เมื่อข้าคือพระชายาของอ๋องผู้โหดเหี้ยม และเป็นหมากอันยอดเยี่ยมในมือของไทเฮา ข้าก็แค่อยากใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุข แต่ดูเหมือนว่าคนอื่นอยากให้ข้าใช้ชีวิตแบบที่คนอื่นให้เป็น
เมื่อข้าคือพระชายาของอ๋องผู้โหดเหี้ยม และเป็นหมากอันยอดเยี่ยมในมือของไทเฮา ข้าก็แค่อยากใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุข แต่ดูเหมือนว่าคนอื่นอยากให้ข้าใช้ชีวิตแบบที่คนอื่นให้เป็น
จวนใหญ่โตที่ถูกประดับตกแต่งด้วยสีแดงมงคลบ่งบอกได้ว่าวันนี้จะมีงานมงคลของคนที่อยู่ในจวน
หญิงสาวที่มีใบหน้างดงามตราตรึงใจดูเย้ายวนราวกับนางจิ้งจอกนั่งอยู่ในห้องไม่มีความทุกข์ร้อนใดๆทั้งสิ้น
แต่งงานก็ดีไม่แต่งงานก็ดี ถึงยังไงคนที่นางรักก็ไม่ได้ขัดขวางการแต่งงานครั้งนี้ นั่นถือว่าเป็นการยินยอมที่ไม่ถามความเห็นจากนาง
หญิงสาวสวมชุดมงคลสีแดงกำลังเม้มปากสีแดงอวบอิ่มด้วยสีหน้าสดใสผิดกับบ่าวไพร่ที่อยู่รอบข้างโดยชัดเจนที่มีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
ถ้าถามถึงความไม่พอใจของคนรอบข้างของหญิงสาวก็ต้องย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อน
หญิงสาวนางนี้มาจากสกุลเซี่ย มีนามว่าชิงเหยา
ชิงเหยาหมั่นหมายกับท่านอ๋องตั้งแต่เด็กเพราะอำนาจทางการเมือง
ในวัยที่ทั้งคู่ยังไม่ทันจะเข้าใจอะไร พอเติบโตขึ้นมาก็แทบจะไม่ได้พบหน้ากัน ทั้งสองคนต่างใช้ชีวิตอย่างอิสระจนกระทั่งการหมั้นหมายถูกเอ่ยขึ้นโดยไทเฮา
“ อ๋องหลางหยา” น้ำเสียงของไทเฮาเอ่ยขึ้นด้วยความราบเรียบ ไร้ความอบอุ่นอย่างที่ควรจะเป็นเมื่อพูดกับลูกชายของตัวเอง
“ ขอรับ ไทเฮา”
“ เจ้าอายุอานามก็มากแล้ว ตอนนี้หลานสาวเสนาบดีคู่หมั้นของเจ้าก็เลยช่วงเวลาที่ดีของการแต่งงานมาแล้วถึงสามปี เจ้าปฏิเสธกำหนดการมาถึงสามครั้ง ครั้งนี้เจ้าไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้อีก”
“…..” อ๋องหลางหยายังคงนิ่งเงียบ
ราวกับไม่ได้ยินน้ำเสียงของไทเฮา
อ๋องหลางหยา ผู้สำเร็จราชการแทนฮ่องเต้ตัวน้อยมีนามว่าหลัวจ้าน อ๋องหลางหยาหลัวจ้านมีนิสัยโหดร้ายไม่ฟังใคร แม้แต่ฮองเฮาก็ตาม
อ๋องหลางหยามีหญิงในดวงใจแล้ว ชื่อของนางคือฟางอี้เหยียน
เวลานี้อ๋องหลางหยารักหญิงในดวงใจมาก แต่ท่านอ๋องก็รู้ว่าไม่สามารถที่จะล้มงานแต่งครั้งนี้ได้ เพราะงานแต่งครั้งนี้คือราชโองการจากฮ่องเต้องค์ก่อน
ไทเฮาเองก็ต้องการที่จะทำให้งานแต่งครั้งนี้เป็นกระดานหมากของนางให้ได้ ซึ่งอ๋องหลางหยาก็เป็นตัวหมากอันล้ำค่าในมือนางเหมือนกัน
ถึงแม้อ๋องหลางหยามีความสามารถมากแค่ไหนแต่ก็มีสิ่งที่ขาด คือความกตัญญู
เมื่อไม่เชื่อฟังไทเฮาเองก็ได้แต่ตัดใจใช้วิธีของตัวเองทำให้อ๋องหลางหยาเชื่อฟังก็เท่านั้น ‘ แล้วลูกจะเข้าใจในความหวังดีของแม่ ลูกรัก’
“ ข้าเข้าใจว่าเจ้ามีคนรักแล้ว แต่การที่เจ้าปฏิเสธท่านเสนาบดีถึงสามครั้ง เจ้าไม่กลัวว่าการกระทำของเจ้าจะทำให้เสนาบดีโกรธแค้นหรืออย่างไร เจ้าก็รู้ดีถึงอำนาจของเสนาบดี ”
อ๋องหลางหยาถอนหายใจด้วยความเบื่อหน่าย เมื่อพูดถึงอำนาจของเสนาบดี ‘ เซี่ยไท่กั๋ว ขุนนางน่ารังเกียจ กล้านักที่จะใช้อำนาจมากดดันเขา เพื่องานแต่งงานที่เขาไม่ต้องการ’
“ เสนาบดีจะมีอำนาจมากน้อยเพียงใดข้าไม่สน แต่ไทเฮาก็อย่าลืมแคว้นหลางหยาเป็นของสกุลหลางหยาหาใช่ของสกุลเซี่ยไม่”
ขุนนางคือขุนนาง อำนาจแค่หยิบมือ แค่พลิกฝ่ามือเดียวเขาก็สามารถยึดอำนาจกลับมาคืนได้
“ หลัวจ้าน! เจ้าก็รู้ว่าการแต่งงานสำหรับหญิงสาวคนหนึ่งมันเป็นเรื่องใหญ่ เจ้าไม่ยอมรับการแต่งงานก็หมายถึงการไม่ยอมรับนางด้วย เจ้ากำลังทำร้ายหญิงสาวคนหนึ่งเพื่อหญิงสาวอีกคนโดยที่ไม่รู้ตัว เจ้ารู้หรือไม่”
มือที่เขียนพู่กันหยุดชะงักลง เมื่อนำเสียงของไทเฮากดดันมากกว่าทุกครั้ง
“ ขอรับ ข้าจะแต่งงาน”
อ๋องหลางหยารับปาก เมื่อการป่วยของไทเฮาเริ่มไม่สู้ดีจากความโกรธ ความสัมพันธ์แม่ลูกทำให้อ๋องหลางหยาลำบากใจยิ่งนัก
มังกรผู้ที่ย้อนกลับอดีตหลังจากที่โดนแฟนเก่าฆาตกรรม เขากลับมาพร้อมกลับระบบ
นลินถูกบังคับให้ขายตัวโดยที่พ่อกับแม่ของนลินวางยาสลบนลินแล้วส่งเธอขึ้นเตียงโดยที่เธอไม่ยินยอมเพื่อแลกกับเงินมูลค่าห้าล้านบาท เพราะพี่สาวป่วยหนักเป็นโรคหัวใจขั้นร้ายแรงและเป็นธาลัสซีเมียเลยต้องใช้เงินรักษาด่วน
กว่าจะรู้ตัวว่ารักก็ถึงตอนต้องจากกันแล้ว หลับตาลงในความมืดมิดยังคงเห็นภาพฝันที่เป็นเขา ด้วยสถานะและสถานการณ์ต่างๆมันเหมือนเป็นเส้นขนานที่ไม่อาจบรรจบสำหรับพวกเรา ทั้งรักทั้งทุกข์ระทม ท่านคือเหตุผลที่ทำให้ข้าต้องจมอยู่ในห้วงรักที่ไม่มีสิ้นสุด
เมื่อลลิตานั้นได้ย้อนเวลากลับไปในยุค 80 พร้อมกับหม้อสมบัติ และที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือเธออยู่ในร่างของนางร้าย
จะทำยังไงเมื่อเชฟสาวที่อยู่ๆก็โดนลูกหลงตายแบบไม่รู้เรื่อง จากเหตุปล้นธนาคาร
จะทำยังไงเมื่อนักวิจัยสาวผู้เก่งกาจย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กสาวบ้านนายุค70
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
เนื้อตัวเต้นเร่าเตลิดเพลิดไปตามสัมผัสร้อนแรง เธอบังคับให้หยุดคิดถึงคนอื่นนอกจากคุณวายุ แต่เมื่อริมฝีปากของวายุแตะเข้ากับกลีบกาย พร้อมทั้งตวัดลิ้นเลียไปทั่วซอกหลืบ กลีบเนื้อบอบบางแต่อวบอูมของ 'หมูชมพู' จึงกระดิกแอ่นหยัดบั้นท้ายกระดกซอกหลืบสวนทางกับเรียวลิ้นของวายุ "คุณอุ่น และหอมมากหมูชมพู" พรรณชมพูส่ายวนโคกเนินที่เบียดบดไปกับริมฝีปากหนา ลิ้นของเขาปาดไปมาบนติ่งกระสันเหมือนกับปาดหน้าเค้ก เธอดิ้นพรวดพราดกัดริมฝีปากจนเบี้ยวไปข้างหนึ่ง ลิ้นสากๆ ห่อม้วนชำแรกเข้าไปในร่องสาวอันชุ่มฉ่ำ เมื่อนั้นริมฝีปากที่ถูกกัดจะห้อเลือดก็แยกอ้า พรรณชมพูเผลอกรีดร้องครวญครางถึงใครบางคน ที่จมอยู่ในห้วงความคิดไม่เคยเลือนหาย "อ๊า พี่เสือ" วายุผงกหัวขึ้นมองคนที่กำลังแอ่นลำคอและลำตัวทอดโค้ง แววตาของเขาไหววาบเป็นไฟ และเขาก็กัดกลีบกายบางๆ สีชมพูจนหมูชมพูของเขาสะดุ้งเฮือกสุดตัว "อ๊ะ เฮือก" เธอถูกกัด
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
หนานซ่งเป็นภรรยาที่ดีมาสามปีแล้ว แต่เธอก็ยังไม่สามารถทำให้หยูจินเหวินตกหลุมรักเธอได้ และยังต้องการหย่ากับเธอเพื่อผู้หญิงตีสองหน้าเก่งคนหนึ่งด้วยซ้ำ ช่างเถอะ จะหย่าก็หย่าเลย ฉันไม่เล่นด้วยแล้ว เธอลบร่องรอยของตัวเองทั้งหมด หายไปจากโลกของเขาโดยสิ้นเชิง จากนั้นพลิกผันกลับอย่างสง่างามและกลายเป็นคู่หูในฝันของเขา หนานซ่งมองสามีเก่าของเธออย่างเย็นชา "อยากร่วมมือกับฉันเหรอ คุณเป็นใครกัน" มีผู้ชายจะมีประโยชน์อะไร ฉันจะโดดเด่นคนเดียว ต่อมาหยูจินก็ตามจีบภรรยาเก่าของเขาจากนั้นพบว่า - หัวหน้าแฮ็กเกอร์คือเธอ เชฟชื่อดังระดับนานาชาติคือเธอ หมอระดับนานาชาติชื่อดังคือเธอ ปรมาจารย์การแกะสลักหยกคือเธอ... ล้วนเป็นเธอ! เมื่อเห็นว่าเส้นทางตามจีบภรรยาของเขายิ่งลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ หยูจินเหวินก็สติแตก! คุณมีตัวตนอีกมากเท่าไรที่ฉันไม่รู้? - - หนานซ่ง: ใจเย็นๆ ฉันเก่งในทุกๆ ด้าน ตามจีบต่อเลย
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด