เล่ห์มายาลวง - เล่ห์กลแห่งความใคร่ที่นำพาสองครอบครัวต้องมาผูกแรงแค้นต่อกัน กลกามนั้นสร้างรอยแผลและความเจ็บปวด แต่ใดๆ นั้น ความรักจะเยียวยาเอง
เล่ห์มายาลวง - เล่ห์กลแห่งความใคร่ที่นำพาสองครอบครัวต้องมาผูกแรงแค้นต่อกัน กลกามนั้นสร้างรอยแผลและความเจ็บปวด แต่ใดๆ นั้น ความรักจะเยียวยาเอง
สนามบินสุวรรณภูมิ
เริงฤดี เลอวาณิชกุล สาวน้อยร่างสูงโปร่ง ผิวขาวอมชมพูใบหน้าโฉบเฉี่ยวได้รูปถูกปิดบังไว้ครึ่งใบหน้าจากหมวกใบหนึ่งที่สวมพรางสายตาของผู้คน แว่นกลมโตสีชาคล้องสายห้อยอยู่ที่ลำคอระหง จังหวะก้าวเดินด้วยรองเท้าส้นเข็มสูง ๒ นิ้วราวกับนางแบบบนแคทวอร์ค ผิดก็เพียงแต่ในมือของเธอไสรถเข็นเพื่อจะมารับกระเป๋าเดินทาง เธอหยุดรอกระเป๋าใบโตที่สายพานลำเลียงกระเป๋าของสนามบิน ด้ามพัดจิ๋วในมือถูกคลี่ออกแล้วโบกเบา ๆ
“เดาว่าคุณคงกลับมาจากเมืองหนาว มาถึงเมืองไทย เปิดแอร์ขนาดนี้คุณยังร้อน”
เสียงร้องทักจากเบื้องหลังเป็นเสียงของชายหนุ่ม แต่เธอไม่เสียสายตาหันกลับไปมองแม้เพียงนิด ออกอาการเพียงแค่ขยับตัวไปข้างหน้า เป็นการแสดงว่าไม่ประสงค์จะพูดคุย เสียงหัวเราะหึๆ แว่วผ่านเข้ามาแล้วเดินจากไป เธอแค่นยิ้มแล้วพึมพำออกมาอย่างลำพองตัว
“เห็นคนสวยเป็นไม่ได้ ระริกระรี้เข้ามาเชียว ผู้ชายก็ยังงี้แหละ”
เริงฤดี ขยับตัวยกกระเป๋าใบใหญ่ ๒ ใบ ออกจากสายพานลำเลียงขึ้นรถเข็นด้วยตัวเอง แม้จะมีชายหนุ่มที่ขยับจะมาช่วย แต่ไม่ทันกับความว่องไวของเธอที่คุ้นชินกับการช่วยเหลือตัวเองมาตลอด
“สวย แต่ดูหยิ่งชะมัด”
เสียงพูดคุยเบาๆ ห่างออกไปจากชายหนุ่มที่หาญกล้าไปทักเธอก่อน
“หยิ่ง?"
ชายหนุ่มหน้าคมมีสีหน้าสงสัย เขาเพิ่งกลับมาจากดูงานในประเทศเพื่อนบ้าน วันนี้เครื่องดีเลย์ ทำให้กลับมาช้ากว่ากำหนดเดิม อารมณ์จึงค่อนข้างหงุดหงิดอยู่พอสมควร
“ฉันลองเข้าไปทักดู จะหันมามองหนุ่มหล่ออย่างฉันสักนิดก็ไม่มี หึ หึ”
“อ้อ พอไม่หันมามองนาย เลยว่าหยิ่ง ความหล่อของนายก็ช่วยอะไรไม่ได้”
“กริช คนทักกันอย่างน้อยต้องหันมามองกันบ้าง นี่อะไร ไม่หันมามอง แถมขยับตัวหนี ทำยังกะเราเป็นพวกโรคจิต สักวันเถอะจะเจอดี”
เสียงคนพูดราวคับแค้น ยิ่งฟังคำพูดเรื่อยๆ ของคนเป็นเพื่อนยิ่งทำให้ดูเหมือนถูกดูแคลน
“นายจะพาลให้มันได้อะไรขึ้นมา แค่เขาไม่สนใจก็ปล่อยเขา ผู้หญิงในฮาเร็มนายมีตั้งมาก จะมาอะไรกับผู้หญิงคนนั้น”
คมกริช อัครโอภาส ส่ายหน้าระอานิสัยของเพื่อน เบื่อหน่ายที่จะพูดคุยเรื่องผู้หญิงไม่ซ้ำหน้าในแต่ละวัน แต่เพราะรู้จักกันมาตั้งแต่สมัยเรียน แถมยังเป็นคู่ค้าทางธุรกิจจึงต้องคบหากันเรื่อยมา ดุบ้าง ด่าบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่ก็กลับมาสนิทกันเหมือนเดิม
“ยากๆ อย่างนี้ ฉันชอบ”
คมกริช มองตามร่างโปร่งที่ขยับย้ายสะโพกกลมกลึงไปกับย่างก้าวที่เดินออกไปทางประตูแล้วถอนใจ เสี้ยวหน้าที่เขาเห็นเพียงแวบเดียวนั้น บอกให้รู้ว่าเธอสวยมาก แต่ในกรุงเทพมหานคร มันไม่ได้เล็กๆ ที่เราจะเจอกันอีก
“ขอให้โชคดี เจอเขาอีกครั้งก็แล้วกัน”
คมกริชบอกเพื่อนอย่างไม่ใส่ใจ ก้าวนำไปรอกระเป๋าเดินทาง ซึ่งเริ่มลำเลียงเข้ามาแล้ว
“แล้วนายจะรู้ ฉันน่ะดมกลิ่นสาวๆ สวยๆ ไวเสมอ อยากรู้นักว่า ถ้าเจอหน้าหล่อๆ อย่างฉันจังๆ ยังจะกล้าเชิดใส่ฉันไหม”
“วุธ จะทำอะไรให้คิดถึงคู่หมั้นของนายไว้ให้ดี แค่สาวๆ ที่นายสับหลีกอย่างกับนายช่างรถไฟ คุณนุชเขาก็ปวดหัวจะแย่แล้ว”
อาวุธ พินิจนันท์ หัวเราะอย่างไม่ยี่หระ นงนุชเขาก็รัก แต่จะให้เขาเลิกกับสาวสวยรายอื่นๆ รอไปก่อน เพราะยังไง เขาก็ยังไม่แต่งงาน ฉะนั้นอย่ามาหึงหวงมากมาย เขาไม่ชอบ
กระเป๋าถูกลำเลียงมาจนถึงคิวของชายหนุ่ม ทั้งคู่จึงไสรถเข็นออกไปด้านนอก ตรงไปยังลานจอดรถที่จอดไว้ข้ามวันข้ามคืน คมกริชไม่ยอมนั่งแท็กซี่ แต่ยินดีที่จะขับรถมาเองโดยเสียค่าเช่าจอดรถดีกว่า แม้ว่าอาวุธจะบ่นพึมว่ากลับมาเหนื่อยๆ ยังจะต้องมาขับรถกลับบ้าน แถมยังต้องเสียเงินที่ไม่ควรจะเสียอีก
“เราแยกกันตรงนี้ ฉันนัดกับนุชเขาไว้ คืนนี้กลับมาจะฉลองกันหน่อย”
อาวุธบอกอย่างเจ้าเล่ห์ อารมณ์ดี คมกริชเข็นรถไปเพียงลำพัง มุมเลี้ยวที่เขาต้องไสรถเข็นไปนั้นสะดุดกับกระเป๋าใบใหญ่ที่วางนอนอยู่บนรถเข็นหน้าประตู ทำให้เขาชะงักแล้วหันกลับไปก้มหัว ขอโทษกับเจ้าของกระเป๋า
“ขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณไม่ได้ตั้งใจ”
เสียงหวานใสนั้นตอบกลับมาทันที คมกริชเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของเสียงอย่างสนใจ ผู้หญิงคนนั้นเอง ยามนี้เธอถอดหมวกใบโตออกแล้วสวมแว่นไว้เสียครึ่งหน้า แต่ก็ปิดบังความสวยงามของใบหน้าคมเฉี่ยวไว้ไม่ได้ คมกริชปรายตามองกระเป๋าใบโตสองใบและเครื่องแต่งกายที่หล่อนสวมอยู่ปราดเดียวก็พอประเมินว่าเธอกลับมาจากประเทศเมืองหนาวและรอคนมารับ เพราะในมือถือโทรศัพท์ไว้ คมกริชยิ้มให้เล็กน้อยขยับที่จะเดินต่อ
“ฉันจะไปรอแท็กซี่ได้ที่ไหนคะ”
เสียงนั้นคล้ายลังเล ไม่แน่ใจว่าจะถามเขาดีหรือไม่ แต่ก็ถามออกไปอย่างเก้อๆ เขินๆคมกริชชะงัก หันมามองหญิงสาวเต็มตา ยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ด้านล่างนะครับ แต่คงต้องรอนานหน่อย และผมว่าค่อนข้างอันตรายกับผู้หญิงสวยอย่างคุณในเวลานี้”
คมกริชเปิดช่องให้ตัวเอง เสือซุ่มอย่างเขา อาวุธยังตามไม่ทัน
“ฉันโทรหาคนที่บ้าน ไม่มีคนรับ ยังไงก็ต้องไปแท็กซี่ค่ะ ขอบคุณนะคะที่บอก”
เริงฤดีหันตัวกลับจะเข้าไปในอาคารอีกครั้ง
“เดี๋ยวซิคุณ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ผมไปส่งให้ก็ได้นะครับ”
“คุณจะไปส่งฉันหรือคะ แล้วคุณปลอดภัยกว่าแท็กซี่?”
เริงฤดีแค่นยิ้ม ผู้ชายก็เหมือนกันทุกคน
“นี่ครับนามบัตรผม เผื่อคุณจะไว้ใจ”
คมกริชยื่นนามบัตรให้ ตำแหน่งในนามบัตรระบุถึงตัวตนของเขา เริงฤดีนิ่งคิด ชายหนุ่มคนนี้หน้าตาคมคาย จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปางบางเล็ก ไรหนวดเหนือริมฝีปากนั้นเย้ายวน ......บ้า เธอคิดอะไรนี่ เริงฤดีรีบสลัดความคิดของเธอออก บอกตัวเองว่าอย่าสนใจชายหนุ่มคนนี้
“เชิญเถอะครับ รถผมจอดอยู่ทางนี้”
คมกริชเดินนำหน้า โดยไม่ได้รีรอว่าเธอจะปฏิเสธหรือตอบรับ เริงฤดีนิ่งคิดชั่วครู่ ก่อนเข็นรถตามออกไป
“บ้านคุณอยู่แถวไหนครับ”
ซีรีย์รักต่างวัย เรื่องของความรักที่ไม่อาจหักห้าม แม้วัยต่างกันแต่หัวใจเร่าร้อนอยู่ด้วยกัน เสน่หาหญ้าอ่อน: มีนา หรือมีน สาวน้อยวัย 19 ต้องเข้าไปพัวพันธุรกิจของเหมืองนิลดีที่มี อรรคพล หนุ่มใหญ่ใจดีเป็นเจ้าของ เมื่อญาติของเธอทุจริต เธอจึงถูกใช้เป็นเครื่องมือ แต่จะเป็นไรไปล่ะ เมื่อเธอก็ยินยอมพร้อมใจอยู่แล้ว เสน่หาโคแก่: พฆัคฆ์หรือเสือ นักธุรกิจพันล้าน หนีรักเข้าป่า จนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ถ้าไม่ได้ชาวบ้านและเด็กสาวที่ชื่อ แป้งร่ำช่วยเอาไว้ และนั่นเป็นที่มาของโคแก่ที่เล็งหญ้าอ่อนไว้
ซีรีย์พ่อเลี้ยง สองเรื่องราว สองคู่ ระหว่างพ่อเลี้ยงที่แตกต่างความคิดกันอย่างสิ้นเชิง แต่มีสิ่งหนึ่งที่พวกเขาเหมือนกันคือความรักให้คนที่ชื่อว่าเป็นลูกเลี้ยง จำเลยพ่อเลี้ยง /พฤศตะวัน - เมื่อหญิงสาวต้องกลายเป็นเครื่องมือการติดตามแม่ของเธอ จากชายหนุ่มที่เคยรักแม่ แต่...เสน่ห์ของจำเลยอย่างเธอ พ่อเลี้ยงหรือจะอดใจไหว พ่อเลี้ยงบำเรอรัก/ พฤศตะวัน - วิชนี เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ เพื่อทวงมรดกของแม่คืนจากพ่อเลี้ยง ทว่า พ่อเลี้ยงที่เธอนึกเกลียดเขามาตลอดนั้นว่าแย่งแม่ของเธอไปจากพ่อ กลับกลายเป็นแค่ตัวหลอก และเป็นผู้ปกป้องเธอมาตลอด
ซีรีย์ดอกไม้สวาท ความแตกต่างคือความงาม ดอกไม้ 2 ชนิดที่ใช้ชีวิตแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง เกสรดอกชู้ /พันตะวัน - ธีธัช หนุ่มหล่อผู้มีความสามารถกลับมาเมืองไทยกะทันหัน หลังจากแม่เสียชีวิต ต้นเหตุมาจากแม่ลูกคู่หนึ่ง ซึ่งเขาจะต้องเอาคืนให้ได้ และอันดาคือเหยื่อในความแค้นครั้งนี้ ผกากลีบทอง /พันตะวัน - บุหงาและอาทิตย์ ต้องแต่งงานตามความต้องการของผู้ใหญ่ แต่เส้นทางความรักของคนทั้งคู่ ต่างมีสิ่งที่ต้องปกปิดกันและกัน บุหงาสาวสวยเสนห์แรงจึงต้องเผชิญเรื่องรักในทิศทางที่เธอไม่อาจควบคุม
ซีรีย์บาป 2 เรื่อง 2 รส กับความรักที่ปนเปไปด้วยความใคร่และความรู้สึกผิด บาปหวาน / พฤศตะวัน - ผิดไหม? ที่เธอรักพ่อเลี้ยง สามีใหม่ของแม่ที่ตายไปนานแล้ว แต่เธอจะทำอย่างไรดี ในเมื่อพ่อเลี้ยงของเธอ ยังคงรักแม่ของเธอโดยไม่มีทีท่าว่าจะลืม บาปสวาท /พันตะวัน - เมื่อความใคร่เข้ายึดครองการใช้ชีวิต คู่แต่งงานที่ต่างก็หมดรักกัน จึงต้องหาทางออกเพื่อให้ตัวเองสมประโยชน์
มนตราพญามาร - บ้านไร่ตะวันฉายของตฤณพบ ต้องต้อนรับผู้หญิง 2 คน คือ ไอรดา และปิยฉัตร ทั้งคู่ มีคำถามต่อเขาถึงเรื่องราวในอดีตที่น่าสงสัย แต่ตฤณภพก็ใช้ความใคร่ปะปนไปกับความรักจนสยบเด็กสาวทั้งคู่ได้
ไฟปรารถนา เพลิงอาวุธ - อาวุธ เศรษฐีเจ้าของบ่อนคาสิโนและรีสอร์ตหรูบนเกาะส่วนตัว จำต้องยอมรับ แองจี้ หลานสาวของลูกจ้างคนเก่าแก่เข้ามาทำงานในอาณาจักรของเขาโดยไม่เต็มใจนัก เพราะทันทีที่เห็นหน้าเธอ เขาก็รู้ทันทีว่า เขาจะไม่เป็นสมภารกินไก่วัดเด็ดขาด แต่เขาจะทำได้หรือ?
ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด