เมื่อความสัมพันธ์ของเพื่อนสนิทบานปลาย จนกลายเป็นความรักที่เก็บซ่อนภายใต้คำว่า เพื่อน ที่หลอมละลายพวกเขาเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน แต่ความรักครั้งนี้ต้องเจออุปสรรคมากมาย ทั้งคนใหม่และคนเก่าที่เข้ามาพัวพัน จนความรักเกิดการแตกหัก ทั้งความรับผิดชอบที่ไม่อาจหลีเลี่ยง พวกเขาจะผ่านปัญหาความรักนี้ได้อย่างไร มาลุ้นกัน!
ทุกคนคงจะรู้จักผมมาบ้างแล้ว ผมชื่อ ด็อจ เป็นลูกเจ้าของค่ายมวย มีเพื่อนสนิทแค่ไม่กี่คน การมีเพื่อนดีไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนมาก เพราะเพื่อนมากก็ใช่ว่าจะดี สู้มีกันไม่กี่คน แต่ช่วยเหลือและเข้าใจกันก็ย่อมดีกว่า นี่คือความคิดของผมครับ เดี๋ยวผมจะเกริ่นคร่าว ๆ กับเรื่องราวของผมที่เกิดขึ้น
ความรักของผมเริ่มต้นด้วยความสัมพันธ์ภายใต้คำว่าเพื่อน เพื่อนสนิทที่ผมแอบมีใจให้มานาน โดยที่ผมเก็บกลั้นมาโดยตลอด โดยที่ไม่มีใครรู้ เพื่อนที่ผมหมายถึงก็คือ ไอ้ศิลา ผมก็ไม่รู้ว่าความรู้สึกนี้มันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนไหน มารู้ตัวอีกทีหัวใจของผมมันก็ถลำลึกลงไปแล้ว ผมแอบมองมันอยู่ห่าง ๆ ทั้งที่มันก็เข้าหาผู้หญิงมากมาย แต่ด้วยสถานะของเรามันแค่เพื่อนไงครับ ผมจึงทำได้แค่แอบหึงอยู่ห่าง ๆ จนผมเห็นความสนิทสนมของไอ้ศิลากับขนมปัง นั่นยิ่งทำให้ผมอยากจะรู้ว่ามันจริงจังกับผู้หญิงหรือมีใจให้เธอหรือเปล่า จนต้องหลอกถามขนมปังว่ามีคนในใจหรือยัง ที่ถามเพราะอยากจะรู้ไงว่าใช่คนที่ผมแอบมีใครหรือเปล่า ความสนิทสนมใกล้ชิดอาจจะมองว่าผมชอบขนมปัง แต่เปล่าเลยผมแค่อยากรู้ว่าเพื่อนของผมกับเธอชอบพอกันไหมแค่นั้นเอง เพราะถ้าพวกเขาชอบพอผมจะได้ทำใจ
ผมมีแฟนเป็นผู้ชาย ซึ่งทางบ้านก็ยังไม่รู้ลึกตื้นหนาบางเท่าไหร่ ผมเก็บเงียบเอาไว้เพราะยังไม่กล้าบอกใคร ผมกลัวว่าพ่อจะรับไม่ได้ ก็ลูกชายคนเดียวที่ท่านคาดหวังกลับกลายมาเป็นพวกวิปริตซะอย่างนั้น ท่านคงจะช็อกน่าดู ผมเลยยังไม่กล้าเอ่ยปาก แต่คนฉลาดแบบพ่อท่านอาจจะรู้อยู่บ้าง แค่ท่านไม่พูดออกมา อันนี้ในความคิดของผมนะ
มีแฟนก็จริงแต่ก็เหมือนไม่มี ทั้งที่ผมโคตรจะรักมันเลย เพราะอะไรรู้ไหม?
(พี่งานยุ่งนะ วันนี้กลับดึก)
(วันนี้มีประชุมด่วน อาจจะค้างที่บริษัท)
(มีนัดกับลูกค้าอาจจะมืดนะ)
สารพัดคำบอกเล่า ที่ทำเอาผมใจฝ่อ ซึ่งผมก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไร เพราะด้วยหน้าที่การงานของเขา มันคงจะวุ่นวายจริง ๆ อย่างที่ปากว่า ผมไม่ใช่คนงี่เง่าขนาดนั้น แต่บางทีการไม่งี่เง่าเลยมันอาจจะเป็นช่องโหว่ของคำว่า นอกใจ
รักที่ผมมีให้มันสูญเปล่าลง เมื่อรู้ว่าคนที่ผมรักนั้นนอกกายและนอกใจไปให้ผู้หญิง แฟนที่ผมคบอยู่ชื่อคีตั้น อายุมากกว่าผมหนึ่งปี ผมกับคีตั้นเจอกันด้วยความบังเอิญ ซึ่งผมไม่ขอเล่ามากให้ยุ่งยาก เอาเป็นว่าผมคบกันมาได้ระยะหนึ่ง และผมก็ทุ่มใจให้มัน แต่แล้วความสัมพันธ์ต้องสะบั้นลง เราจบสิ้นกันโดยที่ผมไม่ล่ำลามันสักคำ เพราะภาพที่ผมเห็นมันชัดเจนพอแล้ว เล่าคร่าว ๆ แค่นี้ เอาเป็นว่าไปติดตามเรื่องราวในเนื้อหาเอาเองดีกว่าครับ...
เขาทำให้หัวใจของผมเต้นแรง ตั้งแต่ครั้งแรกที่พบเห็น จนอยากเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเขา แต่ว่าเราสองคนดันแตกต่างกันคนละขั้ว ความรู้สึกดี ๆ ที่ผมมีให้จะเปลี่ยนแปลงทำให้เขาเปลี่ยนไปได้ไหมนะ?
แม้จะดูเดียงสาสดใส แต่ใครจะรู้ว่าเธอนั้นแอบซ่อน ความเร่าร้อนไว้ในกาย ใจแข็งนักระวังเจออ้อนรักของ 'น้องอันดา' แล้วใจจะละลาย
เพราะเงื่อนไขบ้า ๆ ไร้เหตุผล ทำให้ผู้หญิงใสซื่ออย่าง เรนิตา ต้องตกเป็นเหยื่อของผู้ชายร้ายกาจ
คำว่าหน้าที่มันฝังลึกอยู่ในหัวสมอง อีกทั้งฐานะที่แตกต่างจนไม่อาจเอื้อมมือถึง ทำให้เขาต้องกล้ำกลืนฝืนความรู้สึกที่มีต่อ 'จัสทีน่า' เอาไว้ ทำได้เพียงเฝ้ามองดูเธอใกล้ ๆ เท่านั้น และสุดท้ายเขาต้องจากไป ทิ้งไว้เพียงความทรงจำอันเจ็บร้าว เธอไม่ได้ฟังแม้กระทั่งคำลาจาก 'ฮะมีส' สร้างความทุกข์ทรมานให้แก่เธอจนเกือบสิ้นลมหายใจสุดท้าย...
แค้น ที่ฝังใจทำให้เธอต้องถูกจองจำ และรับผลกรรมทั้งที่ไม่ได้เป็นคนเริ่ม! ***** "ก็แค่เชลยไร้ค่าคนหนึ่งเท่านั้น" "แต่ฉันก็มีหัวใจนะคะ...ฉันมีความรู้สึกและเจ็บปวดเป็น" "เป็นเช่นรึ? ฮึ! ความรู้สึกของเธอไม่ได้มีผลสำหรับเรา.,." "หยาบช้าสิ้นดี!" "เทียบเท่าไม่ได้กับสิ่งคาว ๆ ที่พ่อเธอทำ" "พวกแกมันระยำ!" "เราทำได้มากกว่าจุดไฟเผาทั้งเป็นอีก.,.หรือเธออยากจะลอง" จอมโจรทรนงผู้คนขนานนามถึงความโหดร้าย เหี้ยมโหด ชายโฉดที่พรากพรหมจรรย์ของเธอ 'จัสซีเนีย' เธอเสียความสาวให้เขา 'จาห์มาล์' ผู้ชายป่าเถื่อนในแถบทะเลทราย สถานที่กบดานอันแสนไกล ที่ไม่มีใครอยากเข้าไปใกล้ ภายใต้ชายคาของกรงขัง หัวใจดวงน้อยของจัสซีเนียถูกย่ำยีด้วยแรงราคะของความเคียดแค้น ตัวแทนแรงอาฆาตที่เธอไม่ได้กระทำ แต่ต้องรับผลกรรมแทนผู้เป็นพี่อย่างจำยอม.....ด้วยฝีมือของราชาโจร!
เธอเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ต้องประสบเคราะห์กรรมสูญเสียแม่ไปตั้งแต่เด็ก ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่มีวันอยู่เป็นสุขเลย พ่อแท้ ๆ และแม่เลี้ยงของเธอบังคับให้เธอแต่งงานกับชายที่เธอไม่รักแทนน้องสาวต่างมารดาของเธอ เธอไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรมของตน ในวันแต่งงาน เธอหนีออกจากบ้านไปและได้มีอะไรกับชายแปลกหน้าคนหนึ่งในคืนนั้น หลังจากนั้นเธอก็พยายามจะหนีไปแต่สุดท้ายก็ถูกพ่อเธอหาจนพบ และหนีไม่รอดชะตากรรมที่จะต้องแต่งงานแทนน้องสาว เธอจะพบว่าชายที่เคยมีอะไรกับเธอในคืนนั้นก็คือสามีของเธอหรือไม่ และเขานั้นจะรู้ว่าเธอเป็นแค่เจ้าสาวปลอมหรือไม่ ตลอดจนความลับเบื้องหลังของสามีคนจนจะเป็นเช่นไร ติดตามไปด้วยกันเลย
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
“ท่านผู้อำนวยการคะ ทางทีมสำรวจแจ้งว่าคนไม่เพียงพอที่จะเข้าไปเก็บตัวอย่างพันธุ์พืชในป่าเมืองเหอหนานค่ะ” ซูเจิน ที่ได้ยินก็หูผึ่งทันที เธอนั่งทำการอยู่ในห้องวิจัยตั้งแต่เรียนจบ ถึงตอนนี้ก็สี่ปีได้แล้ว ผู้อำนวยที่เข้ามาตรวจงานวิจัยล่าสุด ก็มองไปรอบห้อง เพื่อดูว่ามีใครต้องการเสนอตัวไปทำงานในครั้งนี้หรือไม่ แต่หลายคนที่เขามองไป ต่างหลบสายตาของเขา จะมีใครอยากออกไปเสี่ยงอันตราย เดินป่าขึ้นเขาให้เหนื่อยสู้นั่งทำงานในห้องปรับอากาศเย็นๆ ดีกว่า เมื่อไม่มีใครคิดจะเสนอตัว เขาจึงได้สอบถามหาผู้ที่สมัครใจทันที “มีใครอยากจะอาสาไปไหม” ไว้กว่าความคิด ซูเจินยกมือขึ้น “ฉันค่ะ” เพื่อนสนิทรีบดึงเสื้อของเธอเพื่อจะห้ามปราม “จะบ้าหรอ เธอไม่เคยไปสักครั้ง ไม่รู้หรือว่างานนี้เสี่ยงแค่ไหน” เสียงกระซิบของเสี่ยวชิง เอ่ยลอดไรฟันออกมา เมื่อปีที่แล้ว ที่ทีมสำรวจเดินทางเข้าไปที่ป่าเหอหนาน พื้นป่าที่ไม่อาจสำรวจได้อย่างทั่วถึง สร้างความท้าทายให้เหล่านักพฤกษศาสตร์จากทุกองค์กร แต่ไม่ว่าจะส่งเข้าไปกี่ครั้งก็ไปไม่ถึงป่าชั้นกลางเสียที แม้จะใช้เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเข้าช่วยเพียงได้ ก็สำรวจได้เพียงป่าชั้นนอก แถมยังพาชีวิตคนไปทิ้งอีกนับไม่ถ้วน ปีนี้ทางองค์กรของซูเจิน หยิบโครงการสำรวจป่าเหอหนานขึ้นมาใหม่ แต่กว่าจะหาทีมสำรวจได้ครบคนก็กินเวลาไปหลายเดือน ถึงตอนนี้คนก็ยังไม่พอจนต้องมาถามหาจากทีมวิจัยให้ช่วยเหลือ “คุณอยากไปจริงหรือ” เขาเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง “ค่ะ ฉันอยากลองทำงานนี้” ซูเจินยิ้มออกมา “ได้ อีกสองวัน คุณก็เตรียมตัวให้พร้อม” เมื่อมีคนเสนอตัวแล้ว ผู้อำนวยการก็ออกไปพบทีมสำรวจ เพื่อวางแผนการทำงาน ทั้งยังให้ซูเจินตามเขาไปเข้ารวมการประชุมในครั้งนี้ด้วย “เธอมันบ้าไปแล้ว” เพื่อร่วมงานต่างเดินเข้ามาหาซูเจิน แล้วตำหนิเธอที่กล้ายกมือเสนอตัว “เอาน่า ไว้กลับมาฉันจะเอาเรื่องสนุกมาเล่าให้พวกเธอฟัง” ซูเจินยิ้มหวานออกมา ก่อนที่จะเก็บของแล้วไปเข้าร่วมประชุมกับทีมสำรวจ สองวันต่อมาซูเจินก็แบกกระเป๋าเดินทางมาที่จุดนัดพบ เธอออกเดินทางด้วยรถตู้ขององค์กร พร้อมทีมสำรวจอีกเกือบยี่สิบชีวิต ยังดีที่เธอได้แบกกระเป๋าเพียงใบเดียว หากต้องแบกเต็นท์นอน อาหารด้วย คงได้เป็นภาระของคนอื่นอย่างแน่นอน ภายในป่าเหอหนาน น่ากลัวว่าที่ซูเจินคิดไว้เยอะ พอตะวันตกดิน หากไม่มีแสงไฟที่ทีมสำรวจนำมาด้วยคงจะมืดจนมองไม่เห็นอะไร เสียงแมลงทั้งสัตว์ป่าร้องตลอดทั้งคืน สร้างความหวาดกลัวให้กับคนที่ไม่เคยเข้าป่าสักครั้งอย่างเธอได้อย่างดี ยังดีที่เจ้าหน้าที่ผู้นำทางติดตามมาด้วยอีกหลายคน พวกเขาจึงได้อยู่ผลัดเปลี่ยนเวรยาม เพื่อป้องกันไม่ให้สัตว์ป่าเข้ามาถึงตัวพวกเขา หลายวันที่อยู่ในป่า ซูเจินเก็บตัวอย่างพันธุ์ได้หลายชนิด แต่ทั้งทีม ยังเดินไม่หลุดป่าชั้นนอกเลย ยังดีที่อาหารที่เตรียมมาเพียงพอให้พวกเขาอยู่ไปได้อีกหลายวัน “เอ๊ะ” เข้าวันที่เจ็ดของการสำรวจป่า ซูเจิน เห็นดอกไม้แปลกตา ที่ขึ้นอยู่ท่ามกลางพงหญ้ารก เธอจึงเดินห่างจากกลุ่มทีมสำรวจเข้าไปดูทันที เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรได้ ระยะห่างที่อยู่ไกลจากพวกเขา หากร้องเรียกก็ยังได้ยินอยู่ เธอหยิบกล้องถ่ายรูปขึ้นมา พร้อมทั้งจดรายละเอียดก่อนที่จะดึงต้นไม้เก็บเข้าถุงเก็บตัวอย่างที่เตรียมมา แต่เมื่อมือของซูเจินสัมผัสไปที่ดอกไม้ เธอก็ต้องตกตะลึง เหมือนมีกระแสไฟวิ่งผ่านปลายนิ้วไปจนทั่วทั้งตัว “โอ๊ยย” เสียงร้องอย่างเจ็บปวดของซูเจิน เรียกความสนใจให้คนทั้งหมดรีบวิ่งมาทางที่เธออยู่ ซูเจินเห็นเพียงแสงสีขาวที่สว่างวาบไปทั่ว แล้วภาพตรงหน้าของเธอก็ดำมืดลง
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!