โกนัมจุนคือคนดีที่ตายแล้วได้เกิดเป็นยมฑูต มีหน้าที่สังหารคนเลวที่ถึงคราวต้องตายเพื่อเอาวิญญาณมันไปลงโทษในนรก และรับวิญญาณคนดีที่เสียชีวิตเพื่อส่งขึ้นสวรรค์ เขามีพี่เลี้ยงยมฑูตรุ่นพี่ชื่อเด็กหญิงจีวอน เธอเป็นเด็กแปดขวบมาร้อยปีแล้วและไม่โตขึ้นอีกเลย
ยมทูตก๊องแก๊ง
ตอน มีรุ่นพี่เป็นเด็กอายุ100ปี
สายลมเย็นเฉียบพัดผ่านร่างของโกนัมจุน เขายืนงงงวยอยู่ท่ามกลางทุ่งดอกไม้สีขาวโพลนสุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าเหนือศีรษะไม่ใช่สีฟ้าสดใสอย่างที่คุ้นเคย แต่เป็นสีม่วงอ่อนระยิบระยับคล้ายมีละอองดาวโปรยปรายอยู่ทั่ว เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่มิใช่ชุดทำงานสูทผูกไทที่เขาใส่เป็นประจำ แต่เป็นชุดฮันบกสีขาวบริสุทธิ์เนื้อนุ่มละเอียด สัมผัสได้ถึงความเบาสบายอย่างประหลาด
"ที่นี่มันที่ไหนกัน?" นัมจุนพึมพำกับตัวเอง ความทรงจำสุดท้ายของเขาคือภาพรถบรรทุกคันหนึ่งพุ่งฝ่าสัญญาณไฟแดงเข้ามา จากนั้นทุกอย่างก็ดับวูบ
"ที่นี่คือ 'ทุ่งพักวิญญาณ' น่ะสิ เจ้าหนุ่ม"
เสียงเล็กแหลมดังขึ้นจากด้านหลัง นัมจุนหันขวับไปมอง ร่างเล็กจ้อยของเด็กหญิงในชุดฮันบกสีชมพูหวานแหววยืนกอดอกมองเขาอยู่ ดวงตากลมโตสีนิลเป็นประกายวิบวับ ผมยาวสลวยสีดำขลับถูกรวบเป็นเปียสองข้างประดับด้วยปิ่นดอกไม้เล็กๆ ดูแล้วอายุไม่น่าเกินแปดขวบ
"หนูเป็นใครน่ะ แล้วรู้ได้ยังไงว่าฉัน..." นัมจุนยังพูดไม่ทันจบ เด็กหญิงก็พูดแทรกขึ้น
"ข้าชื่อจีวอน เป็นยมทูตระดับอาวุโส และเป็นพี่เลี้ยงของเจ้ายังไงล่ะ โกนัมจุน" เธอยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มบุ๋มที่แก้ม "ยินดีต้อนรับสู่ชีวิตหลังความตาย และการเริ่มต้นใหม่ในฐานะยมทูตฝึกหัด!"
นัมจุนอ้าปากค้าง "ยม ยมทูต หมายความว่าฉันตายแล้วเหรอ บ้าน่ะอีหนู?"
"เออสิ ไม่ตายแล้วจะมาเดินเล่นในทุ่งพักวิญญาณได้ยังไงล่ะ" จีวอนทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ
"ไม่ต้องทำหน้าเหมือนเห็นผีขนาดนั้นก็ได้น่า ถึงเจ้าจะกลายเป็นผีไปแล้วก็เถอะ แต่เป็นผีมีเกียรตินะจะบอกให้"
"แต่ว่า ฉันยังไม่อยากตายเลยนะ ยังมีอะไรต้องทำอีกตั้งเยอะ" นัมจุนรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังพังทลาย เขาเป็นคนดีมาตลอดชีวิต ทำบุญใส่บาตร ช่วยเหลือคนแก่ข้ามถนน ไม่เคยเบียดเบียนใคร ทำไมสวรรค์ถึงได้กลั่นแกล้งเขานัก
จีวอนถอนหายใจยาว "ฟังนะนัมจุน การตายไม่ใช่จุดจบเสมอไปหรอก โดยเฉพาะสำหรับคนดีอย่างเจ้า"
เธอกระโดดขึ้นไปนั่งบนก้อนหินใหญ่ใกล้ๆ แล้วตบแปะๆ ที่ว่างข้างตัวเป็นเชิงเรียกให้นัมจุนนั่งลง
"ด้วยคุณงามความดีที่เจ้าสะสมมาตอนมีชีวิต ท่านพญายมเลยเมตตาให้เจ้าได้มาเป็นยมทูต มีหน้าที่สำคัญสองอย่าง"
นัมจุนค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ เด็กหญิง กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้ลอยมาแตะจมูก "หน้าที่อะไรเหรอ"
"อย่างแรก คือการไปรับวิญญาณคนดีที่หมดอายุขัย เพื่อนำทางพวกเขาไปสู่สวรรค์" จีวอนชี้ไปยังปลายทุ่งดอกไม้ที่ดูเหมือนจะมีแสงสีทองส่องประกายอยู่รำไร
"ส่วนอย่างที่สองคือการไป 'เก็บ' วิญญาณคนชั่วที่ถึงฆาต เพื่อลากคอมันลงไปรับโทษในนรกภูมิ" เด็กหญิงทำเสียงเข้มขึ้น ดวงตาเป็นประกายอย่างมุ่งมั่น
"เก็บวิญญาณคนชั่ว หมายถึง ฆ่าพวกมันเหรอ?" นัมจุนเบิกตากว้าง เขาไม่เคยคิดว่าตัวเองจะต้องมาทำอะไรแบบนี้
"จะเรียกว่าสังหารก็ได้ หรือจะเรียกว่าปลดปล่อยโลกจากภาระก็ไม่ผิด" จีวอนยักไหล่
"พวกมันทำเลวมามากพอแล้ว ถึงเวลาต้องชดใช้กรรมซะบ้าง อีกอย่างเจ้าจะมีอาวุธประจำกาย ไม่ต้องห่วงว่าจะสู้มือเปล่า"
ทันใดนั้นเอง ที่เอวของนัมจุนก็ปรากฏดาบเล่มยาวสีเงินวาววับขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ ฝักดาบทำจากไม้สีดำสนิทแกะสลักลวดลายเมฆไหลอย่างงดงาม ด้ามจับพันด้วยไหมสีแดงสด เมื่อลองชักดาบออกมา ใบดาบก็ส่องประกายเย็นเยียบ มีอักขระโบราณสลักอยู่บนนั้น มันเบามืออย่างไม่น่าเชื่อ แต่กลับรู้สึกได้ถึงพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ที่แฝงอยู่
"ว้าว ตายแล้วเป็นแบบนี้ก็ไม่เลวว่ะ" นัมจุนอุทานออกมาเบาๆ เขาลองควงดาบไปมาสองสามครั้ง รู้สึกคล่องแคล่วราวกับเคยใช้มันมานานนับปี ด้วยอำนาจของร่างกายทิพย์
"นั่นคือ 'ดาบพิพากษา' อาวุธคู่กายของยมทูตทุกคน" จีวอนอธิบาย
"มันจะปรากฏขึ้นเมื่อเจ้าพร้อม และจะเปลี่ยนรูปร่างไปตามความถนัดของแต่ละคน ของข้าเป็นเคียวอันใหญ่ยักษ์เท่กว่าของเจ้าเยอะ"
เด็กหญิงพูดพลางเสกเคียวสีดำทมิฬด้ามยาวออกมาอวด มันยาวเกือบสองเมตรดูน่าเกรงขามเกินกว่าที่เด็กตัวเล็กๆ เช่นเธอจะถือไหว
นัมจุนมองดาบในมือสลับกับมองใบหน้าไร้เดียงสาแต่แฝงไว้ด้วยความเก๋าของจีวอน "แล้ว... ผมต้องทำยังไงต่อคุณ เอ่อหนูจีวอน?"
"เรียกพี่จีวอนสิยะ!" เด็กหญิงทำตาเขียวปั๊ด "ถึงตัวข้าจะเล็ก แต่ข้าเป็นยมทูตมาร้อยกว่าปีแล้วนะยะ เป็นรุ่นพี่ของเจ้าหลายขุม"
"เออ ๆ ขอโทษครับ พี่จีวอน" นัมจุนรีบแก้ไขคำพูด
"เอาล่ะ ตามข้ามา" จีวอนกระโดดลงจากก้อนหิน ชุดฮันบกสีชมพูของเธอพลิ้วไหวตามการเคลื่อนไหว "ได้เวลาไปดูสถานที่ทำงานใหม่ของเจ้า และทำความรู้จักกับกฎระเบียบต่างๆ ของยมโลกแล้วล่ะ เจ้าหนูยมทูตฝึกหัด"
โกนัมจุนสูดหายใจเข้าลึก มองดาบพิพากษาในมืออีกครั้ง ถึงแม้จะยังสับสนและใจหายกับการตายของตัวเอง แต่เขาก็รู้สึกถึงความท้าทายและความรับผิดชอบใหม่ที่กำลังรออยู่ บางที การเป็นยมทูตก็อาจจะไม่เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้กระมัง
เขาก้าวตามร่างเล็กของจีวอนไป ทุ่งดอกไม้สีขาวเริ่มเลือนหาย กลายเป็นทางเดินหินขรุขระที่ทอดยาวเข้าไปในอุโมงค์มืดทะมึน จีวอนพาเขาไปย้งนรกภูมิ พาดูคนชั่วที่ถูกทำโทษต่างๆตามขุมนรกแต่ละขุมก่อนจะนำมายังห้องสมุดที่อยู่ในถ้ำ โยนหนังสือคู่มือการเป็นยมทูตให้หนุ่มหล่ออ่าน เขาจำได้เพียงว่านั่งอ่านอยู่ตรงนั้นจนลืมวันลืมคืน ไม่รู้สึกหิวหรืออ่อนแรงลงเลยแม้แต่น้อย...
นางเอกแต่งงานกับสามีแก่ เขาเป็นเสี่ยเจ้าของร้านทองที่รวยมาก ทว่านกเขากลับไม่ขันและอ่อนปวกเปียก นานๆจะมีเซ็กกับเมียรัก เดือนละครั้งสองครั้ง นางเอกทนความอยากไม่ไหวแต่ก็ไม่อยากมีชู้ ไม่อยากนอกใจสามี เธอจึงแอบมีอะไรกับเจ้าแสนรักที่เลี้ยงไว้ในบ้าน
เรื่องสั้นแนวมีชู้ fwb ลับๆ นอกใจ แอบแซ่บ 3p 4p หลายบุคคลหลากเหตุการณ์ จบในตอนสองตอน
รวมเรื่องสวิงกิ้งจากสาวๆและสามีหลายๆท่าน มีหลายตอน หลายเหตุการณ์ สัมผัสถึงรสชาติสัมพันธ์แบบแปลกใหม่ นอกกายแต่ไม่นอกใจ
เรื่องราวของนดา สาวสวยทายาทตระกูลดังที่เพิ่งแต่งงานใหม่ เธอมีความทรงจำในอดีตที่ยากเกินจะลืมเลือน ชอบการหลับนอนกับคนที่ไม่รู้จักแม้ชื่อ ยินยอมให้ชายที่ไม่ใช่สามีมอบความซาดิสม์และรุนแรงให้กับตัวเอง สามีก็ดันเป็นใจหาผู้ชายเถื่อนๆมาให้เธออีกด้วย
รวมเรื่องเล่าประสบการณ์แอบมีชู้ นอกใจคนรัก ร้อนแรง ผิดบาป ncทุกตอน มีหลายเรื่องราว
เรื่องราวของเอมิ ภรรยาสาวสวยของหนุ่มออฟฟิศที่เปิดร้านกาแฟเล็กๆอยู่หน้าบ้าน วันนึงเธอเกิดใจอ่อนกำสารวัตรหนุ่มที่เข้ามาจีบ ยิ่งสามีเย็นชากับเธอยิ่งทำให้ความสัมพันธ์ลับของเธอกับชายชู้ประทุขึ้นจนหยุดความใคร่เอาไว้ไม่ได้อีกต่อไป
เพราะความผูกพันที่มีมาตั้งแต่เกิด ทำให้หทัยชนกไม่อาจหักห้ามความรักที่มีต่ออาหมอสิงได้อีกต่อไป และแม้รักนี้พ่อจะไม่ปลื้ม แต่หญิงสาวจะขอฝ่าฟันและไม่มีทางยอมแพ้ให้อุปสรรคในครั้งนี้เด็ดขาด
นายหัว(เถื่อน) กระหายรัก เพราะเป็นลูกมาเฟียถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก จู่ๆ ก็ถูกแม่ตัดหางปล่อยวัดให้เผชิญชะตากรรมด้วยตนเอง เผชิญชะตากรรมไม่ว่า แต่วันแรกเธอก็ทำคนตายแล้ว เหตุการณ์ในวัยเด็กทำให้เธอไร้สติหยั่งคิด เผลอเข้าร้านหรูจนกินไวน์ราคาแพงหมดไปสองแสน แม้จะจำนำของในตัวจนหมดแต่ก็ไม่พอ เพราะกลัวว่าพ่อกับแม่จะรู้ เธอจึงเลือกใช้กายชดใช้แทน แต่ใครคิดว่าหลังจากสิ้นคิดคืนนั้น เธอก็ต้องพบปัญหาไม่รู้จบ
ฉันเป็น ขวัญชนก วงศ์ษา ตั้งแต่อายุ 1 วัน ถึง อายุ 18 ปี 1 วัน อายุ 18 ปี 2 วัน ฉันเป็น ขวัญชนก ฟง เขาคือ ดีแลน ฟง อายุอานามก็ 30 ปี ชายร่างสูงเมื่อสามปีก่อน ปัจจุบันเขาคือสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ขอย้ำว่าถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น คำโปรย : “ห้าแสน!” “เจ็ดแสน!” เสียงประมูลราคาจากคนด้านล่างเวทีดังแข่งกัน “หนึ่งล้าน” การประมูลยังคงดำเนินกันต่อไปเรื่อยๆ ขวัญชนก สาวน้อยวัยใสวัยย่างสิบเก้าสอดส่ายสายตามองไปยังกลุ่มคนด้านหน้า “หนึ่งล้านสองแสน” เอาสิ! ถ้าเขาไม่มา เธอก็...ขวัญชนกยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ กระตุ้นราคาประมูลจนสูงลิ่วถึงสองล้าน “สองล้านครั้งที่หนึ่ง...” ในมุมมืดชายร่างสูงยกยิ้มมุมปากอีกครั้ง เมื่อเห็นดวงตากลมโตแสดงความหวาดหวั่นในที่สุด “ห้าล้าน!” ก่อนที่ราคาสองล้านจะถูกเคาะครั้งที่สาม เสียงบอกราคาใหม่สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนในงาน แต่กลับสร้างรอยยิ้มให้หญิงสาวบนเวที เธอไม่เคยลืมเสียงของเขา “ชนะแล้ว” ขวัญคิดในใจ “ห้าล้านครั้งที่สาม...ขาย!”
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ฝูจื่อหรงก้มหน้าวูบลงมาบดริมฝีปากกับโจวเจ้าเว่ยเบาๆ แต่เจ้าเว่ยต้องการมากกว่านั้น หญิงสาวแลบลิ้นออกมารอรับ นางเป็นฝ่ายสอดความอ่อนนุ่มเข้าไปภายในปากของเขาแทน แม้มือจะยังไม่มีแรงมากนักแต่การยึดเหนี่ยวใบหน้าเขาไว้กลับไม่เป็นปัญหา หญิงสาวบดริมฝีปากสามีอย่างเร่าร้อน "ถอดเสื้อผ้าให้ข้า จื่อหรงถอดให้ข้ามันร้อนเหลือเกิน" เจ้าเว่ยปากสั่นร้อนรนเพราะทนกับความรู้สึกเสียวซ่านที่รบกวนจนรู้สึกทรมานในทุกสัมผัสของเขา พรางนึกขัดใจตนเองที่สิ้นไร้เรี่ยวแรงแม้กระทั่งเสื้อผ้าของตนเองยังไม่มีปัญญาถอด "เจ้าเว่ยของข้าอย่าได้รีบร้อน เราจะค่อยๆสัมผัสและมีความสุขด้วยกัน" ฝูจื่อหรงจุมพิตปากบาง พลางถอดอาภรณ์ของนางอย่างทะนุถนอม "พี่เต้ข้าไม่เข้าใจ เจ้าหลีกเลี่ยงข้ามาตลอดเหตุใดถึงยอมโดยง่าย หากข้ามีแรงมากกว่านี้คงได้ปลุกปล้ำเจ้าไปหลายครั้งแล้ว" เจ้าเว่ยกล่าวพลางพยามยามใช้มือคว้ามังกรตัวใหญ่ไว้ในมือจนสำเร็จ อารมณ์ความต้องการเพิ่มทวีขึ้นโดยที่เจ้าเว่ยไม่อาจระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอกำความใหญ่แน่นแล้วลูบไล้ช้าๆ มันร้อนไปทั่วทั้งฝ่ามือ ภายใจร่างกายและจิตใจของเจ้าเว่ยสั่นระริกด้วยความร้อนและไฟปรารถนา ในที่สุดฝูจื่อหรงก็ถอดอาภรณ์ออกจากร่างบางได้สำเร็จ เจ้าเว่ยดูเหมือนจะมีแรงขึ้นมาเล็กน้อย นางยังกำมังกรยักษ์แน่นไม่ยอมปล่อย นางเลียริมฝีปากเมื่อมองร่างมันจนฝูจื่อหรงรู้สึกลำคอแห้งผาก รู้สึกอยากกดศีรษะของคนตัวเล็กลงแล้วยัดมังกรเข้าไปในโพรงปากให้นางได้สมปรารถนาเสียเดี่ยวนี้ "ปล่อยมันก่อนเจ้าเว่ย เจ้าต้องไปอาบน้ำ" เขากระซิบเสียงแหบพร่า พยายามแกะมือเล็กที่กอบกำมังกรของเขาอยู่ เจ้าเว่ยต้องปล่อยอย่างอดเสียดาย ใบหน้าของนางฟ้องความต้องการออกมาจนฝูจื่อหรงนึกขัน แนะนำตัวละคร เรื่องย่อ โจวเจ้าเว่ย องค์หญิงแห่งแคว้นเหลียง ทายาทของเผ่าบุปผาขึ้นชื่อว่าเป็นโฉมงามล่มเมือง คนของเผ่าบุปผาเป็นเผ่าที่ถือกำเนิดมาจากเทพเซียนรูปโฉมงดงามแต่ต้องคำสาปเรื่องของความรัก หากพวกเขามีความรักจะไม่สมหวังและตายอย่างอนาถด้วยความรักนั้น ฝูจื่อหรง ฮ่องเต้แคว้นชินที่มีเบื้องหลังการครองอำนาจโดยการสนับสนุนของมหาเสนาบดีฟางอี้จวิ้น รูปโฉมงดงามจนทำให้แข้งขาสตรีอ่อนระทวย เรื่องสตรีสำหรับเขาเป็นเพียงเพื่อมีไว้สนับสนุนบัลลังก์ให้มั่นคงเท่านั้น คนทั่วราชสำนักรู้ดีว่าเขาเป็นเพียงหุ่นเชิดของมหาเสนาบดีฟางอี้จวิ้น กระทั่งวันหนึ่งเขาต้องแต่งงานเพื่อเชื่อมสัมพันธไมตรีกับองค์หญิงผู้ลึกลับผู้หนึ่ง ที่เข้ามาพังทะลายกำแพงหัวใจที่เขาตั้งเอาไว้ และ นางผู้นั้นยังทำท่าคล้ายกับว่าไม่อาจอยู่กับเขาได้อีก สตรีผู้หนึ่งซึ่งมีความลับบางประการซ่อนอยู่ โจวเจี๋ยหลุน พี่ชายฝาแฝดขององค์หญิงโจวเจ้าเว่ยโจวเจ้าเว่ยองค์หญิงผู้สามารถเดินทางข้ามมิติได้โดยใช้ขลุ่ยเพรียกบุปผาซึ่งเป็นขลุ่ยวิเศษในการเดินทางข้ามมิติ โจวเจ้าเว่ยเป็นสตรีของเผ่าบุปผาอันลี้ลับ ต้องคำสาปที่ไม่สามารถมีความรักได้ หากนางมีความรักจำเป็นต้องเจ็บปวดจนถึงแก่ความตาย เพราะเหตุนี้โจวเจ้าเว่ย และ โจวเจี๋ยหลุน พี่ชายจึงต้องออกเดินทางเพื่อตามหาวิธีแก้คำสาปที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด และ พวกเขาไม่อาจเปิดเผยความลับนี้ให้ ฝูจื่อหรงล่วงรู้ได้ (เรื่องนี้เป็นนิยายภาคต่อของต้องมนต์บุปผาค่ะ)