ฉันเป็น ขวัญชนก วงศ์ษา ตั้งแต่อายุ 1 วัน ถึง อายุ 18 ปี 1 วัน อายุ 18 ปี 2 วัน ฉันเป็น ขวัญชนก ฟง เขาคือ ดีแลน ฟง อายุอานามก็ 30 ปี ชายร่างสูงเมื่อสามปีก่อน ปัจจุบันเขาคือสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ขอย้ำว่าถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น คำโปรย : “ห้าแสน!” “เจ็ดแสน!” เสียงประมูลราคาจากคนด้านล่างเวทีดังแข่งกัน “หนึ่งล้าน” การประมูลยังคงดำเนินกันต่อไปเรื่อยๆ ขวัญชนก สาวน้อยวัยใสวัยย่างสิบเก้าสอดส่ายสายตามองไปยังกลุ่มคนด้านหน้า “หนึ่งล้านสองแสน” เอาสิ! ถ้าเขาไม่มา เธอก็...ขวัญชนกยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ กระตุ้นราคาประมูลจนสูงลิ่วถึงสองล้าน “สองล้านครั้งที่หนึ่ง...” ในมุมมืดชายร่างสูงยกยิ้มมุมปากอีกครั้ง เมื่อเห็นดวงตากลมโตแสดงความหวาดหวั่นในที่สุด “ห้าล้าน!” ก่อนที่ราคาสองล้านจะถูกเคาะครั้งที่สาม เสียงบอกราคาใหม่สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนในงาน แต่กลับสร้างรอยยิ้มให้หญิงสาวบนเวที เธอไม่เคยลืมเสียงของเขา “ชนะแล้ว” ขวัญคิดในใจ “ห้าล้านครั้งที่สาม...ขาย!”
กรุงเทพมหานคร ปี๊ด ปี๊ด บรื้นนนนน เสียงยวดยานบนท้องถนนที่แออัดหนาแน่นไปด้วยยานยนตร์ ชั้นบรรยากาศอบอวลไปด้วยหมอกควันมลพิษ เสียงพูดคุยของผู้คนที่เดินบนทางเท้า สอดประสานไปกับเสียงยานยนตร์ที่จอดนิ่งตามสัญญาณไฟจราจร ทำให้คนที่ได้ยินไม่อาจจับใจความอะไรได้เลย
“คุณฟงครับ นั่นคุณขวัญครับ” ดีแลนที่จดจ่อสายตาอยู่บนหน้าจอไอแพดที่เบาะหลังรถ ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนหลายๆ คันที่ต้องรอสัญญาณไฟจราจร เขาจำต้องละสายตาและมองผ่านกระจกหน้าต่างข้างกาย
หญิงสาวในชุดยูนีฟอร์มนักเรียน เธอเป็นหนึ่งในกลุ่มนักเรียนหลายคนที่เดินคุยหัวเราะต่อกระซิกกันตามประสาวัย ดีแลนทอดสายตามองไปรอบๆ ตอนนี้เป็นเวลาเลิกเรียนของสถาบันศึกษาระดับอุดมศึกษา
“ให้ผมไป...”
“ไม่ต้อง” ดีแลนเข้าใจทันทีว่าคนของเขากำลังจะไปพาขวัญกลับบ้านพร้อมกัน แต่เขาคิดว่าควรให้เวลากับเธอหน่อย เพราะเหลือเวลาอีกหนึ่งอาทิตย์เท่านั้น...ควรให้เวลาช่วงสุดท้ายกับเธอหน่อย
รถยังคงจอดนิ่ง “ขวัญ...ขวัญ” เสียงตะโกนจากด้านนอกที่ใกล้รถของเขามาก จนดีแลนเองก็ได้ยินเสียงเรียกชื่อที่คุ้นเคย
หนุ่มร่างสูงโปร่งตามวัยในชุดยูนีฟอร์มจากสถาบันเดียวกัน เดินกึ่งวิ่งมาจนทัน ที่จะมาเดินเคียงข้างขวัญชนก เมื่อมองภาพนั้นแล้วดีแลนนิ่ง ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมาให้ใครคาดเดาได้
“ข้อสอบเป็นไง” เมฆ เขาเป็นเพื่อนนักเรียนของเธอเอง เพื่อนที่ทำให้เธอหน้าแดง ใจเต้นแรง เมฆเป็นที่หมายปองของนักเรียนหญิงมากมายรวมถึงเธอด้วย
“ก็พอได้” เมฆยิ้มและพยักหน้า เขาก็รู้สึกเช่นเดียวกับขวัญชนก ว่าข้อสอบครั้งนี้ไม่ยากอย่างที่คิด
“พอได้อะไรกันเล่า!!!” แต่เสียงของหญิงสาวอีกคนกลับโต้แย้งขึ้นมา
“ส้ม นี่เธอทำไม่ได้เหรอ” ขวัญชนกหันไปถามเพื่อนสาวต่างวัย
“ฉันไม่ได้เก่งอย่างพวกเธอสองคนนี่! ท่านคิงส์และท่านควีน ข้าพเจ้าขอคารวะ” ท่าทางประกอบคำพูดของส้ม เรียกเสียงเฮฮาหัวเราะของเพื่อนๆ สร้างความครื้นเครงให้กับพวกเขาได้กันอย่างสนุกสนาน และบทสนทนาต่างๆ มากมายของเหล่านักเรียนกลุ่มนั้นยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง แต่พวกเขาพูดอะไรกันต่อนั้นดีแลนไม่อาจล่วงรู้ได้ เพราะสัญญาณไฟได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวและรถที่เขานั่งอยู่ก็เคลื่อนไปข้างหน้าค่อยๆ ห่างออกไปเรื่อยๆ
“มีอะไรเหรอ” เมฆเอ่ยเมื่อจู่ๆ ขวัญชนกก็หยุดเดินและมองย้อนกลับหลัง “ไม่มีอะไร” ขวัญตอบกลับเสียงบางเบาและมอบรอยยิ้มสว่างไสวตามวัยสดใสชวนน่ามองยิ่งนักสำหรับผู้ที่ได้พบเห็น
“ทำไมวันนี้ถึงกลับผิดเวลามากนักละคะ” ป้าภาเอ่ยกับขวัญชนกและรับกระเป๋าเป้มา “ไปค่ะ ให้คุณฟงรอนานแบบนี้ไม่ดีนะคะ”
“ขวัญไม่หิว”
“ไม่ได้นะคะคุณขวัญ...ไปเถอะคะไปล้างไม้ล้างมือเร็วๆ เข้า ไม่หิวก็ต้องไปค่ะ” คำพูดของป้าภาทำให้ใบหน้าหวานคมบู้บี้ตามเคย เธอก็ทำได้แค่นั้น และต้องเร่งฝีเท้าเดินเข้าห้องน้ำที่ใกล้ที่สุดเพื่อล้างไม้ล้างมือ
“คุณฟง” ขวัญชนกเอ่ยขึ้นเหมือนกับทุกครั้ง เป็นแบบนี้มาสามปีแล้ว เขาคนที่นั่งหัวโต๊ะ คือ ดีแลน ฟง สามีตามกฎหมายมาได้หลายวันแล้วของเธอเอง ย้ำนะคะว่าตามกฎหมายเท่านั้น และสรรพนามคำเอ่ยนั่นก็เขาสั่งให้เธอเอ่ยเรียกเขาแบบนั้นมาสามปีแล้ว และเธอต้องเป็นฝ่ายทักทายเขาก่อนด้วยทุกครั้ง เหมือนตอนนี้ไงเล่า
“ขวัญ นั่งสิ” ขวัญนั่งลงที่ประจำของตนด้านขวาของเขา และบนโต๊ะก็มีเพียงการกิน เสียงช้อนกระทบจานบ้าง ไม่มีการตักอาหารให้กัน ไม่มีการพูดคุย สามปีที่อยู่ด้วยกันในบ้านหลังนี้ เธอกับเขาแทบจะนับคำพูดคุยกันได้เลย คำที่เอ่ยมากที่สุดก็คือ คุณฟง และคำว่า ขวัญ
“ทำไมยังไม่ไปทำพาสปอร์ต” เพล้ง! ช้อนในมือหลุดล่วงกระทบจาน
“ขวัญต้องอ่านหนังสือสอบ”
“ได้ พรุ่งนี้จะให้คนไปรับ หลังสอบเสร็จ” ดีแลนไม่ต่อความยาวสาวความยืดและไม่แคร์ท่าทางต่อต้านของเธอ
“ขวัญอิ่มแล้วค่ะ” ขวัญวางช้อนและลุกจากโต๊ะอาหารไปทันที ดีแลนได้แต่มองตามแผ่นหลังที่หายลับไปอย่างรวดเร็ว
ฮืออออ ฮือออ “พ่อนะพ่อ หายไปไหนนะ” ขวัญวิ่งออกมานั่งที่ศาลาเล็กๆ ของสวนรอบบ้าน และย้อนคิดเมื่อสามปีก่อนสาเหตุที่เธอต้องมาอยู่กับศิลาอย่างเขา
ตอนนั้นเธออายุสิบห้าปีเท่านั้น ซึ่งเธอไม่เข้าใจเลยการที่แม่เสียไป พ่อคนที่เธอเคยรู้จักมาตลอดสิบห้าปีกลายเป็นคนอื่นที่เธอไม่รู้จักไปเสียได้
พ่อที่รักครอบครัวจู่ๆ ก็เปลี่ยนไป เพราะเมื่อแม่เสียพ่อของฉันกลับไม่เหมือนพ่อของคนทั่วๆ ไป เช่นตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเลี้ยงครอบครัวต่อไปนั่นก็คือฉันที่เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว หรือ หาแม่เลี้ยงมาให้ก็ได้ สำหรับพ่อหม้ายเมียตายก็น่าจะต้องใช้ชีวิตแบบนี้
แต่พ่อฉัน ไม่ใช่! คนที่ฉันเห็นมาตั้งแต่เกิด ฉันคิดว่าฉันรู้จักพ่อฉันดี แต่แล้วหลังจากที่แม่เสียไปไม่นาน ในวันหนึ่งที่ฉันกลับจากโรงเรียนเจอพ่อนั่งรอพร้อมกระเป๋าหนึ่งใบนั่นมันก็คือกระเป๋าของฉันเอง แล้วพ่อก็ลากฉันขึ้นรถเดินทางกว่าสามชั่วโมง จนมาถึงบ้านหลังใหญ่ในกรุงเทพ
กริ่งงงง พ่อกดกริ่งขณะที่พวกเรารออยู่ ฉันอยู่ในรถแต่พ่อยืนอยู่หน้าประตูใหญ่ พวกคุณคงกำลังสงสัยใช่มั้ยเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ แน่นอนว่าฉันก็ทั้งสงสัยและสับสน ครึ่งชั่วโมงแรกของการเดินทางฉันพยายามถามพ่อตลอดว่าจะไปไหนแล้วพ่อเป็นอะไร นอกจากเสียงเครื่องปรับอากาศในรถแล้ว ฉันก็ได้ยินแค่เสียงลมหายใจของพ่อเท่านั้น สุดท้ายฉันจำต้องยกธงขาวและนั่งเงียบๆ
รวมเรื่องสั้น_เรื่องราวความรัก อ่านเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อ -- เมื่อเขาต้องการ -- มายผู้ที่ไม่เคยปฎิเสธยามเมื่อคุณอาหนุ่มต้องการ ซึ่งเธอไม่ปฎิเสธเขาอยู่แล้ว เพราะไม่รู้จะทำไปทำไม เสแสร้งแกล้งเล่นตัวทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่เหลือความสดใหม่ให้ค้นหาอีกต่อไปแล้ว ทำได้เพียงร่วมมือกับเขาอย่างเร้าร้อนในทุกที่ทุกเวลา ‘เมื่อเขาต้องการ’ -- ชนท้องน้องสาว -- หากน้องสาวที่ผมหวังจะท้องชนกัน กำลังจะมีความรักกับผู้ชายคนอื่น...คุณจะทำอย่างไร? -- ค่าคุ้มครองมาเฟีย -- กานต์ จะว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มก็ได้ ชายหนุ่มวัยขบเผาะก็ไม่ผิด เมื่อเขากลายเป็นค่าตอบแทนชดเชยการล้างแค้น อันแสนเร้าใจ ให้กับ คุณเชอร์รี่ พี่สาวที่มักจะปรากฎตัวในชุดรัดรูปอวดส่วนเว้าส่วนโค้ง ต่อหน้าเขา... เอือก!...เสียงลูกกระเดือกขยับเมื่อกานต์พยายามกลืนน้ำลายไม่ให้ไหลออกมา -- ผู้ชายแพร่พันธุ์ -- “หากภรรยาที่แต่งงานกันมาได้ 5 ปี บอกกับคุณว่า จะให้คุณทำกับผู้หญิงอื่น เพื่อมีลูกให้กับเธอ...คุณจะทำอย่างไร?
...ความรู้สึกที่เธอมีให้กับเขามันหยั่งรากแก้วไปถึงกระดูกทุกมวลในร่างกายเธอแล้ว ถ้าให้เธอถอนมันตอนนี้มันจะต่างอะไรกับการเลาะกระดูกกันเล่า! 🌼 🌼 🌼 ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนไหนที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันมาก่อน มันไม่ใช่พึ่งเกิดขึ้นแต่มันค่อยๆ เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงต่างหาก ความรู้สึกที่เธอมีให้กับเขามันหยั่งรากแก้วไปถึงกระดูกทุกมวลในร่างกายเธอแล้ว ถ้าให้เธอถอนมันตอนนี้มันจะต่างอะไรกับการเลาะกระดูกกันเล่า! ปิ้ง! นั่งอยู่แบบนี้นานแค่ไหนเธอแทบไม่รู้ตัวจนมีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์ ‘พี่จะออกไปข้างนอก อยากได้อะไรอยากกินอะไรส่งข้อความมานะ’ ลำธารมองประโยคที่ปรากฎบนหน้าจอด้วยใบหน้าซีดเผือก ‘...ส่งข้อความมานะ’ ไม่มีช่องโหว่ตรงไหนให้เธอได้มีความหวังเลยว่าเขาจะชวนเธอไปด้วย “พี่หัสพาลำธารไปด้วย” หญิงสาวพร่ำเพ้อเพียงลำพัง แม้ได้ไปแล้วจะต้องเจ็บปวดยามที่ต้องเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แต่ถ้าเธอได้ไปด้วยช่วงกลับเวลาตรงนั้นก็จะเป็นของเธอกับเขาเพียงลำพังสักนิดก็ยังดี แต่เธอก็ได้แต่หลับตาและเอาความต้องการนี้ไปยังความฝัน
พันธะรักวิวาห์จำเป็น [Bond of Love - Wedding] #รุ่งอรุโณทัย เขาเรโนลต์ที่ต้องแต่งงานกับหญิงสาวที่ไม่เคยเห็นหน้าแม้แต่ครั้งเดียวตามคำสั่งพ่อ ซึ่งทำให้เขาต้องเสียทั้งเงินและเสียสถานะโสด เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางที่จะต้องแต่งเมียคนนี้แล้วเอาขึ้นหิ้งบูชาเป็นแน่ พ่อจะจัดหนักให้อย่างไม่แทงกั๊กในทุกๆ ทั้งเรื่องXXXทั้งแสวงหาผลประโยชน์จากเมียที่ได้มาจากวิวาห์จำเป็นคนนี้เท่าทบทวีเงินที่เขาต้องลงทุนจ่ายไปไม่น้อยคืนมาจนครบพร้อมดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่าย... คำโปรย:: … เรโนลต์ เงียบ! เขาประธานผู้มากด้วยอำนาจ เพียบพร้อมไปด้วยรูปร่างหน้าตาที่สามารถขึ้นแท่นสามีแห่งชาติได้อย่างไร้ข้อกังขา ฐานะการเงินแม้ตอนนี้จะเหลือเพียงอสังหาริมทรัพย์กับรถสามคันและเงินเดือนแต่ก็ยังน่าสนใจอยู่ในหมู่สาวๆ และเหล่าไก่วัดที่เต็มใจให้สมภารอย่างเขากัดแทะเล่นเป็นครั้งคราว คนโสดทำอะไรก็ไม่น่าเกลียดไม่ผิด แต่จากคำพูดล่าสุดของคุณพ่อไม่กี่คำ เขาที่เป็นฝ่ายกระดิกนิ้วเรียกสาวๆ กลายมาเป็นคนที่ถูกกระดิกนิ้วเรียกไปแล้วอย่างงั้นเหรอ “เธอเป็นหม่อมเจ้าหรือครับ...ผมหมายถึงว่าที่สะใภ้นะครับ” เขาขยายความเมื่อจู่ๆ เขาเงียบไปนานและเอ่ยขึ้นมาคุณพ่อจึงมุ่นคิ้วไม่เข้าใจในตอนแรก คุณอำพลส่ายหน้า “นางสาวธรรมดา” “เธอเป็นลูกนักการเมืองใหญ่หรือเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของผู้ทรงอิทธิพล” เรโนลต์ยังพยายามต่อ “คุณอำพลส่ายหน้า “กำพร้า” … เรโนลต์ เงียบ! “เป็นผู้มีพระคุณของคุณพ่อ” เรโนลต์ไม่ละความพยายาม “แกดูละครมากไปมั้ย” … เรโนลต์ เงียบ! ======================= SET : Bond Of Love พันธะรักโดยไม่ตั้ง [Bond Of Love - Accidence] พันธะรักวิวาห์จำเป็น [Bond Of Love - Wedding] พันธะรักราคีแค้น [Bond Of Love - Revenge]
“ถอยไปนะ!!!” “ไม่สู้แล้วเหรอ” น้ำใสกำปมผ้าขนหนูไว้แน่น ดวงตากลมจดจ้องเข้าไปในดวงตาสีเทาของเขาเขม็ง แม้ตัวเองจะเสียเปรียบแต่เธอไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ “จะเอายังไง” “นั่นสินะ! ไม่อยากเชื่อเลยว่าอย่างเราสองคนจะมาถึงจุดนี้ได้เหมือนกัน...ใครกันนะที่บอกรักกันได้ทุกเวลา...ไม่อายปากบ้างเหรอ” คำเย้ยหยันที่ถูกพ่นออกมามันไม่ได้แค่ทำร้ายจิตใจคนฟังเพียงฝ่ายเดียว ในทางตรงข้ามคนพูดน่าจะอาการสาหัสยิ่งกว่า “แล้วไง! คุณก็เหมือนของกินมีใครบ้างที่กินของเดิมซ้ำๆกันทุกวัน คำแรกมันก็ชื่นมื่นน่าลิ้มลองเป็นธรรมดา คำที่สองก็ยังน่าพิสมัย แต่คำต่อๆไปใครจะยังกลืนมันลงละในเมื่อรู้รสชาติแล้ว เมื่อถึงเวลาก็ต้องหารสชาติใหม่ๆมาลอง...ใช่มั้ย” แววตาของเอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนไป สีหน้าและแววตาของน้ำใสมันช่างเข้าได้กับคำพูดของเธอเสียจริง นี่เขาเกิดหวั่นไหวใช่เหรอเปล่าว่าเธอคิดอย่างที่พูดจริงๆ ความเบื่อหน่ายอย่างงั้นเหรอ... “ได้!!! ในเมื่อเธอเบื่อรสชาติที่ฉันอุตส่าห์ปรุงแต่งมันเพื่อเธอคนเดียว งั้นลองรสชาติใหม่ก็...แล้ว...กัน!” อร้ายยยย!!! น้ำใสร้องดังลั่นเมื่อเอ็ดเวิร์ดกระชากผ้าขนหนูออกจากการปกป้องเรือนกายเปลือย ควับ!!! แรงเขากับแรงเธอมันเทียบกันไม่ได้หรอก ควับ!!! และอีกผืนที่หลุดล่วงไปคือของเขา สองร่างเปลือยเปล่าแนบชิดกัน เมื่อน้ำใสพยายามจะหนีให้พ้นจากรัศมีไอร้อนของร่างกายเขาที่พวยพุ่งออกมากระทบพื้นผิวเนียนของเธอ
“พามาที่นี่ทำไม” “กินมื้อเช้า” ณิชาเบิกตากว้างมองเขา นี่เขาไปรับเธอมากินมื้อเช้า ดวงตากลมมองนาฬิกาด้านหน้ารถ และหันกลับมามองเขา เขาอยู่ในชุดกึ่งสูท เป็นทางการมาก โอ้! นี่เขาอายุเท่าไหร่กัน ปกติเขาตื่นกี่โมงกัน เพราะตอนนี้พึ่งจะเจ็ดโมงเช้า “ปกติคุณตื่นกี่โมง” “ตีห้าเป็นประจำทุกวัน” “ทุกวันเลยเหรอ” ภีมะพยักหน้า “แล้วนอนกี่โมง” “ก็แล้วแต่...อยากรู้ไปทำไม” “สงสัยบ้างไม่ได้เหรอ...” พวกเขาแปลกหรือเปล่านะ พี่เหนือก็เป็นคนตื่นเช้าเช่นกัน “คุณออกกำลังตอนเช้าทุกวันเลยใช่มั้ยคะ” ภีมะพยักหน้าอีกครั้ง “คนในตระกูลเราไม่สอนให้ลูกหลานนอนตื่นสาย...แต่สะใภ้อย่างเธอฉันจะให้เวลาค่อยๆปรับตัว”
หมับ! สุ่ยถิงตกใจเพราะเธอกำลังสนใจลังบรรจุหนังสือมากมายก่ายกองอยู่ แต่จู่ๆต้าเซียนก็จับไหล่เธอทั้งสองข้างและดึงเธอเข้าไปกอดแนบอกอุ่นๆเขาไว้ เธอยังไม่ชินกับการกระทำแบบนี้ของเขาจึงไม่รู้ว่าจะต้องตอบสนองกลับไปแบบไหนดี เธอจึงยืนนิ่งๆ แม้แต่จะหายใจเธอยังต้องคิดดูก่อนว่าควรหายใจดีมั้ย “ถ้าพี่อยากกอดเธอแบบนี้ทุกวัน วันละหลายๆครั้ง ครั้งละนานๆ พี่จะกลายเป็นฆาตกรฆ่าเธอทางอ้อมหรือเปล่านะ” “พี่พูดอะไรนะ” สุ่ยถิงนิ่งเงียบอยู่นานก่อนเอ่ยถามออกไป “จะกลั้นหายใจทำไม พี่แค่กอดไม่ได้พาเธอไปดำน้ำเสียหน่อย” ^//^ ควรบอกเขามั้ยว่า หัวใจเธอเต้นแรงเกินรับได้เสียแล้ว ห่างกันไปเจ็ดวันเท่านั้น ทำไมต้าเทียนเซียนคนเคร่งขรึมถึงได้หายไปอย่างเรียกกลับมาไม่ได้เสียแล้ว
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!