เธอจะทำอย่างไรเมื่อหัวใจแบ่งเป็นสองภาค จะอภัยเขาดีไหมที่เคยใจร้าย เอาเปรียบ ทำร้ายให้เธอร้องไห้หลายต่อหลายครั้ง หลอกลวงว่าเธอเป็นคู่หม้ันทั้งที่เขามีคนในหัวใจอยู่แล้ว
ผ่องรำไพลงจากรถเมล์ หญิงสาวเดินใจลอยใบหน้าซึ่งแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางพองามเศร้าสร้อย เพราะใจคิดถึงพ่อที่กำลังป่วยหนัก ก่อนออกมาจากโรงพยาบาลพ่อนอนหน้าซีดคิดแล้วก็น้ำตาซึม ยกข้อมือปาดน้ำตาที่ไหลก็เห็นเวลาบนนาฬิกาที่ข้อมือ เกือบถึงเวลาที่นัดเจ้านายคนใหม่ไว้ก็เดินแกมวิ่งไปยังคอนโดหรูซึ่งอยู่ข้างหน้า ปาดเหงื่อที่ใบหน้าออกเมื่อถึงหน้าประตู ทาบมือที่หน้าอกครู่เดียว เดินตรงไปยังลิฟต์
ก๊อก ก๊อก ก๊อก ประตูเพ้นท์เฮาส์หรูย่านธุรกิจของรองประธานบริษัท ศิววงศ์ษา เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ถูกเปิดออกเบาๆ คีย์การ์ดที่ได้มาแบบงงๆ นั้นหญิงสาวเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อสูท รูปร่างทรงนาฬิกาทรายในชุดเรียบร้อยก้าวเข้าห้องกว้างขวางช้าๆ สูดลมหายใจลึกๆให้กำลังใจตนเอง
เวทิศ ศิววงศ์ อายุ 32 ปี สูง187 หน้าตาหล่อเหลาแบบลูกครึ่งเพราะเลือดมารดานั้นเป็นลูกผสม ไทย-ออสเตรีย -จีน
ลูกชายคนเดียวของเจ้าของค่ายละครชื่อดัง นิตยสารหลายปก เจ้าของธุรกิจโรงแรม รีสอร์ทห้าดาวทั่วฟ้าเมืองไทย ชายหนุ่มมีดาราสาวสวยคู่ควงไม่ซ้ำหน้า โดยไม่ต้องเข้าหาพวกเธอทั้งหลาย เขามีพร้อมทั้งรูปสมบัติทรัพย์สมบัติ ชวนให้หลงใหลก็จริงแต่ชื่อเสียงดังกระฉ่อนในทางเสียหายเป็นการดีที่เธอคิดป้องกันสายตาตนไว้ก่อน เพราะมาที่นี่อาจเจอหนังสดกำลังแสดงอยู่ก็เป็นได้
สนใจเวทิศ ศิววงษ์ แอบมองเขาเหมือนได้ดูดาราทั่วๆ ไปดีอยู่แล้ว หญิงสาวเตือนตนเอง ฉากรักดุเดือดเกิดขึ้นเสมอในห้องนี้ แม้ฟังคนอื่นมาอีกทีก็ตามแต่เธอก็เชื่อว่ามันคือเรื่องจริง
ไปไหนนะ? เดินหลายก้าวสายตาเรียวเล็กมองหาเจ้าของห้อง พบเจอแต่เฟอร์นิเจอร์หรูหรา การตกแต่งห้องแสนเลิศหรู เพลิดเพลินสายตาจนเผลอเดินลูบๆ คลำๆ ผ่านไปหลายนาทีไม่เห็นใบหน้าครึมหนวดเครา ดวงตาสีสนิม รูปร่างสูงใหญ่ กล้ามโตที่สะกดสายตาตนเองได้เสมอ ผ่องรำไพก็ชะโงกเข้าไปด้านใน ไม่เห็นวี่แววอีกก็ชักโล่งใจที่ยังไม่ต้องพบเจ้านายโดยตรงคนใหม่ในวันนี้
บางทีอาจพาสาวไปออกศึก เฮ้ย ออกเดท ที่อื่นก็ได้ เลขาสาวผิวสีน้ำผึ้งหลับตาพ่นลมหายใจโล่งอก
“เป็นอะไร จะเป็นลมรึไง” เสียงทุ้มดังข้างหลัง
“คุณเวทิศ…อยู่เหรอค่ะ ขอโทษคะคิดว่าไม่อยู่” หญิงสาวตกใจหันหน้าไปมอง
“ ก็นี่ใช่ฉันไหมล่ะ เห็นเป็นคุณพ่อหรือไง หน้าตาฉันหล่อ หนุ่ม กว่าตั้งเยอะ” เจ้านายคนใหม่ตอบเสียงราบเรียบ นิ้วมือเรียวลูบคางบึกบึน ผ่องรำไพจ้องดวงตาสีสนิมไม่กระพริบ หน้าตาพลันแดงก่ำเห็นร่างใหญ่อยู่ชุดเสื้อคลุม โชว์หน้าอกกว้างไรขนสีน้ำตาล เธอเมินไปด้านอื่นเสีย
“เป็นเลขาคุณพ่อมาเกือบปีเป็นไงบ้าง “
เวทิศสำรวจร่างอ้อนแอ้น แต่งตัวค่อนข้างเชย… ทว่าการแต่งตัวถูกมองผ่านเพราะทรวดทรงเจ้าหล่อน แบบนี้นี่เองคุณพ่อถึงหวงนักหนา คุณแม่ถึงลมจับเกือบทุกวัน
นมโตยังกับหนังการ์ตูนโป๊ญี่ปุ่น ก้นงอนน่าตีชะมัดถึงร่างจะผอม
“มีอะไรหรือคะ” ผ่องรำไพจ้องใบหน้าคมคาย แม้จะรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองเลย แต่อยากรู้ทำไมเขาต้องถามแบบนี้ ฟังทะแม่งหูจังเลย
เวทิศยักไหล่ ปล่อยมือข้างหนึ่งมาจับชุดโซฟาหลุยวิกตองค์ สายตาคมกริบยังอยู่ที่เดิม “ แค่อยากรู้เธอสมัครใจมาเป็นเลขาฉันหรือเปล่า เพราะตำแหน่งเลขาประธานใหญ่เงินเดือนดีกว่าเลขารองประธานอย่างฉัน”
ผ่องรำไพมองตามเจ้าของห้องที่เดินไปทรุดนั่งไขว้ขารอคำตอบ
“แต่ที่ดิฉันทราบท่านบอกว่าจะจ่ายเงินดิฉันด้วยอัตราเดิมนะคะ” ผ่องรำไพพยายามไม่มองเรียวขายาวที่โผล่พ้นเสื้อคลุม หญิงสาวบอกรายละเอียดที่เป็นประโยชน์ของตนแล้วลดเสียงเมื่อรู้ว่าดูน่าเกลียดเมื่อพูดเรื่องเงินก็น้ำเสียงเปลี่ยนไป แต่เรื่องจะยอมลดเงินเดือนคงเป็นไปไม่ได้ ค่าใช้จ่ายเธอแต่ละเดือนแทบไม่เหลืออยู่แล้ว
“ออ เหรอ” ร่างสูงของเวทิศลุกขึ้น ลูบผมสีน้ำตาลอมดำที่ปรกหน้าด้วยความเคยชิน ดวงตาวาววับฉายรังสีบางอย่างออกมาแวบเดียว เดินเข้าใกล้ร่างเล็ก ผ่องรำไพถอยห่าง
“หนีทำไมดูจากสีหน้า คำพูดที่ออกจากปากแสดงว่าต้องการเงินมาก… ถ้าต้องการ ก็ดูแลฉันให้ดี ให้ดีกว่าที่ดูแลคุณพ่อสิคุณเลขาคนเก่ง”
มือใหญ่ละจากเส้นผมรวบร่างเล็กเข้าอ้อมแขน มือทั้งสองรัดแน่น ผ่องรำไพไม่ดิ้นรนหนีเพราะกำลังช็อก… สายตาแหงนมองใบหน้าคมเข้ม จนมือใหญ่ล้วงเข้าบีบหน้าอกใหญ่ในตัวเสื้อ จึงได้สติ “กรี้ดด!” เธอยกสองมือตีอกกว้างพัลวัน มือปลาหมึกดูทนถึก ไม่เจ็บสักนิด แถมไม่ยอมปล่อยก็จิกเล็บยาวข่วนสู้สุดฤทธิ์ ต้องทำเจ้านายขวัญใจสาวๆ เสียโฉมก็ต้องทำล่ะคราวนี้
“อย่านะคุณ อย่าฉันมาเป็นเลขาคุณนะคะ”
“เลขา ใช่ฉันรู้ และพยศ ของเธอใหญ่ดีจริง แบบนี้ชอบนะแต่เสียใจด้วยฉันไม่กินของเหลือเดนจากคุณพ่อท่านหรอก” เวทิศผลักร่างบางจนล้มลงที่พื้น
“ ทำไมทำอย่างนี้” ผ่องรำไพตกใจน้ำตาซึม หัวใจสั่น
ริมฝีปากแดงของเวทิศยิ้มเหยียด นั่งยองลงข้างๆ ปลดเนคไทออกจากลำคอหญิงสาวด้วยความรวดเร็ว
“ทำอะไรคุณ อย่านะ ไม่ ไม่ ไม่นะคะ ดูหน้าฉันก่อน ฉันไม่ใช่ดารานางแบบในสังกัดคุณนะคะปล่อยฉันไปเถอะ” ผ่องรำไพตะลึงคิดว่าอาจโดนข่มเหงรู้ว่าไม้แข็งไม่ได้ผลก็ใช้ไม้อ่อนวอนขอด้วยน้ำเสียงน่าสงสาร มือบางป่ายปัดมือใหญ่
“ไม่ต้องร้อง ไม่ทำอย่างว่าหรอกบอกแล้วไง แต่ทำอย่างอื่นที่สนุกๆ นิดหน่อยก็เท่านั้น” ฟันขาวเรียงเป็นระเบียบทำให้รอยยิ้มนั้นหล่อเหลาเหลือกินแต่ไม่นานมันก็เปลี่ยนไปเป็นยิ้มเยาะ เขากระซิบใกล้เรือนผมสีดำขลับหอมกรุ่น สูดหอมฟอดใหญ่ ผ่องรำไพเบิกตากว้าง… ไม่นะต้องไม่เป็นแบบนี้ เธอไม่เคยคิดต้องมาเสียสาวหรือโดนมัดกระทำชำเรา โดนทำร้ายร่างกาย หญิงสาวคิดไปต่างๆ นาๆ
กับผู้ชายเพล์บอยคนนี้ เธอคงมีค่าเพียงธุลีดินถ้าเขาได้เธอไปแล้ว…
ดาราสาว สวยเคยโดนเขี่ยทิ้งมานับไม่ถ้วน นับประสาอะไรกับผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ อย่างเธอ
“ฉันแข็งแรง และแน่นอนลีลาอย่าเปรียบกันเลยนะแต่เสียดายที่เธอคงไม่ได้ลิ้มชิมฉัน” เสียงทุ้มใกล้หูเล็ก จมูกโด่งคลอเคลียที่แก้มหอมกรุ่น มือเขายังอยู่ในตัวเสื้อ บีบขยี้อกอิ่มเธอ
อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ
กัญญายอมมาเป็นผู้หญิงของรอน กวี อลอนโซแทนน้องเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ แม้เธอจะต้องทิ้งรักแรกแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทว่าวันหนึ่งกลับเจอว่าน้องสาวและคนรักเก่ากำลังคบหาจะแต่งงานกัน เธอได้รับรู้ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจถึงความเสียสละของเธอแม้แต่น้อย กัญญารู้สึกโดดเดี่ยว เสียใจเป็นที่สุด และในเวลานั้นรอนก็กำลังจะแต่งงาน ยุติความสัมพันธ์กับเธอ ซ้ำจะยกเธอให้ลูกน้องเขา เธอไม่มีค่ากับใครเลยหรือ?
เขาทิ้งเธอไว้ไปในวันฝนพร่ำเพื่อไปหาคนรักที่รอคอยมาเนิ่นนาน ความฝันที่จะได้เคียงคู่พลันมลายลง เธอเป็นแค่คนผ่านทาง เธอจะไม่ร้องไห้ แต่ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุดแบบนี้เล่า ------------------------ เพราะยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กเลี้ยงของหมอดลทัช เมื่อเขาจะจากไป โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ชลรัมภาจำต้องยอมรับความทุกข์ ความปวดร้าวให้ได้ ทว่าเมื่อต้องเจอหน้าเขาอยู่ร่ำไป เพราะเธอคือเพื่อนรักน้องสาวเขา เธอจะทำตัวเช่นไรดี ให้เขาไม่สมเพช ไม่เห็นน้ำตาที่ไม่มีค่าของเธอ
เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ
เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง
เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"