เพราะต้องการเอาคืนความแค้น พยัคฆ์จึงใช้เธอเป็นหมากในเกมส์นี้ เพียงต้องการให้ศัตรูเจ็บปวดเจียนตาย เขาจึงยัดเยียดสถานะเมียบำเรอให้แก่เธอ
ตอนที่1 พยัคฆ์
“สวัสดีค่ะคุณพยัคฆ์ มาหาคุณวีณาเหรอคะ” สาวใช้ภายในบ้านหลังใหญ่เอ่ยปากถามชายหนุ่มที่เดินเข้ามาในบ้านอย่างมีความสุข
“ใช่ครับ พี่วีอยู่ไหมครับ”
“คุณวีอยู่บนห้องด้านบนค่ะ”
“โอเคครับ ขอบคุณครับ” เขาเอ่ยถามต่อ “เอ่อ...แล้วคุณพ่อกับ...”
“คุณท่านทั้งสองออกไปทำธุระข้างนอกค่ะ กว่าจะกลับก็น่าจะค่ำ ๆ” ชายหนุ่มยิ้มตอบกลับไป
“คุณพยัคฆ์อยากทานอะไรไหมคะ เดี๋ยวดิฉันจะไปเตรียมไว้ให้”
“ไม่ล่ะครับ วันนี้ผมว่าจะชวนพี่วีออกไปทานข้าวข้างนอก”
“งั้นดิฉันขอตัวก่อนนะคะ” สาวใช้พูดจบก็เดินออกไปทันที เพื่อไปทำงานในหน้าที่ของตัวเอง
“พี่วีจะต้องดีใจมากแน่ ๆ เลย” พยัคฆ์เดินยิ้มขึ้นไปบนชั้นบนของบ้านและไปหาบุคคลที่กำลังกล่าวถึงรวมถึงต้องการเจอเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งตอนนี้เขาก็รู้สึกมีความสุขมากจนไม่สามารถเก็บไว้ในใจได้
พยัคฆ์ ชายหนุ่มในวัยยี่สิบสองปีที่เตรียมตัวมาบอกข่าวดีกับพี่สาวของตัวเองว่าเขาได้เรียนจบแล้ว และแถมยังได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่งตามที่พี่สาวของเขาหวังไว้ถึงแม้ว่าความจริงทั้งคู่จะเป็นพี่น้องต่างแม่กัน แต่ทั้งสองคนก็รักกันมาก เช่นนั้นพยัคฆ์เลยตั้งใจที่จะมาบอกเรื่องนี้กับพี่สาวของเขาแล้ววันนี้ยังมีเรื่องดี ๆ อีกหนึ่งเรื่องเลยด้วย และเรื่องนั้นก็คือวันนี้คือวันเกิดของพยัคฆ์ที่อายุครบยี่สิบสองปีพอดี เขาจึงตั้งใจที่จะมาขอคำอวยพรจากพี่สาวของตัวเอง อีกทั้งยังตั้งใจที่จะพาพี่สาวของตัวเองออกไปทานของอร่อยข้างนอก
พยัคฆ์เดินตรงไปที่ห้องประจำของพี่สาวของเขาอย่างมีความสุขและได้ทำการเคาะประตูบอกเป็นสัญญาณว่าเขากำลังจะเข้าไป
“พี่วีครับ พยัคฆ์กำลังจะเข้าไปนะ”
“พี่วีวันนี้พี่จำได้ไหมว่าวันนี้วันอะไร แล้วผมก็มีเรื่องจะบอกพี่ด้วยนะ” แต่พอพยัคฆ์เปิดประตูเข้าไปทุกอย่างกลับเงียบไม่มีแม้กระทั่งเสียงตอบรับกลับมา
ด้วยความสงสัยพยัคฆ์จึงเดินเข้าไปในห้อง จนได้เห็นกับร่างของพี่สาวของตัวเองนอนจมกองเลือดอยู่ในตอนนี้
สิ่งที่พยัคฆ์ได้เห็นตรงหน้าทำให้เขาช็อคทำอะไรไม่ถูกได้แต่ยืนอึ้งเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะต้องมาเจออะไรแบบนี้ในวันที่เขากำลังมีความสุข
“พะ...พี่วี” พยัคฆ์เอ่ยเรียกชื่อพี่สาวตัวเองออกมาอย่างแผ่วเบา
“พี่วี...ทำไม” พยัคฆ์ยืนมองร่างพี่สาวของตัวเองเหมือนคนสติล่องลอย ก่อนที่น้ำตาของเขาจะไหลอาบแก้มทั้งสองข้างสีหน้าตอนนี้เขาไม่สู้ดีนักเพราะภาพที่เห็น
“ทำไมพี่ถึงทำแบบนี้” พยัคฆ์พูดขึ้นก่อนที่จะล้มตัวลงกอดร่างไร้วิญญาณพี่สาวของตัวเองเอาไว้แน่น ภายในใจกำลังแตกสลายอย่างบอกไม่ถูก
“พี่วี!!!” พยัคฆ์ตะโกนเรียกชื่อพี่สาวของตัวเองอย่างคนขาดสติ
“มีใครอยู่ข้างนอกบ้าง...เข้ามาช่วยพี่วีที!” เสียงของพยัคฆ์ที่ตะโกนเรียกผู้คนภายในบ้านทำให้ทุกคนต่างแตกตื่นว่าเกินขึ้นอะไรขึ้น
“เกิดอะไรขึ้นคะ!” สาวใช้วิ่งเข้ามาด้วยความตกใจกับเสียงของพยัคฆ์
“พี่วี...ช่วยพี่วีด้วย” สภาพจิตใจของพยัคฆ์ในตอนนี้เหมือนคนไร้สติ ได้แต่นั่งร้องไห้กอดร่างของพี่สาวตัวเองอย่างไม่ได้รับการตอบสนองจากหญิงสาวแต่อย่างใด
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับพี่สาวของเขาขึ้นหลายอย่าง ก็ทำให้เปลี่ยนพยัคฆ์จากเป็นคนที่ร่าเริง ยิ้มง่ายเข้ากับทุกคนได้ง่าย ก็กลายเป็นคนที่เงียบขรึม ไม่ค่อยคุยกับใคร แต่การตายของพี่สาวของพยัคฆ์นั้นทำให้เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันต้องมีอะไรมากว่าการฆ่าตัวตายธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะในตอนชันสูตรศพนั้นเขาก็ได้รู้ว่าพี่สาวของเขาได้ตั้งท้องอยู่ ซึ่งพอรู้ว่าพี่สาวของตัวเองท้องเขาก็เริ่มส่งคนไปตามสืบเรื่องก่อนที่พี่สาวของเขาจะเสียชีวิต
เลือกสามีผิดคิดจนตัวตาย!เป็นเช่นไรรู้ก็เมื่อสายไปเสียแล้ว ลูกต้องตายจาก พ่อแม่พี่ชายพลัดพราก ด้วยหน้าที่ของเขาในฐานะเจ้าเมือง ช่วยชีวิตทุกคนไว้ได้ เว้นแต่นาง เว้นแต่ครอบครัวของนาง
โปรยปราย ผู้คนเกลียดชังข้า แต่กลับมิมีผู้ใดรู้เบื้องหลังว่าแท้จริงแล้วข้าต้องโหดร้ายเช่นนี้เป็นเพราะผู้ใด แทงมีดใส่อกคนรักของข้า สังหารตระกูลข้าจนสิ้นแม้แต่เด็กทารกก็มิเว้น ข้าต้องยืนยิ้มแล้วเอ่ยว่า ไม่เป็นไร ข้าให้อภัย นั่นคงมีเพียงพระโพธิสัตว์เสียแล้วมิใช่ข้าคนนี้ คนที่พวกเจ้าหวาดกลัวยิ่งกว่าภูตผี
นางเคยเป็นดั่งดอกบัวขาว บริสุทธิ์ผุดผ่องมองแล้วสบายตา แต่เขาและน้องสาวต่างมารดาของนางกลับมาแต้มหมึกดำลงบนบัวขาวดอกนี้
นางเกิดมาขาพิการแต่หาได้ไร้ใจไม่ มีเพียงคนผู้นั้นที่ไร้หัวใจยิ่งกว่านาง เขามาหลอกให้นางหลงรักแล้วถอนหมั้นอย่างเลือดเย็น หลังนางตายจากไปแล้วยังใช้ความเห็นอกเห็นใจของพี่ชายนางเพื่อหาประโยชน์เข้าตัว โชคดีสวรรค์ไม่ปล่อยให้คนชั่วลอยนวล กลับมาครานี้ ในเมื่อพวกมันรักกันมากนัก ก็เชิญรักกันไปได้เลย ชายชั่วเช่นนี้คิดจนตัวตายก็ไม่เอามาเป็นสามีเด็ดขาด!
ท่านช่างใจดำยิ่งนัก ท่านกับข้าเปรียบดั่งเหมยเขียวม้าไม้ไผ่ ข้าเชื่อว่าสักวันท่านจะกลับมาเข้าพิธีกราบไหว้ฟ้าดินกับข้า แต่ใยท่านจึงพาสตรีอื่นกลับมา แล้วถอนหมั้นข้าอย่างไร้เยื่อใย
เพราะรักนางจึงยอมทุกอย่าง แต่สุดท้ายเขากลับมอบความรักให้สตรีอื่น ในเมื่อเดินมาจนถึงสุดทางแล้วนางก็ไม่คิดจะยื้อไว้อีกต่อไป ไปเถิดข้าปล่อยมือท่านแล้ว ส่วนข้าจะเดินจากไปพร้อมกับบุตรในครรภ์
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
“หยุดทำบ้าๆ นะพี่สิงห์...อ๊อย...” น้ำผึ้งขนลุกซู่ เขาจูบไซ้ซอกคอของหล่อน ขณะหญิงสาวกำลังยืนส่องกระจกอยู่หน้าอ่างล้างหน้า “พี่ขออีกนิด แค่ภายนอกเท่านั้นนะจ๊ะ ไม่เสียหายอะไรนี่นา...นะครับ” พี่เขยปะเหลาะปะแหละอย่างคนเอาแต่ได้ เสียงออดอ้อนอ่อนหวานเริ่มทำให้น้องเมียใจอ่อนหวามไหว ปล่อยให้มือของเขาเคล้นคลึงสะโพกของหล่อนอย่างนึกมันเขี้ยว สอดท่อนแขนเข้ามาระหว่างง่ามก้น หงายฝ่ามือลูบไล้เข้ามาถึงหนอกเนื้ออุ่นจัดอีกครั้ง ตะล่อมล้วงเข้ามาโอบเนินนูนเหมือนหลังเต่า บีบขยำเบาๆ เหมือนจะประมาณความอวบใหญ่ล้นอุ้งมือ “ของผึ้งใหญ่จัง” มือสัมผัสกลีบเนื้อเป็นพูแน่น โหนกนูนและใหญ่กว่าของเจนนี่มากมาย “อ๊าย...” น้ำผึ้งเสียว กระดกก้นขึ้นโดยอัตโนมัติ สิงหาบีบขยำความเป็นผู้หญิงของหล่อนเป็นจังหวะ หัวใจเต้นแรงกับความอวบใหญ่ที่อัดแน่นอยู่ในอุ้งมือของตน “อย่า...พี่สิงห์...หยุดเดี๋ยวนี้นะ เดี๋ยวพี่เจนนี่มาเห็นผึ้งซวยแน่ๆ” น้องเมียร้องห้ามอย่างสับสนใจ ส่ายก้นทำท่าว่าจะดิ้นหนี แต่ช้ากว่ามือใหญ่ของสิงหาอีกข้างที่กดลงบนแผ่นหลังของหล่อนเหมือนจะล็อกกายไม่ให้ขยับหนี