เขาใจร้ายกับเธอที่สุด เขาหนีงานแต่งหักหน้าให้อับอาย แถมยังปล่อยให้เธออุ้มท้องและคลอดเพียงลำพัง เมื่อรู้ตัวก็เกือบสายไป จะง้อยังไงให้แม่ของลูกใจอ่อน งานนี้ต้องงัดทุกเล่ห์ เพื่อให้ได้ลูกแฝดแถมเมีย!!!
เขาใจร้ายกับเธอที่สุด เขาหนีงานแต่งหักหน้าให้อับอาย แถมยังปล่อยให้เธออุ้มท้องและคลอดเพียงลำพัง เมื่อรู้ตัวก็เกือบสายไป จะง้อยังไงให้แม่ของลูกใจอ่อน งานนี้ต้องงัดทุกเล่ห์ เพื่อให้ได้ลูกแฝดแถมเมีย!!!
ศกุนตลาวางจดหมายที่ป้องเขตฝากเอาไว้ลงบนเตียง หลังกลับจากโรงพยาบาล วันนี้เธอเข้ารับการตรวจสุขภาพเพื่อเตรียมความพร้อมของร่างกายสำหรับการทำเด็กหลอดแก้ว โดยการดูแลของนายแพทย์ธนานนท์อย่างใกล้ชิด และเป็นบุคคลที่ป้องเขตฝากจดหมายของเขาเอาไว้ นายแพทย์ธนานนท์ บวรกิจ เป็นสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านแผนกมีบุตรยากประจำโรงพยาบาลชื่อดัง และยังเป็นเพื่อนสนิทของป้องเขต
หญิงสาวอ่านทวนมานับสิบรอบจนสามารถจดจำทุกตัวอักษรและสลักจารึกลงในหัวใจ ทุกถ้อยคำล้วนกรีดแทงให้เจ็บช้ำ เหยียบย่ำราวกับเธอไม่มีชีวิตและหัวใจ ทั้งที่เขาไม่เคยรู้จักเธอด้วยซ้ำ
สองครากับความรู้สึกแบบนี้ ครั้งแรกที่ได้ยินจากปากของเขา เธอก็คิดว่าเขาเป็นผู้ชายปากร้ายพอสมควร แต่ก็ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะใจร้ายมากเพียงนี้ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนเป็นวันที่เธอจะจดจำเอาไว้ตลอดชีวิต หลังจากได้ยินคำพูดของเขา ผ่านมาอีกหนึ่งสัปดาห์เขาก็หนีงานแต่งงานและทิ้งความอับอายเอาไว้ให้เธอ แต่ยังดีที่นางวรากุลสามารถแก้ไขสถานการณ์กู้หน้าของเธอเอาไว้ได้ทัน
มาวันนี้เขาก็มาตอกย้ำความรู้สึกย่ำแย่ของเธออีกหนผ่านข้อความสั้นๆ ในจดหมาย ในนั้นมีข้อกำหนดระบุถึงขอบเขตอย่างละเอียดชัดเจน อีกทั้งยังมีหนังสือสัญญาระหว่างเธอกับเขาแนบมาในซอง พร้อมชื่อที่อยู่สำหรับติดต่อทนายความและตราประทับของสำนักงานกฎหมายชื่อดัง
เขาป้องกันทุกอย่างเอาไว้อย่างครบถ้วน สอดรับกับข้อความและคำพูดของเขาเมื่อครั้งก่อนว่าเธอเป็นผู้หญิงหิวเงิน เอาตัวเข้าแลก เพื่อต้องการทรัพย์สมบัติของเขาเท่านั้น
โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าศกุนตลาก็คิดไม่แตกต่างจากเขา แต่เธอจำยอมเพราะคำขอร้องและคำว่ากตัญญูเท่านั้น
“ฉันจะฝังทุกตัวอักษรของคุณเอาไว้ในหัวใจ จะไม่มีวันเป็นเหมือนอย่างที่คุณพูดเด็ดขาด” หญิงสาวบอกกับจดหมายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ยิน แต่เธอคิดว่านี่คือคำสัญญาและเธอจะรักษาสัจจะของตัวเอง
ตามความต้องการของเจ้าของสเปิร์มที่ระบุเอาไว้อย่างชัดเจน นายแพทย์ธนานนท์ บวรกิจ เป็นแพทย์เจ้าของไข้ของศกุนตลา พร้อมกับระบุรายละเอียดชัดเจนว่าเขาต้องการเพียงทายาทโดยไร้ข้อผูกมัดใดๆ กับเธอทั้งสิ้น เธอไม่มีสิทธิ์ในตัวเด็กหลังจากเธอคลอดบุตรออกมา พร้อมกับข้อตกลงอีกหลายรายการแนบท้าย
หญิงสาวไม่สามารถคัดค้าน เพราะเธอเองก็ตกปากรับคำกับมารดาของเขาเรียบร้อย เมื่อเป็นอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่อยากปล่อยเวลาออกไปให้เนิ่นนาน เธอเข้ารับการตรวจในทันที แต่ถึงอย่างนั้นก็มีขั้นตอนทางการแพทย์และการตรวจเช็กร่างกายเป็นเวลาเกือบสามเดือนทีเดียว
ทุกอย่างระบุเอาไว้ เจ้าของสเปิร์มเลือกใช้วิธีการปฏิสนธิภายนอกร่างกาย หรือที่เรียกกันเป็นภาษาอังกฤษสั้นๆ ว่า IVF (In-vitro Fertilization) เพื่อความสะดวกเพราะเป็นการนำไข่และสเปิร์มมาทำการปฏิสนธิภายนอกร่างกายในห้องปฏิบัติการ จากนั้นจึงจะนำไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิแล้ว (ตัวอ่อน) ย้ายกลับเข้าไปในมดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ เพื่อความแน่ใจในการเลือกเพศบุตร
ร่างกายของศกุนตลาสมบูรณ์แข็งแรงและมีความพร้อมที่จะมีบุตร สามารถใช้วิธีการผสมเทียมวิธีอื่นได้ แต่เพราะนางวรากุลต้องการเลือกเพศเพราะอยากได้หลานชายไว้สืบสกุล ศกุนตลาไม่อยากเสี่ยงเพราะข้อตกลงที่กำหนดเอาไว้คือต้องมีหลานชายให้นาง วิธีการนี้จึงเป็นวิธีการที่ลงตัวและยินยอมพร้อมใจกันมากที่สุด
ศกุนตลามานอนรอบนเตียงของโรงพยาบาลในเวลาต่อมา หลังจากตรวจเช็กความพร้อมของร่างกายและผ่านขั้นตอนการดูแลสุขภาพมาครบทุกขั้นตอน แม้ว่าข้างเตียงจะมีมารดาและนางวรากุลมาให้กำลังใจ แต่ในแววตาของเธอมีความวิตกกังวล ทั้งกลัวและตื่นเต้นในเวลาเดียวกัน หญิงสาวสูดลมหายใจและถอนหายใจอยู่หลายครั้งจนนางวรากุลสังเกตเห็น
มืออันเหี่ยวย่นวางทับบนหลังมือของหญิงสาวและบีบเบาๆ อย่างปลอบโยน แววตาของนางเปี่ยมไปด้วยความหวังกับรอยยิ้มที่เกิดขึ้นบนใบหน้า
“มือเย็นเฉียบเชียว ไม่ต้องกังวลนะลูก” หลังจากผ่านพ้นพิธีการแต่งงาน แม้จะไม่ใช่พิธีการที่เกิดขึ้นจริง แต่นางก็เปลี่ยนสรรพนามเรียกขานระหว่างนางกับหญิงสาวทันที
หญิงสาวส่งยิ้มแห้งๆ ยกมืออีกข้างของเธอวางทับบนมือของนางวรากุล ตอบรับเบาๆ
“ค่ะ” ความกลัวเป็นส่วนหนึ่ง ความอายก็มีส่วนอยู่มาก เพราะศกุนตลายังอยู่ในวัยสาวซึ่งยังไม่มีสามี แต่กลับต้องให้ชายหนุ่มเห็นอวัยวะบางอย่าง แม้จะรู้ว่าเขาเป็นแพทย์ แต่เธอก็ยังรู้สึกอายอยู่ดี
เริ่มจากการตรวจภายในครั้งนั้น ซึ่งเธอก็ยังอายไม่หาย แม้ว่าจะเป็นเรื่องปกติในทางการแพทย์ที่ผู้หญิงทุกคนต้องตรวจในช่วงเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ก็ตาม
เธอเองก็ไม่สามารถเลือกหมอได้ เพราะทุกอย่างถูกระบุเอาไว้ชัดเจนหลังจากที่เจ้าของสเปิร์มได้ฝากไว้ที่โรงพยาบาลแห่งนี้ และได้ระบุชื่อแพทย์เจ้าของไข้ไว้ชัดเจน เธอได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าไม่ใช่เธอคนเดียวที่ต้องเจอเรื่องราวน่าอับอายแบบนี้ ผู้หญิงทุกคนก็ต้องเจอทั้งนั้น
แม้ว่าการเก็บไข่ในครั้งต่อมาเมื่อสามวันก่อนของเธอจะถูกวางยาสลบเพื่อป้องกันความเจ็บปวด แต่เมื่อนึกถึงว่าแพทย์เก็บไข่ที่สมบูรณ์จากรังไข่โดยใช้เข็มดูดผ่านทางช่องคลอด โดยอาศัยเครื่องอัลตราซาวนด์เธอก็อายทุกครั้งที่คิดถึง
นางวรากุลยกมือขึ้นลูบผมของหญิงสาวเบาๆ แววตาที่ทอดมองอ่อนโยน นางมักจะบอกขอบคุณซ้ำๆ เมื่อนึกถึงการกระทำของลูกชายก็ยิ่งรู้สึกเห็นใจ และนางก็ยังโกรธไม่หาย
“แม่ขอบคุณหนูอีกครั้งนะลูก”
“หนูรับรู้ถึงความรู้สึกของคุณแม่ค่ะ ยิ่งคุณแม่ขอบคุณ หนูยิ่งรู้สึกผิด เพราะสิ่งที่คุณแม่ให้มามันมากมายกว่าสิ่งที่หนูทำหลายร้อยเท่า” หญิงสาวบอกเสียงเบาจากความรู้สึกข้างในของเธอ ยิ่งได้ยินนางวรากุลพูดแบบนี้ก็ยิ่งสะกิดแผลเก่า ตอกย้ำคำพูดของชายหนุ่มในวันนั้นมากขึ้นทุกครั้ง
เพราะเขาคิดว่าครอบครัวของเธอจะมาปอกลอก เอาตัวเข้าแลกเงินและความสบาย และเพราะเขาพูดออกมาเต็มปากว่าเธอเป็นผู้หญิงไร้ยางอายเจ้ามารยา ซึ่งเมื่อย้อนกลับไปคิดตาม เธอก็ไม่แตกต่างจากสิ่งที่เขาพูดมากนัก
“ขอโทษนะคะ ขอเชิญญาติออกไปรอที่ห้องรับรองค่ะ” พยาบาลสาวผายมือเชิญสตรีสูงวัยสองคน จังหวะเดียวกันกับนายแพทย์หนุ่มเดินสวนเข้ามาในห้องตรวจ เขายกมือทำความเคารพและกล่าวทักทายอย่างนอบน้อม
“สวัสดีครับคุณแม่”
“แม่ฝากด้วยนะหมอนนท์ น้องยังดูหวาดกลัวอยู่เลย” นางวรากุลบอกกับเพื่อนของลูกชาย
“ครับ ผมจะดูแลตลาอย่างดี คุณแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
หลังจากที่สตรีสูงวัยสองคนเดินตามพยาบาลออกไปจากห้อง ชายหนุ่มก็หันมายิ้มให้คนบนเตียง กล่าวทักทายทำความคุ้นเคยกับคนไข้ ปกติคู่อื่นจะมีสามีมาให้กำลังใจ แต่ในกรณีของหญิงสาวที่เขาไม่ให้ญาติอยู่ด้วยเพราะมองว่าเธอคงอาย เพราะทุกครั้งที่มาพบแพทย์ตามนัดเขามักเห็นเธอใบหน้าแดงระเรื่อและไม่กล้าสบตาเขา
“ยังมีอาการเจ็บอยู่หรือเปล่าครับ พร้อมไหม” นายแพทย์หนุ่มถามอาการของหญิงสาว เพราะปกติของการเก็บไข่สำหรับการทำเด็กหลอดแก้วจะมีอาการเจ็บอยู่มาก
“ยังมีอาการเจ็บค่ะ แต่ฉันไหว” หญิงสาวตอบกลับ เพราะไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิกลายเป็นตัวอ่อนจะต้องย้ายเข้าสู่โพรงมดลูกภายในสามถึงห้าวัน หากคนไข้ไม่มีความพร้อมก็หมายถึงต้องรอให้ไข่ตกในรอบเดือนหน้า ซึ่งขัดกับความต้องการของเธออย่างสิ้นเชิง
นายแพทย์หนุ่มมองหญิงสาวอย่างอ่อนโยน ยังมีพยาบาลสาวอีกคนกำลังเตรียมเครื่องมือให้เขา นั่นทำให้หญิงสาวไม่อายมากนัก
“ทำใจให้สบายนะครับ” เขาบอกพร้อมกับหันไปสนใจกับเครื่องมือ ในขณะที่พยาบาลสาวเดินมาที่เตียงและช่วยคนไข้เตรียมความพร้อมสำหรับการฝังตัวอ่อนในโพรงมดลูก
ผ่านไปเกือบสามสิบนาทีที่หญิงสาวหลับตาปี๋ ตลอดระยะเวลามีเสียงของนายแพทย์หนุ่มกับพยาบาลสาวคุยกันเป็นระยะ จนกระทั่งถึงประโยคสุดท้าย
“เสร็จแล้วครับ หมออยากให้คุณพักฟื้นที่โรงพยาบาลต่ออีกสักคืน เพราะคุณแม่ต้องการความมั่นใจที่สุด”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณนายแพทย์หนุ่ม เธอเข้าใจความต้องการของนางวรากุลตั้งแต่ต้น เพราะหลังจากที่เธอเก็บไข่เมื่อสามวันก่อน เธอก็ยังอยู่ที่โรงพยาบาลต่อจนกระทั่งถึงตอนนี้
ความรู้สึกบางอย่างก่อขึ้นในหัวใจเธอ เมื่อรับรู้ได้ว่าตัวเองกำลังอุ้มท้องและมีหัวใจอีกสองดวงอยู่ในตัวของเธอ ถึงตอนนี้หญิงสาวก็ภาวนาและลุ้นอย่างใจจดใจจ่อ ขอให้หัวใจทั้งสองดวงอยู่กับเธอจนครบกำหนดคลอดด้วยความสมบูรณ์
เธอ...ถูกส่งตัวมาทดสอบถุงยางบริษัทของเขา แต่พลาดท้อง เขา...เชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และไม่ยอมรับ และหาว่าเธอหน้าเงิน หญิงสาวต้องหอบลูกพิสูจน์ "เด็กคนนี้คือลูกของเขา" แต่ไม่คิดอยากได้พ่อเด็กหรอกนะแค่จะสวยให้หมามันน้ำลายหกเล่น ผัวที่ดีคือผัวใหม่เท่านั้น เธอทำให้เขาขาดความมั่นใจในตัวเอง เธอทำให้เพลย์บอยคลั่งไคล้แม่ลูกอ่อนจนโงหัวไม่ขึ้น และเธอก็ใจแข็งเหลือเกินกลับมาเถอะนะ *************************************** "ฉันท้อง!" "ท้องงั้นเหรอ! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด ฉันใส่ถุงยางทุกครั้ง และฉันก็มั่นใจผลิตภัณฑ์ของบริษัทฉัน" ลีอาห์แค่นเสียงถาม มองมายาวีย์อย่างดูแคลน สุดท้ายการที่ผู้หญิงที่บอกว่าเกลียดเขาทุกวินาทีกลับมาขอพบด้วยประเด็นเหนือชั้นกว่าเดิม คงหนีไม่พ้น เงิน "หึ! มุกตื้นๆ แพทเทิร์นเดิมๆ ของผู้หญิงหากิน แค่เธออ้าปากฉันก็มองทะลุปรุโปร่ง คิดจะจับผู้ชายรวยง่ายๆ ฉันไม่ได้มีเขาอยู่บนหัวนะ แล้วก็ไม่ใช่พ่อพระที่จะยอมรับเด็กที่ไม่รู้ว่าเกิดจากสเปิร์มของใครมาเป็นลูกแน่นอน เล่นผิดคนแล้วล่ะ" "ฉันไม่เคยคิดจะให้คุณยอมรับ ลูกของฉันอยู่แล้ว ฉันเลี้ยงเองได้ ที่มาแค่จะมาบอกว่าฉันจะฟ้องบริษัทของคุณที่ผลิตถุงยางไม่ได้คุณภาพต่างหาก" "เธอจะบ้าหรือไง เธอมีหลักฐานอะไรมายืนยัน" ชายหนุ่มโกรธ มายาวีย์จ้องกลับอย่างท้าทาย "คอยดูความบ้าของฉันก็แล้วกัน มันจะเป็นตลกร้ายที่คุณจะจำฉันไม่มีวันลืมเลยทีเดียว" ปึก!! มายาวีย์โยนเอกสารลงที่โต๊ะทำงานของลีอาห์ "นี่เป็นผลตรวจการตั้งครรภ์ของฉัน รอผลตรวจดีเอ็นเอ แล้วก็ไปเจอกันที่ศาล หรือคุณจะยอมรับว่าใช้ถุงยางอนามัยของบริษัทอื่นทำฉันท้องก็ได้นะ" ไปตามลุ้นกันต่อนะคะ สุดท้ายจะลงเอยแบบไหน แอบกระซิบว่าพระเอกครางเป็นหมาเลยค่ะ นางเอกใจเด็ดมากเลยทีเดียว
เขาเรียกว่าบริหารเสน่ห์ อย่าหาว่าหนูแรดนะคะ นะคะ" "แรดเงียบๆ แอบกินเนียนๆ แต่เซียนต้องหลบ" อันดา เจ้าของสโลแกน ‘ถ้าผู้ชายคิดจะมอมเหล้าแล้วลากเข้าโรงแรม ผู้ชายตายก่อนเพราะเปลือง’ เด็กวิศวะก่อสร้างสุดแสบ สายปาร์ตี้ และนักล่าแต้มบริหารเสน่ห์ อันดาถูกครอบครัวมั่นหมายให้กับผู้ชายคนหนึ่งตั้งแต่ลืมตาดูโลกวันแรก เธอเรียกคู่หมั้นว่าห่วงคล้องคอ โซ่ตรวนที่กักขังอิสระของเธอมาตลอดชีวิต เธอตั้งป้อมเกลียดเขา โดยไม่รู้ว่ามันเป็นเพราะอยากเอาชนะหรือความรู้สึกจริงๆ กันแน่ ถึงแม้จะเผลอมีอะไรกับเขาในวันที่เธอเมาหนัก เธอก็สั่งให้เขาลืมเรื่องวันนั้น และห้ามตอกย้ำกับเธออีก เธอไม่แคร์กับเรื่องแค่นั้น จนกระทั่งวันหนึ่ง…เขายอมหลีกทางให้เธอกับผู้ชายคนใหม่ วันนั้นเธอถึงได้รู้ความจริง ว่าเธอขาดผู้ชายคนนั้นไม่ได้ ปฏิบัติการตามล่าเฮียเบิ้มกลับมาทำผัวจึงเกิดขึ้น…
เรื่องชุลมุนเกิดขึ้น เพราะเขาดันไปเผลอพลาดท่า มีอะไรกับนักศึกษาฝึกงานเสียนี่ แถมเจ้าหล่อนยังทำเมินต่อพรหมจารีที่สูญเสีย หล่อนทำให้เขาเสียเซลฟ์ขาดความมั่นใจอยู่หลายวัน จนเขาจะต้องค้นหาความจริง หล่อนมีดีอะไรกันแน่ ถึงทำให้เขาลุ่มหลงได้มากขนาดนี้ คีรติหวงความโสดขั้นสุด รอดมือแม่เสือสาวนักล่ามาหลายปี แต่ดันมาตกม้าตาย ติดกับดักนักศึกษาสาว โดนเด็กตกเข้าให้ หัวใจแพ้ลูกอ้อนอ่อนยวบ แต่ร่างกายกลับฟิตปึ๋งปั๋งซะนี่ "เอาสิ! อยากจับตรงไหนก็เชิญ" วิเวียน นักศึกษาฝึกงานทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ก่อสร้าง แต่เธอกลับถูกส่งไปดูแลห้องของเจ้านายในกรณีพิเศษ แต่ก็ทำปลาหายากราคาสูงลิบของเขาตายไป 9 ตัว เธอจึงต้องทำงานชดใช้เขาต่อหลังจากฝึกงาน บอสคีย์ ผู้ชายฮอตแห่งปี ควงสาวไม่ซ้ำหน้าแถมดีกรีแต่ละคนไม่ธรรมดา แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ยอมลงเอยกับใคร ประธานบริษัทที่แสนดุ เฮี๊ยบและโหดขั้นสุด ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวเขาต้องสมบูรณ์เป๊ะทุกองศา
“รอยจูบ” ที่เธอมอบให้เขาเพราะความสะใจ แต่มันกลับกลายเป็นพันธนาการให้เธอดิ้นไม่หลุด เพลย์บอยร้ายอย่างเขาจะไม่ยอมให้ใครจูบฟรี!
สำหรับปราบ...เขาก็แค่สนุก แต่กลับผูกพันจนอยากกักตัวเธอไว้ สำหรับแป้งฝุ่น เธอแค่รอให้ข้ามคืน แค่กลับเป็นพันธนาการรั้งเธอไว้ชั่วชีวิต
หล่อนถูกหลอกให้มานอนอยู่บนเตียงนายหัวกริน และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการให้ แรกเริ่มจำยอม...ก่อเกิดรักจนตั้งท้อง...แต่ตัวจริงก็มาทวงคืน เขาเฉดหัวเธอออกจากบ้านพร้อมกับลูกในท้อง!!! นายหัวกริน เทวารักษ์ สมิธ(Smith) ผู้ชายที่เกลียดผู้หญิงในสังคมเมือง แต่เขากลับต้องตกกระไดรับเมียบรรณาการที่มารดาส่งมาให้จากกรุงเทพอย่างไม่ทันตั้งตัว สาวแรกแย้มที่สามารถแย้มหัวใจด้านชาให้กลับมาชุ่มฉ่ำอีกครั้ง พลอยขวัญ เพียงเกตุ สาวสวยลูกกำพร้าที่ถูกกดทับด้วยหน้าที่คนรับใช้ แต่มีโอกาสได้เรียนจบปริญญาตรีแต่เธอก็ถูกศยามลกดขี่และล้ำเลิกบุญคุณตลอดเวลา จนเกิดจับพลัดจับพลูได้เดินแบบเฉิดฉายบนแคทวอร์ก สาเหตุของเรื่องราวทั้งหมด เมื่อพลอยขวัญต้องมานอนอยู่บนเตียงนายหัวหนุ่มเมืองใต้ และถูกเจ้าของเตียงยัดเยียดตำแหน่งเมียบรรณาการอย่างไม่ทันตั้งตัว แรกเริ่มจำยอม...ผ่านมารัก...ตัวจริงกลับมาทวงคืน และเธอต้องเลือก...ระหว่าง “กตัญญู” กับ “หัวใจ”
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร
เมื่อเด็กที่อยู่ในอุปการคุณของผู้เป็นบิดาทำท่าว่าจะเลื่อนตำแหน่งขึ้นมาเป็นแม่เลี้ยงของเขา ภาคิม วัชรอาชา ผู้ชายที่แสนจะหยิ่งยโสจึงยอมไม่ได้ สู้ให้บิดามีนางบำเรอเป็นร้อยเหมือนกับนางในฮาเร็มของสุลต่านยังจะดีเสียกว่าให้เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างนั้นมาร่วมสกุล เขาสลัดคู่ควงทุกคนทิ้งแทบจะทันทีแล้วหันมามุ่งมั่นกับการกำจัดว่าที่แม่เลี้ยงและจัดการลงทัณฑ์ผู้หญิงไม่เจียมตัวให้รู้สำนึกว่าอย่างมากเธอก็เป็นได้แค่ ‘นางบำเรอ’ เท่านั้น วิโรษณา ดุษยา เพื่อตอบแทนบุญคุณของผู้มีพระคุณ สาวน้อยไร้เดียงสาจึงต้องยอมตกเป็น ‘เมียบำเรอ’ ของผู้ชายกักขฬะไร้หัวใจโดยไม่ยอมปริปากบ่น และไม่แม้แต่จะเรียกร้องความสมเพชใดๆ จากเขา เพราะรู้ว่าในสายตาของซาตานร้าย ผู้หญิงข้างถนนอย่างเธอมีค่าไม่ต่างอะไรกับขยะชิ้นหนึ่งเท่านั้น “คุณภาคิม ได้โปรดอย่าทำกับปุ้มแบบนี้” “ฉันมีสิทธิ์ลงโทษเธอตามวิธีของฉันวิโรษณา” เสียงเขาแหบกระเส่า วิโรษณาดิ้นอย่างกระสับกระส่าย ทำไมเขาไม่ลงโทษเธอด้วยการเฆี่ยนตี หรือให้อดข้าวอดน้ำ ขังไม่ให้เห็นเดือนเห็นตะวันก็ได้ เขาไม่รู้หรือไงว่าทำแบบนี้ร่างกายของเธอปั่นป่วนและกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยความทรมานอันแสนวาบหวาม ลิ้นร้อนดั่งไฟนาบจุมพิตทั่วทุกอณูเนื้อของดอกไม้แสนฉ่ำหวาน ก่อนจะแทรกลิ้นชื้นเข้าไปรุกรานความอ่อนนุ่มที่นิ้วเรียวของเขาได้สัมผัสมาแล้วก่อนหน้านี้ สาวน้อยพยายามตั้งสติไม่ปล่อยการกระทำไปตามอารมณ์เร่าร้อนที่กำลังรู้สึกอยู่ แต่ลิ้นอุ่นจัดของคนแสนชำนาญก็แทรกลึกเข้าไปในความอ่อนนุ่มกลางกายด้วยจังหวะอันร้ายกาจอย่างไม่หยุดหย่อน ใบหน้าสวยแดงซ่านด้วยอารมณ์ร้อนแรง มือเล็กจิกลงบนที่นอนและขยุ้มจนยับย่นเพื่อระบายความซ่านสยิวที่กำลังโรมรันกายสาวอย่างหน่วงหนัก ร่างบางกระตุกไหว คิ้วสวยขมวดนิ่วด้วยอารมณ์สะท้านซ่าน หลงใหลไปกับสัมผัสของเขาจนเผลอยกสะโพกขยับไปมาเบาๆ ปลายลิ้นหนาลากถูไถขึ้นลงตามกลีบกุหลาบแสนสวยที่เปียกชุ่มไปด้วยความฉ่ำหวาน สองขาเรียวสั่นระริกๆ เมื่อชายหนุ่มเริ่มออกแรงกดปลายลิ้นแตะต้องแรงขึ้น
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
ชาติที่แล้วของไห่เฉิงเขาเป็นประมุขมารที่ไม่สมหวังในความรัก มาแสนภพแสนชาติ และภพชาติที่หนึ่งแสนของเขา มีเหตุให้ต้องทำลายดวงจิตมารของตนเอง และเหลือเสี้ยวดวงจิตเอาไว้เพียงน้อยนิด ดวงจิตที่เหลืออยู่เขาอ้อนวอนขอต่อมหาเทพขอให้เขาได้เกิดเป็นมนุษธรรมดา ที่สมหวังในความรักม่ีครอบครัวที่อบอุ่น และไม่ขอจดจำอดีตชาติของตัวเองอีกต่อไป เขาขอเริ่มต้นใหม่ในดินแดนมนุษย์และไม่ว่าจะเกิดอีกกี่ครั้งกี่ภพกี่ชาติ ขอให้เขาได้สมหวังในความรักทุกภพทุกชาติไป
© 2018-now MeghaBook
บนสุด