เพื่อแคว้นนางเสียสละ เพื่อบิดานางกตัญญู จำใจรับสถานะพระชายาที่พระสวามีไม่ยินดี ได้ครองร่างกายแต่มิอาจได้ครองใจ เพราะมิอาจขัดขืนคำสั่งพระบิดา ฟางหลินจึงต้องอภิเษกกับองค์ชายต่างแคว้นเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ ทว่าองค์ชายผู้นั้นกลับมีสตรีในดวงใจแล้ว เห็นทีชีวิตการแต่งงานของนางคงไม่พ้นต้องแบกรับความไม่เป็นธรรม
“...เสด็จพ่อลูกไม่แต่งได้หรือไม่ แคว้นฉู่มิใช่เป็นแคว้นที่ป่าเถื่อนหรอกหรือ เสด็จพ่อส่งลูกไปเช่นนี้เห็นทีว่าคงจะส่งลูกไปสู่ความตาย ไม่ทรงรักลูกแล้วหรือเพคะจึงได้ผลักไสกันเช่นนี้”
น้ำเสียงหวานเอ่ยตัดพ้อผู้เป็นบิดาจ้าวฝูหมิงองค์ฮ่องเต้แคว้นซีจิ้งถอนหายใจออกมาอย่างปวดใจ ไม่ใช่ว่าพระองค์จะไม่ทรงรักพระธิดาคนนี้ของตน ทว่าพันธสัญญาที่เคยมอบให้ไว้กับแคว้นเพื่อนบ้านนั่นก็สำคัญ เป็นกษัตริย์ตรัสแล้วมิอาจคืนคำ
“หลินเอ๋อร์ใช่ว่าพ่อจะไม่รักเจ้า แต่เพราะสวรรค์ลิขิตเอาไว้เช่นนี้ อีกอย่างแคว้นฉู่ก็หาได้ป่าเถื่อนอย่างที่ว่า เสียงร่ำลือมักเกินจริงเสมอ ไม่เห็นหรือว่าผู้คนต่างก็ลือกันไปว่าซานเอ๋อร์ดุร้ายเช่นไร แต่เจ้าก็เห็นแล้วมิใช่หรือว่าน้องสามของเจ้าหาได้เป็นเช่นนั้น ชาวฉู่ก็เช่นกัน อย่าได้ด่วนตัดสินเพียงแค่ได้ยินมาหากเจ้ายังไม่พบเจอลูกเอ๋ย”
ถึงแม้จะได้ยินคำปลอบประโลมจากบิดาจ้าวฟางหลินก็หาได้คลายความกังวลไม่ ใบหน้าหวานยังคงอาบไปด้วยหยาดน้ำตา สายตาตัดพ้อยังคงส่งไปที่องค์ฮ่องเต้อย่างไม่ลดละ
“เสด็จพ่อเมตตาลูกสักครั้งเถอะเพคะ ลูกไม่อยากจากบ้านจากเมืองไปไกลเช่นนี้ ให้ลูกได้อยู่ปรนนิบัติเสด็จพ่อและเสด็จแม่ที่แคว้นของเรามิได้หรือ”
“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร เจ้าอยากให้พ่อเป็นกษัตริย์ที่ตระบัดสัตย์หรือหากทำเช่นนั้นคงมิอาจเลี่ยงสงคราม หรือเจ้าอยากให้ประชาชนต้องเดือดร้อนเพราะเชื้อพระวงศ์เช่นเราไม่รักษาสัจจะวาจา เฮ้อ...ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วหลินเอ๋อร์ อย่างไรเสียการแต่งงานครั้งนี้ก็ไม่อาจยกเลิกได้ ถึงอย่างไรเจ้าก็ต้องแต่งให้ผู้ใดผู้หนึ่งอยู่ดี แล้วแต่งให้องค์รัชทายาทเหลียงเฟิงไห่ไม่ดีตรงไหน”
เสียงทรงอำนาจจำเป็นที่จะต้องเอ่ยด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดกับบุตรี เพราะพระองค์ไม่ต้องการจะเห็นน้ำตาและใบหน้าที่เศร้าหมองของบุตรอันเป็นที่รักอีกต่อไปแล้ว
พระธิดาจ้าวฟางหลินก้มหน้าลง ใครกันบอกว่าเกิดเป็นลูกหลานมังกรแล้วจะดี ดีที่ตรงไหนกันขนาดจะแต่งงานยังไม่สามารถเลือกบุรุษที่ตนเองรักได้เลย ใครเลยจะไม่รู้ว่าการแต่งงานของนางเป็นเพียงแค่การแต่งงานทางการเมืองเท่านั้น นางต่างจากเชลยศึกที่ตรงไหน
องค์ฮองเฮาเห็นใบหน้าของสวามีและบุตรีที่ไม่สู้ดีนัก จึงได้พาจ้าวฟางหลินออกมาจากห้องทรงงานของสวามีเสียก่อนที่จะเกิดความตึงเครียดมากไปกว่านี้
เมื่อทั้งสองพระองค์เดินออกมาไกลแล้ว องค์หญิงใหญ่ก็ทิ้งตัวนั่งลงบนศาลาอย่างหมดเรี่ยวแรง ดวงตาเรียวไม่จางหายจากคราบน้ำตา องค์ฮองเฮาเห็นแล้วก็อดจะเสียพระทัยไปด้วยมิได้
“เจ้าอย่าได้ร้องอีกเลยหลินเอ๋อร์ เจ้าไปแต่งงานมีสวามีมิใช่ไปออกรบ เหตุใดจึงทำตัวไม่รู้จักโตเช่นนี้กันเล่า” จ้าวฟางหรงดึงบุตรีเข้ามากอดเอาไว้แนบอก คนเป็นมารดาเงยหน้าขึ้นกะพริบตาเพื่อไล่ไม่ให้น้ำตารินไหล ในพระทัยกลัดหนองหมองไหม้ หากเป็นไปได้ ใครเลยจะอยากเห็นธิดาเป็นทุกข์เช่นนี้
“เสด็จแม่ลูกไม่อยากแต่ง ไม่มีหนทางอื่นเลยหรือเพคะ เสด็จพ่อพระทัยร้ายนักเหตุใดจึงได้ทำสัญญากันเช่นนั้น ไม่ทรงถามลูกสักครึ่งคำ” เสียงหวานยังคงต่อว่าออกมาไม่ขาดสาย
“อย่าได้พูดเช่นนั้น อย่างไรเจ้าก็เป็นบุตร ต่อว่าเสด็จพ่อเป็นเรื่องที่ดีหรือ หลินเอ๋อร์อย่าได้คิดมากไปเลย แม่เองก็มาจากแคว้นฉู่ หาใช่คนแคว้นซีจิ้งไม่ แต่งเข้ามาเสด็จพ่อของเจ้าก็โปรดปรานแม่เป็นที่สุดมิใช่หรือ แม่เชื่อว่าองค์ชายใหญ่จะโปรดปรานเจ้าเช่นเดียวกับแม่ อีกอย่างที่นั่นท่านตาของเจ้าก็อยู่จะกลัวไปไย หากมีสิ่งใดเกิดขึ้นเจ้าสามารถไปที่จวนท่านตาของเจ้าได้เข้าใจหรือไม่ แม่จะฝากฝังเจ้ากับท่านตาอย่าได้กังวลไปเลย”
จ้าวฟางหลินพยักหน้าทั้งน้ำตา หากเป็นลิขิตของสวรรค์ และประสงค์ของเสด็จพ่อ มีหรือนางจะหลีกเลี่ยงได้ มีเพียงต้องก้มหน้ารับชะตากรรมนี้อย่างยอมรับ ถึงอย่างไรแคว้นฉู่ก็ยังพอจะมีท่านตาเป็นที่พึ่งของนางได้บ้างถึงแม้จะไม่ได้สนิทกันสักเท่าไรนัก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าสายเลือดครึ่งหนึ่งของนางเป็นสายเลือดของแคว้นฉู่เช่นเดียวกับท่านตานางเอง ร่างอรชรเหม่อมองออกไปยังสวนดอกไม้ ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาอย่างเงียบ ๆ เวลานี้สิ่งที่นางต้องทำคือการทำใจยอมรับเท่านั้นเอง
ในขณะที่เขาเฝ้ารักสตรีผู้นั้น ทว่าในขณะเดียวกันนางก็เฝ้ารอความรักจากเขาอย่างมีความหวัง 'ความรักทำให้คนโง่งม' คำกล่าวนี้ช่างเหมาะสมกับนางยิ่ง หรือชั่วชีวิตนี้ของนางจะเป็นได้เพียงอากาศ วนเวียนอยู่รอบกายแต่กลับไร้ค่าไม่มีตัวตน "พระองค์จะหันมาเหลียวแลหม่อมฉันบ้างได้หรือไม่ หม่อมฉันก็มีหัวใจไม่ต่างจากผู้อื่นเช่นกัน"
นิยายเรื่องนี้เป็นการนำตัวละคร ของสามเรื่องหลัก มาแต่งเป็นตอนพิเศษสั้น ๆ เพื่อตอบแทนนักอ่านที่รักทุกท่านที่สนับสนุนกันมาตลอดเวลา จะเป็นฉากเก็บตกที่รี๊ดขอมาทั้งสิ้น ฝากติดตามด้วยนะคะ
เพียงดื่มน้ำชาจอกแรกที่ผู้เป็นมารดาเลี้ยงมอบให้ซุนฮวาก็กลายเป็นสตรีร้ายกาจ ปีนขึ้นเตียงท่านอ๋องผู้เป็นคู่หมายของน้องสาวจำใจกล้ำกลืนสถานะพระชายาตัวแทนเป็นเพียงเงาของผู้อื่นในสายตาของสวามี
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"