หนังสือของ SHASHAwriter
ปะป๊านาเนีย
วันดีคืนดีก็มีมาเฟียมาจอดหน้าบ้าน บอกว่าอยากได้ที่ของผืนสุดท้ายของเธอ มาเฟีย เจ้าของรีสอร์ท ฟาร์มควาย ม้า วัวที่อยู่ตรงรอยต่อของไทยมาเจรจาด้วยตัวเอง ทันทีที่เจอกัน ศศิร์ธาไม่ได้แค่อยากได้ที่ของเธอ ตัวเธอเองเขาก็อยากได้ด้วย เสียแต่ว่าเป็นม่ายลูกติด ไอ้ระยำนั่นมันเอาอะไรคิดถึงได้ถึงผู้หญิงแบบนั้นไป
(ห) อย่า ยั่ว รัก
กันต์กมลต้องการหย่าจากสามี เมื่อระแคะระคายว่าเขามีคนอื่น แต่เขากลับไม่ยอมหย่าแบบง่าย ๆ เธอจะต้องทำอย่างไรดี
เล่ห์กลของคนรักเก่า
เพราะเหตุการณ์ในค่ำคืนงานเลี้ยงบายเนียร์คืนนั้น เลยทำให้วลัญช์ต้องกลายเป็นคนรักของตัวตึงในมหาวิทยาลัยอย่างพระพาย ภายใต้เงื่อนไข 'เรียกต้องมาหา ห้ามรัก ห้ามเรียกร้อง' ข้อห้ามพวกนั้นพระพายตั้งมันขึ้นเอง และผู้หญิงทุกคนที่อยากเป็นของเขา ต้องรับข้อแม้พวกนั้นให้ได้ด้วย แต่วลัญช์ไม่ได้อยากเป็นของเขาตั้งแต่แรกอยู่แล้วนี่ เธอต้องทำแบบนั้นด้วยหรือไง
สัญญาณสวาท
สัญญาณเรียกร้องตามครรลองธรรมชาติ หรือนี่จะเป็นสัญญาณสวาท มีเนื้อหาบางช่วงตอน อาจไม่เหมาะสมกับบุคคลที่อายุต่ำกว่า 18 ปี
มี่ฮวน เมียยอดอกตัญญู
ผู้สืบทอดสำนักไฮว่ชั่วหายตัวไปอย่างลึกลับ โดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ ร่างสูงใหญ่โดดเดี่ยวในถ้ำมืด ถูกโซ่ตรวนล่ามัดเอาไว้ จนกว่าจะเลยวันเลือกเจ้าสำนักคนใหม่ มี่ฮวนอาสาขอเข้าไปเอาต้นสมุนไพร ‘โม่วยี’ ออกมาให้อาจารย์ จนไปเจอเข้ากับร่างดำโดดเดี่ยวร่างหนึ่งที่ในถ้ำมืด ที่ข้างกายของร่างดำโดดเดี่ยวร่างนั้นมีต้นสมุนไพรที่นางตามหา และทันทีที่นางเด็ดสมุนไพรต้นนั้นออกมา โซ่ตรวนที่ตึงร่างนั้นเอาไว้ก็ได้หลุดและปลดปล่อยร่างดำร่างนั้นออกมา ร่างนั้นข่มเหงนางอย่างเอาแต่ใจ กายสัมผัสลึกซึ้งต่อกัน มี่ฮวนจึงหอบเอาสายพันธุ์ลึกลับนั้นติดท้องของนางมา กว่าจะรู้ตัวอีกที ก็พบว่าตนตั้งครรภ์แล้ว หลังจากตั้งครรภ์ มี่ฮวนถูกขับไล่ออกจากโรงหมอ นางใช้ชีวิตเลี้ยงตัวเองและลูกด้วยวิชาที่ได้มาจากอาจารย์ จนวันดีคืนดี นางถูกคนของสำนักไฮว่ชั่วพาตัวไปรักษาเจ้าสำนัก ทันทีที่ดวงตาคู่สีดำเหลือบแดงมองเห็นนาง ก็รู้ได้ในทันทีว่าเป็นหญิงสาวที่ปลดปล่อยเขาออกมาจากโซ่ตรวน หัวใจแห้งผาก หัวใจที่เฝ้ารอมานาน พลันชุ่มชื่นขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะพบว่านอกจากนางจะเอาน้ำเชื้อของเขาไปทำลูกแล้ว นางยังจำเขาไม่ได้อีกด้วย หากเรื่องพวกนั้นยังไม่ร้ายแรงมากพอ นางยังจะหาเรื่องเดือดร้อนมาให้เขาต้องตามเช็ดตามล้างอีกต่างหาก นางช่าง… ช่างเหมาะสมกับที่เป็นเมียยอดอกตัญญูเสียจริง!
องค์หญิงสามของท่านแม่ทัพจาง
หลี่เยี่ยนถิงคือองค์หญิงสามที่ไร้ซึ่งความรักและคนรักนางอย่างแท้จริง แต่แล้วคืนหนึ่งนางก็ถูกท่านแม่ทัพจางกล่าวหาว่านางก่อกบฏ แล้วอุ้มนางกลับไปที่จวนของเขา หลังจากนั้นชีวิตขององค์หญิงสามก็เปลี่ยนไป เมื่อจางซงหยวนทูลขออภิเษกสมรสกับนาง
สิ้นสุดเส้นทางของความรัก
การถูกนอกใจไม่ใช่แค่แผลเล็ก ๆ แต่มันคือบาดแผลที่ถูกทำร้ายอย่างรุนแรงและแสนสาหัส หัวใจของพร้อมพรในตอนนี้ก็เหมือนกัน เมื่ออยู่ๆ เธอก็รับรู้ได้ถึงความห่างเหินและความเปลี่ยนแปลงของสามี รัฐศาสตร์คือรุ่นพี่ของเธอสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เขาคือชายที่กุมหัวใจของเธอไว้ด้วยความจริงใจ รัฐศาสตร์ไม่เคยแตะต้องพร้อมพรให้บอบช้ำ เขาเฝ้ารอเธอจนถึงวันแต่งงาน จนเธอท้องและคลอดลูกน่ารักๆ ออกมา และเมื่อลูกชายครบสามขวบ เขาก็เดินเข้ามาขอหย่าจากเธอ พร้อมกับเหตุผลที่ว่า เขาเจอผู้หญิงที่สามารถเติมเต็มชีวิตของเขาได้มากกว่าเธอ …
โอกาสรักครั้งสุดท้าย
วีร์ดาต้องแต่งงานกับดนย์ด้วยเหตุผลเงินต่อเงิน และการแต่งงานของเธอนั้นเต็มไปด้วยความขุ่นข้องหมองใจ ดนย์เป็นสาเหตุให้พ่อของวีร์ดาต้องล้มป่วย วีร์ดาตัดสินใจขอหย่าจากเขา แต่แล้วดนย์นั้นเพิ่งรู้ถึงความรู้สึกของตัวเขาเอง หลังจากที่วีร์ดาขอหย่าจากเขา และครั้งนี้ดนย์อยากจะขอโอกาสจากวีร์ดาอีกสักครั้ง ... แค่ครั้งเดียวเท่านั้น
บ่วงรักเฑียรฆชาติ
นาคี วีรัง อาฆาตุคุเนติ เสียงสาปนี้ดังก้องทั่วท้องนที ทั้งมหาสมุทร ท้องแม่น้ำ ลำคลอง บึง สระ หรือแอ่งน้ำเล็ก ๆ นั่นก็ยังได้รับผลจากคำสาปนี้ เนื่องด้วยเจ้าแห่งท้องนทีถูกลอบปลงชีพจากเมียรัก นางแทงกริชเล่มเล็กเอาชีวิตสวามี ก่อความอาฆาตพยาบาทและแคลงใจมาจนถึงภพชาติปัจจุบัน ปทุมมารู้สึกสะอิดสะเอียนพะอืดพะอมทุกครั้งที่ได้ยินตำนานเรื่องนี้ เธอไม่เชื่อตำนานนี้อย่างเด็ดขาด จนวันที่ย้ายไปเป็นแม่บ้านที่อาคารแห่งหนึ่ง ก็ทำให้เธอพบว่า ศาตราจารย์เธียร ชายคนนี้ทำให้เธอนึกถึงท่านพญานาคราชขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ และเขาไม่ได้อบอุ่นอย่างที่คนอื่น ๆ เห็น ภายใต้บุคลิกเรียบเงียบขรึม เธอดูออกหรอกน่าว่าเขาน่ะเอาแต่ใจและชอบจับผิดเธออีกด้วย แล้วทำไมจะต้องคอบจับผิดแต่เธอก็ไม่รู้ อย่างกับว่าชาติก่อน เธอเคยทำร้ายเขาจนเจ็บปางตายอย่างนั้นแหละ
ในค่ำคืนที่ฟ้าไร้ดาว
นายแพทย์ฐิรดลเดินตามหลังภัทรวรินทร์ไปแบบห่าง ๆ เขาทิ้งระยะให้พอตามได้ทัน แล้วถึงได้เห็นเด็กชายคนนั้นวิ่งเข้าไปกอดร่างของเธอแน่นทั้งยังเรียกภัทรวรินทร์ว่าแม่อีกด้วย คำถามผุดเข้ามาในหัวมากมาย ชายหนุ่มพบว่าขาของตัวเขาเองแข็งจนขยับไปยืนมองให้ชัด ๆ นั้นช่างยากเย็นเสียเหลือเกิน ความรู้สึกผิด ความรู้สึกเสียใจ ความรู้สึกเลวร้ายค่อย ๆ คืบคลานเข้ามาครอบครองหัวใจของเขา เด็กชายภัทรวินทร์ละสายตาจากแม่มองไปยังคนที่ยืนขวางตรงทางเดินออกสู่รีสอร์ตด้วยดวงตาใสแจ๋ว ก่อนจะยิ้มกว้างอวดฟันที่เรียงตัวอย่างสวยงาม แล้วส่งเสียงตะโกนเรียกด้วยความดีใจ “Hi Dad” ฐิรดลมองไปยังภัทรวรินทร์ด้วยสายตาเจ็บปวด นาทีต่อมาเด็กชายก็วิ่งตรงมาที่เขา
พลั้งเหรอ (เลย) เผลอรัก
ธาราทิพย์ เมาหนักในคืนงานเลี้ยงฉลองสละโสดของแฟนคนแรกและคนเดียวของเธอ ที่ไม่รู้ว่าเขาไปทำเพื่อนของเธอท้องตอนไหน แน่นอนว่าเพื่อนกันทำกันได้ลงคอ หญิงสาวจึงดื่มจนเมามายและตื่นขึ้นในกระท่อมกลางป่าที่ไหนสักแห่ง เธอพยายามหนีแต่คนที่กักขังเธอขอให้อยู่แบบสงบที่นี่ไปก่อน เธอจะอยู่อย่างสงบได้อย่างไร เพราะต้องไปร่วมงานเลี้ยงงานแต่งงานให้ได้ ธาราทิพย์จะหนีออกมาได้ง่าย ๆ หรือไม่ ในเมื่อถูกขังอยู่ที่ในบ้านกลางป่าแบบนั้น ร็อก ศิงขริน โรเจอร์ จำต้องเลยตามเลย ยอมตามน้ำ ตามสถานการณ์ไปเมื่อถูกจับมัดมือชกให้คุมผู้หญิงหุ่นเซ็กซี่ขยี้ใจที่บ้านในป่าลึก เขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เธอออกไปรังควานงานแต่งงานที่กำลังจะจัดขึ้น อีกคนพยายามหนี อีกคนก็ทำทุกทางไม่ให้หนี คนแปลกหน้าสองคนร่วมบ้านเดียวกันที่กลางป่า จนพลั้งเผลอกายให้กันและกันในค่ำคืนที่แสนอ่อนหวาน หรือบางทีอาจพลั้งหัวใจไปแล้วก็ได้
รอยรักที่แสนเลือนราง
เบญจมินทร์และวสุกัญญา ทั้งคู่เคยรักกัน จดทะเบียนสมรสด้วยกันแบบเงียบ ๆ แต่แล้วในวันที่เบญจมินทร์ตกต่ำ ล้มละลาย วสุกัญญากลับบอกให้เขาหย่าขาดจากเธอ หลังหย่าขากจากวสุกัญญา เบญจมินทร์ได้พบกับอดีตภรรยาของเขาอีกครั้งที่โรงพยาบาล เธออยู่ในชุดคลุมท้อง แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าเด็กที่อยู่ในท้องของเธอนั้นต้องเป็นลูกของเขาอย่างแน่นอน เนื้อหาจากบางช่วงบางตอน “พี่เบญคะ” ชื่อที่หลุดออกมาจากปากของหญิงสาวคนนั้น ทำเอาวสุกัญญาใจหาย หัวใจของเธอหยุดเต้นไปชั่วขณะ พร้อมคิดเข้าข้างตัวเองไปว่าโลกคงไม่กลมและแคบถึงขนาดนั้นหรอก โชคชะตาจะไม่เล่นตลกกับเธอใช่ไหม แต่แล้วก็พบว่าทุกอย่างกำลังล้อเล่นกับความรู้สึกของเธออยู่ ชายร่างสูงใหญ่ท่วงท่าอากัปกิริยาคุ้นเคยที่ถูกเรียกว่า ‘พี่เบญ’ กำลังตรงมาทางนี้ เขาคงเป็น ‘พี่เบญ’ ของหญิงสาวคนสวยคนนั้น แต่นั่นก็ไม่น่าหวั่นใจมากเท่ากับเขาคือ ‘เบญจมินทร์’ ผู้ซึ่งเป็นอดีตสามีของเธอ และเธอกับเขาก็เพิ่งเซ็นใบหย่า ปลดปล่อยอิสรภาพให้กันและกันไป เมื่อห้าเดือนก่อนนี้เอง
ไฟรักบัญชาการ
“กลับไปแล้ว ผมต้องเข้าไปคุยกับเจ้าสัวเรื่องของเราเสียที” พรลักษมีชะงักมือที่กำลังจัดการกับอาหารในจาน ปฏิเสธทันควัน “ไม่นะคะ” “ทำไม!” จักรพรรดิแทบตวาดถามด้วยความไม่พอใจเมื่อได้ยินว่าเธอปฏิเสธ “ฉัน... เรา...เอ่อ...เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วนี่คะ” คนฟังวางช้อนและมีดลงบนจานแทบเป็นกระแทกกระทั้น ยกผ้าซับมุมปากแล้วประสานมือย้อนถามเธอเสียงกร้าวกรุ่นด้วยอารมณ์โกรธ “เป็นแบบนี้? นี่คุณพูดอะไรออกมารู้ตัวบ้างไหม มีแต่ผู้หญิงอย่างว่าเท่านั้นที่คิดอย่างนั้นน่ะ แต่คุณกลับอยากให้เราเป็นแบบนี้?” “ฉันยังไม่อยากผูกมัดตัวเอง คุณเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน จะเดือดร้อนทำไมคะ” ใช่เขาเดือดร้อน เดือดจนร้อนจนไหม้เพราะเธอไม่แคร์ที่จะมีหรือไม่มีเขาก็ได้ เธอถึงได้คิดเช่นนั้น จักรพรรดิไม่ชอบความรู้สึกอึดอัดเช่นนี้ ไม่เคยต้องมาตามต้อนผู้หญิง ไม่เคยอยากลงหลักปักฐานกับใคร และเขากำลังจะบ้าตายเพราะเธอ “ตามใจ อยากเป็นแบบนี้ก็ตามใจ คบแบบเปลืองเนื้อเปลืองตัวแบบนี้สินะที่ชอบ พอเบื่อก็หาเรื่องเลิกกัน … แบบนั้นใช่ไหม” เขาตวาดถามสรุปประชดประชันใส่อารมณ์กับเธอ “ดีไม่ต้องแต่งมันแล้ว อยู่กันแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนแก่จนตายจากกันไปเลยก็ดี!” เขาสรุปส่งท้ายด้วยคำพูดกระแทกแดกดันแบบที่เธอไม่เคยเห็น “ฉันไม่อยากคุยแล้ว คุณใช้แต่อารมณ์ไม่มีเหตุผลเลย” “ใช่! ผมใช้แต่อารมณ์ แบบนี้ก็เหมือนกัน” จักรพรรดิจบประโยคตรงเข้ามาดึงเธอลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารสวมกอดรัดแน่นปล้นจูบเอาแต่ใจ “ปล่อยฉันนะ นี่คุณจะข่มขืนฉันเหรอ” “อยากลองรสชาตินั้นหน่อยไหมล่ะ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีสาวไหนได้รับเกียรตินั้นจากผมเลยสักคน”
ร้ายแฝงรัก
ความสัมพันธ์ทางกายเพียงคืนเดียวก่อให้เกิดความรัก ความผูกพัน ความลุ่มหลง อยากครอบครองตามมาหลังจากนั้นได้ไหม คำตอบของแพรไหมอาจไม่ แต่คำตอบของวิษุวัตนั้นตรงข้ามกับเธอโดยสิ้นเชิง ########## แพรไหมที่เผลอไปมีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกับวิษุวัต เรื่องจะไม่ยุ่งยากเลย หากเขาจะไม่ใช่ผู้ชายที่พี่สาว(ลูกของป้าสะใภ้)หมายปองเอาไว้ เธอไม่กล้าสู้หน้าเขา แน่ละว่าเพราะความอาย แต่เมื่อได้พบกับวิษุวัตอีกครั้ง เขาก็ยังย้ำเรื่องราวที่เกิดในคืนนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก จนเธอต้องหนีไปให้ห่างจากเขา หารู้ไม่ว่ายิ่งหนีก็ยิ่งปลุกความเป็นนักล่าของวิษุวัตมากเท่านั้น
ดวงใจผลิรัก
จู่ๆก็มีชายสวมแว่นหน้าแปลก ดีกรีด๊อกเตอร์จากเมืองนอกโผล่เข้ามาอยู่ร่วมบ้านด้วย แถมยังมารู้ในตอนหลังว่าเป็นคู่หมายตัวเต็งของเธอเสียอีก เรื่องอะไรศศิธิดาจะยอมถูกคลุมถุงชนง่ายๆ ในเมื่อก็รอดมาได้ทุกทีนี่นา ครั้งนี้จะจนมุมหรือไม่มีทางเสียล่ะ แล้วถ้าหากว่าทุกคนรอบตัวเธอพากันจับชายถุงขนาดใหญ่ครอบลงบนหัวเธอพร้อมๆกันเล่า ยังจะหนีรอดได้อีกไหม . บางช่วงบางตอนจาก ‘ดวงใจผลิรัก’ . . . “เวลาคบกับใคร ผมมีธรรมเนียมอยู่อย่าง” “อะไรคะ” “เป็นแฟนกันแล้วต้องรับขวัญให้เธอคนนั้นด้วยน่ะสิครับ” ได้ยินปราชญ์บอกมาอย่างนี้ เข้าทางเธอสิ กอดอกมองเขา เงยหน้าถามยิ้ม “เป็นอะไรไม่ทราบคะคุณด๊อกเตอร์ที่ใช้รับขวัญคนที่คุณเรียกว่าแฟน แหวนเพชร สร้อยสวยๆ เงิน หรือ...” เสียงแจ๋วๆหายไปไหนแล้ว ก็คงตอนที่ถูกปราชญ์เชยคางขึ้นรับจุมพิตแสนอ่อนหวานที่ริมฝีปากอุ่นจัดทาบทับลงหานั่นเองละมัง นี่เขารับขวัญเธออยู่หรอกหรือ อ้าปากจะต่อว่า แต่แล้วก็รู้ตัวเองนั้นพลาดไปถนัดใจ ก่อนจะพริ้มตาหลับลงเพราะเคลิ้มไปกับสัมผัสที่แปลกประหลาดแต่ซาบซ่านที่สุดในชีวิตอย่างที่ไม่เคยได้รับจากใคร แล้วก็น่าตีนักที่ไม่แผลงฤทธิ์ด้วยการผลักอกเขาออก รู้สึกว่ามือของตัวเองยังไต่ขึ้นไปคล้องอยู่ตรงลำคอของเขาอีกด้วย ตอนที่ปราชญ์ผละออก เขาจ้องเข้ามาในดวงตาของเธอด้วยรอยยิ้มชนิดที่เห็นแล้วร้อนฉ่าไปทั่วตัวเลยทีเดียว
อาญาสีชมพู
ทายาทตระกูลดังอย่างพฤกษ์ ผู้ไม่เคยถูกปฏิเสธและทำให้ผิดหวังแม้แต่เรื่องเดียวกลับถูกเด็กสาวบ้านนอกที่ชื่อน้องเหนือหักหน้าด้วยการไปหลงใหลชื่นชมอริของตนเองอย่างเชียร ใส ซื่อ บริสุทธิ์ผุดผาดนั่นมารยาชัดๆ เมื่อถึงแก่เวลาเขาจึงตามมาลงอาญากับเธอ แต่ไฉนเลยถึงกลายเป็นอาญาสีชมพูไปได้ ใครคาดหวังนางเอกใสซื่อบริสุทธิ์ผุดผาดเงียบหงิมสนิมสร้อย ‘อาญาสีชมพู’ ไม่มีให้คุณอย่างแน่นอน ทำไมแบบนั้น... ฝากติดตามด้วยนะคะ ##### เธอหลับตาลงทันทีพร้อมกับเอ่ยปากยอมรับด้วยหัวใจอันห่อเหี่ยวแห้งแล้งถึงที่สุด “นานแค่ไหน กับการเป็นผู้หญิงลับๆของคุณ” “เดือนเดียวก็หรูแล้ว ปกติผมไม่ชอบใช้อะไรซ้ำๆเกินสามครั้ง” “เดือนเดียว?” เธอทวนเขาเสียงเบาหวิว หมดสิ้นศรัทธาในตนเองถึงที่สุด “อ้อ นับวันเอาดีกว่า ต้องมาเป็นเวลาสามสิบวัน เผื่อวันไหนคนหัวเสเกิดเบี้ยวไม่มา ผมจะได้ไม่เสียเปรียบ” เธออยากตะโกนใส่หน้าเขาเสียตอนนี้ วินาทีนี้ว่าเขาไม่มีทางเสียเปรียบเลยแม้แต่นิดเดียว มีแต่ได้กับได้ แล้วนิ่งรับชะตากรรมอันแสนโหดร้าย ก่อนตอบออกไปด้วยเสียงสั่นเทา “ก็ได้ ฉันยอมรับข้อเสนอทุเรศๆนั่นแล้ว”
ไร่พสุธาล้อมรัก
อภิยาถูกส่งมาที่ไร่เทียมพสุธา โดยคุณลุงอรรถพลที่เธอเคารพรัก เธอไปที่นั่นเพื่อชดใช้หนี้ของพ่อและแม่ที่ยืมคุณลุงอรรถพลมา ก่อนที่พวกท่านจะลาลับโลกนี้ไป พสุธา เจ้าของไร่เทียมพสุธา บุตรชายคนกลางของอรรถพล เขาอยู่ภายใต้คำสั่งของพ่อมาทั้งชีวิต แต่แล้วก็คิดฝ่าฝืนคำสั่งของพ่อ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับเขามาก่อนแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อรู้สึกดี ๆ กับสาวน้อยหน้าใสที่มาที่ไร่ของเขาเพื่อชดใช้หนี้ เธอเข้ามาจัดแจงเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาใหม่ จนหัวใจที่เคยแห้งผากค่อย ๆ ชุ่มฉ่ำด้วยความรักที่แสนบริสุทธิ์จากเธอ แล้วทั้งสองคนจะทำอย่างไร เมื่อความรักของพวกเขาแขวนอยู่บนเส้นด้ายแห่งความแค้นที่อัดแน่นของคุณลุงอรรถพล
เมียบำเรอฟรีแลนซ์
ปานทิพย์ถูกส่งให้ไปทำเรื่องบางอย่างกับณัฏฐ์ในคืนงานเลี้ยงรุ่น แต่แล้วเขากลับรู้ตัวและตลบหลังเธอด้วยการจับมาเป็นเมียบำเรอแบบลับ ๆ “ปานต้องคอยทำให้ดินสิ ไม่ใช่ให้ดินหากินเองแบบนี้” เสียงเขาตอบคลอเคลียข้างหู เรียกขนอ่อนให้ลุกชันไปทั่วทั้งร่างกาย เบี่ยงตัวหนี แต่ก็ไปไหนไม่พ้น เมื่อแขนกำยำกักเธอเอาไว้ทั้งสองข้างกับขอบผนังตรงนั้น เธอเบี่ยงหน้าหลบลมหายใจร้อน ๆ หลบปาก หลบจมูกของเขาที่อวลไปด้วยกลิ่นเหล้า ที่รู้สึกเหม็นคลุ้งจนอยากอาเจียน “อย่านะดิน” “อย่าอะไรล่ะ” ณัฏฐ์ถามเสียงแตกพร่า อย่างที่คนฟังรู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร “ดินบอกแล้วไง ว่าปานต้องพร้อมให้ดินทุกที่ทุกเวลาอย่างที่ดินต้องการ” “แต่ไม่ใช่ตรงนี้” “อย่างนั้นจะเรียกว่าทุกที่ทุกเวลาได้ยังไงล่ะ” คนพูดย่ามใจ ล้วงมือเข้าเสื้อของเธอ คลึงเนื้อนุ่มอย่างมันเขี้ยว “เห็นปานเป็นอะไรเนี่ย” “อ้าว นี่ยังไม่รู้อีกหรือปานทิพย์ว่าเป็นอะไร” ณัฏฐ์ถามกลั้วหัวเราะ แต่เธอไม่นึกขำไปด้วย เค้นเสียงที่บ่งบอกถึงความรู้สึกได้อย่างชัดแจ้ง “ปานอยากเกลียดดินแค่ไหนรู้ไหม” “ก็เกลียดสิ ดินไม่ได้ห้ามนี่” ปานทิพย์ชะงัก มองหน้าชายตรงหน้านิ่ง ต่อว่าเขาด้วยความน้อยอกน้อยใจ “ดินไม่ใช่ลูกผู้ชายเลยที่ทำกับปานแบบนี้” “ปานน่าจะรู้ว่าดินเป็นผู้ชายแค่ไหน ที่ทำให้ปานร้องขอครั้งแล้วครั้งเล่าได้ขนาดนั้นน่ะ”
ร้อยเล่ห์แค้น แสนเล่ห์รัก
“ผู้หญิงแบบนี้ไม่มีใครเอามาทำเมียหรอก รู้ตัวเอาไว้บ้างน่าจะดี” “แต่ก็มีคนแก่ๆคนหนึ่งเคยบอกข้าวอยู่หรอกค่ะ ว่าอยากให้ข้าวมาเป็นมะ...” กระดากจะพูดว่าเมียตามเขาเลยเลี่ยงไปว่า “เป็นแม่ของลูก” ธนากรบดกรามอย่างฉุนจัด เพราะคนแก่ๆคนหนึ่งที่ขวัญข้าวว่านั่นหาใช่ใครที่ไหนไม่ มันตัวเขาเองชัดๆ “ใช่ ไอ้บ้านั่นมันแก่แต่ฉลาดไม่หยอกล่ะที่หลอกฟันเด็กใจแตกหัวรั้นคนนั้นได้แล้วแกล้งบอกว่าจะให้ผู้ใหญ่ไปขอน่ะ” สุดทนอีกต่อไป ขวัญข้าวยิ่งกว่าโกรธในตอนนี้เองเห็นชายตัวโตตรงหน้าเล็กเท่ามดก่อนกระโดดใส่พร้อมเงื้อมือจะชกอีกฝ่ายที่ว่าเธอเป็นเด็กใจแตก ธนากรยิ้มมุมปากก่อนตั้งรับเอาไว้ได้ทันทั้งตัว รู้ในวินาทีเองว่าได้ตกลงไปในหลุมที่เขาขุดรอเอาไว้แล้ว ทั้งยังเสียเปรียบเขาจนเอาตัวไม่รอดอีกด้วยเพราะถูกคนแก่กอดรัดเอาไว้เสียแน่นราวกับหมึกยักษ์โคลอสซัล “ทำเป็นโกรธ ที่จริงอยากกอดก็บอกมาเถอะ”
ใยรักจอมวายร้าย
ความเข้าใจผิดก่อเกิดเลือดเนื้อเชื้อไขของจอมวายร้ายอย่างปุญญ์ มีหรือที่คนอย่างนั้นจะไม่ทวงคืนไม่ใช่แค่ลูก แต่แม่ของลูกเขาก็จะเอา! ######### “ที่ผมอยากรู้คือ เรารู้จักกันก่อนมาก่อนหน้านี้อย่างนั้นใช่ไหม” “คุณจำไม่ได้? แล้วฉันบอก คุณจะจำได้หรือไง” “ผมรถคว่ำจนจำเวลาช่วงหนึ่งไม่ได้เลย และก็มั่นใจด้วยว่าอาจเป็นตอนที่ได้รู้จักกับคุณ” พิชชาอรยืนฟังจนเขาว่าจบ อดเบ้หน้าน้อยๆไม่ได้ “นิยายจัง” “ผมไม่รู้ว่ายังจะนิยายมากพอไหม ถ้าเด็กชายกตัญญ์จะเป็นลูกของผมด้วย” คราวนี้พิชชาอรมองเขาอย่างเป็นเดือดเป็นแค้น เมื่ออีกฝ่ายพูดถึงบุตรชายของเธอที่มีเขาเป็นคนร่วมสร้าง ใจของเธอไม่เคยเต้นรัวเร็วขนาดนี้มาก่อน รู้สึกเหมือนว่าร่างกายกำลังจะลุกเป็นไฟด้วยโทสะที่ฝังแน่นในตัว บอกเขาด้วยเสียงเครียดๆ “ตอนนี้ไม่สำคัญแล้วว่าเขาจะเป็นลูกของคุณหรือเปล่า” ปุญญ์ขมวดคิ้วมุ่น กระชากเสียงถามอย่างไม่พอใจนัก “ทำไม” “เพราะฉันเคยติดต่อคุณไปแล้วเรื่องที่ฉันท้อง แต่คุณ คุณ....” พูดถึงเหตุการณ์วันนั้นทีไร อารมณ์ของเธอจะพรุ่งปรี้ดทันที มันเต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ เกลียดชังเขาอย่างที่สุด จนอยากจะอาเจียนออกมาเลยทีเดียว “ผมทำไม” “ฉันไม่อยากนึกถึงตอนที่คุณพูดลับหลังว่าฉันยังไงบ้างน่ะ พูดอย่างไม่ใช่ลูกผู้ชาย!” พิชชาอรเค้นเสียงว่าอย่างมีโมโห จำได้มั่นว่าเขาบอกว่าผู้หญิงที่ผ่านมาก็แค่ทางผ่านของเขา แล้วนี่มาตอแยกับเธอ แฟนสาวของเขาไม่รู้เรื่องหรือไร ยิ่งคิดก็ยิ่งเดือด “ผมต้องการลูก …และคุณต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ทั้งหมดฐานที่พรากเขามาจากผมที่เป็นพ่อแท้ๆ” “ฝันไปเถอะ!” “มันต้องเป็นฝันที่สนุกแน่พิชชาอร ถ้าในนั้นมีคุณรวมอยู่ด้วย!”