“คุณเป็นใคร? ” สาวน้อยเอ่ยถามเสียงแข็ง ใช่เธอเพิ่งเห็นใบหน้าคมชัดก็วันนี้เองเขาหล่อ มีกล้ามหน้าท้องที่แสนจะแข็งแกร่ง “จุๆ สาวน้อยต่อจบบทก่อนค่อยถามนะ” ชายนิรนามเอามือปิดปากสาวน้อยใต้ร่าง ก่อนร่างหนาจะเริ่มเบียดเสียดสีเข้าหาร่างเล็ก ร่างหนาบิดพลิ้วไปตามจังหวะรักเป็นท่วงทำนองเพลงรักที่เขาเป็นคนแต่งและควบคุมบทเพลงเอง ส่วนร่างเล็กใต้ร่างนั้นได้แต่บิดเร้าครวญครางไปตามกระแสความเสียวซ่านที่ชายหนุ่มเหนือร่างกำลังปลุกปั่นให้แก่ตน “โอว์!...ดีเหลือเกินเด็กน้อยจ๋า.....ชูว์!.....” เสียงเข้มคำรามก้องด้วยความสุขสม เมื่อตัวเองนั้นถึงปลายโค้งฟ้าแล้ว และไม่นานก็ตามมาด้วยเสียงร้องครวญครางเล็กของ “กรี๊ดดดด.....” สาวน้อยวัยกระเตาะกรีดร้องอย่างมีความสุข เธอกรี๊ดทุกครั้งที่คนเหนือรางส่งถึงวิมารดอกฟ้า ก่อนจะเผลอหลับหมดแรงไปอย่างเหนื่อยล่า
ในห้วงความฝันของสาวน้อยไร้เดียงสาวัย 18 ปี ทุกค่ำคืนมักจะฝันประหลาด จนคลายเรื่องจริง และยิ่งแปลกไปกว่านั้นตื่นเช้ามาเนื้อตัวปวดระบมไปหมด เหมือนกับว่าตอนกลางคืนไปออกรบจับศึกมาอย่างไงอย่างงั้น แต่สาวน้อยก็ยังคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ฝัน อีกอย่างะเล่าให้ใครฟังได้เล่า พ่อแม่หรือ เล่าไปก็อาย อายุหล่อนยังน้อยไม่ควรหมกมุ่นกับเรื่องโลกีย์พรรค์นี้
ในค่ำคืนนี้ก็เช่นกัน มันมาอีกแล้วความฝันที่แสนจะเร่าร้อน แต่ครั้งนี้มาแปลกกว่าทุกคืน เพราะทุกสัมผัสร้อนจากมือหนาที่ตนจำได้ไม่เคยลืม ไม่ว่าจะยามหลับหรือตื่น ใบหน้าหล่อเหลานั้นเด่นชัดเสมอ มันรุนแรงและหนักหน่วงกว่าทุกครั้งที่ได้พบ จนต้องลืมตาขึ้นมาเพื่อให้ความฝันนั้นจางหายไป แต่แล้วก็ต้องตกใจสุดขีด เมื่อพบกับร่างหนาที่กำลังคร่อมทับร่างเล็กของตนอยู่ สาวน้อยเพิ่งรู้ก็ตอนนี้เองว่ามันไม่ใช่ความฝัน แต่มันเป็นเรื่องจริงทุกอย่าง แล้วทำอย่างก็เด่นชัดขึ้นมาเรื่อยๆ เมื่อมือหนาเอื้อมไปเปิดไฟที่หัวเตียงของหล่อน
“คุณเป็นใคร” สาวน้อยเอ่ยถามเสียงแข็ง ใช่เพิ่งเห็นใบหน้าคมชัดก็วันนี้ เองเขาหล่อ มีกล้ามหน้าท้องที่แสนจะแข็งแกร่ง
“จุๆ สาวน้อยต่อจบบทก่อนค่อยถามนะ” ชายนิรนามเอามือปิดปากสาวน้อยใต้ร่าง ก่อนร่างหนาจะเริ่มเบียดเสียดสีเข้าหาร่างเล็ก
ร่างหนาบิดพลิ้วไปตามจังหวะรักเป็นท่วงทำนองเพลงรักที่เขาเป็นคนแต่งและควบคุมบทเพลงเอง ส่วนร่างเล็กใต้ร่างนั้นได้แต่บิดเร้าครวญครางไปตามกระแสความเสียวซ่านที่ชายหนุ่มเหนือร่างกำลังปลุกปั่นให้แก่ตน
“โอว์!...ดีเหลือเกินเด็กน้อยจ๋า.....ชูว์!.....” เสียงเข้มคำรามก้องด้วยความสุขสม เมื่อตัวเองนั้นถึงปลายโค้งฟ้าแล้ว และไม่นานก็ตามมาด้วยเสียงร้องครวญครางเล็กของ
“กรี๊ดดดด.....” สาวน้อยวัยกระเตาะกรีดร้องอย่างมีความสุข เธอกรี๊ดทุกครั้งที่คนเหนือรางส่งถึงวิมารดอกฟ้า ก่อนจะเผลอหลับหมดแรงไปอย่างเหนื่อยล่า
“อ๊า
!...หลับซะนะเด็กน้อยของฉัน” เสียงเข้มแหบพร่าเอ่ย พร้อมกับพลิกตัวนอนข้างกายของสาวน้อย ก่อนจะดึงรั้งร่างเล็กเข้ามาซุกอกตนนอนหลับไปด้วยกันในค่ำคืนที่แสนจะหฤหรรษ์นี้
ตั้งแต่ย้ายมาอยู่ข่างบ้านของสาวน้อยผู้น่ารักในอ้อมกอดเขาก็ไม่อาจจะหักห้ามความปรารถนาของตัวเองได้เลย เพราะความอยากได้ของเขาจนทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ซ้ำๆ แทบทุกคืน ใช่เรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากตัวเขาและคนสนิทนั้นเอง
“เห้อ
!
” ร่างใหญ่ถอนหายใจแรงๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อนใจ ไม่รู้จะทำเช่นไรกับชีวิตนี้ จะปล่อยคนตัวเล็กไปก็เสียดาย กลัวเหลือเกินว่าจะมีชายอื่นมาทับรอยตน ตัวรู้ว่ามันไม่ควรที่จะทำแบบนี้กับสาวน้อยวัย 18 ปีอย่างเจ้าหล่อน
ย้อนไปเมื่อต้นเดือนที่แล้ว ขุนพล ชาติเจริญทรัพย์ หรือ พล วัย 35 ปี เจ้าของโรงแรม 7 ดาวชาติเจริญ ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังใหม่ ที่ตนได้ซื้อไว้ และเพื่อให้สะดวกต่อการเดินทางไปทำงานจึงได้เลือกบ้านหลังนี้ แต่ก็ดันมามีเพื่อนข้างบ้านอย่างชลินดา วไลกร หรือปิ่น สาวน้อยวัย 18 ปี ลูกสาวของเจ้าของร้านดอกไม้ที่อยู่ตรงหน้าปากซอยของหมู่บ้านแห่งนี้นั้นเอง
เพียงแค่ยิ้มที่ได้เชยชมก็ทำให้บุรุษหนุ่มแข็งแกร่งอย่างเก็บมานึกคิดและใฝ่ฝันทุกค่ำคืน จนแล้วจนรอดเก็บกักความทรมานและความปรารถนาไม่ไหว จนได้บุกรุกเข้ามามอบความเป็นชายชาตรีให้เด็กน้อยไร้เดียงสา และความภาคภูมิใจก็ได้กินขึ้น เมื่อครั้งแรกของเธอเป็นเขาที่ได้ครอบครอง พอตอนนี้จะถอนตัวก็กลับถอนไม่ได้เสียแล้ว เมื่อกวางน้อยนั้นแสนหวานและเร่าร้อนเหลือเกิน
“เห้อ!
เพราะความอยากของเราแท้ๆ ถึงทำให้เป็นบ่วงแบบนี้ ฉันจะเอายังไงกับเธอดีแม่สาวน้อยวัยแรกแย้ม” ขุนพลพำพึมเบาๆ เมื่อกลับมาอยู่ในปัจจุบัน
“อื้อ!” รางเล็กครวญครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน เมื่อถูกมือใหญ่รุกเร่ากึ่งกลางกาย
“อ่า! !เธอติดไฟไวเหลือเกินปิ่น อูว์!” การกระทำมันสวนทางกับความคิดเสมอ ตอนนี้บุรุษหนุ่มหลงลืมไปแล้วว่าอันไหนดีอันไหนชั่ว ก็ตอนนี้ร่างเล็กนั้นครวญครางกระเชาน่าค้นหาเหลือเกิน มือหยาบกร้านจึงไม่รอช้าที่จะสอดแทรกเข้าไปในกลางกายสาว ถึงแม้ว่าคนตัวเล็กนั้นจะหลับอยู่ก็ตาม
“อีก 2 ชั่วโมงก็จะตี 5 แล้ว ขออีกรอบก่อนจะกลับไปปกตินะสาวน้อย” มือเหลือตามองโทรศัพท์เครื่องแพงของตัวเองแล้ว ก็ไม่รอช้าที่จะพลิกร่างขึ้นคร่อมร่างเล็กอย่างรวดเร็ว
“ว้าย!อ่า !
” ร่างเล็กร้องออกมาได้แค่นั้น เมื่อถูกปากหนาบดขยี้ให้ แถมกายสาวก็ถูกสอดแทรกด้วยความแข็งแรงของชายหนุ่ม ตอนนี้ชลินดาครึ่งหลับครึ่งตื่น แยกไม่ออกว่ามันคือความจริงหรือความฝันกันแน่น แต่เธอก็หาได้ใส่ใจไม่ เมื่อทุกคืนมักจะฝันแบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา
“ปิ่นจ๋า...ขออีกรอบนะแล้วฉันจะกลับ พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะ” ว่าแล้วเอวสอบก็ไม่รอช้าที่จะขับเคลื่อนแรงม้าของตน
“อะ ! อืม!” เสียงครวญครางดังมาเป็นระยะ พร้อมกับเสียงคำรามซ่านของคนต้นเรื่อง
“โอว์ ! ตอดรัดดีเหลือเกินคนดีจ๋า อ่า!
” เสียงพร่ากระซิบข้างหูคนตัวเล็ก มือหยาบจับรั้งเอวเล็กให้มั่น ก่อนจะโถมแรงม้าเฮืกสุดท้ายของตนเข้าหากระบอกอย่างดุดดัน
“อะ !โอว์!” ร่างเล็กแอ่นเด้งรับอย่างรู้จังหวะ มือเล็กจิกผ้าปูที่นอน ใบหน้าเปียกชื่นเหงื่อแหงนมองเพดานห้องอย่างคนละเมอ ก่อนจะร้องออกมาอีกครั้ง เมื่อความสุขซ่านไปทั่วเรือนกาย
“อา! ขอบคุณนะสาวน้อย..อืม !
” ใบหน้าหล่อซบลงซอกตอระหงอย่างหมดเรียวแรง ก่อนจะขบเม้นฝากรอยไว้ให้คิดถึงและผลิกร่างไปนอนข้างกายคนตัวเล็กด้วยความเหลื่อยล้า ยังไม่หายเหนื่อยดีก็ถูกรบกวนด้วยเครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัยของตน
ตึ๊ด ! ตึ๊ด !ตึ๊ด!
“ใครวะ!คนยิ่งเหนื่อยๆ อยู่” สบถออกมาด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะหยิบขึ้นมาดูว่าใครโทรมา
“น่าขึ้นเงินเดือนให้จริงๆ เลยสมิงนิ รู้หน้าที่ก็แกนี้แหละ” บ่นกับโทรศัพท์ก่อนจะกดรับสาย
“รู้แล้วน่าสมิง นายจะโทรตามทำไมวะ!”
“ไม่ได้หรอกเจ้านาย ผมกลัวเจ้านายหลับคาอกเด็กเอา” สวนกลับเจ้านายด้วยความหมั่นไส้ ก็ดูเอาเถอะตัวเองไปมีความสุข ส่วนตัวเขามานอนให้อาหารยุงดูต้นทางให้เจ้านายหนุ่ม
“เออน่า !
ใส่เสื้อผ้าเสร็จจะตามลงไป นายเนี่ยนะทำหน้าที่ดีจนฉันอยากหักเงินเดือน” ว่าแล้วก็กดตัดสายลูกน้องตัวขัดความสุขทันที
เกือบหนึ่งพันปีที่เฝ้ามอบถวายชีวิตของตัวเองคอยรับใช้นายท่านนาสูร และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกอนาคตตัวเอง เขากลับเคว้งคว้างเดินไม่ถูก และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อโชคชะตาส่งเด็กน้อยตัวเล็กอายุไม่กี่เดือนมาให้เขาได้ดูแล ‘เดหลี’ เขาดูแลเด็กน้อยไม่ต่างจากลูก แม้จะรู้ดีว่าอนาคตเด็กคนนี้จะเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง ‘พาที’ นั่งใช้ความคิดอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่นของบ้านที่ตนเองและเดหลีอาศัยอยู่ด้วยกัน เพลานี้เด็กน้อยอายุเจ็ดขวบ เผลอแป๊บเดียวจากเด็กน้อยงอแงเอาแต่ใจ นอนตัวแดงแบเบาะ ตอนนี้รู้ความและขี้อ้อนมาก “คุณพาทีคะ คุณพาทีคะ” “หืม! เด็กน้อย” คนถูกเรียกหันมาหาเจ้าของเสียงเล็กสดใสของหนูน้อยวัยเจ็ดขวบ “แต่งงานคืออะไรคะ?” หนูน้อยเกาะแขนของผู้เปรียบเสมือนพ่อของตนเอง “คือคนสองคนรักกัน แล้วก็แต่งงานกัน เดี๋ยวโตขึ้นเดหลีก็จะเข้าใจเอง” พาทีลูบหัวหนูน้อยหน้ากลมที่แนบแขนตัวเองและกำลังแหงนเงยหน้าขึ้นมองจ้องหน้าตัวเอง เหมือนเขาที่กำลังก้มมองหน้ากลมๆ อ้วนๆ ของหนูน้อย “งั้นโตขึ้นเดหลีจะแต่งงาน และคุณพาทีต้องแต่งงานกับเดหลีด้วยนะคะ” “แต่งงานน่ะแต่งได้ แต่กับฉันไม่ได้เดหลี” “ทำไมไม่ได้คะ เดหลีรักคุณพาที ถ้าไม่แต่งกับคุณพาทีจะให้หนูแต่งกับใครคะ” หนูน้อยเจ็ดขวบตอบอย่างฉะฉาน ทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘รัก’ และ ‘แต่งงาน’ “โตขึ้นเธอจะรู้เองเดหลี ตอนนี้ได้เวลานอนแล้วนะ ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวฉันเอานมร้อนไปให้ดื่มก่อนนอนนะ” “อุ้มค่ะ” หนูน้อยยอมผละแขนสั้นๆ ที่กอดแขนใหญ่ออกมากางให้อีกฝ่ายอุ้มตัวเองกลับห้องนอน พาทียกยิ้มเอ็นดูท่าทางของหนูน้อยแล้วก็ช้อนอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอกแล้วลุกขึ้นจากโซฟาพาเดินกลับห้องนอนด้วยเวลานี้ดึกมากแล้ว
“อ่ะ...อื้อ” เธอเบิกตากว้างในความมืดสลัวเมื่อรู้ว่าตอนนี้ตัวเองถูกคุกคามยามดึก “ชูว์! ฉันเองเด็กน้อย” เขายกมือมาปิดปากเธอพร้อมบอกให้รู้ว่าคือเขา “คุณนาสูร” “ใช่ ฉันเอง ก็บอกแล้วไงว่าเจอกัน” “ฟ้าอยู่” “เธอไม่ตื่นหรอก” เขาบอกตอบกลับ “แต่ไม่ได้นะคะ เราจะ...” “ทำไมจะไม่ได้ ก็ฉันหิวมาหลายวันแล้วน้อง เธอก็รู้ว่าฉันต้องการเธอมากแค่ไหน” เขารีบบอกสวนกลับโดยที่เธอยังพูดไม่สุดประโยคความ “พรุ่งนี้ฟ้าก็กลับแล้ว” เธอบอกพร้อมดันเขาไปนอนข้างๆ ตัวเองที่ยังมีพื้นที่ว่างอยู่ “ไม่มีพรุ่งนี้ทั้งนั้น ฉันต้องการวันนี้เด็กน้อย ขอเถอะนะ เพื่อนเธอไม่มีทางตื่นถ้าฉันไม่สั่งให้ตื่น เรามามีความสุขกันเถอะนะ ฉันรู้ว่าเธอเองก็โหยหาฉัน” มือใหญ่สอดเข้าไปในใต้ผ้าห่มแล้วบีบเคล้นเต้าของเธอ “อ่ะ...อื้อ คะ...คุณนาสูร ยะ...อย่าทำแบบนี้ค่ะ น้องอาย ถึงฟ้าจะไม่ตื่น แต่ฟ้าก็นอนอยู่ข้างๆ นะคะ” พึ่บ! แล้วผ้าห่มที่เธอแบ่งกันกับเพื่อนห่มนั้นก็ถูกถลกดึงรั้งขึ้นไปคลุมหัวของฟ้าใสทันที --- สวัสดีนักอ่านทุกคนค่ะ ณิการ์ขอฝากรูปเล่มนิยายเรื่อง “นาสูร” ภายใต้นามปากกา “ยักษ์” ด้วยนะคะ เป็นเรื่องราวของยักษ์ที่มาอายุนับพันกว่าปีกับมนุษย์สาวคนหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นนิยายแฟนตาซีอีโรติกค่ะเรื่องนี้ “นาสูร” เป็นยักษ์ที่หิวกามมาก กินดุมาก เขาไม่สนใจเนื้อเท่ากับลีลารักบนเตียง และ “พุดซ้อน” ก็สนองตัณหาของเขาได้ดีทีเดียว แล้วเขาทั้งสองจะรักกันได้ยังไง เมื่อทั้งสองต่างแตกต่างกัน มาลุ้นไปกับความรักของยักษ์และมนุษย์ด้วยกันนะคะ
เรื่อง “มังกรกัณฐ์” นามปากกา “ยักษ์” ภาคต่อ “นาสูร” ด้วยนะคะ นิยายชุดนี้จะมี 3 เรื่องนะคะ นาสูร(อีบุ๊กพร้อมโหลด),มังกรกัณฐ์(อีบุ๊กพร้อมโหลด) และกลืนกิน(กำลังเขียน) วันนี้ฝากเรื่อง “มังกรกัณฐ์” ด้วยนะคะ เป็นเรื่องของลุกชายพ่อนาสูรมาลุ้นไปกับความรักความหื่นและความเอาแต่ใจของหนุ่มลูกครึ่งยักษ์กันนะคะ
“ไอ้พร้อม ไอ้ห่า มึงมันหยาบเกินคน มึงไม่เป็นลูกผู้ชาย” “ก่อนจะว่าแบบนั้น มึงดูเอ็นกูยัง มึงดูเอ็นกูแข็งร้อนขนาดนี้ มึงยังปากดีว่ากูไม่เป็นลูกผู้ชายอีกเหรอ”
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนสองคนไม่เคยเจอกัน ไม่เคยรู้จักกัน แต่ต้องมาแต่งงานกัน แน่นอนว่าการคลุมถุงชนครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะคนแก่ทั้งสองที่ให้คำมั่นสัญญากัน พวกเขาที่เป็นหลานจึงจำต้องแต่งงานกัน "น่านน้ำ" หนุ่มเจ้าของไร่กาแฟ กับสาวมั่น "พิมพ์มาดา" ที่ต้องมาเจอกัน ทั้งสองไม่ใช่คนที่จะเชื่อฟังใครง่ายๆ ต่างคนต่างดื้อ และการคลุมถุงชนครั้งนี้จะต้องไม่เกิดขึ้น แล้วเรื่องราววุ่นวายจึงเกิดขึ้น หนี....ใช่ต้องหนีเท่านั้น....แต่หนีไปไงมาไงมา "รัก" กันได้ไง ที่สำคัญหนีไปหนีมามาเจอพ่อคน "เซ็กส์จัด" ใช่ค่ะว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเซ็กส์จัดจนต้องยอมแพ้....และเธอก็ชอบความหื่น ห่าม ถ่อย ของคนที่ชังหน้าแบบไม่รู้ตัว......และน่านน้ำก็หลงเจ้าสาวจอมดื้อแบบไม่ตั้งใจรักเช่นกัน...... ------------ “นายทำบ้าอะไรของนาย” “ลงโทษเมีย” น้ำคำห้วนๆ ตอบกลับทันควัน พร้อมกับจ้องหน้าสวยที่ตอนนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจในตัวเขาอยู่ในที แล้วเรื่องอะไรเขาต้องสนใจสายตาเกลียดชังที่หล่อนส่งมาให้ด้วยเล่า ในเมื่อพิมพ์มาดาเป็นของเขาและต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นายน่าน” เธอสั่งเสียงแข็งไม่ยอมเช่นกัน พร้อมดิ้นหนีจากแรงกดของบุรุษที่คร่อมเหนือตัวเองอยู่ในตอนนี้ เขาบังคับให้เธอพิงไปกับพนักโซฟาและตัวเขาก็คร่อมกักร่างเธอไว้ โดยมีสองมือใหญ่กดหัวไหล่เธอให้อิงพิงไปกับพนักเก้าอี้ สองมือทุบตีไปกับหน้าอกแกร่งแต่เหมือนกับว่าทุบกำแพงหินผาเจ็บมือเสียแรงเปล่า “ทำไมฉันต้องปล่อยด้วย เธอคิดยังไงถึงไปคบกับไอ้ปลัดธนูนั่นทั้งๆ ที่มีฉันเป็นผัวทั้งคน หรือฉันคนเดียวไม่พอฮึดา” โน้มหน้าลงไปเอ่ยข้างหูเธอพร้อมกับกัดดึงหูเธอแรงๆ ด้วยความโมโห “โอ๊ย! ฉันเจ็บนะไอ้ซาดิสม์!” “ก็กัดให้เจ็บ ถ้าไม่เจ็บจะกัดทำไมวะ บอกฉันมาไปถึงไหนต่อไหนกับมันแล้ว” เงียบ! ปากช่างเจรจาของสาวจอมพยศเม้มแน่นไม่ปริปากตอบเมื่อเขาถาม และนั่นยิ่งกระตุ้นไฟโทสะในอกของน่านน้ำไปใหญ่ “ฉันถามเธออยู่ทำไมไม่ตอบ” เขากระชากเสียงถามเธอดังกว่าเดิม และครั้งนี้ก็บีบหัวไหล่ของเธอที่กดไปกับพนักโซฟาด้วย “เจ็บนะเว้ย! นายมันบ้าไปแล้วนายน่าน นายมันคนซาดิสม์ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันเจ็บ” ทุบตีแขนของเขาให้นำพามือที่บีบหัวไหล่ตัวเองออก ตอนนี้ดวงตาสวยสดใสได้อาบล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บปวด เมื่อเขาไม่ยอมปล่อยมือจากหัวไหล่แต่เขากลับทำตรงกันข้ามคือบีบแรงกว่าเดิม “ฉันไม่ใจอ่อนกับน้ำตาของผู้หญิงอย่างเธอหรอกนะดา อย่ามาบีบน้ำตาปัญญาอ่อนต่อหน้าฉัน” น้ำเสียงเฉียบขาดเอ่ยขึ้นพร้อมกับผละมือข้างขวามาบีบคางเล็กของเธอให้แหงนเงยเชิดหน้าขึ้นสบตาตนเอง แล้วเขาก็โน้มลงไปบดขยี้ปากอวบอิ่มสีระเรื่อที่เม้มแน่นของหล่อนจริงๆ ในเมื่อไม่ยอมพูดไม่ยอมตอบเขาก็ไม่คิดจะสนใจแล้ว เพราะตอนนี้สิ่งที่ต้องการคือการทำให้พิมพ์มาดาจำ จำว่าร่างกายของหล่อนคือของเขา นายน่านน้ำไม่ใช่ของใครอื่นที่ไหน ผู้ชายหน้าไหนก็ห้ามแตะ เพราะเนี่ยคือสมบัติของเขา ถ้าเขาไม่ยกให้ใครหน้าไหนก็ห้ามพาหล่อนหนี “อ่ะ อื้อ.....
เขาเป็นหมอที่มีรักเดียวมาตลอดหลายสิบปี แอบเฝ้ามองน้องน้อยตั้งแต่แรกเกิด ส่วนน้องน้อยก็หาได้รักเขาแบบชู้สาวไม่ สำหรับจงกลนีแล้วเขาคืออาจารย์หมอหน้านิ่งหน้าเดียว ไร้อารมณ์ทางสีหน้า แม้แต่ยิ้มเขาก็ยิ้มไม่เป็น แต่ก็ตกใจเมื่อเขายิ้มให้ตัวเองคนเดียว จะบ้าเหรอเขาเป็นอาจารย์ของเธอ และเธอกก็เคารพเขามาตลอด จะให้รักได้ยังไงกัน ++++++ “เอ้า...ปากกา เซ็นเอกสารแล้วค่อยนอนต่อก็ได้” “ค่ะ” เธอรับปากกาที่เขายื่นให้พร้อมกับเซ็นชื่อตรงที่เขาชี้มือ “เรียบร้อย ตอนนี้เธอเป็นเมียฉันแล้วนะ” “ยังไงคะ?” ถามทั้งๆ ที่นั่งหลับ “ก็เราจดทะเบียนสมรส..
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"