“เธอให้นมลูกกี่เดือนเหรอสุรีย์ฉาย ฉันหมายถึงน้ำนมของเธอน่ะ” สุรีย์ฉายกำลังถือขวดนมใจลอยอยู่เกิดอาการชะงัก ใบหน้าแดงก่ำ “ว่ายังไง ทำไมไม่ตอบฉัน” คุณหญิงถามซ้ำจ้องใบหน้าแม่ของหลานด้วยความสงสัย ถามแค่นี้ทำไมต้องทำหน้าแปลกด้วย เรนเหลือบมองไม่ช่วยตอบ อยากรู้ว่าแม่ตัวปลอมจะตอบว่าอย่างไร “น้ำนมดิฉันไม่ค่อยมีค่ะคุณหญิง” สุรีย์ฉายหาคำตอบได้ถอนใจโล่งอก “ผู้หญิงสมัยนี้กลัวทรวดทรงองค์เอวจะเสียมากกว่า ไม่ยอมให้นมลูก” คุณหญิงพูดลอยๆ สุรีย์ฉายเฉยเสียแม้รู้โดนกระทบ เธอไม่จำเป็นต้องร้อนตัวเพราะไม่ได้คิดเช่นนั้น คุณหญิงมองด้วยสายตาไม่พอใจ “ไม่บอกออกมาล่ะว่าถึงไม่มีลูกก็เสียทรงหมดแล้วเพราะมือผู้ใหญ่ ฉันหมายถึงแขกเธอน่ะ” เรนหมั่นไส้กระซิบที่ใบหู แม่ตัวปลอมมองไม่พอใจ เรนพูดต่อ “นี่แหละพอพูดความจริงก็โกรธ” “อะไรกันสองคนนี้กระซิบกระซาบ อยากอยู่กันสองคนก็ไปสิ”
ปัง! เครื่องมือสื่อสารรุ่นใหม่ล่าสุดลงไปกระแทกบนโต๊ะทำงานไม้สีมะฮอกกานีตัวใหญ่ เจ้าของไม่คิดใส่ใจเพราะจัดการสั่งงานด่วนที่ว้าวุ่นในใจไปแล้วแต่อารมณ์ยังไม่พอใจกรรมจึงตกอยู่ที่ของใช้ จังหวะเดียวกันเด็กรับใช้เคาะประตูเดินเข้ามา เสียงเข้มถามออกไป
“ มีอะไร”
“คุณเรนค่ะคุณเดฟมาถึงแล้วค่ะ”
ใบหน้าคมครามหนวดเครายังมีอยู่บนใบหน้า ล้อมกรอบเส้นผมดกหนาสีดำสนิท ชายหนุ่มพยักหน้ารับรู้เดินออกจากห้องลงบันไดสู่ชั้นล่าง ตรงไปยังเก้าอี้ใกล้สระน้ำ สถานที่ประจำซึ่งชอบนั่งคุยกับเพื่อน “เหลือเชื่อว่าจะว่างเว้นจากสาว โทรปุบมาปับเดฟ” เรนทักทาย
“คุณเพื่อนครับดีใจหรือเปล่าวะที่มาเนี้ย” เดฟนอนอยู่บนเตียงริมสระแกล้งตำหนิแต่ไม่ได้หันมองเพื่อนรัก
“จะให้ดูดปากอย่างที่นายชอบทำเวลาทักทายใครต่อใครหรือไงวะจะอ๊วกไอ้เดฟ”
เดฟหัวเราะหันหน้ามา “แหม! พูดเกินไป เฉพาะผู้หญิงนะโว้ยที่ฉันต้องการ นายอย่าแม้จะคิดทำเด็ดขาดและฉันรู้นายไม่ชอบจูบใคร”
“พอ พอ รู้มาก เอาเรื่องที่คุยกันไว้ ว่าไงบ้าง” เจ้าของบ้านเปลี่ยนเรื่องกะทันหันทรุดนั่ง
เรนวานให้เพื่อนติดต่อหาบิดาเพราะไม่อยากทะเลาะกับฝ่ายนั้น ซึ่งคุยกันกี่ครั้งก็ไม่เคยเกินห้านาที หวังว่าคำตอบที่กำลังรอจะไม่ทำให้ใจร้อนรุ่มกว่านี้
“พ่อนายอยู่ที่เกาหลีจริง แน่นอนไม่ใช่หนุ่มๆ ที่ท่านอยู่ด้วย”
อีกแล้วหรือ! แบบนี้เรื่องตามล้างตามเช็ดคงต้องทำต่ออีกหลายปีเป็นแน่ ล่าสุดก็โทรมาให้ไปรับลูกสาวที่คิดว่าอาจเกิดจากผู้หญิงคนหนึ่ง เรนไม่อยากเชื่อตนจะมีน้องนอกไส้อีกคน ตอนอายุใกล้สามสิบห้า ยิ่งคิดยิ่งมึนตึ้บ
“สาวที่อยู่ด้วยอยู่เกาหลีเหนือหรือเปล่า เห็นการติดต่อช่างยากเย็นนัก เลขาฉันโทรไปก็ไม่รับจึงต้องวานนายนี่แหละ” เรนพยายามหาเรื่องขำแม้จะเบื่อเหลือเกิน เดฟเงียบไป “ตลกตาย” เดฟไม่ขำด้วย “ เอ่อ ว่าแต่มีอะไรให้ช่วยมากกว่าล้วงพิกัดพ่อนายหรือเปล่า”
ตนเข้ามาช่วยจัดการเรื่องราวเพื่อน ก็เรื่องเดิมๆ ปัญหาแตกต่างกันนิดหน่อย อย่างห้าเดือนก่อนก็แค่ต้องไปตกลงกับนางแบบอกสะบึ้ม จ่ายเงินไปเพื่อแลกกับคลิปเด็ดของอดีตนักธุรกิจชื่อดังซึ่งตอนนี้อยู่ในวัยหกสิบแต่ใช้ชีวิตเสเพลเรื่อยเปื่อยไม่ต่างหนุ่มน้อย
ถ้าเรื่องเหล่านี้มีสาเหตุมาจากทายาทสุดหล่อของวรวัฒน์ วิวัฒน์วงศ์จะไม่เซ็งเลยแต่ เรน สมุทร วิวัฒน์วงศ์ช่างเคร่งขรึมกับคนแปลกหน้า ปากหรือก็ร้ายมากถ้าไม่พอใจ มีแฟนที่คบหามาเนิ่นนานความเจ้าชู้แน่นอนไม่เคยปรากฏให้เห็นเลยสักเพียงครั้งเดียวเมื่ออยู่ด้วยกัน ข้อหลังเดฟยังสงสัยมีด้วยเหรอมนุษย์ผู้ชายอย่างนี้
“ไปด้วยกันสิ” เรนชักชวนจะได้ไม่ต้องพูดมากถ้าเจอเรื่องไม่คาดฝัน
“สามารถปลีกตัวไปเที่ยวได้ใช่ไหมวะ ถ้าอย่างนั้นก็จะไปด้วย ”
“คิดว่าไปเที่ยวก็ได้ตามใจนายแต่ห้ามพาหญิง”
“กลัวตบะตนเองแตกรึไงพ่อพระ เออได้ แต่คราวนี้ที่ไหนวะ”
“ไม่ไกลหรอกต้องไปพิสูจน์ทายาทวิวัฒน์วงศ์แค่เกาะช้างวะ”
“ตราดเหรอ”
“มีกี่เกาะกันวะไอ้เกาะที่ว่าเนี้ย ไปหาที่ฮอลลีวู๊ดมั้ง”
“เออ เออ กูขำ” เดฟยิ้ม “ว่าแต่เราต้องใช้เวลานานเท่าไหร่กันทำไมนายไม่ส่งนักสืบไปดูลาดเลาก่อนล่ะจะได้ไม่เสียเวลา”
“ตรวจดีเอ็นเอคงไมนานหรอก ส่งธีร์ไปแล้ว แต่ไม่สืบอะไรทั้งนั้นอยากไปดูด้วยตนเอง หากเป็นเรื่องจริง ฉันจะเอาเด็กมาเลี้ยง นายก็ถือว่าไปเที่ยวอย่างที่คิดสิวะ”
“แน่นอนแค่คิดว่าต้องอยู่กับนายตลอดก็เซ็งแล้วหน้างี้บึ้งตลอดเซ็กได้ด้านกันพอดี”
“อย่าเยอะ ขอร้อง มึงเซ็กตายก็ต่อเมื่อมึงตายนั้นแหละ” เรนใช้เท้าข้างหนึ่งเขี่ยขาเดฟ
เดฟเอี้ยวหลบ “ไอ้นี่เล่นตีน เดี๋ยวโดนฟาดหางจระเข้”
เรนหัวเราะ เดฟยิ้มวกเข้าเรื่องเป็นงานเป็นการ “พ่อนายสาวเยอะก็จริงแต่ไม่ค่อยวางไข่ทิ้งไว้นะ คราวนี้มาแปลกมาก”
“เราก็ต้องพิสูจน์ นายก็รู้ถ้าฉันไม่จัดการเกิดทางฝ่ายโน้นเรียกร้องคุณแม่ฉันรู้ท่านอาจจะทรุดหนัก”
คุณหญิงคันธรสคืออดีตภรรยาของวรวัฒน์ที่ยังรักสามีไม่เสื่อมคลายแม้โดนทิ้งไว้กลางทางหลังจากความเสน่หาจืดจาง นางไม่เคยยอมรับเรื่องราวที่บั่นทอนหัวใจได้ ลูกชายต้องคอยปิดข่าวที่เกิดขึ้นเสมอ สาเหตุเพราะกลัวโรคที่รุมเร้าจะทรุดกว่าเดิม
“เข้าใจ ไม่ได้ขี้ลืมแต่ถ้าใช่นายก็คิดจะเอาเด็กมาเลี้ยงนี่น่า ต่อไปจะทำยังไง” สงสัยข้อนี้ขึ้นมา
“ให้ถึงเวลานั้นให้เป็นเรื่องจริงก่อนเถอะ ค่อยคิดกันอีกที”
“ขนมถ้วยอร่อยๆ ของโปรดมาแล้วค่ะคุณหนู คุณเดฟ” ศรีนวลคนรับใช้เก่าแก่เดินเข้ามาพร้อมเด็กรับใช้หนึ่งคน สองหนุ่มหยุดสนทนา
“ผมชานะครับ” เดฟยิ้มให้ป้าศรีนวล
“จำได้ค่ะเหมือนกับคุณหนู”
“น่ารักมากลู่ซี่”
เรนยิ้มให้ศรีนวลก่อนจะใช้ซ้อมจิ้มขนมถ้วยขนาดพอดีคำซึ่งเป็นของโปรดเข้าปาก เดฟเอาบ้าง ปากก็เอ่ยชมคนทำไม่ขาดปาก ศรีนวลเดินยิ้มออกไปปากก็บ่น “ลู่ซี่อะไรก็ไม่รู้คุณหนู เลิกล้อป้าได้แล้ว”
สองหนุ่มหัวเราะก่อนจะลิ้มรสขนมของโปรด พูดคุยตามประสาเพื่อนที่รู้ใจ
ปอร์เช่ สปอร์ตจอดสนิทในย่านชุมชนซึ่งอยู่ไม่ไกลกับชายหาดบ้านพักของวิวัฒน์วงศ์ เรนลดกระจกลง “ที่นี่ใช่ไหมธีร์”
“บ้านเลขที่ตรงตามเจ้านายให้ผมมาครับ” ธีร์จุฬาตรวจสอบมาแล้วตอบเจ้านาย
“ถ้าอย่างนั้นไปเรียกคนในบ้านสิ”
เรนสำรวจชุมชนโดยรอบ แปลกใจมากครั้งนี้ผู้หญิงของบิดามีความเป็นอยู่แตกต่างไปจากครั้งอื่น ที่ผ่านมาไม่ดาราก็นางแบบมากกว่าที่ท่านนิยมชมชอบ เรนเดินลงจากรถ นึกรังเกียจขึ้นมา บิดาอาจจะซื้อบริการโสเภณีตอนมาเที่ยวที่นี่
แบบนี้ชักไม่แน่ใจว่าคนที่มาตามหาจะเป็นสายเลือดวิวัฒน์วงศ์ บางทีการลงมาจัดการด้วยตนเองอาจมาเสียเที่ยว “กดกริ่งสิ” ผลจริงเท็จแค่ไหนจะได้รู้อีกไม่นาน
“ไม่มีครับ” ธีร์บอก
“งั้นนายก็เรียกสิวะ”
ธีร์จุฑาเดินไปชิดรั้วไม้ “สวัสดีครับมีใครอยู่ไหมครับ”
เงียบไม่มีเสียงตอบ
“อีกครั้งสิอาจอยู่ข้างในเลยไม่ได้ยิน” เรนใจร้อน
“สวัสดีครับ มีใครอยู่หรือเปล่า” เสียงเรียกดังกว่าเดิม
“เงียบแบบนี้อาจไม่อยู่” เรนคาดเดา
“ใช่ครับ”
หญิงสาวเดินผ่านสองคนมองเรนสายตาหวาน ซุบซิบบางอย่างกัน คงพอจะรู้ว่าพ่อหนุ่มรูปหล่อมาหาคนบ้านข้างๆ จึงบอกเสียงหวานหยด เท่าที่พอจะรู้ “บ้านนี้เขาไม่อยู่หรอกจ้า…รู้สึกว่าคุณแม่ลูกอ่อนออกไปทำงาน”
“เสียเที่ยวแล้วล่ะธีร์” เรนหงุดหงิดเดินกลับไปที่รถ
“ขอบคุณมากครับ” ธีร์จุฬาขอบคุณสองสาวก่อนเดินตามเจ้านายหนุ่ม
“ผมขอโทษครับ ไม่คิดว่าเธอจะทำงาน ปกติเห็นเลี้ยงลูกอย่างเดียว ส่งอาหารกล่องแค่ตอนเช้าเท่านั้น”
ธีร์จุฬาเดินทางมาก่อนเจ้านาย พูดเรื่องที่เคยรายงานไปแล้ว
“อาจจะเพิ่งไปทำก็ได้” เรนออกความคิด ธีร์จุฬาเปิดประตูรถ
“ลูกสาวเธอคงฝากเลี้ยงครับ”
“นายเห็นหน้าเด็กคนนั้นใกล้แค่ไหน”
“รูปที่ผมถ่ายมาได้ครับ ยังมีอยู่ในมือถือ นายยังไม่ดูรูปเลยผมส่งไปให้แล้ว”
“ยังไม่ดู ใช่”
ธีร์จุฬาหยิบมือถือให้เจ้านาย เรนรับไว้ เปิดดู “ไม่ชัดเลย แต่นั่นไม่สำคัญ เด็กคนนี้ยังเล็กนัก คงต้องตรวจดีเอ็นเออย่างเดียว”
ดูภาพสามสี่รูปซ้ำไปซ้ำมา จนถึงภาพหลังสุด สายตาคมจ้องด้วยความอึ้ง ไม่คิดผู้หญิงที่เรียกร้องให้บิดารับผิดชอบจะดูมอซอขนาดนี้ นี่มันอะไรกัน ข้อมูลถูกต้องจริงๆ หรือเปล่านะ เสื้อยืดกางเกงยีนต์ปอนๆ ที่หล่อนใส่ เรนขมวดคิ้ว!
ประตูบ้านพักเปิดออก เดฟนั่งดูข่าวบันเทิงหันมอง “เจอไหมเพื่อน ว่าที่แม่เลี้ยง สวยปะวะ”
“อย่าทะลึ่ง กำลังร้อน หิว ” เรนทรุดนั่ง ยกแก้วน้ำของเดฟขึ้นดื่มจนหมดแก้ว
“แบบนี้ไม่เจอชัวร์ ถ้าอย่างนั้นดื่มน้ำให้ใจเย็นแล้วค่อยไปหาไรกินกัน ฉันเองก็หิวจนตาลายแล้ว ” เดฟปิดทีวี
“แต่หลังจากคุยกับคุณแม่นะ”
“แสดงว่าไม่ค่อยเครียดแล้ว นายยอมพักกิน” เดฟยิ้ม
“ถ้าอย่างนั้นอย่าให้เสียชื่อนะ ถึงฉันจะมีบ้านพักที่นี่แต่นายมาบ่อยกว่า นางแบบในสังกัดนาย ส่วนใหญ่ชอบมาใส่เศษผ้าเล่นน้ำทะเลกับนายนี่น่า”
เดฟ ออสบอร์น อรัญนิรัตน์ หนุ่มหล่อเลือดผสมไทย สเปน เป็นเจ้าของหนังสือ นิตยสารดารา และธุรกิจอื่นๆ อีกหลายอย่าง สาวๆ ที่ห้อมล้อมเดฟแทบไม่ซ้ำหน้าในแต่ละวัน
“ที่พูดมามึงมีจุดประสงค์แอบแฝงหรือเปล่า หรือว่าจะให้ฉันดูแลเรื่องผู้หญิงให้รึ ไม่อยากจะเชื่อ หรือเบื่อน้ำพริกถ้วยเก่าแล้ว”
“เซ็กขึ้นสมองมากขึ้นทุกวัน ฉันหมายถึงเรื่องอาหารต่างหาก” เรนโวยวาย เดินไปติดต่อหามารดา เดฟยักไหล่กดมือถือหาใครบางคนเพื่อจัดการบางอย่าง
อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ
กัญญายอมมาเป็นผู้หญิงของรอน กวี อลอนโซแทนน้องเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ แม้เธอจะต้องทิ้งรักแรกแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทว่าวันหนึ่งกลับเจอว่าน้องสาวและคนรักเก่ากำลังคบหาจะแต่งงานกัน เธอได้รับรู้ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจถึงความเสียสละของเธอแม้แต่น้อย กัญญารู้สึกโดดเดี่ยว เสียใจเป็นที่สุด และในเวลานั้นรอนก็กำลังจะแต่งงาน ยุติความสัมพันธ์กับเธอ ซ้ำจะยกเธอให้ลูกน้องเขา เธอไม่มีค่ากับใครเลยหรือ?
เขาทิ้งเธอไว้ไปในวันฝนพร่ำเพื่อไปหาคนรักที่รอคอยมาเนิ่นนาน ความฝันที่จะได้เคียงคู่พลันมลายลง เธอเป็นแค่คนผ่านทาง เธอจะไม่ร้องไห้ แต่ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุดแบบนี้เล่า ------------------------ เพราะยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กเลี้ยงของหมอดลทัช เมื่อเขาจะจากไป โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ชลรัมภาจำต้องยอมรับความทุกข์ ความปวดร้าวให้ได้ ทว่าเมื่อต้องเจอหน้าเขาอยู่ร่ำไป เพราะเธอคือเพื่อนรักน้องสาวเขา เธอจะทำตัวเช่นไรดี ให้เขาไม่สมเพช ไม่เห็นน้ำตาที่ไม่มีค่าของเธอ
เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ
เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง
เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"