เขาฝากรอยมลทินไว้บนเรือนร่างของหล่อนด้วยความแค้น หล่อนยอมชดใช้ความผิดนั้นด้วยหัวใจแตกสลาย หล่อนคิดว่าชาตินี้คงไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ทว่าโชคชะตากลับกลั่นแกล้ง เมื่อหล่อนตั้งใจจะหลบไปอยู่เงียบๆ กับลูกน้อยเพียงสองคน ณ ที่แห่งหนึ่ง ณ ที่นั้นหล่อนได้พบกับเขา คนที่หล่อนทั้งรักและชิงชัง อะไรก็ไม่แย่เท่า เด็กน้อยที่เกาะกุมมือหล่อนอยู่ เป็นลูกของเขา! คนที่ชิงชังหล่อนหมดหัวใจ!
สายฝนซัดสาดกระเซ็นกระทบกระจกหน้าต่างเม็ดแล้วเม็ดเล่าอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด บรรยากาศเบื้องนอกถูกคลี่คลุมด้วยราตรีกาล หากยังคงสว่างไสวด้วยแสงไฟระยิบระยับ...แสงสีแห่งเมืองหลวงที่ไม่เคยหลับใหลไปตามกาลเวลา
บนชั้นสูงสุดของคอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา หญิงสาวผู้เป็นเจ้าของห้องนั่งพิงประตูกระจกบานเลื่อนข้างเตียงขนาดคิงไซส์ บนกระจกมีหยดน้ำฝนเกาะพราวและมีละไอฝ้าจนแทบมองไม่เห็นเบื้องนอก ใบหน้าของหล่อนแนบอยู่กับกระจกเย็นเฉียบ
กายของหล่อนเปลือยเปล่า มีผ้าห่มสีขาวห่มคลุมตั้งแต่ส่วนไหล่ลงไป ลำคอที่โผล่พ้นผ้าห่มออกมานั้นมีรอยแดงเป็นจ้ำๆ และพอจะเดาได้ว่าผิวเนื้อต่ำลงไปนั้นคงมีลักษณะไม่ต่างกัน
าลดัดเป็นลอน เคยสยายเต็มแผ่นหลังและมักจะพลิ้วไหวตามแรงลมอย่างดงาม บัดนี้กลับพันกันยุ่งเหยิงราวกับไม่ได้หวีมาหลายวัน
แก้มของหล่อนขาวซีด หากริมฝีปากกลับบวมแดงช้ำเสมือนถูกใครบางคนบดเบียดเคล้าคลึงซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไร้ปรานี ไหล่ที่เคยตั้งตรง บัดนี้กลับห่อเข้าหากัน...เป็นสภาพที่ใครๆ ต่างไม่คุ้นชิน แม้แต่ตัวหล่อนเอง
สายฝน นาฏยรัตน์ในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากนกปีกหัก หล่อนนั่งเหม่อลอย ทอดสายตามองออกไปภายนอกอย่างไร้จุดหมาย
แม้มองเห็นเพียงละไอฝ้าสีขาวที่เกาะบนกระจก หล่อนกลับไม่คิดขยับตัว
ดวงตาของหล่อนแดงก่ำ น้ำตาคงเหือดแห้งไปแล้ว ทิ้งไว้เพียงความหม่นโศกและแห้งแล้งในดวงตาที่เคยชุ่มฉ่ำวับหวานเชื้อเชิญ
ดวงตาอันทรงเสน่ห์ เหลือเพียง...ความเจ็บปวดรวดร้าว
ความสง่างามและเซ็กซี่ที่ใครๆ ต่างชื่นชม เหลือไว้เพียง ‘ซาก’ ที่ถูกฉีกทึ้งจนย่อยยับ
นานเท่านาน จวบจนรุ่งสาง หล่อนจึงขยับกาย
สายฝนหยัดกายยืน ขาสั่น กายสะท้าน ความเจ็บปวดตรง ใจกลางเรือนร่างทำให้หล่อนต้องเปล่งเสียงครางอย่างทรมาน
เมื่อหยัดยืนเต็มสองเท้า แทนที่จะเดินออกไปจากตรงนั้น...จากห้องที่หลงเหลือกลิ่นของใครคนนั้น และจากเตียงที่ยังคงมี ‘หลักฐาน’ ระหว่างเขาและหล่อน สายฝนยังคงปักหลักยืนอยู่เบื้องหน้าประตูกระจกเลื่อน มองดวงตะวันที่ค่อยๆ ทอแสงขับไล่ความมืดมิดของราตรีกาลทีละน้อยๆ
ตะวันทอแสงมากเท่าไร ใจของหล่อนกลับยิ่งมืดดับมากเท่านั้น
หญิงสาวปิดเปลือกตา กล้ำกลืนน้ำตาให้รินไหลอยู่ในอก
รอยมลทินที่ใครบางคนฝากฝังไว้บนตัวหล่อนไม่มีทางลบเลือน
หากรอยรักที่สลักลึกในหัวใจหล่อนมากกว่าสิบปีก็ไม่มีทีท่าว่าจะจางหายเช่นเดียวกัน!
อีกไม่กี่วันเธอก็จะบินไปเรียนต่อที่อังกฤษแล้ว ทว่าเหตุการณ์กลับพลิกผันในคืนเดียว นอกจากจะไม่ได้บินไปอังกฤษ ยังได้สามีมาหนึ่งคน เธอตั้งใจจะไปคลอดเสียที่อังกฤษ รอจนลูกโตสักหน่อยค่อยกลับมา ทว่าพ่อของลูกขัดขวางเธอตั้งแต่เธอยังไม่ทันก้าวพ้นประตูด้วยซ้ำ 'เรามาแต่งงานกัน' เขาใช้น้ำเสียงราวกับเจรจาตกลงเรื่องธุรกิจ นี่มิใช่การแต่งงานด้วยความรัก เขาเพียงต้องการลูก ส่วนเธอแต่งเพราะความจำเป็น ทว่าในใจส่วนลึกเธอรู้ดีว่าแท้จริงแล้วเธอยอมแต่งงานกับเขาเพราะเหตุผลเพียงอย่างเดียว
เขาคือตรีทศ ปัจจภาคย์...บุรุษผู้เกลียดชังเธอสุดขั้วหัวใจ แม้เมื่อยามต้องร่วมทางเดินเดียวกันในระยะเวลาหนึ่งปี เขาก็ไม่เคย ‘ใจดี’ กับเธอเลยสักครั้ง เขาก้าวเท้าพรวดเดียวมายืนตรงหน้า ใกล้มากพอที่ลมหายใจร้อนผ่าวจะรินรดบนหน้าผากเกลี้ยงเกลา สายตาของเข้าจับจ้องเธอแน่วนิ่ง ก่อนกวาดมองตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าราวกับต้องการสำรวจว่าเธอแต่งกายเหมาะสมคู่ควรกับการเป็นภรรยาของเขาหรือไม่ แต่ใครจะรู้...เจ้าสาวที่ใครๆ อิจฉา ยามนี้ต้องกล้ำกลืนฝืนทน และเก็บกดรอยน้ำตาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจอย่างสุดความสามารถเพียงใด! พรนภัสแตะปลายนิ้วบนแหวนที่สวมอยู่บนนิ้วนางข้างซ้าย แหวนที่ไม่มีความสำคัญอันใด นอกเสียจากเป็นหลักประกันว่าเขาจะได้มรดกทั้งหมดจากผู้เป็นบิดา!
“รุ้ง...” เห็นสายตาวิงวอนของเขา สายรุ้งก็อดยอกย้อนไม่ได้...นับว่าเป็นครั้งแรกที่หล่อนใช้สุ้มเสียงประชดประชัน และเคียดขึ้งเช่นนี้ “ทำไมคะ? พี่กรไม่อยากหย่าเพราะยังกอบโกยไม่พองั้นเหรอคะ?!” “รุ้ง!” เขาอุทานเรียกหล่อนอย่างตกใจไม่น้อยกับถ้อยคำที่เปล่งออกมาจากเรียวปากอิ่มเต็ม “พี่กรจะเอาอะไรจากรุ้งอีก! รุ้งไม่มีอะไรจะให้ ไม่อยากให้แล้ว!” สายรุ้งสะดุ้งเล็กน้อย เมื่อสามีกระชากกระเป๋าจากมือของหล่อนแล้วโยนไปส่งๆ มันกระแทกกับผนังก่อนเสื้อผ้าบางชุดในกระเป๋าจะร่วงหล่นลงมากระจัดกระจาย
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"