เพื่อปกป้องการเปิดขายหุ้น IPO มูลค่าหลายหมื่นล้านของบริษัท เก้า แม่ของเขา หรือแม้กระทั่งพ่อแม่บุญธรรมของฉันเอง ก็ร่วมมือกันหักหลังฉัน
พวกเขาย้ายพราวเข้ามาอยู่ในบ้านของเรา บนเตียงของฉัน ปฏิบัติกับเธอราวกับเป็นราชินี ในขณะที่ฉันกลายเป็นนักโทษ
พวกเขาตราหน้าว่าฉันเป็นคนสติไม่ดี เป็นภัยต่อภาพลักษณ์ของครอบครัว
พวกเขาใส่ร้ายว่าฉันนอกใจ และกล่าวหาว่าลูกในท้องของฉันไม่ใช่ลูกของเขา
คำสั่งสุดท้ายนั้นโหดร้ายเกินกว่าจะคิดฝัน...ให้ฉันไปทำแท้ง
พวกเขาขังฉันไว้ในห้องและนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย พร้อมขู่ว่าจะลากฉันไปที่นั่นถ้าฉันขัดขืน
แต่พวกเขาทำพลาดไปอย่างหนึ่ง...
พวกเขายอมคืนโทรศัพท์ให้ฉันเพื่อหวังจะปิดปากฉันไว้
ฉันแสร้งทำเป็นยอมแพ้ แล้วใช้โอกาสสุดท้ายโทรออกไปยังเบอร์ที่ฉันเก็บซ่อนไว้มานานหลายปี...
เบอร์โทรศัพท์ของพ่อผู้ให้กำเนิดของฉัน อนันต์ ธีรวงศ์ ประมุขของตระกูลที่ทรงอิทธิพลมากพอที่จะเผาโลกทั้งใบของสามีฉันให้มอดไหม้เป็นจุณได้
บทที่ 1
มุมมองของชาร์เลท จิรโชติ:
ฉันได้รู้ว่าชีวิตแต่งงานของตัวเองกำลังจะจบสิ้นลงพร้อมๆ กับที่คนทั้งโลกรู้...ผ่านแสงแฟลชกล้องที่สาดส่องเข้ามาในงานกาลาการกุศลที่ฉันเป็นคนจัด
วินาทีหนึ่ง ฉันยังคงยิ้มแย้ม มือเรียวถือแก้วน้ำแร่อย่างสง่างาม ในใจนึกถึงลูกน้อยที่กำลังเติบโตอยู่ในท้อง...ความลับและความสุขของเราสองคน
วินาทีต่อมา นักข่าวคนหนึ่งก็ยื่นโทรศัพท์มาจ่อที่หน้าฉัน หน้าจอสว่างวาบด้วยข่าวด่วน
“คุณสุวรรณกิจคะ มีอะไรจะให้ความเห็นเกี่ยวกับข่าวใหญ่ของสามีคุณไหมคะ”
พาดหัวข่าวนั้นเด่นชัดและโหดร้าย... *เก้า สุวรรณกิจ เจ้าพ่อเทคฯ และพราว นิธิวัฒน์ รักแรกวัยเด็ก เตรียมต้อนรับทายาทคนแรก*
อากาศในปอดของฉันกลายเป็นน้ำแข็ง รอยยิ้มแข็งค้างบนใบหน้า เหมือนหน้ากากแก้วที่พร้อมจะแตกละเอียด
ฉันรู้สึกได้ถึงสายตานับร้อยคู่ที่จับจ้องมา เสียงซุบซิบเริ่มดังระลอกคลื่นไปทั่วห้องบอลรูมที่หรูหราดุจยาพิษ
ฉันหันกลับไปอย่างเชื่องช้า ราวกับหุ่นยนต์
และเขาก็อยู่ตรงนั้น...เก้า สามีของฉัน
เขายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามของห้องกับพราว นิธิวัฒน์ มือของเขาวางอย่างแสดงความเป็นเจ้าของบนบั้นเอวของเธอ
เธอกำลังเงยหน้ามองเขาด้วยดวงตาที่คลอหน่วยด้วยน้ำตาแห่งความรัก มือของเธอเองก็กุมท้องที่นูนออกมาเล็กน้อยอย่างปกป้อง
พวกเขาดูเป็นภาพที่สมบูรณ์แบบ...คู่รักที่กำลังแบ่งปันความลับอันงดงามให้โลกได้รับรู้
ความลับที่ควรจะเป็นของฉัน
นักข่าวที่เหมือนอีแร้งได้กลิ่นซากศพ ขยับเข้ามาใกล้ขึ้น “จริงไหมคะที่คุณกับคุณเก้าแยกกันอยู่มาสักพักแล้ว”
แววตาของเก้าฉายแววตื่นตระหนกสุดขีดเมื่อเขาเห็นฉันในที่สุด เขาเห็นนักข่าว เห็นโทรศัพท์ และเห็นสีหน้าที่กำลังแหลกสลายของฉัน มือที่จับพราวอยู่เกร็งขึ้นชั่ววูบก่อนจะปล่อยออก หน้าของเขาซีดเผือด
สายตาของเราประสานกันข้ามห้องที่แออัด
ในช่วงเวลาที่หยุดนิ่งนั้น ชีวิตเจ็ดปีของเราฉายซ้ำและตายจากไปในบัดดล
ค่ำคืนที่เราช่วยกันระดมสมองเขียนโค้ดสำหรับแอปแรกของเขา...อ้อมกอดของเขาตอนที่พ่อแม่บุญธรรมของฉันวิจารณ์อาชีพของฉัน...คำกระซิบสัญญากันเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าลูกของเรา ลูกชายของเรา จะได้รับความรักที่ทั้งเราสองคนไม่เคยมีอย่างแท้จริง
ทุกอย่างมลายหายไปเป็นเถ้าถ่าน
ความโกรธที่เยียบเย็นและเงียบงันเริ่มก่อตัวขึ้นในอก เป็นพลังน้ำแข็งที่ผลักไสความตกตะลึงออกไป
ฉันเริ่มเดินตรงไปหาเขา
เสียงพึมพำในห้องเงียบลง ฝูงชนแหวกทางให้ฉันเหมือนทะเลแดง
เสียงเดียวที่ได้ยินคือเสียงส้นสูงของฉันที่กระทบพื้นหินอ่อนอย่างสม่ำเสมอและเด็ดเดี่ยว แต่ละก้าวคือค้อนที่ทุบลงบนรากฐานชีวิตแต่งงานของเรา
ฉันหยุดยืนตรงหน้าเขา ไม่ได้มองไปที่พราวเลย โลกทั้งใบของฉันแคบลงเหลือเพียงใบหน้าที่หล่อเหลาและทรยศของเก้า
“ฉันให้เวลาคุณหกสิบวินาที คิดคำโกหกที่ฉันอาจจะเชื่อได้” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำจนน่ากลัว ปราศจากความอบอุ่นใดๆ
เขาอ้าปาก เสน่ห์อันน่าหลงใหลของเขาเริ่มทำงานทันที “เลท ที่รัก มันไม่ใช่อย่างที่เห็นนะ กลับบ้านกันเถอะ แล้วผมจะอธิบายทุกอย่างให้ฟัง”
ฉันไม่ปล่อยให้เขาพูดจบ มือของฉันตวัดออกไปเองอย่างรวดเร็ว
เพียะ!
เสียงฝ่ามือของฉันกระทบแก้มของเขาก้องกังวานในความเงียบสงัดของห้องบอลรูม เสียงสูดหายใจเฮือกดังขึ้นพร้อมกันจากผู้ชมของเรา
เก้ายืนนิ่ง ตะลึงงัน รอยฝ่ามือสีแดงของฉันปรากฏขึ้นบนผิวของเขา เขาไม่ได้ดูโกรธ เขาแค่ดู...จนมุม
“ได้โปรด อย่าโทษคุณเก้าเลยค่ะ!” เสียงของพราวเป็นเสียงกระซิบหวานปานน้ำผึ้งเคลือบยาพิษ แฝงไปด้วยความเปราะบางจอมปลอมขณะที่เธอก้าวเข้ามาขวางระหว่างเรา วางมือบนอกของเขา “มันเป็นความผิดของพราวเองค่ะ พราว...พราวเหงา เขาแค่ใจดีกับพราวเท่านั้น”
ดวงตาของเธอที่เอ่อคลอด้วยน้ำตาที่กะเวลามาอย่างสมบูรณ์แบบจับจ้องมาที่ฉัน ในแววตานั้นไม่มีคำขอโทษ มีเพียงชัยชนะอย่างสาแก่ใจ
ในที่สุดความโกรธในตัวฉันก็ทะลวงผ่านน้ำแข็งออกมา น้ำตาร้อนๆ หยดหนึ่งไหลอาบแก้มที่เย็นชืดของฉัน ฉันรู้สึกว่าความอดทนสุดท้ายของตัวเองกำลังแตกสลาย
เก้าเอื้อมมือมาหาฉัน เสียงของเขาแหบพร่าอย่างสิ้นหวัง “เลท ได้โปรด”
เขาพยายามจะดึงฉันเข้าไปในอ้อมแขน แต่ฉันผงะถอยจากสัมผัสของเขาราวกับถูกไฟลวก
“อย่าแตะต้องตัวฉัน” ฉันเค้นเสียงพูดออกมา
นักประชาสัมพันธ์ของเขาปรากฏตัวขึ้นข้างๆ กระซิบกระซาบอย่างเร่งรีบที่ข้างหู ขากรรไกรของเก้าเกร็งขึ้น เขามองจากนักประชาสัมพันธ์ ไปยังฝูงชนที่จับจ้อง ไปยังสีหน้าอ้อนวอนของพราว และสุดท้ายกลับมาที่ฉัน การคำนวณในดวงตาของเขาน่าขยะแขยงสิ้นดี
“ลูกคนนี้เป็นลูกของผม” เขาพูด เสียงของเขาตอนนี้ชัดเจนและหนักแน่น ไม่ใช่เพื่อฉัน แต่เพื่อทุกคนที่กำลังฟังอยู่ “พราวกับผมรู้จักกันมานาน เราจะผ่านเรื่องนี้ไปด้วยกัน”
พราวสะอื้นเบาๆ แล้วซบหน้าลงกับชุดสูทราคาแพงของเขา เขาวาดแขนโอบรอบตัวเธอ กอดเธอไว้ใกล้ๆ เป็นท่าทีปกป้อง ท่าทีที่เขาไม่เคยให้ฉัน ภรรยาที่กำลังตั้งท้องของเขา ซึ่งยืนอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางซากปรักหักพังที่เขาสร้างขึ้น
“เก้า คุณพูดอะไร” ฉันกระซิบ คำพูดติดอยู่ในลำคอ “แล้วลูกของเราล่ะ”
ในที่สุดเขาก็มองมาที่ฉัน ดวงตาของเขามืดมนด้วยความเจ็บปวดที่ฉันรู้ว่าไม่ใช่เพื่อฉัน แต่เพื่อตัวเขาเอง เพื่อความไม่สะดวกที่ฉันเป็นตัวแทนอยู่
“เราจะคุยกันที่บ้าน” เขาพึมพำ เสียงต่ำและเครียด เขาเริ่มประคองพราวที่กำลังร้องไห้ไปยังทางออก ทีมงานของเขาปิดล้อมรอบตัวพวกเขาราวกับราชองครักษ์
เขากำลังทิ้งฉันไป เขากำลังทิ้งฉันไว้ที่นี่คนเดียว ให้เผชิญกับความอัปยศอดสู
ฉันยืนนิ่งขณะที่พวกเขาเดินจากไป น้ำหนักของคำประกาศต่อสาธารณะของเขาถั่งโถมลงมา เหมือนผ้าคลุมที่น่าหายใจไม่ออก เขาไม่ได้แค่ยอมรับว่านอกใจ แต่เขาประกาศยอมรับลูกของหญิงอื่นต่อหน้าสาธารณชน และในการทำเช่นนั้น เขาก็ได้ลบลูกของเราให้หายไป
ขาของฉันอ่อนแรงจนทรุดลงไปพิงโต๊ะที่เต็มไปด้วยแก้วแชมเปญที่ไม่มีใครแตะต้อง ห้องทั้งห้องเริ่มหมุนคว้าง
บริษัทของเขา สุวรรณกิจเทค กำลังจะเปิดขายหุ้น IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบทศวรรษ ข่าวฉาว การหย่าร้างที่ยุ่งเหยิง ลูกนอกสมรส มันจะเป็นหายนะ แต่เจ้าพ่อเทคโนโลยีที่ยืนหยัดเคียงข้างเพื่อนสมัยเด็กที่กำลังตั้งท้อง? นั่นเป็นเรื่องราวของความภักดี มันดูสูงส่ง
มันเป็นคำโกหกที่สังเวยฉันและลูกที่ยังไม่เกิดของเราบนแท่นบูชาแห่งความทะเยอทะยานของเขา
ขณะที่การ์ดคนหนึ่งของเขาเข้ามาเพื่อพาฉันออกไปทางประตูด้านข้าง ให้พ้นจากสายตาที่สอดรู้สอดเห็นและแสงแฟลชกล้อง ความจริงอันน่าสะอิดสะเอียนก็ปรากฏขึ้น
เก้าไม่ได้แค่ทำพลาด
เขาได้เลือกแล้ว และเขาไม่ได้เลือกฉัน
เขาเลือกเธอ