ไม่รู้โชคช่วยหรือดวงซวย! เลขาฯ หนุ่มลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ‘André Bernard’ เลยได้มาเป็นเลขาฯ คนที่แปดของเจ้านายสาวเรื่องเยอะ ลูกสาวคนเดียวของบ้านคุณหญิงวริศรา ทายาทไฮโซ ร่ำรวยลำดับต้น ๆ ของเมืองไทย
ไม่รู้โชคช่วยหรือดวงซวย! เลขาฯ หนุ่มลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ‘André Bernard’ เลยได้มาเป็นเลขาฯ คนที่แปดของเจ้านายสาวเรื่องเยอะ ลูกสาวคนเดียวของบ้านคุณหญิงวริศรา ทายาทไฮโซ ร่ำรวยลำดับต้น ๆ ของเมืองไทย
“ดูสิ... คนที่แปดแล้วแก...”
เสียงกระซิบกระซาบของพนักงานสาววัยกลางคนหน้าเคาน์เตอร์แผนกต้อนรับ ยกมือป้องปากบอกเพื่อนร่วมงานอย่างใช้ความระมัดระวัง ทันทีที่เจ้าของร่างสูงในเชิ้ตหล่อเหลาสีน้ำเงินเข้มขยับขายาวชะลูดผ่านหน้าไป
ฝรั่ง! ฝรั่ง!
ไม่แปลกที่สาว ๆ แต่ละนางจะตื่นเต้นเกินเบอร์ เมื่อบริษัทเอกชนยักษ์ใหญ่แห่งนี้ไม่เคยว่าจ้างต่างด้าวเข้ามาทำงานในตำแหน่งเลขานุการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การที่เอกสารส่วนใหญ่เป็นภาษาไทย มีภาษาอังกฤษแทรกแซมอยู่ประปรายประสาบริษัทสินค้าแบรนด์เนมไทย อาจทำให้การทำงานมีปัญหา
แล้วพ่อฝรั่งขายาวจะอ่านเขียนไทยได้อย่างคล่องแคล่ว พร้อมรองรับอารมณ์เจ้านายหรือ? มันจะเป็นไปได้ยังไง แต่ก็นั่นแหละ พ่อฝรั่งขายาวได้รับการให้อภัย
“อุ๊ยแม่เจ้า นาน ๆ จะมีฝรั่งหล่อลากกระชากตับหลุดมาสักคน”
“งานดีเป็นบ้า แต่ป้าให้เต็มที่สามวันอะคุณน้อง”
“วันเดียวก็เหลือแหล่ค่ะป้าปิ๊ก”
“โธ่... นุ้ยรู้สึกเสียดายจังเลย ทำไมบอสเราผีเข้าผีออก ไล่เลขาฯ ออกในเดือนเดียวตั้งเจ็ดคน มิสเตอร์อองเดรของพวกเราจะอยู่เป็นอาหารตาได้สักกี่วัน” เสียงหัวเราะคิกคักดัง ต่างคนมองซ้ายขวาหน้าหลังก่อนนินทา ลดเสียงลงให้เบาที่สุด โดยไม่มีคำว่าพลาด ใคร ๆ ก็รู้ เจ้านายที่นี่ดันเหมือนใครเสียที่ไหน
‘คุณเฌอเอม’
ลูกสาวคนเดียวของบ้านคุณหญิงวริศราและศาสตราจารย์ชรัณ ทายาทนักธุรกิจกลุ่มคอสเมติก ร่ำรวยลำดับต้น ๆ ของเมืองไทย
บ้านไอยเรศเป็นทั้งเจ้าของห้างสรรพสินค้า เสื้อผ้าแฟชั่นงานแบรนด์เนม เครื่องสำอางสำหรับคนรักสุขภาพ ดีต่อทุกสภาพผิว สินค้าของคุณหญิงเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงมายาวนาน หนึ่งในตลาดหุ้นภายใต้ชื่อบริษัท IMR คอสเมติก จำกัด (มหาชน)
ว่าก็ว่าเถอะ บ้านคุณหญิงน่ะ ไฮโซของแท้แน่จริง คาบช้อนเงินช้อนทองมาเกิด พอลูกสาวคนเดียวเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในลอนดอน หล่อนก็สั่งให้ลูกสาวเข้ามาบริหารงานต่อ นั่งเก้าอี้ตำแหน่ง CEO ในทันที
เลขานุการคนใหม่เพิ่งมาถึงเมื่อเช้านี้ ยังไม่ทันเริ่มงาน เขาก้มลงมองพนักงานสาวชาวเอเชียทั้งสามในแผนกต้อนรับชั้นบนสุดของตึกระฟ้า ทักทายอย่างสุภาพด้วยสำเนียงไทยชัดถ้อยชัดคำ
“สวัสดีครับ ผมอองเดรนะ ที่ส่งไลน์ไปเมื่อคืน ได้รับข้อความนะครับ”
“ได้รับค่ะคุณน้อง” พนักงานสาวในชุดสูทเรียบร้อยอายุรุ่นราวคราวแม่เอาแต่ส่งยิ้มหวาน มองแววตาฉงนของหนุ่มรูปงาม “คุณน้องพูดไทยชัดมากเลยนะคะ อยู่เมืองไทยมานานหรือยังนะ ป้าว่าตาคุณน้องสวยมาก เกรงว่าป้าคงถูกดูดวิญญาณไปแล้ว I love Farang”
“ขอบคุณสำหรับคำชมนะครับ I appreciate มาก But...” ปลายเสียงเงียบไป ฉีกยิ้มให้พวกหล่อนอย่างมีจุดประสงค์แอบแฝง “ผมรีบนิดนึง ยังไม่อยากโดนไล่ออกวันนี้น่ะครับ คุณเฌอเอมเธอต้องการเอกสารด่วน รบกวนด้วยนะครับ”
“ดาวเตรียมไว้แล้วค่ะคุณอองเดร เอกสารรายงานการประชุม เลขาฯ คนเก่าเพิ่งส่งอีเมลมาให้เมื่อเช้า”
ในความหวังดีของสาววัยยี่สิบปลายตั้งใจเก็บเอกสารเอาไว้เป็นอย่างดี หล่อนส่งกระดาษให้แล้วยังคงยิ้ม ส่วนฝรั่งหนุ่มรีบคว้ากระดาษเก็บเข้าแฟ้มอย่างระวังไม่ให้ยับ พร้อมมอบคำขอบคุณผ่านรอยยิ้มกระชากวิญญาณสาว ค่อยเดินจ้ำอ้าวไป
----------------------------------
André Bernard ชื่อภาษาไทยนั้นเขียนตรงตัว ‘นายอองเดร เบอร์นาร์ด’ หนุ่มลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส หรือหนุ่มตาน้ำข้าวที่คนไทยเรียกกัน
ฝรั่ง!
ชายหนุ่มชินชากับคำนี้ ไปไหนมาไหนก็มักได้ยิน ซึ่งมันดันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้เอาเสียเลย ในเมื่อเขามีแค่ใบหน้าหล่อเหลาคลับคล้ายคลับคลาคุณแม่นวล แต่พันธุกรรมส่วนอื่นดันไปเหมือนคุณพ่อและคุณปู่ทุกกระเบียดนิ้ว
ด้วยความสูงกว่าหนึ่งร้อยแปดสิบเก้าเซนติเมตรทำให้เขาดูโดดเด่น ขยับขายาวชะลูดผ่านหน้าสาวน้อยใหญ่ พวกหล่อนก็เอาแต่จ้อง ทั้งผมสีบลอนด์ทองดูนุ่มสลวยเป็นประกาย นัยน์ตาสีมรกตราวท้องทะเลสีคราม ใบหน้าหล่อเหลาคมคายอย่างหนุ่มฝรั่งเศส ขณะที่เขากลับมีผิวขาวละเอียดดูนุ่มเนียนเหมือนผิวของผู้หญิง แทนที่จะเป็นหนุ่มผิวแทนตามความนิยมของชาวต่างชาติส่วนใหญ่ ซึ่งคลั่งไคล้การเข้าเครื่องอบผิวเสียเหลือเกิน
น้อยคนจะรู้ว่าอองเดรสามารถ พูด-อ่าน-เขียน ภาษาไทยได้อย่างคล่องแคล่วเพราะเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนนานาชาติไทย-ฝรั่งเศสใจกลางกรุงเทพฯ มาตั้งแต่โรงเรียนอนุบาลหรือ K1 ก่อนได้ทุนไปเรียนต่อบ้านเกิดในลียง (Lyon) โดยใช้สิทธิการถือสัญชาติฝรั่งเศส
ชายหนุ่มมาส่งเอกสารตามนัดหมาย มาก่อนเวลาถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ ปลายรองเท้าเป็นเงามันหยุดอยู่หน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่สไตล์โมเดิร์นเข้ากับห้องทำงานกว้างขวาง ด้วยสีหน้าสุขุมนุ่มลึกและนิ่งเฉย
ขณะใบหน้าสดสวยของเจ้านายสาวเงยขึ้นจากแท็บเล็ตในมือ ถัดจากคอมพิวเตอร์จอใหญ่ เธอเลิกคิ้วขึ้นพูด
“ฉันอยากคุยเรื่องเมื่อวาน คุณควรระมัดระวังมากกว่านี้ มันไม่ควรมีคำว่าผิดพลาด การก้าวพลาดสักก้าวหนึ่งเป็นปัญหาสำหรับฉัน” ในน้ำเสียงเย็นยะเยือก ดวงตาคู่สวยสว่างใสเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร ไม่เป็นมิตรกับคนมาใหม่ แถมเธอกำลังพูดถึงเรื่องเมื่อวาน ตอนรับพนักงานคนใหม่กะทันหัน ขอให้มาพบเธอที่บ้านตอนเย็น จากนั้นก็เกิดเรื่องราวไม่คาดฝัน
“ไม่ทันได้สัมภาษณ์เลขาฯ สักคำ เลยไม่มีโอกาสได้ไล่ออก เมื่อคืนนี้ฉันยังนอนไม่หลับ เกิดกลัวขึ้นมาว่าอาจโดนฆ่าตายเสียก่อน”
“ผมไม่ได้เป็นคนเริ่มนะครับ แล้วผมแน่ใจว่าใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ผมคิดว่ามันเป็นอุบัติเหตุ ตอนนี้ก็ยังคิด...”
“Of course... เป็นอุบัติเหตุ สรุปว่าเป็นความผิดของฉันอย่างนั้นสิ”
“ในฐานะลูกจ้างคงไม่เหมาะสมถ้าหากผมจะพูดว่าคุณผิด ผมไม่พูดออกมาแน่ ๆ แต่มันก็ไม่ใช่ความผิดของผมอยู่ดีนะครับคุณเฌอเอม” มือหนาพลันวางแฟ้มหนาลงบนโต๊ะกระจกสีดำสนิท เลขานุการหนุ่มคนใหม่คล้ายจะยั่วโทสะเจ้านาย ในเมื่อเขาไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
มันเหมือนกับว่าเขากำลังเล่นสงครามประสาท ยิ่งเขาไม่ได้พูดถึงเรื่องประตูบ้าน มันเปิดออกกว้างด้วยมือของแม่บ้านผู้ไม่ได้ใช้ความตั้งใจในการเปิดประตู ทำให้ลูกสาวเจ้าของบ้านวิ่งออกมาล้มทับฝรั่งหนุ่ม
Mouth to mouth... ปากกระแทกปาก!
จูบแรกของเฌอเอมถูกช่วงชิงไปโดยฝรั่งแปลกหน้า แถมอีตาว่าที่คู่หมั้นเดินออกมาพอดี เธอเลยอาศัยจังหวะนั้นเล่นใหญ่ไปซะเลย
ริมฝีปากแนบริมฝีปาก ปลายลิ้นไม่เป็นงานถือโอกาสฉกฉวยเอาบางอย่างจากฝรั่งหนุ่มหล่อล่ำ อองเดรไม่ใช่คนชอบปฏิเสธใคร โดยเฉพาะสาว ๆ สวย ๆ เขาก็ตอบกลับจูบเงอะงะของเธอ จนเธอหายใจหอบระทวย
เจ้านายสาวไม่ถึงกับต้องหยิบยาพ่นสำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืดขึ้นมาพ่นใส่ปาก
“ช่างเป็นการต้อนรับเลขานุการคนใหม่ที่น่าจดจำ อื้ม... ฉันดูใบตรวจโรคก่อนรับเข้าทำงานแล้วไม่มีปัญหา ฉันคงไม่จำเป็นต้องไปตรวจสุขภาพปากและฟันหลังจากที่เผลอจูบฝรั่ง ก็ดี...”
จะมีสักกี่คนที่กล้าปะทะคารมกับเจ้านายตั้งแต่ก้าวแรกเหยียบบริษัท! ส่วนใหญ่มักพยักหน้าแล้วขอโทษขอโพย
วันละสามเวลามากกว่าอาหาร เห็นจะเป็น สุรา สุรา สุรา... ท่านอามัวแต่ร่ำสุรา เมื่อใดจะร่ำนารีบ้างเล่า -------------------- “ทำไมเจ้าไม่ลองปรนนิบัติข้าด้วยวิธีอื่น ไม่ดีกว่าหรือ? เจียลี่ งานดูแลความสะอาดให้บ่าวรับใช้ทำไป” “ท่านอาจะให้ข้าทำอะไร?” คำถามเต็มใบหน้าของนาง หวังเฟยถอนหายใจหนัก “เอาเถอะ เจ้ายังเป็นเด็กสาว คงจะไม่รู้เรื่องรู้ราว ให้เจ้าไปว่าจ้างโสเภณีในเมืองมาบำรุงบำเรอข้าดีกว่า” เจียลี่เบิกตากว้างตกใจ นางละล่ำละลักพูด “ไม่ ๆ ท่านอา ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าพอรู้เรื่องราวระหว่างชายหญิง ข้าเคยอ่านตำรากามาด้วย ข้าเพียงเห็นว่าไม่เหมาะ หญิงขาไม่ดีอย่างข้า ไม่คู่ควรกับผู้ดีอย่างท่าน” “อย่างไรถึงจะเหมาะ?” “อย่างไรก็ไม่เหมาะ” ในน้ำเสียงที่แผ่วเบาลงนั้นไม่ได้กระด้างกระเดื่องต่อท่านอา เขาอาจโกรธนางและไล่ตะเพิดนางได้ หลังจากที่เหล้าเข้าปากแล้วเขาจะกลายเป็นคนละคนทีเดียว นางรีบแก้ต่าง “ท่านอาหวังเปรียบดังเทวดาของเจียลี่ผู้แสนต่ำต้อย ข้ามิบังอาจ” “เทวดาบ้าบออะไรของเจ้า เลิกพร่ำเพ้อพรรณนาเรื่องบุญคุณนี่เสียที ท่านอาขี้เมาของเจ้าน่ะ...” ร่างสูงโน้มลงหานาง กระซิบข้างหูทีละคำ “อสุรกายจากขุมนรกทีเดียว” กว่าจะเจียลี่จะเข้าใจท่านอาผู้ไม่ได้ดูแคลนนางเหมือนกับที่ผู้อื่นรังเกียจนาง หัวใจดวงน้อยเต้นเร็วแรง น้ำเสียงสะเทือนอารมณ์ของเขา ยากที่นางจะต้านทาน “ข้าชอบกลิ่นเด็กสาวตัวหอม ๆ อย่างเจ้าซะด้วย”
ธิดาปักษาได้รับความช่วยเหลือจากราชาจิ้งจอกผู้โหดเหี้ยมทารุณ ไยนางกล้าหลอกลวงว่านางเป็นเพียงปักษาธรรมดา...
เพื่อรักษาเกียรติท่านอาจารย์ ไป๋เหม่ยหลานยอมรับโทษทัณฑ์ของสำนักเซียวเหยา ถูกทรมานจนตาย ภพชาติใหม่นี้นางขอเป็นเพียงมนุษย์เดินดิน มิขอเกี่ยวข้องกับท่านอาจารย์อีก ไยท่านจึงกลับมาพัวพันวาสนาชะตาชีวิตนาง...
‘มิตรรักลวงใจ’ เรื่องราวของเพื่อนสนิท คิดคดกับเธอมานานแล้ว ดันมาโพล๊ะเข้าได้ในวันเมามายไร้สติ ได้ลองกินเพื่อนสักคำหนึ่งแล้วก็ต้องมีคำที่สองคำที่สาม คำเดียวจะอิ่มพอได้ไง ----------------------- ‘เรือนใจนายอคิน’ เมื่อหนุ่มนักเฝ้าหนังสือ มาเฝ้ามองหาความรักจากครูสาวทุกวัน หลายคนคงเห็นเขาเอาแต่มองคุณครูสาวมาเป็นปี ๆ ได้ขับรถผ่านไปดูประตูรั้วโรงเรียนหน่อยก็ยังดี...
‘แม่แก้ว’ ลูกสาวเศรษฐีโรงฝิ่นมีความจำเป็นต้องแต่งงานกับ ‘คุณหลวงจัน’ เพื่อรักษาหน้าตาวงศ์ตระกูลและชื่อเสียงของหล่อน ทว่าหลังแต่งงานไปกลับต้องพบกับเรื่องแปลกประหลาด ความลับบางอย่างของคุณหลวงและคุณพระบ้านนี้ ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง (ภาคพิเศษ) พันวาเสน่หา
Arachné Tailors ‘เพราะบุคลิกภาพที่ดีเริ่มต้นจากเสื้อผ้า’ เป้าหมายสายตาเสื้อผ้าหน้าผมโดนใจ เข้าสโลแกนหน้าร้านบนป้ายตัวเบ้อเริ่ม หลายคนยังได้ยิน ‘ตรึงใจ’ ถูกหัวหน้างานเรียก ตามด้วยเจ้านายหนุ่ม ภายใต้รูปลักษณ์หล่อเหลา เอาการเอางาน ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของห้องเสื้อสูทชื่อดัง แท้จริงแล้วคือปีศาจแมงมุม! ผู้มาพร้อมสัญญาแห่งความปรารถนา ซึ่งเธอจะต้องเสียสละวิญญาณเข้าแลก และกฎแรงดึงดูดเที่ยงตรงเสมอ... “อ่านก่อนเซ็นนะครับ คุณดาว...” “ด้วยความหวังดี...” คำเตือนถึงสองครั้งสองครา! หญิงสาวก็ยังพลาด จนเกิดแต่เรื่องประหลาด ๆ ยิ่งสัมผัสจากเจ้านายหนุ่มช่างแตกต่างจากใคร เขาแสนอ่อนโยนกับเธอที่เผลอใจเต้นตึกตัก แต่นั่น... ก็จนกระทั่งเรียวปากหนาหยักได้รูปอ้ากว้าง คายเจ้าแมงมุมตัวสีดำออกมา... ให้ตายเหอะ นี่มันยิ่งกว่าหนังสยองขวัญ! อีกหนึ่งผลงานโรมานซ์ทริลเลอร์ แฟนตาซี 18+ ของพันพราย ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน - ภพคุณหลวง - (พีเรียด) พันวาเสน่หา
อดีตนักฆ่าสาวอันดับหนึ่ง ผู้มีใจคอโหดเหี้ยมได้ทะลุมิติอยู่ในร่างสาวน้อยรูปโฉมอัปลักษณ์ ที่ทุกคนต่างสาปส่งและรังแกสารพัด!
เพียงสบตาสาวน้อยหน้าหวาน ‘นัยน์ตาชวนฝัน’ ที่อาจหาญตบหน้าซีอีโอผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขา ‘เดวิโก หนึ่งเดียว เวนนิส’ ก็ประกาศก้องกับตัวเองว่า เขาจะต้องลากเจ้าหล่อนเข้าสู่ ‘กรงทอง’ ให้จงได้ ไม่มีวันที่ ‘แม่กวางน้อยด้อยประสบการณ์’ อย่างหล่อนจะต้านทานเจ้าป่า ‘ผู้ชำนาญงานรัก’ อย่างเขาได้ ใครจะคิดว่าวันสุดท้ายของการฝึกงานก่อนจบการศึกษาจะเป็นวันที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล เพียงเพราะเผลอสบตาคมเข้มคู่นั้นเข้าอย่างจัง!! หากฟ้าประทานพรให้เธอขอพรได้หนึ่งข้อ ‘ปรารถนา’ บอกตัวเองอย่างไม่ต้องหยุดคิดว่าพรข้อนั้นที่เธอจะขอคืออะไร เพราะสิ่งเดียวที่เธอจะขอ คือ... ‘ขอให้ผู้ชายบ้าอำนาจ บ้ากามที่จ้องลวนลามเธอคนนี้หายสาบสูญไปซะ’ แต่ยิ่งนานวันเข้า นอกจากฟ้าจะไม่นำพาแล้วยังเหมือนจะเป็นใจหยิบยื่นเนื้อกวางแสนหวานอย่างเธอเข้าปากเสือเสียนี่ เพราะยิ่งเธอพยายามหนีห่างจากเขามากเท่าไร เธอกลับพบว่าตัวเองกลับยิ่งเข้าใกล้เขามากขึ้นเท่านั้น ใกล้เสียจน...เธอสั่นสะท้านไปทั้งกายและใจ “ฉันลงมือปรุงซุปถ้วยนี้ด้วยตัวเองเลยนะ เธอจะไม่ชิมสักหน่อยเหรอ ใช่ว่าใครจะมีวาสนาได้กินฝีมือฉันง่ายๆนะ” “คุณทำคุณก็กินเองสิคะ ฉันไม่ได้ขอร้องให้คุณทำสักหน่อย” “เธอไม่กินงั้นฉันกินเองก็ได้” “เชิญ!” ปรารถนาเบะปากยิ้มหยันพลางขยับกายหมายล้มตัวลงนอน แต่ทว่า... “ว้าย! คุณจะทำอะไรฉัน ปล่อยนะ” “บังเอิญฉันไม่ชอบอะไรที่มันจืดชืดแบบซุปนั่น เลยอยากลองชิมเนื้อกวางอย่างเธอเสียหน่อยว่าจะอร่อยแค่ไหน หึหึ”
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
ในวันแต่งงาน เสิ่นเยวียนถูกคู่หมั้นและน้องสาวของเธอทำร้าย และถูกจำคุกเป็นเวลาสามปีด้วยความทุกข์ทรมาน หลังจากได้รับการปล่อยตัวจากคุก น้องสาวผู้ชั่วร้ายได้คุกคามด้วยชีวิตแม่และพยายามให้เธอมอบตัวกับชายชรา อย่างไรก็ตาม เธอได้พบกับเซียวเป่ยหาน ซึ่งเป็นผู้ทรงอิธิพลที่หล่อเหลาและเย็นชาแห่งแห่งสังคมด้านมืด อย่างไม่คาดคิด และชะตากรรมของเธอก็เปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้ว่าเซียวเป่ยหานจะเย็นชา แต่เขากลับปฏิบัติต่อเสิ่นเยวียนดั่งเป็นสมบัติล้ำค่า นับแต่นั้นมา เธอจัดการคนเสแสร้ง เอาคืนแม่เลี้ยงและไม่ถูกกลั่นแกล้งอีกต่อไป
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
© 2018-now MeghaBook
บนสุด