แป้งร่ำสาวใหญ่วัยสี่สิบ ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยงานจนกระทั่งเพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีใครเคียงข้าง หลังจากทบทวนชีวิตดีแล้วจึงยื่นขอลาออกจากบริษัท และนับตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเธอก็เปลี่ยน ระบบเส็งเคร็งนี่คืออะไร!
ถิงถิงจำได้ว่าเธอเพิ่งจะนอนหลังอ่านนิยายเรื่อง ‘ฝากรักไว้กับรักแรกของแฟนเก่า’ จบไปตอนบ่ายสามของวัน นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักน้ำเน่าที่ถิงถิงชอบมาก และมันยังเป็นนิยายของนักเขียนที่เธอติดตาม เนื่องจากนักเขียนได้ส่งนิยายที่สั่งพิมพ์ให้กับนักอ่านที่สั่งซื้อมาถึง ถิงถิงที่ว่างจึงรีบอ่านนิยายเกือบห้าร้อยหน้าโดยที่ไม่ยอมพักจนจบโดยใช้เวลาเพียงสิบชั่วโมงในการอ่าน จากนั้นจึงหันไปหยิบหูฟังมาสวมพร้อมกับผ้าปิดตาที่ใช้ตลอดเพราะเดี๋ยวแดดจะแยงตาตอนเช้า
แต่แล้วถิงถิงที่นอนอย่างสบายใจก็ต้องสะดุ้งตื่น เพราะได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ข้างหู ถิงถิงขมวดคิ้วระหว่างรู้สึกตัว
ตั้งแต่จำความได้เธอก็โตมากับคุณยายสองคนที่บ้านนอกและเสียไปเมื่อห้าปีก่อน หลังเรียนจบมัธยมปลายจึงย้ายเข้ามาเรียนในมหาลัยรัฐบาลที่มีทุนเรียนฟรี นอกจากยายแล้วเธอก็ไม่ได้มีญาติคนอื่นอีก จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะได้ยินเสียงเด็กร้องในห้อง เพราะที่พักของเธอนั้นเป็นหอพักสำหรับนักศึกษา เด็กที่ต่ำกว่าสิบสองขวบถูกห้ามเข้ามาอยู่เพราะเจ้าของหอกลัวจะรบกวนเหล่านักศึกษาในมหาลัยที่ต้องตื่นไปเรียนเช้าและกลับดึกบางคณะ
ถิงถิงบิดขี้เกียจพร้อมกับใช้มือขยี้ดวงตาที่กำลังจะปิดลงอีกครั้งหากไม่ได้ยินเสียงเคาะประตูอีกรอบ
“พะ...พี่สะใหญ่” เสียงแหบแห้งอยู่ด้านนอกประตูดังเล็ดรอดมาให้ถิงถิงได้ยิน “เสี่ยวลู่คงจะหิวแล้ว เอามาให้ฉันป้อนน้ำข้าวให้หล่อนก่อนเถอะค่ะ”
‘ดะ...เดี๋ยวนะ!! พะ...พี่...สะใภ้ใหญ่งั้นหรือ’
ถิงถิงที่ดวงตากำลังจะปิดเบิกโพลงขึ้นมาอีกรอบ และยิ่งทำให้เธอตกใจกว่าเดิมเพราะสถานที่ไม่คุ้นชินพร้อมกับกลิ่นอับชื้นภายในห้องที่กำลังนอนอยู่ อีกทัังมีเด็กทารกวัยเดือนเศษที่กำลังนอนร้องไห้อยู่ข้าง ๆ เธอ
“อะ...โอ๊ยย” ถิงถิงยกมือขึ้นกุมขมับและหลับตาลงเพราะมันรู้สึกปวดหัว
“พะ...พี่สะใภ้ใหญ่! เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” คงจะเพราะได้ยินเสียงร้องจากภายในห้อง คนด้านนอกที่มีน้ำเสียงแหบจึงร้องถามด้วยความแตกตื่น
“มะ...ไม่มีอะไรแล้ว เธอไปพักเถอะ!” ถิงถิงในคราบกัวเหม่ยอิงตะโกนตอบ
ใช่แล้ว! เธอที่กำลังนอนพักผ่อนหลังอ่านนิยายจบ กลับทะลุมิติเข้ามาในยุค70 ที่ในยุคนี้ข้าวยากหมากแพง เจ้าของร่างที่เธอทะลุมิติเข้ามาอยู่มีนามว่า ‘กัวเหม่ยอิง’ กัวเหม่ยอิงเป็นบุตรสาวคนเล็กของครอบครัวกัว มีพี่ชายกับพี่สาวอีกสี่คน
ครอบครัวสกุลกัวเป็นครอบครัวที่เล็กที่สุดในหมู่บ้าน และเป็นครอบครัวที่จนมากเพราะส่งลูกสาวคนเล็กเข้าเรียนมัธยมปลายในอำเภอ ในตอนนี้ทั้งพี่ชายและพี่สาวของกัวเหม่ยอิงจึงไม่มีใครได้แต่งงานสักคนเพราะครอบครัวยากจนเกินไป
แต่เพราะกัวเหม่ยอิงเป็นถึงนักเรียนที่เรียนจบมัธยมปลายในอำเภอ บ้านสามสกุลหานจึงมาสู่ขอกัวเหม่ยอิงไปเป็นสะใภ้ใหญ่ที่มีสามีเป็นทหาร สร้างความไม่พอใจให้กับบ้านใหญ่สกุลหานเป็นอย่างมาก กัวเหม่ยอิงถูกบ้านใหญ่สกุลหานมาทาบทามไปเป็นสะใภ้หลายครั้งแต่ถูกปฎิเสธ
เพราะบ้านกัวให้เหตุผลว่าบ้านใหญ่สกุลหานมีสมาชิกมากเกินไป หากให้นับแล้วบ้านใหญ่สกุลอยู่รวมกันสี่รุ่นแล้ว แต่ไม่ยอมแยกบ้านออกมาอยู่ข้างนอก ยกเว้นบ้านสาม ที่พ่อสามีเห็นว่าบ้านตัวเองทำงานหนักกว่าบ้านอื่น ๆ จึงหาทางแยกบ้านออกมาจนสำเร็จ แต่ก็ไม่วายถูกมายืมเงินและจับฉวยของไปทุกครั้งที่มีโอกาส
กัวเหม่ยอิงแต่งเข้าสกุลหานเมื่อห้าปีก่อน ในวัยยี่สิบปี แต่เพิ่งจะคลอดหลานสาวให้บ้านสามสกุลหานได้ไม่กี่เดือนก็เจอข่าวร้าย สามีของเธอที่ถูกคัดเลือกไปเป็นทหารตั้งแต่อายุยังไม่เข้าเลขสองจนตอนนี้อายุสามสิบ ไปทำภารกิจด่วนแต่ล้มเหลวจนเกิดการบาดเจ็บหลายคนและหนึ่งในนั้นมีน้องชายคนกลางของสามีด้วย สามีของกัวเหม่ยอิงที่เข้าช่วยเหลือน้องชายจึงไม่สามารถรักษาชีวิตตัวเองได้
กัวเหม่ยอิงลงแปลงนามาตลอดระยะที่แต่งเข้าสกุลหาน แต่ตั้งแต่เด็กจนโตเธอไม่เคยได้รับความยากลำบากแบบนี้มาก่อนจึงเกิดการล้มป่วยและมีร่างกายอ่อนแอ ในเวลาที่เกิดการตั้งครรภ์เธอบำรุงร่างกายก็จริงแต่ก็ยังลงแปลงนาอยู่ตลอด
และเมื่อคลอดลูกสาวจากที่ร่างกายไม่ค่อยดีอยู่แล้วร่างกายก็อ่อนแอลง ยิ่งสัปดาห์ก่อนได้ข่าวว่าสามีเสียชีวิตแล้วอาการที่ไม่ดีก็ทรุดลงไปอีกรอบ
จนกระทั่งเมื่อคืนเธอได้เสียชีวิตข้าง ๆ ลูกสาววัยเดือนเศษ โดยที่ไม่มีใครรู้ และถิงถิงก็เข้ามาอยู่ในร่างนี้ด้วยความมึนงง
แต่ก่อนอื่นถิงถิงหรือตอนนี้ก็คือกัวเหม่ยอิงไม่มีเวลาคิดอะไร เธออุ้มเด็กทารกที่น่าจะชื่อว่าเสี่ยวลู่ขึ้นมากินนมบนเต้าอย่างกระอักกระอ่วน เธอไม่เคยมีลูกมาก่อนแต่เหมือนร่างกายนี้จะเคยชินเธอจึงสามารถอุ้มลูกได้อย่างถนัดมือ
คิดแล้วก็อยากจะร้องไห้ อีกไม่กี่เดือนเธอก็จะเรียนจบแล้วแท้ ๆ ไม่รู้ว่าเคราะห์กรรมอะไรที่ทำให้เธอได้มาอยู่ที่นี่
‘กัวเหม่ยอิงเธอไม่ต้องห่วง ต่อไปนี้ฉันจะดูแลลูกสาวของเธอเอง’
‘หานหรงเจ๋อ ฉันจะดูแลครอบครัวของคุณแทนคุณเอง
กัวเหม่ยอิงให้นมลูกสาวเสร็จก็เผลอหลับไปด้วยความเหนื่อยล้า รู้สึกตัวอีกทีก็เช้าวันใหม่ที่สะใภ้รองเข้ามาเคาะประตู
“พี่สะใภ้จ๊ะ”
“ฉันตื่นแล้ว!” กัวเหม่ยอิงร้องตอบกลับคนที่ยืนอยู่หน้าประตู
กัวเหม่ยอิงเดินไปปลดล็อกกลอนประตูให้คนข้างนอกเข้ามาเอาลูกสาวออกไป ด้วยความที่กัวเหม่ยอิงมีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงน้ำนมจึงไม่มากพอที่จะให้เด็กดื่ม ถางเจียลี่หรือสะใภ้รองจึงเป็นคนรับหน้าที่เอาน้ำต้มข้าวป้อนเด็ก
หลังจากที่สะใภ้รองอุ้มหานเมิ่งลู่ออกไป กัวเหม่ยอิงก็เดินไปเปิดหน้าต่างให้ระบายกลิ่นอับชื้นในห้องจางลง พอเปิดหน้าต่างออกก็ทำให้เธอได้เห็นภายในห้อง ห้องนี้เล็กกว่าห้องพักนักศึกษาของเธอเป็นเท่าตัว
ไม่รู้ว่าที่นี่อยู่กันได้ยังไง อีกอย่างภายในห้องก็มีเพียงเตียงเตาและตู้เล็ก ๆ แค่นั้น
จากความทรงจำกัวเหม่ยอิงคนก่อนแล้ว บ้านหลังนี้เป็นบ้านดินทั้งหลังมีเพียงสี่ห้องนอน หนึ่งห้องครัวและหนึ่งห้องโถงเท่านั้น บ้านสามสกุลหานหากไม่ให้เงินบ้านใหญ่หยิบยืมไปตอนนี้คงจะมีเงินมากพอสมควร
พ่อสามี สามีของกัวเหม่ยอิงและน้องชายคนรองของบ้านเป็นทหารได้หลายปีแล้ว แต่ตอนนี้ที่บ้านเหลือเพียงสตรีที่อาศัยอยู่
น้องชายรองที่บาดเจ็บพวกเธอไม่ได้รู้ข่าวอะไรอีกเลยหลังจากที่มีการแจ้งว่าสามีเสียชีวิต และไม่สามารถกู้ร่างได้ ส่วนลูกชายคนเล็กของบ้านตอนนี้กำลังเรียนมัธยมปลายในอำเภอ ที่บ้านจึงเหลือเพียงแม่สามีที่พิการ สะใภ้ใหญ่แม่ลูกอ่อนอย่างเธอ และสะใภ้รองที่ร้องไห้มาหลายวันเมื่อได้ยินข่าวของสามีที่ได้รับบาดเจ็บหนัก แต่ก็คงดีกว่ากัวเหม่ยอิงที่สามีเสียชีวิต
กัวเหม่ยอิงนำฟูกที่แทบจะเหลือแค่ผ้าออกจากห้องนอนแล้วนำมาตากแดดที่หลังบ้านเพื่อไล่กลิ่นอับ ไม่รู้ว่าพ่อสามีคิดไว้แล้วหรือเพราะที่ดินพื้นนี้ถูกที่สุดจึงปลูกบ้านห่างจากบ้านคนอื่นหลายจั้ง ไม่เชิงว่าห่างมาก แต่ก็ห่างกว่าบ้านอื่นที่อยู่ติดกันเกือบห้าเมตร โดยที่บ้านถูกล้อมด้วยรั้วไม้เพื่อป้องกันไก่หรือสัตว์อื่น ๆ เข้าบ้าน สำหรับถิงถิงที่มาจากอนาคตแล้วเธออยากจะร้องไห้เป็นรอบที่ร้อยของเช้าวันนี้
ที่บ้านมีแต่คนชรา เด็กแล้วก็ผู้หญิงก็ว่าอันตรายแล้ว บ้านยังไม่สามารถป้องกันอันตรายจากอะไรได้อีก
“เสี่ยวลู่หลับแล้วค่ะ พี่สะใภ้กินข้าวมื้อเช้าก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวฉันไปซักผ้าที่เหลือให้” สะใภ้รองที่ไม่รู้ว่าออกมาตอนไหนเอ่ยบอกกับกัวเหม่ยอิงที่ยืนเหม่อมองบ้านอยู่
สะใภ้รองของบ้านในยามนี้ทำแทบจะทุกอย่างภายในบ้าน อาหารในแต่ละมื้อ ป้อนข้าวผู้เป็นแม่สามี ดูแลหลานสาว ทำความสะอาดภายในบ้านทุกอย่าง
อันที่จริงแล้วหน้าที่ดูแลแม่สามีแต่ก่อนและซักผ้านั้นเป็นหน้าที่ของกัวเหม่ยอิง แต่หลังจากคลอดลูกแล้วร่างกายของเธอไม่ดี สะใภ้รองจึงอาสาทำเอง
นับว่าสวรรค์ยังเมตตาเธออยู่บ้างที่มีน้องสะใภ้เป็นคนดี ไม่อยากจะคิดเลยว่าถ้าสะใภ้รองเป็นแบบคนอื่นในนิยายที่เคยอ่านผ่าน ๆ มา ตอนนี้เธอจะเป็นยังไง
ข้าวที่ว่ามันเป็นเพียงน้ำต้มข้าวก้นหม้อเท่านั้น เรียกว่าข้าวไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่กัวเหม่ยอิงก็กลั้นใจฝืนกิน ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีอะไรให้กินแล้ว รอให้เธอปรับตัวกับที่นี่ให้ได้ก่อนเถอะ เธอไม่ยอมกินแบบนี้ไปตลอดแน่ ๆ
กินข้าวเสร็จก็เดินสำรวจในบ้านต่อ โดยเฉพาะอย่างแรกก็คือห้องครัว เครื่องปรุงมีเพียงเกลือที่เหลืออยู่หยิบเดียวกับน้ำมันที่เหลืออยู่ก้นไห นอกจากนั้นก็ไม่มีเครื่องปรุงอะไรอีก หันไปเปิดไหที่มีผ้าปิดไว้กัวเหม่ยอิงก็อยากจะร้องไห้ ข้าวเหลือไม่ถึงชั่งจะให้พวกเธอทำยังไง! คงจะมีเพียงธัญพืชที่ยังจะพอมีบ้าง
กัวเหม่ยอิงไม่เห็นลูกสาวในห้อง สะใภ้รองคงจะให้หลานสาวนอนในห้องตัวเองเพราะห้องนี้เธอเพิ่งจะเอาฟูกไปตาก
“โอ้!” กัวเหม่ยอิงอุทานในลำคอ
เพราะไม่รู้ว่าจะทำอะไร จะนอนก็ไม่กล้าพอที่จะนอนบนเตียงเตาแข็ง ๆ อย่างสุดท้ายจึงมีเพียงเปิดตู้เสื้อผ้าที่อยู่ในห้อง แต่มันก็ทำให้เธอต้องอุทานขึ้นมา
ภายในตู้เสื้อผ้าเต็มไปด้วยข้าวสารและธัญพืชหลายชั่ง โดยมีผ้าอีกหลายผืนห่อหุ้มเอาไว้ ข้างล่างยังมีกล่องเล็ก ๆ อีกต่างหาก
“มีอะไรกัน” กัวเหม่ยอิงพลิกกล่องสี่เหลี่ยมในมือไปมา ข้างในมันมีเสียงตีกันของอะไรบางยังดังขึ้นต่อเนื่องเมื่อถูกเขย่า
“อู้วว!!”
คราวนี้มันทำให้กัวเหม่ยอิงต้องตาโตขึ้นมาอีกครั้งเมื่อเปิดกล่องแล้วข้างในเต็มไปด้วยคูปอง ธนบัตร
และเหรียญเต็มกล่อง จากที่ตกใจจำนวนเงินในกล่องกัวเหม่ยอิงก็รีบวิ่งไปปิดหน้าต่างลงให้มีเพียงแสงเข้าเท่านั้น
หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง บ้านของพวกเธอห่างกับคนอื่นก็จริงแต่ก็ไม่ได้ห่างมาก และหากเหลียวมองก็สามารถมองเห็นได้ง่าย ๆ
กัวเหม่ยอิงนำเงินทั้งหมดออกมานับพร้อมกับคิดถึงเงินพวกนี้ แต่ในความทรงจำของเธอแล้ว เงินพวกนี้ไม่เคยอยู่ในความทรงจำของกัวเหม่ยอิงเลย และเป็นไปได้ว่าไม่ใช่กัวเหม่ยอิงแน่ ๆ ที่เป็นคนเก็บซ่อนมันเอาไว้จากทุกคน
หากเป็นกัวเหม่ยอิงซ่อนไว้ เงินทุกหยวนคงจะถูกส่งไปให้บ้านใหญ่สกุลหานทั้งหมด ไม่ใช่ว่าเธออยากจะให้ แต่เธอไม่อยากมีปัญหากับบ้านใหญ่ของสามีที่มีกันหลายสิบคน หากไม่ให้พวกเธอก็ต้องถูกด่าว่าอกตัญญู และบางทีถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน
และยิ่งบ้านกัวของเธอก็มีจำนวนน้อยหากจะเข้าช่วยก็จะถูกคาดโทษไปด้วย อีกอย่างนี้ก็เป็นเรื่องของสกุลหานจึงไม่มีใครเข้ามาช่วย
“สามพันเจ็ดสิบห้า”
“สามพันหกร้อย”
“สามพันหกร้อยเก้า”
“สามพันแปดร้อยห้าสิบสาม”
“สามพันเก้าร้อยสอง”
“สี่พันหนึ่งร้อย”
“สี่พันหนึ่งร้อยเจ็ด”
“สี่พันเก้าร้อยสิบหก”
“ห้าพัน”
“ห้าพันสามร้อยเจ็ดสิบเก้าหยวน!”
เงินทั้งหมดที่อยู่ในกล่องมีมากถึงห้าพันหยวน! เงินจำนวนมากในยุคแบบนี้สามารถใช้เลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้มากกว่าสิบคนหลายสิบรุ่นเลยก็ว่าได้ แต่ทำไมบ้านสามสกุลหานของพวกเธอถึงมีมันได้? อีกอย่างทำไมมันถึงรอดจากเอื้อมมือของบ้านใหญ่สกุลหานมาได้เยอะขนาดนี้
ชีวิตของลิลลี่เป็นชีวิตที่ใครหลาย ๆ คนใฝ่ฝันอยาจะเป็นแบบเธอ แต่คนอื่นไม่เคยรู้เลยว่ามันโดดเดี่ยวมากแค่ไหน เกิดในตระกูลหมื่นล้านครอบครัวค่อย ๆ จากไปทีละคน อายุเพียงยี่สิบอาชายผู้ที่เป็นญาติผู้ใหญ่คนสุดท้ายที่เหลืออยู่ดวลจากไป ลิลลี่ ลลิลิล จึงกลายเป็นทายามเพียงคนเดียวของตระกูล มีแล้วอย่างไรสุดท้ายคนเราต้องจากไป มีเงินหมื่นล้านยื้อชีวิตใครไม่ได้สักคน ลิลลี่ในวัยยี่สิบปีเธอรู้ว่าธุรกิจของตระกูลไม่อาจสานต่อได้ ขายหุ้นให้คนอื่นรอรับเพียงเงินปันผลก็เพียงพอ ยี่สิบสามเรียนจบปริญญาตรีด้านแฟชั่นก่อนเรียนต่อปริญาเอก ปริญญาโท ในปีที่สามสิบของชีวิตลิลลี่ประสบความสำเร็จในด้านดีไซเนอร์ เป็นดีไซเนอร์ที่มีชื่อเสียง ยังไม่ทันได้ใช้ชีวิตหลังเรียนจบก็เสียชีวิตจากความเครียดที่สะสมมาตลอด คิดว่าหลังความตายคงจะถูกบรรพบุรุษสาปแช่งที่ดูแลตระกูลไม่ได้ ใครจะรู้ว่าลืมตาแล้วจะมาอยู่ในร่างของคนอื่น วันที่เจ็ดเดือนมกราคมปี 1980 ลิลลี่ตื่นขึ้นในในร่างของลูกสาวคนโตของบ้านฉิน ฉินเสี่ยวหราน มีน้องสาวหนึ่งคน พ่อเป็นทหารหารเพิ่งได้รับเลื่อนขั้นเป้นพันตรี แม่เป็นหญิงในชนบท ฉินเสี่ยวหรานเป็นนักเรียนมัธยมปลายชั้นปีสุดท้าย ส่วนฉินเสี่ยวหลิงเป็นนักเรียนมัธยมต้นชั้นปีสุดท้ายที่จะขึ้นมัธยมปลาย
เป็นเพียงขยะไร้ค่าของตระกูลจะสู้หลานชายสุดที่รักของคุณปู่ได้อย่างไร ติณณ์เดินออกจากตระกูลไปยังประเทศเกรย์ดัชตามคำบอกเล่าของเพื่อนสาว แต่เข้าประเทศเขาวันแรกดันปากดีใส่องค์รัชทายาทจนโดนหมายหัว
แป้งร่ำสาวใหญ่วัยสี่สิบ ชีวิตของเธอเต็มไปด้วยงานจนกระทั่งเพิ่งรู้ตัวว่าไม่มีใครเคียงข้าง หลังจากทบทวนชีวิตดีแล้วจึงยื่นขอลาออกจากบริษัท และนับตั้งแต่นั้นมาชีวิตของเธอก็เปลี่ยน ระบบเส็งเคร็งนี่คืออะไร! .
ซุนลี่เป็นหนึ่งเกรียงไกร แผ่นดินยิ่งยงไพศาล ใต้หล้าสยบชั่วกาล ว่านอี้ครองราชย์...ประชาร่มเย็น ว่านอี้ครองราชย์...ประชาร่มเย็น คำนี้มีความจริงเจือจางอยู่กี่มากน้อยกันแน่? เรื่องเหล่านี้คงเป็นเพียงบทเรียนในวังหลังที่จารึกให้คนท่องจำ ไปอย่างสูญเปล่า เพราะสำหรับตัวนางแล้ว คำกล่าวนี้ดูห่างไกลความจริง จนสุดหล้าทีเดียว
อดีตที่ยากจน แม่เลี้ยงสามีที่เอาเปรียบบ้านใหญ่ บ้านรอง ของพวกเธอต้องชดใช้!
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่