/0/19493/coverbig.jpg?v=21055803784c3b5d05764b39328ca14a)
ชีวิตเธอกำลังมีความสุข แต่แล้วก็ประสบอุบัติเหตุมาอยู่ในยุคโบราณ อยู่โบราณไม่ว่าถ้ามาอยู่ในร่างเด็กที่แม่ป่วย พ่อพิการ แถมตัวเองก็เป็นคนเดียวที่พอจะหาอาหารให้พวกเขาได้!!
ชุดกระโปรงยาวสีขาวบริสุทธิ์ฟูฟ่องดุจเจ้าหญิงสวมทับอยู่บนร่างของต้าเหนิง เธอมองภาพสะท้อนตัวเองในกระจกด้วยความรู้สุขปลาบปลื้ม วันที่เธอเฝ้าฝันมาถึงแล้ว เสียงระฆังวิวาห์วันนี้คงถูกจดจำในใจเธอไปตราบนานเท่านาน หญิงสาวหมุนตัวหน้ากระจกด้วยความอิ่มเอมใจ อยากจะจดจำตัวเองในวันนี้ไว้ เพราะเธอคงมีโอกาสใส่มันแค่ครั้งเดียว และเธอก็ปรารถนาให้มันเป็นแค่ครั้งเดียวชั่วชีวิตนี้จริงๆ
หญิงสาวนักพฤษศาสตร์วัยยี่สิบห้าปีขององค์กรเอกชนแห่งหนึ่งกำลังจะได้เริ่มต้นชีวิตครอบครัวอย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่ชั่วโมง
"ต้าเหนิง รถพร้อมแล้วนะ" เพื่อนเจ้าสาวคนหนึ่งเดินมาเรียกเธอในห้อง วันนี้เพื่อนๆ ของเธอก็สวยพริ้มทุกคน ต้าเหนิงรู้สึกดีใจมากที่เพื่อนๆ เธอสามารถมากันได้ครบทุกคน เพราะวัยทำงานนั้นโอกาสในการรวมตัวกันกับกลุ่มเพื่อนน้อยยิ่งกว่าน้อย
"วันนี้ขอบใจพวกเธอมากนะ"
"วันสำคัญของเพื่อนทั้งทีนี่นา รีบไปขึ้นเถอะ ราชรถของเจ้าหญิงมาแล้ว" หญิงสาวคนเดิมเอ่ยแซวก่อนจะดันหลังของเธอให้ขึ้นไปนั่งบนรถที่ตกแต่งด้วยผ้ามันวาวอย่างสวยงาม ต้าเหนิงจะนั่งไปกับคนขับรถ และเพื่อนของเธอจะตามมาในภายหลัง
ปลายทางคือโบสถ์ที่ใช้ทำพิธี ซึ่งเจ้าสาวคนนี้ยิ้มกว้างไปตลอดทาง ใครเห็นก็รับรู้ได้ว่าเธอต้องมีความสุขมาแน่ๆ หญิงสาวพยายามทำใจให้สงบแม้เธอจะตื่นเต้นมากก็ตาม
เจ้าบ่าวของเธอคือคนที่คบกันมาตั้งแต่เรียนมหา’ลัยปีหนึ่ง เป็นความมั่นคงอันยาวนานที่ทำให้เธอยอมตกลงสวมแหวนจากเขา
"คุณพ่อคะ หนู...มีความสุขมาก" เธอไม่รู้จะหาคำใดมาบ่งบอกความรู้ตอนนี้ได้ชัดเจนไปกว่านี้อีกแล้ว
"ยินดีกับลูกด้วยนะ เจ้าหนุ่มนั่นเป็นคนดี แต่ถ้าเริ่มไม่ดีก็กลับมาบ้านนะ"
"โธ่ พ่อคะ ไม่เป็นไรหรอกน่า หนูเก่งมากนะ"
"พ่อรู้ลูกรัก แต่คนเราไม่ต้องเข้มแข็งตลอดเวลาก็ได้ พ่อกับแม่ยังอยู่ข้างลูกเสมอนั่นล่ะ"
ชายวัยย่างเข้ากลางคนระบายยิ้มอบอุ่นออกมา วันนี้แล้วที่ลูกจะออกไปจากอ้อมอกของพ่อแม่ สร้างครอบครัวของตัวเอง คนเป็นพ่อก็อดรู้สึกสุขปนเศร้าไม่ได้ สัญญาณไฟจราจรสั่งให้หยุด อีกไม่ไกลก็ถึงสถานที่จัดงานแล้ว ต้าเหนิงใช้ช่วงเวลานี้พยายามเรียกสติตัวเองกลับมา ทว่ากลับสัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นกระหน่ำอยู่ในอกตัวเองอย่างชัดเจน
"ฮู่~"
"ตื่นเต้นเหรอลูก"
"ค่ะ"
"ไม่เป็นไร มันจะผ่านไปด้วยดี วันที่แต่งงานกับแม่ พ่อก็ตื่นเต้นมากเหมือนกัน"
หลังจากผู้เป็นพ่อพูดจบ สัญญาณไฟก็เปลี่ยนสี รถยนต์ประดับผ้าเคลื่อนตัวไปช้าๆ ทว่าหางตาหญิงสาวในชุดขาวก็สังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างเข้าเสียก่อน
"คุณพ่อคะ!" เธอร้องลั่นด้วยความตกใจเมื่อรถซุปเปอร์คาร์จากฝั่งตรงข้ามเสียหลักพุ่งเข้ามาขณะที่เธอกับพ่ออยู่ตรงกลางแยก
พาหนะเหล็กกระแทกกันเสียงดังสนั่น ยังไม่ทันรับรู้เหตุการณ์ต่อจากนั้นเธอก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบที่แล่นขึ้นมาของตัวเองก่อนแล้ว ร่างของต้าเหนิงลอยเคว้งอยู่ในอากาศ สะบัดตามแรงเหวี่ยงของรถที่กระแทกมาจนไถลร่วงลงพื้น
หูของเธออื้ออึงไปชั่วขณะ ไม่อาจขยับร่างกายได้ดั่งใจ ทิวทัศน์เดียวในคลองสายตาเวลานั้นคือรถยนต์สีขาวที่เธอกับพ่อนั่งมายับเยินจากอุบัติเหตุ เสียงโวยวายของผู้คนโดยรอบที่ฟังไม่ได้ศัพท์ ร่างกายเจ็บจนชาไปถึงอวัยวะภายใน ชุดเจ้าสาวถูกย้อมเป็นสีแดง แล้วสติของเธอก็ค่อยๆ เลือนหายไป
บางทีนั่นอาจเป็นแค่ฝันร้าย หรือไม่เธอก็กำลังฝันซ้อนฝัน ความอึดอัดที่แสนคุ้นเคยนี้เหมือนเคยเกิดขึ้นมาก่อนในวัยเด็ก ร่างทั้งร่างเย็นเฉียบจากสิ่งเร้าภายนอก สัมผัสแรกของฝ่ามือคือดินโคลนเหลวๆ ของก้นแม่น้ำ เปลือกตาที่ปิดสนิทค่อยๆ เปิดขึ้นตามสติการรับรู้ที่ค่อยๆ กลับมา ความอึดอัดจนทรมาณเสียดอกทำให้ดวงตาคู่นั้นเบิกโพลงขึ้นทันที เด็กหญิงผู้หนึ่งตะเกียกตะกายขึ้นจากน้ำสุดแรง รอบข้างมืดมิดจนน่าขนลุก เห็นแต่เพียงแสงสะท้อนของพระจันทร์ที่ทอดผ่านลงมานำทาง
อากาศหลุดลอยออกจากปากจนไปหมดจนไม่มีอะไรให้ออกมาแล้ว ทำให้นางต้องกัดฟันใช้แรงเฮือกสุดท้ายพาตัวเองขึ้นไป มือเล็กบางของมนุษย์วัยต้นอ่อนไขว่คว้าอากาศและผืนน้ำพาตัวเองขึ้นมาสูดอากาศจนเต็มปอดได้สำเร็จ
นางพาตัวเองว่ายเข้าหาฝั่ง ทันทีที่พาตัวเองขึ้นไปได้ก็สำลักน้ำออกมาหลายคำ ไอจนเจ็บอกเจ็บคอก่อนจะทิ้งตัวนอนแผ่อยู่แบบนั้น เด็กหญิงหายใจหอบเหมือนใช้เรี่ยวแรงส่วนของวันนี้ทั้งวันนี้หมดไปแล้วกับการเอาชีวิตรอด หลังจากสติได้เล็กน้อยก็พึ่งได้มีเวลาสังเกตตัวเอง
"นี่มัน...อะไร"
มองมือตัวเองที่เล็กจิ๋วไม่ต่างจากมือเด็ก ทั้งยอมผอมแห้งติดกระดูกเหมือนไม่เคยได้กินอะไรดีๆ ตั้งแต่เกิด ปากเล็กๆ อ้ากว้างด้วยความตื่นตะลึง ต้าเหนิงพุ่งไปที่ริมน้ำอีกครั้ง แล้วหญิงสาวก็ได้เห็นภาพสะท้อนเต็มตา บุคคลตรงหน้านี้ต้าเหนิงไม่รู้จักอย่างแน่นอน
ทำไมฉันถึงกลายเป็นเด็กไปได้!?
ผู้อยู่ในร่างเด็กน้อยเริ่มสติหลุดอีกหน ใจเย็นแทบไม่อยู่ แต่ก็ระลึกได้ว่ายิ่งเสียสติจะยิ่งแย่ เธอต้องใจเย็นๆ ก่อน มือน้อยๆ ตบแก้มตัวเองเบาๆ เรียกสติ ต้าเหนิงนั่งอยู่อย่างนั้นครู่หนึ่งเพื่อปรับลมหายใจให้เข้าที่ คิดย้อนไปถึงเหตการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง
ในห้วงคะนึงหนึ่งสักแห่งหนหนึ่งที่เธอไม่รู้จัก หญิงสาวในชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์เหมือนไม่เคยมีเลือดเปรอะเปื้อนมาก่อนยืนอยู่ต่อหน้าบุรุษผมยาว เขาสวมชุดฮั่นฝูดูสง่างาม ใบหน้าเข้ารูปไร้ที่ติเหมือนพระเจ้าตั้งใจแกะสลักอย่างบรรจง
ชายคนนั้นโบกมือพัดในมือด้วยท่าทีเอื่อยเฉื่อย เดินวนรอบนางเหมือนสำรวจวัตถุแปลกตา
"แม่นางน้อยผู้นี้ เจ้าช่างประหลาด อยู่ต่อหน้าข้ากลับไม่มีท่าทีตกใจเลยนะ"
"จริงๆ แล้วฉันตกใจมากค่ะ แค่สติไม่มากพอจะตกใจไปกว่านี้แล้ว" เธอตอบตามจริง เพราะตอนนี้ก็ยังไม่รู้เลยว่าสติเธอกลับมาหรือยัง ตอนนี้เธอพูดอยู่ใช่หรือเปล่า ที่นี่ที่ไหน หลายคำถามสาดซัดใส่ในหัวจนเหมือนระบบประมวลผลขัดข้องอย่างไรอย่างนั้น
บุรุษผู้นั้นหัวเราะเบาๆ ไม่รู้ว่าชอบใจหรือตลกสิ่งที่เธอพูดอยู่จริงๆ กันแน่ มองดูดีๆ แล้วตัวเขาคล้ายว่าเรืองแสงอยู่ตลอดเวลา และเวลาที่เปิดปากเอื้อนเอ่ยสักคำรัศมีรอบกายนั้นก็ยิ่งสว่างขึ้นวาบขึ้นไปอีก
ผู้ชายคนนี้เป็นสิ่งที่นอกเหนือจากมนุษย์ไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย หรือถ้าเป็นมนุษย์ ก็ไม่ใช่คนธรรมดาแบบเธอแน่ๆ
"คุณมารับวิญญาณฉันหรือคะ?"
ต้าเหนิงคิดความเป็นไปได้อื่นไม่ออกจริงๆ ในเมื่อเธอตายแล้วก็ควรต้องข้ามทางหวงเฉวียนใช่หรือเปล่า
เขาไม่ได้ตอบคำถามเธอในทันที แต่ยื่นน้ำแกงถ้วยหนึ่งมาให้
"นี่คือ?"
"ไม่ใช่ของอันตรายอะไรหรอก เจ้าไม่มีพันธะผูกพันกับที่นั่นแล้ว จึงต้องไปที่อื่นก็เท่านั้น"
เขากล่าวด้วยท่าทีสบายๆ แต่หญิงสาวขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีที่ฟังจบ เธอรับถ้วยใบนั้นมาถือไว้ด้วยมือสั่นเทา อยู่ๆ ดวงตาก็ร้อนผ่าวขึ้น
"หมายความว่ายังงที่ว่าไม่มีพันธะผูกพันแล้ว ฉันพึ่งตกลงแต่งงานกับคนรัก ยังไม่ทันได้แต่งก็เป็นแบบนี้ ท่านคิดว่าฉันจะยอมรับได้หรือ" เธอร้องออกมาพร้อมหยาดน้ำตาพรั่งพรู ที่ยืนอยู่ตรงนี้ก็ยังทำใจไม่ได้ด้วยซ้ำ ยังยืนอยู่ได้ก็ปาฏิหาริย์แล้ว แล้วพ่อของเธออีกล่ะ ไม่รู้เขาจะเป็นอย่างไร ปลอดภัยไหม
ทำไมเธอจะไม่มีพันธะ ทำไมเธอจะไม่ผูกพันกับใคร ชีวิตยี่สิบห้าปีมันว่างเปล่าขนาดพูดคำนั้นออกมาได้เชียวหรือ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นอยู่กันแน่
ชีวิตมนุษย์มันแค่นี้อย่างนั้นหรือ ไม่เข้าใจเลยสักนิด และไม่อยากเข้าใจด้วย ต้าเหนิงไม่แน่ใจว่าตัวเองโกรธหรือเศร้าอยู่กันแน่ อาจจะเป็นทั้งสองอารมณ์ปะปนกันอยู่ตอนนี้ แต่เธอรู้แน่ชัดว่าตัวเองกำลังไม่พอใจ
"มีภพมีจาก โชคชะตาวนเวียน เช่นนี้คือมนุษย์ ความตายไม่อาจเรียกคืนได้ แม้แต่เดรัจฉานยังรู้เรื่องนี้ แม่นางน้อยปล่อยวางเถิด"
เจียซินที่อยู่ในชีวิตปั่นปลายนั้น กลับต้องรู้สึกเสียใจที่เลือกเส้นทางรักผิด เมื่อเลือกหนทางใหม่ได้ เธอก็จะเลือกหนทางที่ดีที่สุด และเขาชายที่เธอเคยละทิ้งไปก็กลายมาเป็นคู่ชีวิต ที่พร้อมจะร่ำรวยไปด้วยกัน
ชมดาวต้องทนรับสภาพสถานะเลขาของเจ้านายและสถานะบนเตียงมาตลอดห้าปี เธอคิดว่าอีกไม่นานเขาก็จะขอเธอแต่งงาน หากแต่ว่าเขากลับเห็นเธอเป็นเพียงสถานะรองเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ต้องแต่งงาน ไม่ใช่กับเธอแต่เป็นคนอื่น เธอจะเลือกจำยอมอยู่ในความลับต่อไป หรือเลือกที่จะเดินออกมาพร้อมกับเด็กในท้อง!!
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
จ้าวเหม่ยซื้อนิยายมาอ่าน พระเอกของเรื่องเป็นทรราชที่ได้รับการยกย่อง บ้าไปแล้วเป็นทรราชจะดีได้อย่างไร ปากบ่นไปสมองก็ด่าไปดันถูกเครื่องทำน้ำอุ่นช็อตตายไป ฟื้นมาอีกทีก็กลายเป็นสนมของทรราชผู้นั้น!! งานนี้เธอจะสามารถกลับออกจากนิยายได้ไหม หรือว่าต้องอุ้มให้ทรราชผู้นั้นตลอดไป ไปลุ้นกันค่ะ ****************** จบดีมีความสุขค่ะ
นราเป็นเพียงหญิงสาวยากชน ต้องทำงานแลกเงินแต่เธอก็มีตุลย์แฟนหนุ่มที่มีฐานะดีคอยช่วยเหลือตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเธอก็พบว่าตัวเองตั้งครรภ์ ในขณะที่อีกฝ่ายก็มีคนที่ดีพร้อมไว้ข้างกายเช่นกัน เพราะรักจึงยอมเลิก เธอจึงเลือกที่จะหอบลูกในท้องจากไปเพื่อให้เขามีอนาคตที่ดีขึ้น ดีกว่าที่จะอยู่กับคนแบบเธอแม้หัวใจจะเจ็บปวดมากเท่าไรก็ตาม
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
นรีรัตน์ตอบตกลงทำตามสัญญาที่ว่าเธอจะแต่งงานกับชยุดและต้องมีลูกกับเขาภายในเวลาหนึ่งปี มิเช่นนั้น เธอจะต้องสูญเสียทุกอย่างในชีวิตของเธอไป แต่การกระทำมักทำยากกว่าคำพูดเสมอ การที่เธอต้องเผชิญกับการถูกกลั่นแกล้งให้ขายหน้าวันแล้ววันเล่า จนที่สุดเธอหมดความอดทนและไม่อยากจะยอมก้มหัวอย่างคนพ่ายแพ้อีกต่อไป ในวันที่เขาประสบอุบัติเหตุ เธอได้อุทิศเสียสละโดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัยของตนเองเพื่อช่วยชีวิตของเขาไว้ ถึงแม้ว่าในตอนนี้เธอยังคงมีชีวิตอยู่ แต่ในอีกไม่ช้าเธอจะหายตัวไปจากชีวิตของเขา ตราบจนถึงเวลาที่ลูกของพวกเขาเติบโตขึ้นมา และเมื่อถึงเวลานั้นโชคชะตาจะพัดพาให้พวกเขากลับพันผูกกันอีกครั้ง เดิมทีเธอจะกลับไปหาเขาก็ได้ แต่ตอนนี้เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่จะอุทิศทุกสิ่งอย่างเพื่อความรักในตัวเขาอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เธอพร้อมแล้วที่จะต่อสู้เพื่อลูกชายของตัวเอง
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...