U1 - ก็บอกว่าฉันไม่ใช่คนิ้งไง!! / เธอคิดว่าฉันจำเมียตัวเองไม่ได้หรือไง?
• ACTION •
ฉันเกือบดีใจที่แกกลับมาอยู่บ้านเป็นเพื่อนแล้ว เกือบดีใจที่ไม่ต้องใช้ชีวิตตามลำพังแบบเดิม เกือบดีใจว่าเราสองคนจะปรับความเข้าใจกันได้ แต่สุดท้ายแกก็ทิ้งฉันไป…
“ถ้าจะเป็นแบบนี้ แกก็ไม่ควรกลับมาสิ ฮึกๆ”
คณานั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่หน้าหลุมฝังศพของแฝดพี่ ที่กลับมาหาเธอที่บ้านได้เพียงแค่ไม่ถึงเดือน ก็คิดสั้นจากเธอไป โดยที่เธอทั้งคู่ยังมีเรื่องค้างคาใจกันอยู่มากมาย
เพราะก่อนหน้าที่คนิ้งจะหนีออกจากบ้านไปนั้น เธอทั้งสองคนมีปากเสียงกัน และจากนั้นพวกเธอก็ไม่เคยได้เจอกันอีกเลย เป็นเวลานานเกือบห้าปี จนกระทั่งเมื่อเดือนก่อน ที่คนิ้งกลับมาที่บ้าน บ้านหลังที่พ่อและแม่ของพวกเธอทิ้งไว้ให้ก่อนจากทั้งคู่ไป
ซึ่งคณานั้นไม่รู้เลยว่าเหตุใดพี่สาวของเธอจึงกลับมาที่บ้าน และก่อนหน้านี้เธอหายไปอยู่ที่ไหนมานานเกือบห้าปี…
หนึ่งเดือนต่อมา หลังจากคนิ้งเสีย…
ทาวน์เฮ้าส์เก่าๆ แถวชาญเมือง..
“วันนี้ฉันไม่เข้าร้านนะ รู้สึกเหมือนจะไม่สบาย” คณาโทรบอกเพื่อนสาวของเธอ ที่ทำงานเป็นเด็กเสริฟอยู่ที่ร้านอาหารแห่งนึงแถวชาญเมือง
“โอเค เดี๋ยวฉันบอกเจ้แกให้”
“ขอบใจนะ” เมื่อจบธุระคณาก็กดวางสายทันที ก่อนจะนอนหลับตานิ่งคิดถึงเรื่องมากมายที่วนอยู่ในหัว
“ทำยังไงฉันถึงจะออกไปจากที่นี่ได้นะ..” ฉันไม่อยากจะใช้ชีวิตที่ต้องดิ้นรนต่อสู้แบบนี้อีกแล้ว…
เธออดข้าวมาเกือบสองวัน เพราะไม่มีเงินติดตัวแม้แต่แดงเดียว และก็ไม่มีใครที่ไหนกล้าให้เธอยืมเงินแล้ว แม้แต่เงินจะเติมน้ำมันรถมอเตอร์ไซค์ไปทำงานก็ยังไม่มี หนำซ้ำยังมีหนี้ก้อนโตจากการที่เธอไปกู้ยืมเขามาทำศพให้พี่สาวผู้ล่วงลับอีกด้วย…
“กู้เงินมาทำศพแกตั้งหลายหมื่น จะตายยังต้องมาลำบากฉันอีก ฮึกๆ ฮือๆ~”
เมื่อพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เธอก็ร้องไห้ปล่อยโฮออกมา ไม่ใช่ว่าเธอนั้นเสียใจที่ต้องมีหนี้ก้อนโต แต่มันเป็นความเศร้าใจที่เธอต้องใช้ชีวิตโดยลำพังบนโลกใบนี้… แบบไร้ซึ่งญาติ ขาดซึ่งมิตร
“ฉันจะทำยังไงดี ฮือๆ~” ฉันเคยคิดว่าชีวิตที่ไม่มีคนิ้ง ฉันอยู่ได้สบายมาก จนเมื่อมันไม่อยู่จริงๆ ฉันถึงได้รู้ว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญและมีค่าที่สุดที่ฉันมีอยู่ แต่แล้วฉันก็ไม่เหลือใครเลย ไม่เหหลือเลยสักคน..
“พระเจ้าช่วยส่งทางออกให้ฉันทีเถอะนะ หรือไม่ก็… ส่งฉันไปอยู่กับมันแล้วก็พ่อแม่ที ฮือๆ~”
เธอนอนร้องไห้ซมอยู่บนที่นอนเพราะความโดดเดี่ยวที่เธอเผชิญอยู่ และทำได้เพียงภาวนาอ้อนวอนกับพระเจ้าเท่านั้น เพื่อขอให้ชีวิตของเธอถูกเมตตาบ้างสักครั้ง…
“คนิ้ง!!”
คณาเงียบเสียงร้องไห้ลง ก่อนจะเด้งตัวขึ้นจากที่นอน เพื่อตั้งใจฟังเสียงนั้นอีกครั้งให้แน่ใจ ว่าเธอไม่ได้หูฝาด ว่ามีใครกำลังตะโกนเรียกหาพี่สาวของเธอผู้ล่วงลับไปแล้วอยู่..
“คนิ้ง ฉันรู้นะว่าเธออยู่ในบ้าน ถ้าไม่ลงมาเปิดประตู ฉันจะพังบ้านเข้าไปแล้วนะ!!” เสียงของชายที่อยู่หน้าบ้านตะโกนบอกสารกับคนที่อยู่ด้านใน แต่ทว่าที่นี่กลับไม่มีคนที่เขามาตามหา
“ใครวะ?” เธอลุกขึ้นจากที่นอนและเดินลงไปเปิดประตู เพื่อดูว่าคนที่กำลังโวยวายอยู่หน้าบ้านของเธอนั้นเป็นใคร
แก๊ก!
“นี่! เธอหนีฉันมาทำไมยัยบ้าหนิ!” เมื่อหมอตินเห็นว่าผู้หญิงที่มีใบหน้าและรูปร่างเหมือนกันกับแฟนสาวของตนเปิดประตูบ้านออกมา เขาก็เดินพุ่งเข้าไปหาเธอในบ้านทันที ก่อนจะกระชากร่างบางของเธอเข้ามากอดด้วยความโมโหและในขณะเดียวกันนั้นก็เป็นห่วงเธออยู่ลึกๆ
“นี่! ปล่อยนะ มากอดฉันทำไมเนี่ยไอโรคจิต!” คณาพยายามที่จะผลักดันร่างหนาแปลกหน้านั้นออก แต่ทว่าแรงมหาสารของเขาที่กำลังขืนแรงเธออยู่นั้น มันไม่สามารถทำให้เธอขยับตัวหนีได้เลย
“กลับบ้าน!”
“กลับบ้านไหนล่ะไอบ้า นี่มันบ้านฉัน!”
“เดี๋ยวนี้กล้าพูดแบบนี้กับฉันเหรอ!”
“ก็แล้วแกเป็นพ่อฉันหรือไงล่ะถึงจะพูดไม่ได้ ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้นะไอบ้า ไม่งั้นฉันโทรเรียกตำรวจมาจับแกแน่”
“ก็เอาสิ.. เธอรู้ดีอยู่แล้วว่าฉันไม่กลัวตำรวจ” ผมไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงได้กล้าแสดงความก้าวร้าวใส่ผมแบบนี้ ทั้งที่ปกติ แค่ผมดุเธอคำเดียวเธอก็จะเงียบและก้มหน้าลงแล้ว สงสัยต้องมีใครล้างสมองเมียผมแน่ๆ
“มันพูดบ้าอะไรของมันวะ.. ได้ แกจะลองดีใช่ไหม?” คณาล้วงโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงยีนส์ออกมา
หมับ!
“นี่! เอาโทรศัพท์ฉันมานะ แกจะทำบ้าอะไรวะ?!”
หมอตินพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองไว้ เพื่อไม่ให้พูดหรือกระทำรุนแรงกับเธอ เพราะกลัวว่าการง้อปรับความเข้าใจครั้งนี้จะไม่เป็นผล และอีกอย่าง เขาไม่เคยต้องรับมือกับแฟนสาวในสภาพแบบนี้มาก่อน “กลับบ้านกัน ไปคุยกันที่บ้านดีๆ เถอะนะ”
“ก็นี่มันบ้านกู มึงจะให้กูไปไหนล่ะไอหน้าแมว!”
ผ ม ห ม ด ค ว า ม อ ด ท น กั บ เ ธ อ แ ล้ ว !!
หมอตินลากคณาออกมาจากบ้าน ก่อนจะจับเธอโยนเข้ารถตู้อัลพาร์ดสีดำคันหรูที่ขับโดยลูกน้องของเขา
คนที่อยู่รอบบริเวณนั้นเริ่มพากันมองตามเสียงโวยวายที่ดังมาจากบ้านของคณา แต่ก็ไม่มีใครกล้าเดินเข้ามาช่วยเธอ เพราะคิดว่านั่นคงเป็นเจ้าหนี้ที่มาตามทวงหนี้เธอที่บ้าน ถึงได้มีปากเสียงกันแบบนั้น…
“พวกมึงยืนดูทำไม ไปช่วยอีคณามันสิ” เสียงป้าข้างบ้านของคณาพูดบอกกับลูกๆ ของเธอ ก่อนที่เธอจะเป็นคนวิ่งออกมาดักหน้าชายแปลกหน้าคนนั้นไว้ ก่อนที่เขานั้นจะก้าวขาขึ้นรถ
“เดี๋ยวสิ...”
“อย่ามายุ่งเรื่องผัวเมีย!” หมอตินหันไปตะหวาดป้าที่ทำท่าจะห้ามตน ก่อนจะรีบขึ้นรถไป และสั่งให้คนขับออกรถทันที
“แม่ ทำไงดีแจ้งตำรวจเลยดีไหม?” เสียงลูกของป้าข้างบ้านเอ่ยถาม เมื่อเห็นว่าคณาถูกรถตู้คันหรูของคนแปลกหน้าพาตัวออกไปแล้ว
“อีคณามันไปมีผัวตอนไหนวะ?” เธอยังคงติดใจอยู่กับเรื่องที่ชายแปลกหน้าคนนั้นพูด เพราะหากว่านั้นเป็นเรื่องของผัวเมียทะเลาะกันจริงๆ เธอก็ไม่ควรเอาตัวเข้าไปยุ่ง เพราะกลัวว่าตัวเองจะกลายเป็นหมา หากเขาคืนดีกัน
“เอาไงดีแม่?”
“โอ๊ย! กูก็ไม่รู้เว้ย”
--------------------------------------------------------------------------
[ติดตามตอนต่อไป] - [Follow the next episode]
[-กดใจ -เพิ่มเข้าชั้น -คอมเมนท์ให้กำลังใจ และฝากกดติดตามไรท์ด้วยนะครับ🙏]
S2(ต่อจากเรื่อง ไอมาเฟียนั่นเมียกู) เรื่องราวความรักของคู่ยูมิ และโจอิ น้องชายตัวแสบของโจดิน
U7 - ฉันเพิ่งมารู้ว่าเด็กที่ฉันถูกว่าจ้างให้อุ้มบุญ เป็นลูกของแฟนเก่าที่เลิกกันไปเมื่อสองปีก่อน… (ผู้ชายที่เขาไม่เคยรักฉัน)
เพื่อนของผมดันหาเด็กสาวมาเป็นติวเตอร์ให้ แถมเธอก็กำลังแตกเนื้อสาวซะด้วย ( ความใสซื่อของเธอทำให้ผมสับสนเรื่องตามไปง้อเมียที่เมืองนอกแล้วทำไงดี )
คู่หมั้นของ ‘โจดิน’ มาเฟียผู้ยิ่งใหญ่ ดันเป็น ’ยูมิ’ แฟนสาวผู้อ่อนแอของ ’นิเณอ’ หญิงแกร่งใจกล้า และบุคลิกของเธอมันก็ดันเข้าตาเขาเต็มๆ จนอยากได้เธอมาเป็นเมียแทน…
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."