พรวิเศษที่พระเจ้าประทานหรือคำสาปที่ปีศาจสรรค์สร้างก็มิอาจทราบได้ ‘แอนโธนี’ จำต้องทนทุกข์ทรมานกับการมองเห็นสิ่งที่ไม่ควรมองเห็นมาตั้งแต่จำความได้ เขาสลัดชีวิตเดิมทิ้ง ผันตัวมาเป็นบาทหลวงในชนบทแห่งหนึ่งของดินแดนแห่งเสรีภาพ ทว่าใครเล่าจะรู้ว่าการหนีไม่ใช่หนทางของการมีชีวิตที่สงบสุขเลยเมื่อเขาต้องมาพัวพันกับ ‘ลิลิธ’ หญิงสาวผู้ได้ชื่อว่าเป็น ‘มารดาของเหล่าปีศาจ’ เธอสดสวย...เย้ายวน...เสน่ห์เหลือล้นเกินกว่ามนุษย์เพศหญิงคนใดจะมี เพียงเธอเอ่ยมาประโยคเดียว... “ข้าต้องการน้ำเชื้อของเจ้า...คุณพ่อ” แล้วบาทหลวงป้ายแดงอย่างเขาจะรอดหรือ? แม้โอกาสเพียงหยิบมือยังริบหรี่ เปลวเพลิงพิศวาสลุกโชน ร่ายระบำราวกับนางปีศาจเปล่าเปลือยยั่วเย้าเชิญชวนให้เขาก้าวลงอเวจีสีชมพูชั่วกัปชั่วกัลป์
‘ในปฐมกาล พระเจ้าทรงเนรมิตสร้างฟ้าและแผ่นดิน
แผ่นดินก็ร้างและว่างเปล่า ความมืดอยู่เหนือน้ำ และพระวิญญาณของพระเจ้าทรงปกอยู่เหนือน้ำนั้น
พระเจ้าตรัสว่า “จงเกิดความสว่าง” ความสว่างก็เกิดขึ้น พระเจ้าทรงเห็นว่าความสว่างนั้นดี และทรงแยกความสว่างออกจากความมืด
พระเจ้าทรงเรียกความสว่างนั้นว่า วัน และความมืดนั้นว่า คืน มีเวลาเย็นและเวลาเช้า เป็นวันแรก
พระเจ้าตรัสว่า “จงมีภาคพื้นในระหว่างน้ำ แยกน้ำออกจากกัน”
พระเจ้าทรงสร้างภาคพื้นนั้นขึ้น แล้วทรงแยกน้ำที่อยู่ใต้ภาคพื้นออกจากน้ำที่อยู่เหนือภาคพื้น ก็เป็นดังนั้น
พระเจ้าจึงทรงเรียกภาคพื้นนั้นว่า ฟ้า มีเวลาเย็นและเวลาเช้า เป็นวันที่สอง
พระเจ้าตรัสว่า “น้ำที่อยู่ใต้ฟ้าจงรวมอยู่ในที่เดียวกัน ที่แห้งจงปรากฏขึ้น” ก็เป็นดังนั้น
พระเจ้าจึงทรงเรียกที่แห้งนั้นว่า แผ่นดิน และที่ซึ่งน้ำรวมกันนั้นว่า ทะเล พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
พระเจ้าตรัสว่า “แผ่นดินจงเกิดพืช คือ ธัญพืชที่ให้เมล็ด และต้นไม้ผลที่ออกผลตามชนิดของมัน และมีเมล็ดในผลบนแผ่นดิน” และก็เป็นดังนั้น แผ่นดินก็เกิดพืช คือธัญพืชที่ให้เมล็ดตามชนิดของมัน และต้นไม้ที่ออกผลมีเมล็ดในผลตามชนิดของมัน พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
มีเวลาเย็นและเวลาเช้า เป็นวันที่สาม
พระเจ้าตรัสว่า “จงมีดวงสว่างต่างๆ ของภาคพื้นฟ้า เพื่อแยกวันออกจากคืน ให้เป็นหมายกำหนดฤดู วัน ปี และให้เป็นดวงสว่างต่างๆ บนภาคพื้นฟ้า เพื่อส่องสว่างเหนือแผ่นดิน” ก็เป็นดังนั้น
พระเจ้าทรงสร้างดวงสว่างขนาดใหญ่ไว้สองดวง ให้ดวงที่ใหญ่กว่าครองวัน ดวงที่เล็กกว่าครองคืน พระองค์ทรงสร้างดวงดาวต่างๆ ด้วย
พระเจ้าทรงตั้งดวงสว่างเหล่านี้ไว้บนภาคพื้นฟ้า ให้ส่องสว่างเหนือแผ่นดิน ให้ครองวันและคืน และแยกความสว่างออกจากความมืด พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
มีเวลาเย็นและเวลาเช้า เป็นวันที่สี่
พระเจ้าตรัสว่า “น้ำจงอุดมด้วยฝูงสัตว์ที่มีชีวิต และให้นกบินไปมาในภาคพื้นฟ้าเหนือแผ่นดิน”
พระเจ้าทรงสร้างสัตว์ทะเลขนาดใหญ่ และสัตว์ที่มีชีวิตทุกชนิด ซึ่งแหวกว่ายอยู่ในน้ำเป็นฝูงๆ ตามชนิดของมัน และสัตว์ปีกทุกชนิดตามชนิดของมัน พระเจ้าทรงเห็นว่าดี
พระเจ้าจึงทรงอวยพรสัตว์เหล่านั้นว่า “จงมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มน้ำในทะเล และให้นกทวีมากขึ้นบนแผ่นดินโลก”
มีเวลาเย็นและเวลาเช้า เป็นวันที่ห้า
พระเจ้าตรัสว่า “แผ่นดินจงเกิดสัตว์ที่มีชีวิตตามชนิดของมัน คือสัตว์ใช้งาน สัตว์เลื้อยคลาน และสัตว์ป่าตามชนิดของมัน” ก็เป็นดังนั้น
พระเจ้าทรงสร้างสัตว์ป่าตามชนิดของมัน สัตว์ใช้งานตามชนิดของมัน และสัตว์ต่างๆ ที่เลื้อยคลานทุกชนิดบนแผ่นดินตามชนิดของมัน แล้วพระเจ้าทรงเห็นว่าดี
แล้วพระเจ้าตรัสว่า “ให้เราสร้างมนุษย์ตามฉายาของเรา ตามอย่างของเรา ให้ครอบครองฝูงปลาในทะเล ฝูงนกในท้องฟ้าและฝูงสัตว์ใช้งาน ให้ปกครองแผ่นดินโลกทั้งหมด และสัตว์เลื้อยคลานทุกชนิดบนแผ่นดินทั้งหมด”
พระเจ้าจึงทรงสร้างมนุษย์ขึ้นตามพระฉายาของพระองค์ ตามพระฉายาของพระเจ้านั้น พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้น และทรงสร้างให้เป็นชายและหญิง
พระเจ้าทรงอวยพรพวกเขา ตรัสกับพวกเขาว่า “จงมีลูกดกทวีมากขึ้นจนเต็มแผ่นดิน จงมีอำนาจเหนือแผ่นดิน จงครอบครองฝูงปลาในทะเล และฝูงนกในท้องฟ้า กับสัตว์ที่เคลื่อนไหวบนแผ่นดินทั้งหมด”
พระเจ้าตรัสว่า “ดูนี่ เราให้ธัญพืชที่มีเมล็ดทุกชนิด ซึ่งมีอยู่ทั่วพื้นแผ่นดิน และต้นไม้ผลทุกชนิดที่มีเมล็ดในผลของมันแก่เจ้า เป็นอาหารของเจ้า ฝ่ายสัตว์ทั้งหมดบนแผ่นดิน นกทั้งปวงบนท้องฟ้าและสัตว์เลื้อยคลานทั้งหมดบนแผ่นดิน คือ สิ่งมีชีวิตที่มีลมหายใจนั้น เราให้พืชเขียวสดทั้งปวงเป็นอาหาร” ก็เป็นดังนั้น
พระเจ้าทอดพระเนตรสิ่งทั้งปวงที่พระองค์ทรงสร้างไว้ ดูสิ ทรงเห็นว่าดียิ่งนัก
มีเวลาเย็นและเวลาเช้า เป็นวันที่หก’
เมื่อมนุษย์เพศชายเกิดการวิวัฒนาการทางร่างกาย ผู้ชายกลุ่มหนึ่งจึงสามารถตั้งท้องได้ และเพราะความเมาชนิดหลุดโลกในคืนวันนั้น ‘นภัทร’ เดือนคณะสุดหล่อจึงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความจริงว่าตัวเองจัดการรวบหัวรวบหางลากหลืบคณะอย่าง ‘สิงหา’ ไปมี one night stand เป็นที่เรียบร้อย เรื่องควรจะจบลงแค่นั้น แต่ไม่จบเมื่อชีวิตน้อยๆ ถือกำเนิดขึ้น นภัทรหายตัวไป กลับมาอีกครั้งพร้อมกับข่าวลือประหลาดๆ ก่อนสิงหาจะพบว่าต้นเหตุของข่าวลือคือเด็กหญิงตัวน้อยอย่าง ‘น้องณดา’ ที่สิงหาสงสัยเหลือเกินว่าจะเป็นลูกของเขา “ให้เรียกนายว่าพ่อไม่ได้หรอก น้องณดาไม่ได้ลูกของนาย” “งั้นเรียกป๊ะป๋าก็ได้” “ไม่ได้” “แด๊ดดี้” “นี่...พอเลย” “ดาดา” คำเรียกที่หลุดจากปากของเด็กหญิงตัวน้อยทำเอาคุณพ่อกำมะลอยิ้มหน้าบาน ปฏิบัติการทวงคืนความเป็นพ่อต้องมา ต่อให้นภัทรไม่ยอมรับ งั้นสิงหาก็ขอเข้าทางลูกสาวตัวจิ๋วก็แล้วกัน! รับผมเป็นพ่อของลูกเถอะนะครับ!
เพราะไปตีกับเกรียนคีย์บอร์ดที่บังอาจเอานิยายเธอมาวิจารณ์หยาบๆ คายๆ ว่างานเธอเชิดชูระบอบปิตาธิปไตย ตามมาด้วยการดูแคลนเหยียดหยามทางเพศสภาพอีกหลายอย่าง ทำเอา ‘อาคิรา’ นักเขียนนิยายประโลมโลกถึงกับเลือดเฟมินิสต์ในกายเดือดพล่าน กล้าดียังไงมากล่าวหาเธออย่างนี้ งานเธอถึงจะเป็นงานประโลมโลก แต่ใช่ว่าจะเชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่สักหน่อย! ต้องตามไปตบตีจนกว่าจะชนะ เถียงแพ้รอบนั้น แต่คนไม่แพ้ ตามหาแอคเคาทน์ของคนที่ใช้นามแฝงว่า ‘เวนไตย’ ไปจนเจอเข้ากับตอจังเบ้อเร่อ โดยหารู้ไม่ว่าเวนไตยคนนี้ หาใช่ไอ้เวรตะไลที่ประนามหยามเหยียดแต่อย่างใดไม่ ทว่าเป็นบรรณาธิการหนุ่มผู้คว่ำหวอดในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์สังคมต่างหาก “ฉันจะทำให้ดูว่างานเขียนฉันมันไม่ได้เชิดชูระบอบชายเป็นใหญ่!” “งั้นก็ลองเขียนมาดู ผมอยากอ่านเหมือนกัน อยากรู้ว่านักเขียนอย่างคุณจะทำได้ดีสักกี่น้ำ” โดนท้าทายมาถึงกับปรี๊ด คอยดูเถอะ เธอจะเอารางวัลมาฟาดหน้าไอ้เวรตะไลนี่ให้ได้เลย!
“ฉันจะเป็นเมียของนายดินค่ะ” ไม่รู้ว่าส้มหล่นหรือโชคร้ายกันแน่ที่จู่ๆ คุณหนู ‘หยาดฟ้า’ ของตระกูลเศรษฐีเมืองกรุงก็มาถวายตัวยอมเป็นเมียของ ‘ไอ้ดิน’ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเสียอย่างนั้น ไอ้ดินค่อนข้างจะงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร เขาไม่รู้จักมัดจี่กับเจ้าหล่อนนี่ จู่ๆ ก็มาบอกว่าจะเป็นเมียเขา เป็นใครก็งงทั้งนั้นแหละ! ก่อนที่เขาจะได้รับรู้ว่าเหตุนี้เกิดขึ้นเพราะหยาดฟ้าถูกบิดาบังคับให้แต่งงาน เธอจึงหนีมาอยู่ที่บ้านพักตากอากาศในต่างจังหวัด และได้เจอกับกุลีหนุ่มที่นี่ ประจวบเหมาะกับที่บิดาของเธอโทรมาคาดคั้นให้เธอกลับไปแต่งงานพอดี เธอถึงได้ลั่นวาจานี้ออกมาให้บิดารู้ว่าเธอมีผู้ชายคนใหม่ที่ยินยอมพร้อมใจจะเป็น ‘เมีย’ ของเขาแล้ว หาใช่ผู้ชายที่บิดาจัดเตรียมมาให้ สำหรับไอ้ดิน นี่คงไม่ใช่ส้มหล่นหรอก เป็นคราวเคราะห์เสียมากกว่า เขาจึงรีบบอกปัดหัวขวิด “ไม่ล่ะครับคุณหนู ผมคงไม่อาจเอื้อมไปเด็ดดอกฟ้าหรอก ผมก็แค่กุลีใช้แรงงานไปวันๆ จะเอาเงินที่ไหนไปเลี้ยงให้คุณหนูอยู่ดีกินดีได้” “ไม่ต้องกินดีอยู่ดีก็ได้ แค่ให้ฉันอยู่ด้วยก็พอ” “ให้อยู่ด้วยก็ไม่ได้ครับ ก็คุณหนูน่ะเป็น...” “เป็นเมียนายดินไงล่ะ” เป็นที่ไหนกัน เขายังไม่ได้ซั่มเธอเลยสักกะยก! ไอ้ดินปวดขมับตุบๆ ขณะที่หยาดฟ้าเชื้อเชิญเขาเป็นการใหญ่ “แล้วนี่มัวรออะไรอยู่ รีบพาฉันเข้าบ้านสิ จะได้ทำอะไรอย่างที่ผัวเมียเขาทำกัน” เธอรู้หรือเปล่าว่าพูดถึงเรื่องอะไรอยู่น่ะ!? ไอ้ดินไม่แน่ใจนัก แต่แวบเดียวก็แน่ใจแล้ว เพราะจู่ๆ หญิงสาวก็ดึงคอเสื้อให้หน้าอกอิ่มล้นทะลักออกมา ไอ้ดินมองจ้องตาไม่กะพริบ ได้สติมาอีกครั้งก็ตอนที่สาวเจ้าเอ่ยปาก “มาสิพี่ดิน มาเอากัน ฟ้าพร้อมจะเป็นเมียพี่แล้ว” ดูพูดจาเข้า เรียกแทนตัวด้วยชื่อ แทนเขาว่าพี่ชวนให้เอ็นดูอีก! โอ๊ย! ไอ้ดินจะบ้าตาย! เห็นทีเขาคงหนีไม่พ้นการถูกยัดเยียดความเป็น ‘ผัว’ ด้วยฝีมือหยาดฟ้าแล้วล่ะ
เพราะอกหักจากคนที่แอบชอบมานาน ทำให้ ‘ภีม’ พาตัวเองไปในที่อโคจรเพื่อที่จะระบายความเศร้าเสียใจออกไปบ้าง หากทว่าในคืนนั้น เขากลับได้พบกับชายแปลกหน้าอย่าง ‘สุดเขต’ ที่บังเอิญเข้ามาพูดคุยด้วย ทั้งสองเกือบจะลงเอยกันด้วยความสัมพันธ์ข้ามคืน หรือที่เรียกกันว่า One night stand หากทว่าก็เกิดเรื่องวุ่นๆ เสียก่อน ก่อนที่ภีมจะพบว่าผู้ชายที่เขาได้เจอในคืนนั้น เป็นคนคนเดียวกับคนที่เขาแอบชอบตกหลุมรัก ให้ตาย! นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน! ขณะเดียวกัน ปฏิบัติการ ‘ลัก’ ความรักของภีมก็เริ่มต้นขึ้น เมื่อสุดเขตไม่สามารถลืมความน่ารักของภีมลงได้เลย เขาต้องเอามาให้ได้ ทั้งตัวภีม และความรักของภีม จะเอามาให้ได้ทั้งหมดเลยคอยดู!
แม้ขึ้นชื่อว่าเป็นปีศาจ ทว่าปีศาจกวางอย่าง ‘ลู่ลู่’ กลับหาได้พิสมัยการระรานมนุษย์สักเท่าไรนัก สะอาดบริสุทธิ์เสียจนแทบจะลุแก่ตบะแล้ว ทว่า... ชีวิตของเขาก็หาได้สงบสุขอีกต่อไปเมื่อนักพรตปราบปีศาจอย่าง ‘เยี่ยนเฉิน’ หนีตายจากการถูกล่าเพราะดันไปต้มตุ๋นชาวบ้านวิ่งทะเล่อทะล่ามาสลบอยู่หน้าถ้ำ ถึงจะเป็นปีศาจแต่ก็หาได้ไร้น้ำใจนัก มอบไมตรีช่วยเหลืออย่างไม่เกี่ยงงอน หากแต่เยี่ยนเฉินกลับตอบแทนบุญคุณด้วยการทำให้ชีวิตของลู่ลู่แปดเปื้อนด้วยมลทิน บีบบังคับให้ปีศาจกวางน้อยรวมหัวในแผนต้มตุ๋นชาวบ้านเพื่อเอาคืน! นักพรตจอมกะล่อนผงาด ใช้ชีวิตอย่างสำราญ ขณะที่ปีศาจน้อยถูกจิกหัวใช้ให้ไประรานชาวบ้านไม่เว้นวัน อะไรไม่ว่า เยี่ยนฉินยังขยันลูบหางเล็กๆ ของเขาเสียเหลือเกิน ไม่รู้หรือไงว่าตรงนั้นน่ะ...มะ...มัน... ...ทำให้ตัวร้อนผะผ่าวนะ! ต้องมีสักวันที่พลั้งเผลอไปมากกว่านี้แน่ สวรรค์! ลู่ลู่ผู้นี้จะหลั่งน้ำตาเป็นสายโลหิตแล้ว!
หากผู้ใดเชื่อว่าทะเลทรายผืนนี้โหดร้าย ผู้นั้นย่อมเชื่อในสิ่งที่ผิด เพราะสิ่งที่โหดร้ายกว่าผืนทะเลทรายแห้งแล้ง คือกองกำลังโจรทะเลทรายของ 'อัลมิราน' ผู้นี้ต่างหาก โหดร้าย...ชั่วช้า...เลวสามานย์ ดูเหมือนจะเป็นคำสร้อยที่พ่วงท้ายชื่อของโจรหนุ่มนามเลื่องลือไปเสียแล้ว แต่เขาจะสนใจสิ่งใดกัน ในเมื่อเขาถูกตราหน้าว่าชั่ว เขาก็จะเป็นคนชั่วให้สมดั่งที่ถูกบีบคั้น เพียงเพื่อให้ได้อัญมณีแห่งสุลต่านมาครอบครอง เขาก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดแล้ว หากแต่หารู้ไม่ว่าสวรรค์จะนำพาให้เขาพบกับอัญมณีมีชีวิตแห่งทะเลทราย...'จามิล' นักระบำร่อนเร่ผู้มีเสน่ห์เย้ายวน เพียงได้ชมระบำทะเลทรายของจามิลแค่ครั้งเดียวเท่านั้น หัวใจของอัลมิรานก็ถูกครอบครองไปสิ้น โดยหารู้ไม่ว่าตนกำลังก้าวเข้าสู่หุบเหวอเวจีแสนหวานที่จะฉุดคร่าชีวิตเขาไปเสียแล้ว...
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"