสียงกุกกักดังขึ้นกลางดึกทำให้ชญานินสะดุ้งตื่น เธอตัดสินใจเปิดไฟแค่ห้องนอนเพราะห้องของเธออยู่ติดกับโถงห้องนั่งเล่นทำให้ไฟสามารถส่องสว่างถึงแม้จะเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม แต่เธอก็สามารถเห็นความเคลื่อนไหวและของภายในโถงห้องนั่งเล่น เธอค่อยๆ เปิดประตูห้องอย่างระมัดระวัง แต่เมื่อเธอเปิดประตูกว้างขึ้นก็พบร่างท้วมของผู้ชายคนหนึ่งที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินออกจากห้องและเอ่ยเรียกชายร่างท้วม
"พ่อค่ะ มาทำอะไรกลางดึกแบบนี้ค่ะ พ่อดื่มเหล้ามาอีกแล้วเหรอ" ชญานินเอ่ยพลางขมวดคิ้วเมื่อได้กลิ่นสุราจากชายร่างท้วมที่เธอเอ่ยเรียกว่า 'พ่อ' เธอชินแล้วกับการเห็นชายร่างท้วมกลับมาพร้อมกลิ่นสุรา แต่เธอก็ไม่เคยชินกับการที่พ่อส่งเสียงดังกลางดึก แม้พักหลังจะบ่อยขึ้นก็ตาม
บ้านของเธอเป็นบ้านสวนอยู่ริมแม่น้ำ ห่างจากถนนใหญ่ไม่มากแต่ก็ไม่มีเพื่อนบ้าน หากเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีใครรู้ รอบตัวบ้านก็มีสวนผลไม้เล็กๆ ที่แม่เป็นคนทำไว้ตั้งแต่เธอจำความได้และหลังจากสูญเสียแม่ไปจากโรคร้ายเธอก็คอยดูแลสวนหลังกลับจากงานร้านกาแฟและช่วงวันหยุดเพียงคนเดียว เพราะเธอไม่มีเงินมากมายที่จะจ้างคนมาดูแล
"มีเงินหรือเปล่า พ่อต้องการเงินสักห้าหมื่น" ธนัทพงษ์เอ่ยขึ้นพลางรื้อค้นลิ้นชักไปทั่วโถงห้องนั่งเล่น ชญานินมองตามร่างท้วมที่เดินไปทั่วก่อนจะเอ่ยตอบกลับไป
"หนูไม่มีเงินแล้วค่ะ เมื่อวานพ่อก็มาเอาไปแล้วสามหมื่น เงินก้อนสุดท้ายที่หนูมี กว่าจะได้เงินเดือนจากร้านกาแฟก็สิ้นเดือนค่ะพ่อ"
"แกต้องมี! ถ้าแกไม่มีให้ฉันพวกเจ้าหนี้ก็จะมาฆ่าพวกเราและยืดบ้าน แกต้องการให้เป็นแบบนั้นหรือไง! " ธนัทพงษ์เดินมาตะคอกใส่ชญานินก่อนจะเดินชนไหล่หญิงสาวเข้าห้องนอนของเธอเพื่อรื้อค้นหาเงินต่อโดยไม่ฟังคำพูดของเธอที่เริ่มสั่นเครือพลางน้ำตาเอ่อคลอหันไปมองผู้เป็นพ่อ