“ถอยไปนะ!!!” “ไม่สู้แล้วเหรอ” น้ำใสกำปมผ้าขนหนูไว้แน่น ดวงตากลมจดจ้องเข้าไปในดวงตาสีเทาของเขาเขม็ง แม้ตัวเองจะเสียเปรียบแต่เธอไม่มีทางยอมแพ้ง่ายๆ “จะเอายังไง” “นั่นสินะ! ไม่อยากเชื่อเลยว่าอย่างเราสองคนจะมาถึงจุดนี้ได้เหมือนกัน...ใครกันนะที่บอกรักกันได้ทุกเวลา...ไม่อายปากบ้างเหรอ” คำเย้ยหยันที่ถูกพ่นออกมามันไม่ได้แค่ทำร้ายจิตใจคนฟังเพียงฝ่ายเดียว ในทางตรงข้ามคนพูดน่าจะอาการสาหัสยิ่งกว่า “แล้วไง! คุณก็เหมือนของกินมีใครบ้างที่กินของเดิมซ้ำๆกันทุกวัน คำแรกมันก็ชื่นมื่นน่าลิ้มลองเป็นธรรมดา คำที่สองก็ยังน่าพิสมัย แต่คำต่อๆไปใครจะยังกลืนมันลงละในเมื่อรู้รสชาติแล้ว เมื่อถึงเวลาก็ต้องหารสชาติใหม่ๆมาลอง...ใช่มั้ย” แววตาของเอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนไป สีหน้าและแววตาของน้ำใสมันช่างเข้าได้กับคำพูดของเธอเสียจริง นี่เขาเกิดหวั่นไหวใช่เหรอเปล่าว่าเธอคิดอย่างที่พูดจริงๆ ความเบื่อหน่ายอย่างงั้นเหรอ... “ได้!!! ในเมื่อเธอเบื่อรสชาติที่ฉันอุตส่าห์ปรุงแต่งมันเพื่อเธอคนเดียว งั้นลองรสชาติใหม่ก็...แล้ว...กัน!” อร้ายยยย!!! น้ำใสร้องดังลั่นเมื่อเอ็ดเวิร์ดกระชากผ้าขนหนูออกจากการปกป้องเรือนกายเปลือย ควับ!!! แรงเขากับแรงเธอมันเทียบกันไม่ได้หรอก ควับ!!! และอีกผืนที่หลุดล่วงไปคือของเขา สองร่างเปลือยเปล่าแนบชิดกัน เมื่อน้ำใสพยายามจะหนีให้พ้นจากรัศมีไอร้อนของร่างกายเขาที่พวยพุ่งออกมากระทบพื้นผิวเนียนของเธอ
“วายร้าย!” อาร์เชอร์ย้ำคำของคู่หูที่พึ่งจะเอ่ยเพื่อกล่าวหาใส่ร้าย ตัวเขาเองและเหล่าพรรคพวกเดียวกัน
“ใช่!” เจเนต ย้ำสิ่งที่เธอคิดและรู้สึก จะไม่ให้เธอคิดแบบนี้ได้ไง ก็ในเมื่อตอนนี้พวกเธอสองคนมานั่งอยู่ในผับดังที่ต้องเป็นสมาชิกเท่านั้นถึงจะเข้ามาได้ ถ้าพวกเธอมาเที่ยวตามประสาก็ไม่แปลก แต่นี้พวกเธอนั่งมานานเกือบสองชั่วโมงในขณะคนที่นี่ถ้าไม่ไปแด้นซ์ก็ดื่มครื้นเครงอย่างสนุกสนาน แต่พวกเธอสองคนจะดื่มก็ได้อยู่ แต่ต้องน้อยๆ ห้ามเมาสติต้องอยู่ครบ เพราะพวกเธอต้องคอยเฝ้าจับตามองใครคนหนึ่งที่ไม่รู้ว่าจะมาเหรอเปล่า เจเนตแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเบื่องานแบบนี้ งานสุ่มจับตา
“ฉันไม่อยากจะคิดเลยว่าทำไมคนแบบเธอท่านอดัมถึงส่งมาทำงานนี้ได้ ความอดทนต่ำอย่างร้ายกาจ” เจเนต จ้องมองอาร์เชอร์ด้วยความไม่พอใจ
“ใช่ นั่นแหละฉัน ตอนนี้ฉันก็เริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมท่านอดัมถึงส่งฉันมาทำงานแบบนี้ ทั้งๆที่ฉันมันความอดทนต่ำ และแถมให้มีคู่หูเป็นครั้งแรกด้วยทั้งๆที่ท่านก็ทราบดีว่าฉันชอบฉายเดี่ยว” อาร์เชอร์ยิ้มมุมปากเข้าใจโดยทันที เพราะเขารู้แล้วว่าทำไมเจเนตถึงถูกส่งมาทำงานนี้ ‘ความอดทนต่ำ’
อาร์เชอร์ไม่ต่อคำกับเจเนต สายตามองไปที่ทางเข้าที่มีชายร่างสูงสวมเสื้อแจ็คเกตหนังสีดำกำลังเดินเข้ามาและเดินเลยพวกเขาไป อาร์เชอร์ไม่ได้มองตาม แต่รับรู้ได้ว่าชายคนนั้นนั่งห่างจากโต๊ะของพวกเขาอยู่มาก น่าจะติดผนังเลยก็ว่าได้ในมุมอับสายตา
“ไปเต้นรำกันเถอะ”
! เจเนตตกใจเล็กน้อยปนไม่เข้าใจ เต้นรำก็พอเข้าใจว่าตอนนี้ดนตรีเปลี่ยนเป็นเพลงช้าแล้วแต่ทำไมจู่ๆ ถึงต้องเต้นด้วย แต่เจเนตไม่มีโอกาสปฎิเสธ เมื่อถูกคู่หูดึงแขนเธอให้ไปที่ฟลอร์เต้นรำ พร้อมกับเอวบางของเธอก็ถูกรั้งเข้าแนบร่างกำยำของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ และเขาก็พูดต่อ...
“เราสองคนมานั่งนานสองชั่วโมงแล้ว ถ้าไม่ทำอย่างอื่นบ้าง คนจะสงสัย และผับนี้เจ้าของเป็นผู้ทรงอิทธิพล จบไม่สวยแน่ถ้ามีใครสังเกตเห็นว่าเรามาคอยและจับตาใครอยู่...”
“อ่อ…” เจเนตเคลื่อนไหวไปตามการนำของอาร์เชอร์ หญิงสาวร่างบอบบางสูงโปร่งแต่อย่างไรแล้วเธอก็สูงแค่คางของอาร์เชอร์เองเท่านั้น เกือบสัปดาห์แล้วที่เธอยังไม่มีโอกาสได้เจอเจ้านายคนใหม่ของเธอเลย ท่านอดัมส่งเธอมาเพื่อมาช่วยงานบุตรชายคนโตของท่านอดัมท่านว่าอย่างงั้น ‘เอ็ดเวิร์ด’ แต่เธอไม่เคยเห็นตัวจริงเลย เคยเห็นรูปถ่ายและเคยได้ยินแต่เสียงเล่าลือว่าเขาไม่ธรรมดาว่าเจ้านายใหม่คนนี้เพียงคนเดียวและใช้เวลาไม่นานสามารถแฝงตัวเข้าไปยังตัวหลักของแก็งค้ามนุษย์และเข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่จัดการกับแก็งนี้จนพวกมันล้มหายตายจากกันไม่น้อยและหนีกระจัดกระจายไปจนขบวนการ ค้ามนุษย์แก็งนี้ล่มสลายไปเลยจะว่าแบบนั้นก็ได้
เจเนตพึ่งเข้ามาทำงานกับท่านอดัมหลังจากที่บุตรสาวและบุตรชายคนเล็กของท่านอดัมแต่งงานกันแล้ว แต่ที่เธอไม่เข้าใจก็คือทำไม ท่านโนอาห์ถึงเป็นทายาทที่จะรับตำแหน่งต่อจากท่านอดัม ในเมื่อท่านอดัมมีบุตรคนโตที่เก่งกล้าสามารถนักตามคำเล่าลือเสียงเล่าอ้าง แต่เขาหายไปไหนนะ...
“ทำไมเราสองคนถึงมีบัตรเข้ามาได้ ถ้าเจ้าของที่นี่ไม่ธรรมดา” เจเนตถามตามที่สงสัย แม้จะรู้อยู่แล้วว่ามาเฟียตระกูลนี้ไม่ธรรมดา อะไรที่คิดว่าไม่ได้ ไม่มีทาง คนตระกูลนี้ทำได้หมด โดยที่ไม่ต้องเบียดเบียนใครเลย เธอที่พึ่งเข้ามาเป็นสมาชิกยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นมาเฟียทรงคุณธรรมที่สูงส่งไปเสียแล้ว
“แน่นอน บัตรปลอม” เจเนตจ้องตากลับของอาร์เชอร์ ‘บัตรปลอม’
“บัตรปลอมที่ทำให้เราอยู่ในนี้ได้นานถึงขนาดนี้ นายอำ!ฉันเล่นแล้วละ”
“ถ้าเธอรู้จักท่านโนอาห์ จะไม่พูดแบบนี้” อาร์เชอร์กล่าวสั้นๆ พร้อมยิ้มอย่างมั่นใจ
“ท่านโนอาห์ บุตรชายคนเล็กของท่านอดัม ฉันเคยเห็นอยู่สองสามครั้ง ดูไม่เหมือนท่านอดัมสักเท่าไหร่” เจเนตย้อนคิดชายหนุ่มหน้าตาผิวพรรณใสปิ๊งไปทั้งตัว ‘มาเฟียหน้าใส’ แม้ท่านโนอาห์จะตัวสูงใหญ่และเรือนร่างกำยำ แต่ใบหน้าและดวงตากลับดูอ่อนหวานและบ่งบอกถึงความใจดีมาก แตกต่างกับท่านอดัมผู้เป็นพ่อลิบลับเจ้านายสายตรงของเธอ
“ก็แค่รูปลักษณ์ภายนอก เอาเถอะ! อย่างไรเสียฉันก็ขอเตือนไว้ว่า อย่าให้รูปลักษณ์ภายนอกมาทำให้เราประมาท” อาร์เชอร์เคยติดตามนายน้อยของตระกูลนี้มาช่วงหนึ่ง ตอนนั้นเขาได้เข้าร่วมจัดการขบวนการค้ายาแม้ไม่ใช่แก็งใหญ่ แต่ดีทรอยต์ไม่ใช่เมืองที่จะน่าเข้าไปเยี่ยงกรายนัก แต่เนื่องจากคนของเราถูกกักขังไว้ ท่านอดัมจึงมอบหมายให้ท่านโนอาห์ไปจัดการเรื่องนี้ การเข้าเมืองดีทรอยต์ด้วยจำนวนคนเพียงไม่กี่คนไม่ค่อยมีใครทำกัน แต่ตัวเขาก็เป็นหนึ่งในไม่กี่คน แน่นอนว่ามีการปะทะทั้งอาวุธปืน มีด แลกหมัดกับฝั่งตรงข้าม แต่ทุกอย่างอยู่ภายใต้การนำของท่านโนอาห์ ซึ่งพวกเขาแม้จะบาดเจ็บบ้างแต่ก็เล็กๆน้อยๆ และสามารถช่วยคนของเราออกมาได้ทั้งหมด แต่ท่าน โนอาห์แค่มีเหงื่อออกเล็กน้อยโดยที่ไม่มีใครที่จะสามารถทำให้ท่านโนอาห์บาดเจ็บได้เลย ตอนแรกเขาแปลกใจคิดว่าท่านโนอาห์หลบซ่อนตัวเก่ง แต่ตอนที่เกิดการจู่โจมแบบกะทันหันตอนนั้นเขาได้เห็นศิลปะการต่อสู้ด้วยมือและอาวุธของท่านโนอาห์ เขาจึงยอมศิโรราบและยอมรับอย่างสนิทใจเลย ซึ่งการฆ่าด้วยมือเปล่าของท่านโนอาห์ช่างทรงพลังเหมือนกับท่านอดัมมาก แล้วแบบนี้ใครที่เห็นอย่างเขา คงไม่คิดว่าสองพ่อลูกนี้แตกต่างกันแน่นอน
รวมเรื่องสั้น_เรื่องราวความรัก อ่านเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อ -- เมื่อเขาต้องการ -- มายผู้ที่ไม่เคยปฎิเสธยามเมื่อคุณอาหนุ่มต้องการ ซึ่งเธอไม่ปฎิเสธเขาอยู่แล้ว เพราะไม่รู้จะทำไปทำไม เสแสร้งแกล้งเล่นตัวทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่เหลือความสดใหม่ให้ค้นหาอีกต่อไปแล้ว ทำได้เพียงร่วมมือกับเขาอย่างเร้าร้อนในทุกที่ทุกเวลา ‘เมื่อเขาต้องการ’ -- ชนท้องน้องสาว -- หากน้องสาวที่ผมหวังจะท้องชนกัน กำลังจะมีความรักกับผู้ชายคนอื่น...คุณจะทำอย่างไร? -- ค่าคุ้มครองมาเฟีย -- กานต์ จะว่าเขาเป็นเด็กหนุ่มก็ได้ ชายหนุ่มวัยขบเผาะก็ไม่ผิด เมื่อเขากลายเป็นค่าตอบแทนชดเชยการล้างแค้น อันแสนเร้าใจ ให้กับ คุณเชอร์รี่ พี่สาวที่มักจะปรากฎตัวในชุดรัดรูปอวดส่วนเว้าส่วนโค้ง ต่อหน้าเขา... เอือก!...เสียงลูกกระเดือกขยับเมื่อกานต์พยายามกลืนน้ำลายไม่ให้ไหลออกมา -- ผู้ชายแพร่พันธุ์ -- “หากภรรยาที่แต่งงานกันมาได้ 5 ปี บอกกับคุณว่า จะให้คุณทำกับผู้หญิงอื่น เพื่อมีลูกให้กับเธอ...คุณจะทำอย่างไร?
...ความรู้สึกที่เธอมีให้กับเขามันหยั่งรากแก้วไปถึงกระดูกทุกมวลในร่างกายเธอแล้ว ถ้าให้เธอถอนมันตอนนี้มันจะต่างอะไรกับการเลาะกระดูกกันเล่า! 🌼 🌼 🌼 ตั้งแต่เล็กจนโตเธอไม่เคยใกล้ชิดผู้ชายคนไหนที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันมาก่อน มันไม่ใช่พึ่งเกิดขึ้นแต่มันค่อยๆ เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงต่างหาก ความรู้สึกที่เธอมีให้กับเขามันหยั่งรากแก้วไปถึงกระดูกทุกมวลในร่างกายเธอแล้ว ถ้าให้เธอถอนมันตอนนี้มันจะต่างอะไรกับการเลาะกระดูกกันเล่า! ปิ้ง! นั่งอยู่แบบนี้นานแค่ไหนเธอแทบไม่รู้ตัวจนมีข้อความเข้ามาในโทรศัพท์ ‘พี่จะออกไปข้างนอก อยากได้อะไรอยากกินอะไรส่งข้อความมานะ’ ลำธารมองประโยคที่ปรากฎบนหน้าจอด้วยใบหน้าซีดเผือก ‘...ส่งข้อความมานะ’ ไม่มีช่องโหว่ตรงไหนให้เธอได้มีความหวังเลยว่าเขาจะชวนเธอไปด้วย “พี่หัสพาลำธารไปด้วย” หญิงสาวพร่ำเพ้อเพียงลำพัง แม้ได้ไปแล้วจะต้องเจ็บปวดยามที่ต้องเห็นเขาอยู่กับผู้หญิงคนนั้น แต่ถ้าเธอได้ไปด้วยช่วงกลับเวลาตรงนั้นก็จะเป็นของเธอกับเขาเพียงลำพังสักนิดก็ยังดี แต่เธอก็ได้แต่หลับตาและเอาความต้องการนี้ไปยังความฝัน
พันธะรักวิวาห์จำเป็น [Bond of Love - Wedding] #รุ่งอรุโณทัย เขาเรโนลต์ที่ต้องแต่งงานกับหญิงสาวที่ไม่เคยเห็นหน้าแม้แต่ครั้งเดียวตามคำสั่งพ่อ ซึ่งทำให้เขาต้องเสียทั้งเงินและเสียสถานะโสด เพราะฉะนั้นเขาไม่มีทางที่จะต้องแต่งเมียคนนี้แล้วเอาขึ้นหิ้งบูชาเป็นแน่ พ่อจะจัดหนักให้อย่างไม่แทงกั๊กในทุกๆ ทั้งเรื่องXXXทั้งแสวงหาผลประโยชน์จากเมียที่ได้มาจากวิวาห์จำเป็นคนนี้เท่าทบทวีเงินที่เขาต้องลงทุนจ่ายไปไม่น้อยคืนมาจนครบพร้อมดอกเบี้ยรับและดอกเบี้ยจ่าย... คำโปรย:: … เรโนลต์ เงียบ! เขาประธานผู้มากด้วยอำนาจ เพียบพร้อมไปด้วยรูปร่างหน้าตาที่สามารถขึ้นแท่นสามีแห่งชาติได้อย่างไร้ข้อกังขา ฐานะการเงินแม้ตอนนี้จะเหลือเพียงอสังหาริมทรัพย์กับรถสามคันและเงินเดือนแต่ก็ยังน่าสนใจอยู่ในหมู่สาวๆ และเหล่าไก่วัดที่เต็มใจให้สมภารอย่างเขากัดแทะเล่นเป็นครั้งคราว คนโสดทำอะไรก็ไม่น่าเกลียดไม่ผิด แต่จากคำพูดล่าสุดของคุณพ่อไม่กี่คำ เขาที่เป็นฝ่ายกระดิกนิ้วเรียกสาวๆ กลายมาเป็นคนที่ถูกกระดิกนิ้วเรียกไปแล้วอย่างงั้นเหรอ “เธอเป็นหม่อมเจ้าหรือครับ...ผมหมายถึงว่าที่สะใภ้นะครับ” เขาขยายความเมื่อจู่ๆ เขาเงียบไปนานและเอ่ยขึ้นมาคุณพ่อจึงมุ่นคิ้วไม่เข้าใจในตอนแรก คุณอำพลส่ายหน้า “นางสาวธรรมดา” “เธอเป็นลูกนักการเมืองใหญ่หรือเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของผู้ทรงอิทธิพล” เรโนลต์ยังพยายามต่อ “คุณอำพลส่ายหน้า “กำพร้า” … เรโนลต์ เงียบ! “เป็นผู้มีพระคุณของคุณพ่อ” เรโนลต์ไม่ละความพยายาม “แกดูละครมากไปมั้ย” … เรโนลต์ เงียบ! ======================= SET : Bond Of Love พันธะรักโดยไม่ตั้ง [Bond Of Love - Accidence] พันธะรักวิวาห์จำเป็น [Bond Of Love - Wedding] พันธะรักราคีแค้น [Bond Of Love - Revenge]
“พามาที่นี่ทำไม” “กินมื้อเช้า” ณิชาเบิกตากว้างมองเขา นี่เขาไปรับเธอมากินมื้อเช้า ดวงตากลมมองนาฬิกาด้านหน้ารถ และหันกลับมามองเขา เขาอยู่ในชุดกึ่งสูท เป็นทางการมาก โอ้! นี่เขาอายุเท่าไหร่กัน ปกติเขาตื่นกี่โมงกัน เพราะตอนนี้พึ่งจะเจ็ดโมงเช้า “ปกติคุณตื่นกี่โมง” “ตีห้าเป็นประจำทุกวัน” “ทุกวันเลยเหรอ” ภีมะพยักหน้า “แล้วนอนกี่โมง” “ก็แล้วแต่...อยากรู้ไปทำไม” “สงสัยบ้างไม่ได้เหรอ...” พวกเขาแปลกหรือเปล่านะ พี่เหนือก็เป็นคนตื่นเช้าเช่นกัน “คุณออกกำลังตอนเช้าทุกวันเลยใช่มั้ยคะ” ภีมะพยักหน้าอีกครั้ง “คนในตระกูลเราไม่สอนให้ลูกหลานนอนตื่นสาย...แต่สะใภ้อย่างเธอฉันจะให้เวลาค่อยๆปรับตัว”
ฉันเป็น ขวัญชนก วงศ์ษา ตั้งแต่อายุ 1 วัน ถึง อายุ 18 ปี 1 วัน อายุ 18 ปี 2 วัน ฉันเป็น ขวัญชนก ฟง เขาคือ ดีแลน ฟง อายุอานามก็ 30 ปี ชายร่างสูงเมื่อสามปีก่อน ปัจจุบันเขาคือสามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย ขอย้ำว่าถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น คำโปรย : “ห้าแสน!” “เจ็ดแสน!” เสียงประมูลราคาจากคนด้านล่างเวทีดังแข่งกัน “หนึ่งล้าน” การประมูลยังคงดำเนินกันต่อไปเรื่อยๆ ขวัญชนก สาวน้อยวัยใสวัยย่างสิบเก้าสอดส่ายสายตามองไปยังกลุ่มคนด้านหน้า “หนึ่งล้านสองแสน” เอาสิ! ถ้าเขาไม่มา เธอก็...ขวัญชนกยิ้มหวานหว่านเสน่ห์ กระตุ้นราคาประมูลจนสูงลิ่วถึงสองล้าน “สองล้านครั้งที่หนึ่ง...” ในมุมมืดชายร่างสูงยกยิ้มมุมปากอีกครั้ง เมื่อเห็นดวงตากลมโตแสดงความหวาดหวั่นในที่สุด “ห้าล้าน!” ก่อนที่ราคาสองล้านจะถูกเคาะครั้งที่สาม เสียงบอกราคาใหม่สร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนในงาน แต่กลับสร้างรอยยิ้มให้หญิงสาวบนเวที เธอไม่เคยลืมเสียงของเขา “ชนะแล้ว” ขวัญคิดในใจ “ห้าล้านครั้งที่สาม...ขาย!”
หมับ! สุ่ยถิงตกใจเพราะเธอกำลังสนใจลังบรรจุหนังสือมากมายก่ายกองอยู่ แต่จู่ๆต้าเซียนก็จับไหล่เธอทั้งสองข้างและดึงเธอเข้าไปกอดแนบอกอุ่นๆเขาไว้ เธอยังไม่ชินกับการกระทำแบบนี้ของเขาจึงไม่รู้ว่าจะต้องตอบสนองกลับไปแบบไหนดี เธอจึงยืนนิ่งๆ แม้แต่จะหายใจเธอยังต้องคิดดูก่อนว่าควรหายใจดีมั้ย “ถ้าพี่อยากกอดเธอแบบนี้ทุกวัน วันละหลายๆครั้ง ครั้งละนานๆ พี่จะกลายเป็นฆาตกรฆ่าเธอทางอ้อมหรือเปล่านะ” “พี่พูดอะไรนะ” สุ่ยถิงนิ่งเงียบอยู่นานก่อนเอ่ยถามออกไป “จะกลั้นหายใจทำไม พี่แค่กอดไม่ได้พาเธอไปดำน้ำเสียหน่อย” ^//^ ควรบอกเขามั้ยว่า หัวใจเธอเต้นแรงเกินรับได้เสียแล้ว ห่างกันไปเจ็ดวันเท่านั้น ทำไมต้าเทียนเซียนคนเคร่งขรึมถึงได้หายไปอย่างเรียกกลับมาไม่ได้เสียแล้ว
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"