ทำไมคนอื่นถึงได้ไปพบฮองเต้ แต่ทำไมเธอกลับได้พบแต่เจ้าพ่อ ไม่ใช่เจ้าพ่อตลาด แต่เป็นเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ เขาทั้งดุ ทั้งโหด ทั้งหื่น แล้วเธอจะทนไหวไหม ถาม ตอบ!
ทำไมคนอื่นถึงได้ไปพบฮองเต้ แต่ทำไมเธอกลับได้พบแต่เจ้าพ่อ ไม่ใช่เจ้าพ่อตลาด แต่เป็นเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ เขาทั้งดุ ทั้งโหด ทั้งหื่น แล้วเธอจะทนไหวไหม ถาม ตอบ!
กรรณิกา หรือตัวเธอในตอนนี้ก็คือ ชิงเถา ลูกสาวคนสุดท้องของสกุล หลี ตอนที่ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองได้ตายจากอดีตชาติที่แล้วไม่รู้ตัว รู้เพียงว่าเธอมาเที่ยวเมืองจีนโรงถ่ายละครเหิงเตี้ยน กำลังเดินอยู่ถนนเมืองกวางโจว ฮ่องกงสมัยที่เขาถ่ายละครเซี่ยงไฮ้
แล้วเจอกับผู้หญิงสาวสวยใส่ชุดจีนกี่เพ้า เดินผ่านเรียกได้ว่าสวยจนเธอต้องมองตามหลัง หญิงสาวมีรูปร่างที่ผอมเพรียว
ผิวขาวกระจ่าง ดวงตาเรียวยาว จมูกเล็ก ปากได้รูป คิ้วโค้งสวยมน
เธอจำได้ว่าเธอเพียงหยุดนิ่งดูความสวยของเธอ อีกฝ่ายก็หันมามองเธอเช่นกัน จากนั้นหญิงสาวก็ส่งยิ้มให้เธอ ทำให้เห็นรักยิ้มตรงแก้มสองข้าง หากบอกว่าเธอเป็นดาราจีนมาถ่ายทำหนังเธอจะเชื่อโดยไม่สงสัย
หญิงสาวคนนั้นโค้งคำนับ ก่อนส่งสร้อยประคำในมือในเธอ กรรณิกาปฏิเสธไม่รับจากเธอ แต่หญิงสาวยืนยันจะให้จนได้ ก่อนดึงมือแล้วสวมสร้อยประคำหยกสีเขียวให้ ก่อนเดินจากไป
กรรณิกาหันมองสร้อยข้อมือ หากมองให้ชัดจะเห็นเกล็ดสีทองอยู่ภายในเหมือนมันกำลังวิ่งไปมาคล้ายกับสายน้ำ ของมีค่าแบบนี้ไม่ควรให้คนอื่นง่าย ๆ เมื่อเงยหน้ามองก็ไม่เห็นหญิงงามแล้ว จึงเดินต่อไปจนกระทั่งถึงสะพานกำลังจะไปดูพระราชวังต้องห้าม จากนั้นก็มาโผล่ตรงนี้
มันคืออะไร เธอฟื้นมาได้หนึ่งเดือนแล้ว เริ่มทำใจได้ว่าทุกอย่างไม่ใช่ฝัน แต่เป็นเรื่องจริง ตอนแรกคิดว่าจะฟื้นมายุคจิ๋นซีจะได้เป็นฮองเฮา กุ้ยเฟย ซูเฟย หรือไม่ก็ได้กิ๊กกับท่านอ๋อง แต่ทำไมถึงได้มาโผล่เอาแค่ครึ่งทาง แถมมายังตอนที่เจ้าพ่อครองเมืองในเมืองกวางโจว ณ นครเซี่ยงไฮ้
และที่น่าเจ็บใจก็คือ ตอนนี้เธออยู่ในร่างผู้หญิงที่ให้สร้อยประคำแก่เธอ
มันคืออะไร เธอจะบ้าตาย ขอตายแล้วไปเกิดเป็นฮองเฮาได้ไหม ไม่เอาแบบนี้อยากเจอท่านอ๋อง อยากรักฮ่องเต้ ไม่ใช่เป็นคนขายผัก
ไม่ทันขาดคำเสียงอาม่าชิงหลินในร่างนี้ก็เรียกเธอ
“ชิงเถา ตื่นได้แล้ว ตะวันจะตรงหัวแล้ว” เธอมองไปยังฟ้ายังไม่สว่างเลย ตอนนี้คงประมาณตี 5 อยู่ ถ้าสมัยเธอเรียกว่ายังไม่เช้า แต่ที่นี่เรียกว่าสาย
ว่าแล้วก็ลุกจากเตียงหันมองพี่สาวอีกสองคนที่ตอนนี้แต่งตัวเสร็จแล้วพร้อมสำหรับไปทำงานรดน้ำผัก พรวนดินตอนเช้า
พี่สาวของเธอ คนโตชื่อว่า ชิงลี่ คนที่สองชื่อชิงหรู ส่วนเธอที่อยู่ในร่างเป็นลูกสาวคนสุดท้อง ชื่อ ชิงเถา มีป๊าหรือบิดาชื่อชิงลู่ ครอบครัวนี้มีเพียงห้าคน ส่วนมารดาของร่างนี้จากไปตั้งแต่ยังเล็ก
ว่าด้วยบิดาของร่างชิงเถานั้น มีอาชีพขายผักในตลาด
ซึ่งทุกเช้าตรู่จะตัดผักใส่รถเข็นส่งตามร้านอาหาร ไนต์คลับ จากนั้นที่เหลือก็จะตั้งขายในถนนกวางโจวที่เธอเคยเดินเที่ยวในชาติก่อน
เธอหันมองพวกพี่สาวที่เรียกให้รีบ ก่อนที่จะโดนอาม่าเฆี่ยนหากไม่ลงจากเตียงอีก ใครใช้ให้เธอเป็นหญิงใช้แรงงานกัน ว่าแล้วก็รีบลุกเพราะยังจำรสของหวายพิฆาตของอาม่าได้ดี
ตอนที่เธอฟื้นขึ้นมาพบว่าร่างนี้ตกน้ำตรงสะพานที่เธอข้ามภพชาติที่แล้ว และเมื่อนอนซมด้วยพิษไข้ไม่นานก็ตาย ส่วนเธอก็มาสวมร่างนี้แทน ตอนแรกพวกเขาต่างตกลงแล้วว่าจะไม่รักษาเพราะบ้านหลังนี้ไม่มีแม้แต่ซื้อข้าวสารกรอกหม้อ เรียกได้ว่าจนแสนจนได้อีก
และเมื่อเธอฟื้น เธอก็ได้รับการต้อนรับอย่างดี พอหายไข้พวกเขาก็ใช้งานเธอเหมือนเดิม ยังจำได้ว่าวันแรกเธอต้องถอนวัชพืชอยู่ครึ่งวัน มันเป็นอะไรที่น่าจดจำมากที่สุดมองสองมือที่สากก็บอกได้ว่าร่างนี้ทำมาตั้งแต่เด็ก
ทำไมเธอไม่สังเกตว่ามือเธอหยาบ จะได้ระวังตัวไว้ก่อน ทำไมไม่เจอกุ้ยเฟยแต่เจอลูกสาวคนขายผัก เธอไม่เข้าใจ สวรรค์บอกฉันที!
“ชิงเถารีบหน่อยอาม่าออกมาแล้ว” เท่านั่นแหละ คนที่คร่ำครวญโทษสวรรค์ก็รีบลุกจากเตียงแล้วรีบวิ่งออกไปรับผักจากพี่สาวทั้งสอง มองไปยังบิดาที่กำลังนั่งจิบชาอย่างสบายใจ
เฮ้อ เบื่อระบบผู้ชายเป็นใหญ่จัง หลังจากตัดผักใส่รถเข็นเต็มแล้ว ก็ได้เวลาบิดาลุกขึ้นแล้วลากรถเข็นไปตามทาง วันนี้เป็นวันแรกที่เธอได้ตามบิดาออกไปขายผัก เพราะพี่สาวทั้งสองคนเกิดเป็นประจำเดือนพร้อมกัน คนที่ไม่มีประจำเดือนอย่างเธอเลยถูกใช้งานแทน ใช่เด็กสาวร่างนี้อายุแค่สิบสามปี ที่ยังไม่โตเป็นสาว
ว่าด้วยอายุเธอในยุคก่อน อายุยี่สิบห้าแล้ว ต่างกับในร่างนี้ถึง 12 ปี สวรรค์เมตตาเธอมากเลยอยากให้เธอใช้ชีวิตลำบากเพื่อทดสอบชีวิต
เธออยากตาย เข็นไปพลางก็โทษสวรรค์ไปพลาง จนถึงร้านอาหารที่เป็นลูกค้าประจำจึงวางมือ กรรณิกามองมือที่แดง ระเรื่อ หันมองเถ้าแก่เนี้ยออกมารับผัก ก่อนส่งเงินให้บิดา เมื่อได้เงินบิดาก็รีบเก็บเข้าในแขนเสื้อ
จากนั้นเธอก็เข็นรถที่เต็มไปด้วยผักไปส่งยังไนต์คลับต่อ มองไปยังไนต์คลับใหญ่ที่สุดในถนนกวางโจว เหมือนกับในหนังที่เธอเคยผ่านตา ทางด้านที่พวกเขามาเป็นถนนเส้นหลัง ซึ่งเป็นทางออกประตูหลังสำหรับพวกคนงาน พ่อครัว และนักร้องที่ใช้เดินเข้าออกเท่านั้น
เธอมองกลุ่มนักร้องสาวสวยชุดสีแดงกี่เพ้าจีนที่ออกมาจากหลังประตู พวกเธอสวยละลานตามองไปยังสีปากแดง และผมที่ดัดเข้าทรง
ทำไมเธอไม่เข้าร่างพวกเธอนะ เฮ้อ! ว่าแล้วก็ได้ยินเสียงบิดาดังจึงจับรถเข็น เข็นมันต่อไป
เมื่อออกจากซอย บิดาเธอก็ชี้ให้เห็นถึงแผงขายที่ประจำ เธอจึงเข็นข้ามถนน หันมองอีกทีก็ตอนได้ยินเสียง เอี๊ยดดดด ยาวลากพร้อมเสียงแตรรถ เธอหันมองยืนค้างแล้วปิดตา โครมไม่ทันแล้ว เมื่อลืมตาจึงเห็นรถเข็นถูกชนจนล้อหลุด ผักที่เหลือที่จะขายก็เทลงบนพื้นไม่เหลือ
“ข้ามถนนมองทางบางสิ” ว่าแล้วรถคันที่ว่าก็เลี้ยวออกไปอีกทาง
คิดจะหนีแม่เหรอ ไม่รู้จักฤทธิ์เจ้าแม่ในชาติที่แล้วซะแล้ว เธอวิ่งตามรถจนกระทั่งถึงไนต์คลับมองไปยังเจ้าของรถที่ลงมา จึงรีบเข้าไปหาความรับผิดชอบ แต่โดนขวางจากพวกชุดดำเสียก่อน ถึงกั้นเธอก็มีปาก ว่าแล้วเธอก็ตะโกนลั่นถนน
“คนไม่รับผิดชอบ คิดจะชนแล้วหนีใช่ไหม ขับรถหรูแต่จิตใจต่ำตม ไม่ต่างจากขอทานข้างถนน แต่งตัวดีเสียเปล่าคนเฮงซวย คน…” กำลังจะด่าแต่ดันเห็นปืนพวกที่ขวางเธอไว้ เมื่อเงยหน้ามองคนในรถที่คิดว่าเป็นเจ้านายลงจากรถแล้ว
เธอกลืนน้ำลายมองเจ้าพ่อตัวจริง สวมใส่ชุดสูทสีดำยาว สวมหมวกสีดำ เมื่อเจ้าพ่อหันมา เธอมองตาค้างมองเจ้าพ่อที่หล่อเหมือนหยางหยางหลุดจากมาจากละคร ชายหนุ่มหันมองเพียงปลายตาก่อนกระซิบกับคนที่อยู่ข้างตัว แล้วเดินเข้าไนต์คลับ
ฟางเทียนฉิน เดินมาหาเธอแล้วล้วงเข้าไปในเสื้อ เท่านั้นแหละเธอรีบยกมือขึ้นกั้นใบหน้า อย่ายิงใบหน้าเชียวนะ ขอฉันตายแบบสวย ๆ
“คุณ คุณ” ได้ยินเสียงเขาเรียก กรรณิกาจึงลดมือลง มองเงินปึกใหญ่จำนวนหนึ่งในมือเขา ถ้าเธอรับเรียกได้ว่าสบายไปเดือนหนึ่ง หญิงสาวรับมาคำนวณค่าเสียหายแล้วหยิบออกมาสิบใบ ก่อนส่งกลับให้ชายหนุ่ม
“ฉันไม่เคยเอาเปรียบใคร ที่คุณให้มันมากกว่าค่าเสียหายที่ฉันได้รับ” เมื่อได้เงินพอที่จะซื้อรถเข็นคันใหม่เธอก็หันหลังทันที
ฟางเทียนฉินมองร่างบางที่สวมเสื้อกี่เพ้าเก่าเดินจากไป คนแบบนี้เขาพึ่งเคยเจอ คนที่ไม่โลภโดยเฉพาะคนจน ปกติแล้วมักจะมีคนเข็นรถมาขวางประจำ แต่เจ้านายของเขาก็ไม่เคยเอาเรื่อง เพียงแต่ให้เงินไป แต่ทุกรายเมื่อได้เงินปึกนี้ก็จะขอเพิ่มอีก แต่วันนี้หญิงสาวคนนี้กลับส่งเงินคืนให้ เป็นเรื่องแปลกแบบนี้เขาไม่พลาดที่จะรายงานเจ้านายของเขา มองไปยังเจ้านายที่กำลังนั่งอยู่ด้านบนตรงห้องส่วนตัวกับคุณเจียวมิ่ง คนคุ้มไนต์คลับแห่งนี้ ตอนนี้เจ้านายกำลังมองไปยังตัวเลขบัญชี
จางเฟยหมิง หรี่ตามองจนแทบจะถึงจมูกก็ยังไม่เข้าใจตัวเลขที่เจียวมิ่งเขียนมาให้ สายตามองไปยังคนที่แน่นทุกคืน แต่ไอ้หมอนี่ดันสรุปว่าขาดทุน
ปัง! เสียงสมุดถูกวางลงโต๊ะเสียงดัง
“ไปหานักบัญชีมา”
“ครับ” เจียวมิ่งหยิบสมุดขึ้นมาแล้วรีบออกไปทันที มองไปยังผู้ช่วยฟางเทียนฉินที่เดินสวน เขารีบตรงไปเทเหล้าให้เจ้านาย ก่อนส่งซิก้าจุดส่งให้เจ้านายแล้วล้วงเงินที่เหลือบนโต๊ะ
จางเฟยหมิงมองไปยังผู้ช่วย รอคำจากเขา
“ลูกสาวคนขายผักบอกว่าเธอรับเฉพาะที่เสียหายเท่านั้น นอกนั้นเธอไม่รับ”
ชายหนุ่มหันมองผู้ช่วยเขาวางซิก้าลง ก่อนยกเหล้าขึ้นมาดื่มไม่ได้สนใจลูกสาวขายผักอีก ตอนนี้เขากำลังสนใจนักร้องกลางเวที
เจียลู่ฟาง นักร้องคนดังประจำคลับที่สวมชุดกี่เพ้าสีแดง กำลังโพกพัดสีแดงที่มีขนนกระย้า ยั่วยวนแขกอยู่หน้าเวที ชายหนุ่มลุกขึ้นแล้วสั่งผู้ช่วย
“ให้ลู่ฟางไปพบฉันที่บ้านด้วย”
“ครับ” เขามองนักร้องสาวแสนสวย ก่อนมองเจ้านายหนุ่มที่เดินออกไปแล้วจึงหันไปสั่งเจียวมิ่ง ก่อนตามออกไป
“ไม่ต้องตาม ฉันจะขับเอง” เมื่อมีเรื่องสำคัญจางเฟยหมิงจะไม่ยอมให้ใครติดตามแม้สักคนเดียว เขามองคืนวันนี้เป็นเดือนมืดสนิท รู้สึกห่วงเจ้านายมากกว่าปกติ
จางเฟยหมิงขับรถออกจากถนนกวางโจวไปตามเส้นทางถนนลูกรัง มองไปรอบข้างทางมีเพียงพืชสวนและนาข้าว เมื่อไปถึงเนินเขาสูงก็มีคนที่นัดหมายรออยู่แล้ว เสียงรถที่ค่อนข้างดังทำให้คนที่คอยหันมอง ขยับมือเข้าไปยังเสื้อสูทยาวเพื่อเตรียมการเมื่อแสงไฟถูกปิดลง จึงได้เห็นว่าเป็นคนที่นัดเจอ
คนพึ่งมาลงจากรถ สองมือล้วงกระเป๋าเดินไปหาจางเฟยหลง น้องชายคนสุดท้องของบ้านที่กำลังยืนพิงรถตัวเองอยู่ เขาเดินไปแล้วเอาหลังพิงรถเช่นกัน ก่อนรับซิก้าจากน้องชาย
“เรื่องไปถึงไหนแล้ว”
“ใกล้แล้ว รอเพียงใกล้เป้าหมายอีกนิด”
“รีบหน่อยไม่เช่นนั้นพวกมันจะหาเรื่องมาอีก” เขาย้ำอีกครั้งก่อนอธิบายแผนการกำลังคุยไปได้ครึ่งหนึ่ง จู่ ๆ ก็มีเสียงปืนดัง ปัง!
“หลบเร็ว” ทั้งสองหลบลงด้านล่าง จางเฟยหมิงมองดูแขนที่เต็มไปด้วยเลือดบอกให้น้องชายรีบหนีไป
จากนั้นเสียงปืนก็ดังไปทั่ว เขาหันมองป่าไผ่ข้างทางจึงวิ่งเข้าไปเพื่อเป็นตัวล่อไม่ให้พวกมันตามน้องชายตัวเอง หันมองไปยังป่าไผ่เสียงฝีเท้าพวกมันเข้ามาใกล้จากนั้นพวกมันก็โผล่หัวออกมา
ตอนนี้เขาถูกล้อมโดยพวกชายชุดดำปิดหน้าปิดตา เขามองไปยังอาวุธดาบที่ถือ พวกเหมาเจ๋อตง
“คิดจะฆ่าคนอื่น แต่ไม่กล้าเปิดหน้าเปิดตา ช่างมีศักดิ์ศรีดีจริง ๆ” เสียงจางเฟยหมิงเอ่ยเย้ยพวกมัน ก่อนเห็นคนที่อยู่ตรงหน้าส่งเสียงฮึ แล้วใช้ดาบฟันทันที
เขาพยายามสู้กลับแต่จะสู้พวกมันที่มีถึงสามคนได้ยังไง หลังจากถูกฟันไป 5 ครั้ง เขาพยายามวิ่งหลบเข้าป่าไผ่และแอบซ่อนตัว อาจเพราะเป็นคืนเดือนมืดพวกมันจึงหาเขาไม่เจอ ชายหนุ่มทรุดลงที่บ้านเก่าโทรมหลังหนึ่ง มองไปยังแสงเทียนกำลังจะยกมือเรียกให้ช่วยแต่ก็สลบไปก่อน
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
นางถูกขับไล่ออกจากสกุลสามี คนพวกนั้นให้เหตุผลว่านางเป็นตัวซวยทำให้สามีสอบไม่ผ่าน หากแต่ออกมาได้สามวัน เขากลับแขวนโคมไฟสีแดง รับเกี้ยวเจ้าสาวเข้าจวน!!
เจียซินที่อยู่ในชีวิตปั่นปลายนั้น กลับต้องรู้สึกเสียใจที่เลือกเส้นทางรักผิด เมื่อเลือกหนทางใหม่ได้ เธอก็จะเลือกหนทางที่ดีที่สุด และเขาชายที่เธอเคยละทิ้งไปก็กลายมาเป็นคู่ชีวิต ที่พร้อมจะร่ำรวยไปด้วยกัน
ชมดาวต้องทนรับสภาพสถานะเลขาของเจ้านายและสถานะบนเตียงมาตลอดห้าปี เธอคิดว่าอีกไม่นานเขาก็จะขอเธอแต่งงาน หากแต่ว่าเขากลับเห็นเธอเป็นเพียงสถานะรองเท่านั้น จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็ต้องแต่งงาน ไม่ใช่กับเธอแต่เป็นคนอื่น เธอจะเลือกจำยอมอยู่ในความลับต่อไป หรือเลือกที่จะเดินออกมาพร้อมกับเด็กในท้อง!!
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
มีข่าวลือว่า ลูกเลี้ยงของตระกูลเสิ่นทำทุกอย่างเพื่อเข้าวงการแต่งงานกับตระกูลหลิน หลังจากถูกหลินอี้ฟานทิ้ง เธอก็เล็งไปที่หลินเหยียนเซิง แต่ไม่มีใครรู้ว่า ก่อนแต่งงาน เบ่ยหลินถูกหลินเหยียนเซิงวางแผนอย่างไร้ปรานี เมื่อเป็นคุณนายหลินในขณะตั้งครรภ์ เบ่ยหลินเพียงหวังว่าจะได้คลอดลูกอย่างปลอดภัย แม้วันแต่งงานวันแรกหลังจากนั้น จะมีข่าวลือกับรักเก่าของเขาเป็นที่พูดถึงกันทั่วเมือง เธอก็ยังคงเฉยเมย และยังส่งข้อความไปเตือนให้เขาระวังเรื่องปิดม่านครั้งหน้า แต่คืนนั้น เบ่ยหลินก็ถูกเขาดักไว้ที่มุมกำแพง “ภรรยาที่รัก ผมผิดไปแล้ว...” หลังแต่งงาน หลินเหยียนเซิงถึงได้รู้ว่า ที่แท้เมียของเขานั้นยากที่จะเอาอกเอาใจขนาดไหน
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
เพราะว่า...การช่วยตัวเอง...ในที่ทำงานมันผิด!! “โดนของจริงดีกว่าไหมครับ...แค่นิ้ว...มันคงไม่อาจจะสนองความต้องการของคุณได้” นี่จึงเป็นบทลงโทษที่เธอต้องรับมันไป...โทษฐานที่ทำให้ท่านประธานอย่างเขาจับได้...!!
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
หลินหลั่งเยี่ยน เป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ จากรัฐ เป็นสาวอัจฉริยะที่ทุกคนในองค์กรอิจฉา มีความสามารถทางการต่อสู้สูงและไม่ยอมใคร แต่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวฝาแฝดของเธอเพียงลำพัง หลังจากผ่านไปเจ็ดปี ในที่สุดรัฐก็อนุมัติอิสรภาพให้เธอ หัวใจของหลินเหลิงเหยียนเต้นระรัวด้วยความคาดหวัง ขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับบ้าน แต่เธอกลับต้องพบว่าป้าของเธอใช้ชีวิตอย่างหรูหราในบ้านพักของพ่อแม่ผู้ล่วงลับ ขณะที่น้องสาวของเธอเองกลับถูกบังคับให้นอนในคอกสุนัขและกินของเหลือ ทันใดนั้น เธอพลิกโต๊ะอาหารด้วยความโกรธ ป้าข่มขู่? เธอใช้วิธีการที่เด็ดขาดถอนตัวจากการร่วมมือ จนบริษัทของป้าพังทลายลงอย่างรวดเร็ว! การกลั่นแกล้งในโรงเรียน? เธอปลอมตัวเป็นน้องสาว เข้าไปในโรงเรียนและตัดสินใจสู้ไฟด้วยไฟ จากนั้นเธอก็ถ่ายทอดสดตอนพวกอันธพาลคุกเข่าร้องขอความเมตตา ถูกเยาะเย้ยเรื่องตัวตน? หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา“ใช่ ฉันก็แค่คนธรรมดา” ในวินาทีถัดมา ครอบครัวที่มีชื่อเสียงมายืนยันว่า“เธอคือลูกสาวคนโตของเรา!” สถาบันวิจัยแห่งชาติ “พวกเราคือเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ!” …… ซือฮานเฟิง ผู้เป็นผู้นำของตระกูลลึกลับ ไม่เคยปรากฏตัวในสายตาสาธารณชน ข่าวลือว่าเขาเป็นคนเยือกเย็นและไร้ความปรานี บางคนเคยเห็นเขายืนสูบบุหรี่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว และบางคนก็เห็นเขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา แต่ต่อมากลับมีคนเห็นว่าเขาไล่ตามหลินหลั่งเยี่ยนจนถึงมุมกำแพง ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าและความไม่พอใจ “หลั่งเยี่ยน ฉันช่วยเธอจัดการพวกนั้นแล้ว เธอควรจะอยู่เป็นเพื่อนกับฉันบ้างไหม?” “เราไม่ใช่แค่พันธมิตรหรือ?” หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างงงงวย ซือฮานเฟิงถอนหายใจลึกๆ แล้วจูบเบาๆ บนริมฝีปากของเธอ “ตอนนี้ล่ะ”
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด