เรื่องย่อ วังวนร้อนรักจวนแม่ทัพใหญ่ แนว 4P ซุนหลีนถูกจับมาเป็นเชลยสงครามพร้อมพี่ชายบุญธรรมที่นางแอบมีใจให้เขาและมารดา แต่ด้วยความงามของนางจึงทำให้ฮูหยินใหญ่ที่ไร้ทายาทต้องการให้นางอุ้มท้องแทนตน เรียนท่านผู้อ่านทุกท่าน หนังสือนิยายเรื่องนี้จัดอยู่ในหมวด นิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งเหมาะกับสายแซ่บไม่พูดเยอะ เจ็บคอ จะมีฉาก NC นำเนื้อหาแทบทั้งเรื่อง และพล็อตเบาคลายเครียด แทบไม่มีพล็อตค่ะ ดังนั้นท่านผู้อ่านควรพิจารณาโหลดตัวอย่างก่อนตัดสินใจซื้อค่ะ ขอบคุณค่ะ
จวนแม่ทัพใหญ่แคว้นเฉา
แคว้นเจ้าของซุนหลีถูกแม่ทัพโจวซีฉือแห่งแคว้นเฉาตีจนแตกพ่ายและทำให้แคว้นเฉากลายเป็นผู้ปกครองแคว้นเจ้าโดยทันที
ซุนหลีบุตรสาวแม่ทัพแคว้นเจ้าจึงกลายเชลยสงครามที่ถูกกวาดต้อนให้มาอยู่ในจวนแม่ทัพตั้งแต่อายุสิบสามปี
เพราะสงครามทำให้บ้านแตกสาแหรกขาด หลังจากแพ้สงครามบิดาของนางได้รับบาดแผลหลายแห่งบนร่างกาย บิดาจึงมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานก็จากไป
ในขณะที่มารดา ซุนหลี และพี่ชายบุญธรรมนามซุนโหว ถูกกวาดต้อนให้มาเป็นบ่าวรับใช้อยู่ในจวนแม่ทัพพร้อมกัน
บัดนี้ซุนโหวอายุยี่สิบห้าปีแล้ว เขาไม่ใช่พี่ชายที่แท้จริงของซุนหลี แต่คือบุตรชายสหายรักของบิดาซุนหลีที่ออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่กัน ที่มีนามว่า อี้โหว
ต่อมาบิดาของอี้โหวได้ตายในสงครามในยามที่เขาอายุได้สิบหกปี แม่ทัพซุนจึงรับอี้โหวมาเป็นบุตรบุญธรรมและดูแลเขาประดุจบุตรชายผู้หนึ่ง
แม่ทัพซุนในยามนั้นจึงได้ให้เด็กน้อยอี้โหวเปลี่ยนแซ่มาใช้แซ่ซุนตามเขา จากอี้โหวจึงได้กลายมีเป็น ‘ซุนโหว’ ในปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ซุนโหวตามติดบิดาบุญธรรมไปออกรบและตำแหน่งสุดท้ายก่อนแผ่นดินแตกพ่ายของเขาก็คือแม่ทัพน้อยของแคว้นเจ้า
หลังแคว้นเจ้าถูกแคว้นเฉาตีทัพจนแตกพ่าย คนสกุลซุนสวามิภักดิ์ แม่ทัพนายกองทั้งหลายกลายเป็นสามัญชน ยังถูกกวาดต้อนเข้าเมืองหลวงเพื่อป้องกันการคิดรวบรวมคนก่อกบฏอีก
เชลยเหล่านี้ต่างถูกส่งให้ไปอยู่ในบ้านของขุนนางบ้างก็ถูกส่งไปใช้แรงงานตามชายแดน มีฐานะตกต่ำกลายเป็นทาสโดยไม่สนฐานะเดิม
หลันหยาคือฮูหยินจวนแม่ทัพ นางได้รับจดหมายจากโจวซีฉือให้ช่วยดูแลคนจากสกุลซุนให้ดีเพราะสกุลซุนเคยมีบุญคุณต่อเขาแต่อย่าออกหน้าจนเกินไป
หลันหยาย่อมเข้าใจเพราะอย่างไรพวกเขาก็เป็นเชลย ดังนั้นไม่อาจช่วยเหลือออกนอกหน้าได้ นางจึงจัดสรรตำแหน่งให้อย่างชาญฉลาด
เพราะซุนโหวมีใบหน้าหล่อเหลาสะดุดตา รูปร่างกำยำทั้งหน่วยก้านดี เขายังมีความเชี่ยวชาญเรื่องการฝึกม้า จึงได้รับหน้าที่ให้เป็นคนเลี้ยงม้าและฝึกฝนม้าของจวนแม่ทัพทันใด
เดิมทีซุนโหวมีภรรยาที่แต่งงานกันแล้วติดตามมาด้วย ทว่าภรรยาของเขากลับไปต้องตานายกองผู้หนึ่งเข้า นางจึงทิ้งเขาโดยไม่แยแสยินยอมไปเป็นอนุของนายกองผู้นั้นเพื่อความสุขสบายของตนเอง
ซุนโหวหย่ากับภรรยาของตนเอง ทว่ากลับไม่รู้สึกเสียใจอันใด ก็นั่นเพราะว่าสตรีที่อยู่ในใจของเขากลับคือน้องสาวบุญธรรมซุนหลีมาตั้งแต่ต้น
ที่เขาแต่งงานกับนางผู้นั้นล้วนเพราะท่านพ่อบุญธรรมเป็นธุระจัดการเขาจึงไม่อาจขัดได้จำต้องแต่งอย่างจำยอม
หากท่านพ่อที่แท้จริงของเขาไม่ด่วนตายจาก ไม่แน่ว่ายามนี้ซุนหลีอาจจะกลายเป็นภรรยาของเขาก็ได้
ทว่ายามนี้ฐานะตกต่ำ ไร้แผ่นดินอาศัยเขาจึงได้แต่คอยคุ้มครองแม่บุญธรรมและน้องบุญธรรมอยู่ที่นี่ไม่ให้ผู้ใดรังแกได้
จวนแม่ทัพใหญ่แคว้นเฉานับว่าไม่เลว ถึงเขาจะถูกต้อนมาเป็นทาส แต่คนในจวนก็มิได้รังแกคนที่ไร้ทางสู้ ยังให้พวกเขาอยู่อาศัยอย่างสบายใจ หากไม่คิดทรยศก็จะสามารถใช้ชีวิตอย่างสงบเช่นนี้ได้จนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต
ขอเพียงได้อยู่ใกล้ซุนหลี ซุนโหวก็ไม่คิดไปที่ใดอีกแล้ว
ในขณะที่ซุนหลีมีใบหน้างดงาม ผิวขาวผ่องเรียบลื่นประดุจแพรไหม นางถูกเลี้ยงดูประดุจไข่ในหินมาตั้งแต่กำเนิด ผิวพรรณจึงผุดผาดเนียนนุ่มฉ่ำน้ำประดุจเต้าหู้ขาว กิริยามารยาทอ่อนหวาน ถ่อมตน
ยิ่งโตความงามยิ่งเลื่องลือ กระทั่งสตรีที่เห็นนางยังต้องยอมสยบ
เพราะความงามและมารยาทที่เพียบพร้อม ซุนหลีจึงเป็นที่ต้องตาฮูหยินใหญ่ และหมายตาว่าจะให้ซุนหลีเป็นอนุคนต่อไปของท่านแม่ทัพใหญ่
หลันยาบัดนี้อายุสามสิบห้าปีแล้ว แม้จะอายุมากแต่นางกลับยังงดงามใบหน้าไร้ริ้วรอยเหมือนเด็กสาวแรกแย้มนางหนึ่ง
หากเปรียบเทียบความงดงามกับซุนหลีแล้ว แม้จะแก่ชรากว่านับสิบปีทว่าก็ไม่อาจเปรียบเทียบว่าผู้ใดที่งดงามมากกว่ากัน
แม้นางจะเป็นฮูหยินที่ท่านแม่ทัพรักใคร่หลงใหลที่สุด ทว่านางมีอาการเจ็บป่วยภายในเป็นโรคประจำตัวที่มีมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่อาจมีบุตรกับท่านแม่ทัพได้
ดังนั้นเพื่อจวนแม่ทัพแล้วนางจึงต้องการหาสตรีที่รูปร่างสมบูรณ์ โหนกเนื้ออวบอูมสีแดงฉ่ำ เต้านมใหญ่โต และที่สำคัญสะโพกต้องผายเพื่อให้เหมาะกับการตั้งครรภ์
ฮูหยินใหญ่หลันหยาจึงหมายหมั่นปั้นมือที่จะฝึกฝนให้ซุนหลีกลายเป็นอนุของแม่ทัพใหญ่เพื่อตั้งครรภ์บุตรชายสืบทอดวงศ์ตระกูล
แน่นอนว่าฮูหยินใหญ่คิดครอบครองบุตรชายของซุนหลีเอาไว้เป็นของตน
ซุนหลีมีหน้าที่เพียงตั้งครรภ์เท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ในตัวของเด็กคนนั้น
ด้วยความชื่นชอบเรื่องเสพกามารมณ์ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน ที่ทรงเห็นว่าบุรุษยิ่งครอบครองสตรีมากเพียงใดก็หมายถึงอำนาจที่มากเท่านั้น
อีกทั้งน้ำรักของสตรียังเป็นยาอายุวัฒนะ หากบุรุษได้ดื่มกินมาก ๆ จะยิ่งทำให้มีอายุยืนยาว ทำให้ฮ่องเต้มักจะให้สนมหลายคนเข้าปรนนิบัติดื่มน้ำรักที่หลั่งจากรูสวาทของพวกนางในทุก ๆ วัน
ยิ่งมีหลักฐานมากมายที่คนในแคว้นต่างอายุยืนก็ยิ่งทำให้เรื่องการดื่มน้ำกำหนัดของบุรุษและสตรีเป็นที่นิยมมาช้านาน ของสิ่งนี้ดียิ่งกว่าดื่มโสมคนราคาแพงเพื่อบำรุงร่างกายเสียอีก
ธรรมเนียมของแคว้นนี้แปลกประหลาดนัก ไม่ว่าสตรีหรือบุรุษหากมีความสามารถก็สามารถสอบเข้ารับราชการได้ และเมื่อก้าวหน้าก็สามารถเลี้ยงดูนางบำเรอ หรือ นายบำเรอ ได้ตามใจชอบนับว่ายุติธรรมทั้งบุรุษและสตรี
ในขณะที่ฮ่องเต้มีสนมที่คัดเลือกเข้าวังในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก ในวังหลังของพระองค์จึงมีสนมหลายพันคนที่งามหยาดเยิ้ม ที่ต่อให้พระองค์หยิบป้ายพวกนางเหล่านั้นวันละสิบคนก็ยังเวียนไม่ครบ
เมื่อพระสนมมีมากนัก พระองค์จึงใช้ให้เป็นประโยชน์มอบนางเหล่านั้นให้เป็นรางวัลแก่ขุนนางและแคว้นเล็ก ๆ ที่สวามิภักดิ์แด่พระองค์ และหลายครั้งก็ยังใช้งานสตรีเหล่านั้นร่วมกับขุนนางเพื่อความสำราญ
แม้ว่าฝ่าบาทและขุนนางจะมักมากในกามารมณ์ แต่เพราะฮ่องเต้เฉลียวฉลาดปกครองแผ่นดินให้สงบสุข ประชาชนจึงเคารพฮ่องเต้ผู้เป็นโอรสสวรรค์ยิ่งนัก
เมื่อประชาชนอยู่ดีกินดี จิตใจเปี่ยมสุข เมื่อฮ่องเต้มีรสนิยมหาความสำราญทางกามารมณ์ประชาชนในแคว้นจึงยึดถือเอาเป็นแบบอย่าง
ซุนหลีถูกฮูหยินใหญ่ส่งเจียวหมัวมัวมาฝึกสอนให้แก่นาง เพื่อเป็นนางอุ่นเตียงให้ท่านแม่ทัพตั้งแต่นางเข้าสู่วัยปักปิ่นเมื่ออายุได้สิบห้าปี
บัดนี้ซุนหลีอายุสิบเจ็ดปีแล้วนางก็ยังไม่เคยเห็นหน้าท่านแม่ทัพแม้แต่ครั้งเดียวเพราะท่านแม่ทัพประจำการอยู่ชายแดนตลอด
นางเคยถามฮูหยินใหญ่เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของท่านแม่ทัพ ฮูหยินใหญ่เพียงแต่เอ่ยว่า
“แล้วเจ้าก็จะรู้เอง”
มีผู้คนเล่าลือว่าแม่ทัพใหญ่เมื่อสมัยยามยังหนุ่ม มีใบหน้าหล่อเหลา รูปร่างสูงใหญ่องอาจ และยังมีใจมั่นคงเพียงแค่ฮูหยินใหญ่เท่านั้น ท่านแม่ทัพไม่เคยนอนกับสตรีอื่นใดเลย
ทว่าเกือบหกปีมาแล้วที่ท่านแม่ทัพมิได้กลับมายังเมืองหลวง
หลายคนจึงเอ่ยว่าเขาคือท่านปู่วัยชราผู้หนึ่ง ซึ่งสตรีน้อยใหญ่ไม่อยากร่วมหออีกต่อไป
ถึงท่านแม่ทัพจะแข็งแกร่งแต่ก็เคี่ยวกรำศึกมาหลายปี ร่างกายคงทรุดโทรกลายเป็นตาเฒ่าจิตวิปริตผู้หนึ่งไปแล้วจริง ๆ
ในจินตนาการของซุนหลี นางยอมรับว่าหวาดกลัวอยู่ไม่น้อย เมื่อคิดภาพชายชรากำลังคล่อมร่างของตนอยู่
แต่เพื่อท่านแม่และให้พี่ชายของนางมีฐานะในจวนที่ดีขึ้น ไม่ต้องลำบากเป็นบ่าวรับใช้อีกต่อไป นางจึงต้องฝืนกล้ำกลืนยอมทำตาม
และถึงจะหวาดกลัวเพียงใด ซุนหลีก็ไม่เคยปริปากบ่นให้ผู้ใดฟัง กระทั่งเมื่ออยู่ต่อหน้าท่านแม่ซุนหลีก็ยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุขไม่ให้ท่านแม่ต้องกังวล
“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง ในเมื่อสวรรค์ประทานโอกาสนี้ให้แก่ลูก นั่นก็หมายถึงว่าสวรรค์ให้โอกาสให้ลูกทดแทนบุญคุณท่านแม่และท่านพี่ ไม่ให้พวกท่านต้องลำบาก ไม่ว่าจะเป็นท่านแม่ทัพที่ชราก็ดี หรือจะเป็นแม่ทัพที่จิตใจบิดเบี้ยวตามข่าวลือก็ดี ซุนหลีล้วนไม่เชื่อกลัวเจ้าค่ะ”
“ลูกแม่ เด็กดีของแม่ แม่เสียใจที่ทำให้เจ้าเป็นเช่นนี้ เจ้าคือสตรีสูงศักดิ์ที่แม่เฝ้าถนอม ไม่คิดว่าจะมีวันนี้ที่ต้องกลายมาเป็นอนุของเฒ่าชราผู้หนึ่ง”
“มิใช่ความผิดท่านเจ้าค่ะ ซุนหลีมิใช่คุณหนูในห้องหอดั่งวันวาน แต่ซุนหลีจะไม่ยอมแพ้ และให้ท่านแม่ลำบากอีกต่อไป”
ท่านแม่โอบกอดบุตรสาวเพียงคนเดียว แคว้นเจ้าของพวกนางมีความนิยมผัวเดียวเมียเดียว บุรุษไม่รับอนุเข้าบ้านเด็ดขาด
แต่แคว้นเฉาบุรุษกลับเป็นใหญ่ ขอเพียงบุรุษต้องการสตรีก็เป็นเพียงของใช้ชิ้นหนึ่ง จะใช้ร่วมกับผู้ใดหรือยกให้ผู้ใดก็ย่อมได้
“ลำบากหลีเอ๋อร์ของแม่แล้ว ลูกแม่ช่างกตัญญูยิ่งนัก”
ซุนหลีจะถูกตรวจร่างกายทุก ๆ สามเดือน นางต้องเปลือยกายต่อหน้าฮูหยินใหญ่และปล่อยให้ฮูหยินใหญ่สำรวจร่างกายของนางโดยละเอียดเพื่อไม่ให้มีสิ่งใดผิดพลาด
นางต้องถูกเตรียมพร้อมให้มากที่สุด
ซุนหลียังจำวันแรกหลังจากฝึกฝนวิชาเอาใจบุรุษมานับปี เมื่อนางอายุครบสิบหกปีวันนั้นเป็นวันที่ฮูหยินใหญ่เรียกนางเข้าไปตรวจร่างกายอย่างละเอียดเป็นครั้งแรก
ยามนั้นนางตื่นเต้นและหวาดกลัว ทว่าผ่านไปไม่นานซุนหลีก็เริ่มเคยชิน กล้าหาญที่จะเผชิญหน้ากับฮูหยินใหญ่โดยไม่ขัดเขิน
วันนี้ฮูหยินใหญ่เรียกนางไปตรวจร่างกายอีกครั้ง ซุนหลีประหลาดใจมากเพราะยังไม่ครบกำหนดสามเดือนที่ต้องตรวจร่างกาย
เมื่อซุนหลีเปิดประตูเข้าไปก็ได้รับคำสั่งให้นางปิดประตูให้เรียบร้อย
“เจ้าค่ะ”
ซุนหลีค่อย ๆ เดินเข้าไปอย่างช้า ๆ กระทั่งหยุดเบื้องหน้าฮูหยินใหญ่ แล้วประสานมือที่บั้นเอวยอบกายอย่างนอบน้อมอ่อนหวาน
“ฮูหยินใหญ่ ข้าน้อยมาแล้วเจ้าค่ะ”
ฮูหยินใหญ่มองคนงามอย่างพึงใจ นับวันซุนหลียิ่งงดงามหยาดเยิ้มกระทั่งสตรีด้วยกันเมื่อเดินผ่านยังต้องมองเหลียวหลัง
และที่สำคัญร่างกายนี้เหมือนจะอวบอิ่ม สมบูรณ์ในจุดที่ฮูหยินใหญ่ต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ
หากนางได้รับน้ำกามทิพย์จากบุรุษ ซุนหลีจะกลายเป็นสตรีที่สมบูรณ์ยิ่งกว่านี้
“ลุกขึ้นเถิด”
“ขอบคุณฮูหยินใหญ่เจ้าค่ะ”
“เงยหน้าของเจ้าขึ้นมา”
“เจ้าค่ะ”
ซุนหลีเงยหน้าขึ้นมองฮูหยินใหญ่ นางจึงเห็นชัดเจนว่าบัดนี้ฮูหยินใหญ่สวมชุดสีขาวและบางยิ่ง กระทั่งมองเห็นเต้าถันคู่ใหญ่อยู่ข้างใน เมื่อมองต่ำไปก็พบเส้นขนสีอ่อนรำไรปกคลุมอยู่ตรงกลางร่างกาย
ซุนหลีต้องรีบหลุบตาต่ำ เมื่อนางยังสามารถมองเห็นกลีบเนื้ออูมของฮูหยินใหญ่ได้อย่างชัดเจน
ซุนหลีกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก นางรู้สึกประหม่าเพราะสบเข้ากับสายตาของฮูหยินใหญ่ที่มองนางด้วยความพึงพอใจ
ทว่านอกจากความพึงพอใจแล้วสายตาคู่นั้นยังทำให้ซุนหลีใบหน้าร้อนวูบวาบจนกลายเป็นริ้วแดง
สาเหตุที่เขาได้ดูแลเด็กคนนี้นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ของเอยและพี่ชายของเอยเป็นเพื่อนสนิทของเขา ครอบครัวเอยจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เอยอายุได้เพียงสิบขวบเท่านั้น ญาติของเอยก็ไม่มีใครเหลียวแลทำให้เขาซึ่งสนิทกับครอบครัวของเอยที่เห็นเอยมาตั้งแต่เล็ก ๆ เกิดความสงสารจึงได้ขอให้พ่อแม่ของเขารับเอยมาเลี้ยงดู และพ่อแม่ของเขาก็ตกลง หลังจากนั้นพ่อแม่ของเขาก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ จึงทิ้งให้เขาและเอยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยตามลำพัง นับตั้งแต่นั้นเขาก็กลายเป็นพี่ชายของเอยเต็มตัว แต่วันนี้เมื่อเอยโตขึ้น เธอกลับไม่เห็นบุญคุณและคิดจะจากเขาไปง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่นับวันเขาจะรักเธอจนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้นและเฝ้ารอเธอเติบโตมานานขนาดนี้ ++++++ “อ๊า...เฮียอย่านะ อย่าทำหนู” สาวน้อยส่งเสียงครางเล็ดลอดออกมาเพราะความเสียวซ่าน และเอ่ยห้ามแต่น้ำเสียงของเธอคล้ายกระตุ้นเขายิ่งขึ้นไปอีก “เอยอยากใช่หรือเปล่า หนูก็ต้องการเฮียใช่ไหม” “ไม่...อย่านะเฮีย หนูไม่ได้ต้องการเฮีย เฮียเป็นพี่ชายหนูนะ” “ต่อไปเฮียจะเป็นผัวหนู แล้วจะเอาหนูแรง ๆ ให้หนูไปไหนไม่ได้ต้องร้องหาเฮียเท่านั้น” คำพูดของเขาทำให้เอยหวาดกลัว แต่ในความรู้สึกนี้กลับมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างประหลาด หญิงสาวผลักเขาออกเมื่อธนเดชดึงชุดนอนของเธอจนขาด แต่แรงของเขามีมากกว่าตอนนี้เธอจึงยืนเปลือยต่อหน้าเขา เอยยืนน้ำตาไหลพราก เมื่อเขาเห็นเขาจึงเหยียดยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ “ฉันเกลียดแก อื้อ อื้อ”
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
คำโปรย หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต จูเมยได้ถูกท่านอาบุญธรรมรับเลี้ยง ท่านอาผู้เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและเมตตา ได้กลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งในชีวิตนาง หัวใจที่อ่อนโยนของจูเมยเริ่มเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ท่านอา แต่ท่านอาคิดอย่างไรกับนางกันแน่? หรือว่าความรักนี้เป็นเพียงความรู้สึกที่นางมีอยู่เพียงฝ่ายเดียว? เมื่อหัวใจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน จูเมยกลับรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกนี้ "ท่านอา...อย่าดีต่อข้ามากนักได้หรือไม่" นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักจีนโบราณ มีดราม่าเล็กน้อยช่วงเริ่มต้น จบสุขนิยม ไม่มีนอกกายนอกใจ เป็นความรักฟิน ๆ ระหว่างท่านอาและหลานสาว(บุญธรรม)ตัวน้อยของตนเอง
เรื่องย่อ จื่อเม่ยเป็นนักเขียน และได้เข้าไปอยู่ในนิยายที่ตัวเขียนเขียนเอาไว้ในฐานะตัวประกอบในนิยายที่ออกมาเพียงสองตอนก็ตาย นางถูกตัวร้ายกักขังเอาไว้ในจวน เจื่อเม่ยรู้ว่าเขาต้องตายและจำทำให้นางตายไปด้วย นางจึงต้องหาวิธีหนีจากเขาเพื่อเอาตัวรอด! นิยายเรื่องนี้เป็นแบบสุขนิยมนะคะ พระเอกจะธงแดงในตอนแรก ๆ เพราะนางเป็นตัวร้ายตามเนื้อเรื่องนะคะ หลังจากนั้นก็รักเมียที่สุดในโลกค่ะ ไม่มีนอกกายนอกใจค่ะ แนะนำตัวละคร จื่อเม่ย นักเขียนที่ย้อนไปอยู่ในโลกนิยายในร่างของอนุจื่ออิน จื่ออิน อนุของตัวร้ายที่ออกมาแค่สองตอนก็ตาย และคนที่จื่อเม่ยมาใช้ร่างกาย ซีเฉิน / องค์ชายสี่ /ซีอ๋อง ตัวร้ายที่ต้องตายในตอนจบ ซีหลาน บุตรชายอายุ 5 ขวบของตัวร้าย รั่วหนิง พระชายาที่ซีเฉินไม่เคยเหลียวแล เหล่าหลง และ เหล่าอี้ องครักษ์ฝาแฝดของซีเฉิน ผู้จงรักภักดี ซีกุ้ยเฟย แม่ของซีเฉิน นางมีความแค้นที่ฝ่าบาทเคยทอดทิ้ง จึงคิดจะแก้แค้นทุกคนและสั่งสอนให้ซีเฉินบุตรชายชิงบัลลังก์ หยางโจวซือ / องค์ชายหก / หยางอ๋อง พระเอกของเรื่องที่จื่อเม่ยวางเอาไว้ในนิยาย
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"