เพราะความผิดพลาดในค่ำคืนนั้น ทำให้นรีกานต์และกวีวัธน์ต้องแต่งงานกัน ทว่าเขากลับยังคงมีเยื่อใยต่อคนรักเก่าอยู่ เธอจำต้องเดินออกมา เพื่อให้เขาได้สมหวังกับคนรัก แม้กำลังตั้งครรภ์อยู่ก็ตาม ทว่าเขากลับตามหา เพื่อทวงสิทธิ์ของความเป็นสามีและพ่อของลูกกับเธอ ******************************* ปัง! ประตูปิดลงร่างเธอถูกโยนลงบนเตียง รีบลุกพรวด จ้องมองอีกฝ่ายแววตาตื่นตระหนก “นี่คุณทำบ้าอะไร ไม่ตลกแล้วนะ!” เธอตวาดลั่น “ฉันก็ไม่ตลกเหมือนกัน มาอยู่ที่นี่เพราะต้องการเป็นเมียฉันไม่ใช่หรือไง นี่ไง! กำลังจะทำให้ เธอมาได้จังหวะพอดีเลย ฉันกำลังว่าง กำลังโสด แต่ก่อนแต่ง ฉันขอเช็คของหน่อยก็แล้วกัน ว่ามีดีแค่ไหน!” คนตัวเมากระโจนเข้าหา นรีกานต์รู้ในทันทีว่า ชีวิตตนเองกำลังตกอยู่ในอันตรายแล้ว กระโจนหนีด้วยความหวาดกลัว วิ่งตรงไปหาประตู ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าไว้ กระชากร่างบางเข้าหาจนปะทะแผงอก มือยกทุบตีจิกข่วนอีกฝ่ายไม่หยุดหย่อน แต่เหมือนเขาไม่สะเทือนเลยสักนิด “ปล่อยฉันนะ ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยที!” ไม่ทันได้ร้องขอความช่วยเหลือต่อ ริมฝีปากถูกปิดอย่างรวดเร็ว “อื้อ!” ร่างถูกตรงบนเตียง เรียวแขนรวบไว้เหนือศีรษะ น้ำตาคนโดนกระทำไหลริน เมื่อรู้ว่าตนเองหมดหนทางรอดในคราวนี้ เขาชะงักจ้องมองใบหน้าของคนใต้ร่าง น้ำตาของผู้หญิงมันไร้ความหมายสิ้นดี มารยาแบบนี้ เห็นมาจนสะอิดสะเอียนแล้ว “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันกลัวแล้ว...” “หยุดพูดให้รำคาญสักที นอนเฉยๆ ไปเถอะ เดี๋ยวก็มีความสุขเอง!”
เสียงรถยนต์จอดเทียบ โสภาพรรณเจ้าของบ้านเดินออกมายืนรอด้านนอก ประตูรถครอบครัวเปิด คนในรถสามคนลงมา มนทิพย์ยิ้มกว้างแล้วเดินตรงมาหาเพื่อน กุมไม้กุมมือท่าทางสนิทสนม เจ้าบ้านรีบพาแขกมายังห้องรับรอง สามคนหย่อนกายลงบนโซฟาตรงข้ามกัน
โสภาพรรณทอดสายตามอง ไปยังหญิงสาววัยแรกรุ่น หน้าตาหมดจดงดงาม ใจหวังอยากได้เป็นสะใภ้นักหนา ติดที่ตรงลูกชายดันมีเจ้าของหัวใจเสียแล้ว นรีการต์หญิงสาวอายุวัยยี่สิบเอ็ดปี ผิวกายขาวอมชมพู จมูกโด่ง ดวงตาเรียวสวย ใบหน้ารูปไข่ ผมยาวเคลียแผ่นหลัง ยกมือไหว้หญิงเจ้าของบ้าน ซึ่งเธอเคยเห็นหน้ามาหลายครั้ง
“ไหว้พระเถอะลูก เจอกี่ครั้งก็ยังสวยเหมือนเดิมเลยนะหนูนรี” โสภาพรรณทักทาย
“ขอบคุณค่ะคุณป้า”
เธอหันไปหาเพื่อน แล้วยิ้มกว้าง
“ฉันเห็นเธอโทรมาหา ไม่คิดว่าจะมีเรื่องด่วนขนาดนี้” โสภาพรรณเอ่ยปาก แล้วยกแก้วน้ำขึ้นจิบ
“ฉันเองก็ไม่อยากรบกวนเธอเลยโสภา แต่มันจำเป็นจริงๆ”
โสภาพรรณโบกไม้โบกมือ
“โอ้ย! รบกวนอะไรกันเล่า เราเป็นเพื่อนกันมานานขนาดนี้ มีธุระอะไรบอกฉันได้เลยมน!”
“ก็อย่างที่เล่านั้นแหละจ้ะ ขอฝากยัยนรีหน่อยน่ะ พอดีฉันต้องเดินทางไปต่างประเทศกับคุณพิชัยกะทันหัน ยัยนรีเองก็ติดสอบด้วย เลยพาไปด้วยไม่ได้”
“ไม่มีปัญหาหรอกจ้ะ จะฝากไว้นานเท่าไหร่ก็ได้”
สาวใช้เลยพากันยกกระเป๋าออกจากรถ นรีกานต์ยืนส่งพ่อกับแม่ด้านหน้า ปกติพ่อเป็นคนไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ แต่วันนี้สีหน้าพ่อดูเหมือนมีเรื่องไม่สบายใจ
“ตั้งใจสอบนะลูก” พิชัยบอกบุตรสาวแววตาหม่น
“ค่ะพ่อ”
“แม่ไปก่อนนะนรี เสร็จธุระแล้วแม่จะรีบกลับมานะลูก”
“แม่ไปเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงนรี”
รถเคลื่อนลับจากสายตา นรีกานต์ยืนมองแล้วถอนหายใจ เดินคอตกกลับเข้าสู่ด้านใน บ้านหลังนี้เธอเคยมาเที่ยวเล่นหลายครั้งแล้ว แต่ไม่เคยมานอนค้างโดยไร้มารดาหรือบิดาเลย รู้สึกชอบกล
“นรี หนูจะทานข้าวก่อนไหม หิวหรือเปล่า” โสภาพรรณตรงเข้ามาถาม ใบหน้ายิ้มแย้ม
“ยังดีกว่าค่ะคุณป้า นรีเพิ่งแวะทานมากับคุณพ่อคุณแม่”
“ถ้าอย่างนั้นขึ้นไปจัดของก่อนไหม กว่าจะได้กลับคงเป็นเดือน”
“ค่ะคุณป้า”
โสภาพรรณมองหาสาวใช้ในบ้าน ก่อนกวักมือเรียก
“ใบเตย พาคุณนรีไปที่ห้องหน่อย”
“ได้ค่ะคุณผู้หญิง”
นรีกานต์มาถึงห้องนอน สาวใช้ช่วยจัดเสื้อผ้าเข้าตู้ ร่างบางเดินมาหยุดยืนตรงหน้าต่าง เปิดม่านออกแล้วมองไปยังสวนด้านหลังบ้านหลังงาม ในความทรงจำ เธอเคยเห็นบุตรชายของบ้านนี้ เขามีใบหน้าหล่อเหลา ผิวกายขาว ใบหน้าคมเข้ม จมูกโด่ง ริมฝีปากได้รูป ดวงตาคมกริบช่างทรงเสน่ห์ ยามมองมามันทำให้เธอใจสั่นสะท้านทุกครั้ง
เธอไม่อยากอยู่ที่นี่ เพราะชายที่ชื่อกวีวัธน์ สาวเท้าเดินกลับมา ช่วยสาวใช้เก็บข้าวของ ใจหวังแค่เพียง โชคชะตาจะไม่นำพาให้ได้พบหน้ากับเขาทุกวัน
กลิ่นจันทร์ หญิงสาวมากความสามารถ หนีห่างไกลเมืองไทยเพราะเจ็บช้ำจากแฟนหนุ่มซึ่งนอกใจ ทว่าเมื่อกลับมาเขากลับกลายเป็นเจ้าของบ้านที่เธอเคยอาศัยตั้งแต่เด็ก แม่เลี้ยงและพี่สาวต่างบิดารวมหัวกันหักหลังเธอกับพ่อ ขายบ้านหลังนี้ กลิ่นจันทร์ต้องการได้คืน แต่เธอไม่มีเงินมากพอ เมื่อนั้น แฟนหนุ่มซึ่งอยู่ในหัวใจเธอตลอดเวลา แม้เขาทำเรื่องผิดมหันต์ เธอก็มิอาจทำใจให้ลืมลง คิมหันต์ ชายหนุ่มผู้ฝ่าฝันอุปสรรค จำตั้งตัวเป็นเจ้าของบริษัทยักษ์ใหญ่ได้สำเร็จ กระนั้นในหัวใจเขากลับเย็นเยือกราวกับน้ำแข็ง เพียงเพราะถูกแฟนสาวทรยศหนีไปต่างประเทศ เพียงเพราะได้พบกับผู้ชายคนใหม่ ความแค้นฝังแน่นในอก เขารอวันเอาคืน และโอกาสก็มาถึง “ผมจะคืนบ้านให้ ถ้าคุณยอมเป็นเมียผมเป็นเวลาหนึ่งปี”
เมื่อหนึ่งมีรักให้แต่ไม่อาจบอก กับอีกหนึ่งที่ไม่เคยรู้และตั้งหน้าตั้งตาชิงชัง การหมั้นหมายที่เกิดจากผู้ใหญ่ส่งผลให้นาฎสุรีย์ต้องจากลาไปไกลเพื่อรักษาแผลใจ ส่วนอีกคนที่ไม่เคยรับรู้ แท้จริงแล้วกลับห่วงหา ห้าปีต่อมา สองคนได้พบกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอเปลี่ยนไป ส่วนเขากลับรู้หัวใจตัวเอง ******************** เพียะ! ใบหน้าหันตามแรงฝ่ามือ ชายหนุ่มนิ่งงัน มันชาไปทั้งแถบ นาฎสุรีย์มองมือตัวเอง มันกำลังสั่น เมื่อเขาหันมาสบตา เห็นสีหน้าแววตามันเปลี่ยนไป เธอชะงักตัดสินใจหันหลังคิดวิ่งหนี แต่ทว่าเรียวแขนกลับถูกคว้าเอาไว้ “คิดว่าทำแบบนี้ แล้วจะหนีไปงั้นเหรอ มันง่ายไปมั้ง” พูดจบ เขาเหวี่ยงร่างบางลงบนเตียง แล้วใช้เท้าถีบประตูปิดลง ก่อนล็อคอย่างแน่หนา “ช่วยด้วย ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที!” หญิงสาวร้องลั่น “แหกปากไปเลย เอาให้ดัง ห้องฉันเป็นห้องเดียวที่ไม่มีกุญแจสำรองไข ถึงมีก็ไม่มีใครก็กล้ามายุ่งหรอกนะ เพราะฉันเป็นคนยังไง ทุกคนรู้ดี” เขาส่งเสียงข่มขู่ นาฎสุรีย์จ้องมองอีกฝ่าย กัดริมฝีปากครุ่นคิดหาทางเอาตัวรอด เธอไม่ได้อยากตบหน้าเขา แต่เพราะคำพูดนั้นมันทำให้ระงับความโกรธไว้ไม่ได้เลย “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ก็นายพูดจาไม่ให้เกียรติกันเลย!” หญิงสาวพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ ตอนนี้ตนเองตกอยู่ในสถานการณ์ เสียเปรียบอย่างรุนแรง ทว่าแววตาของอีกฝ่าย กลับไม่เย็นลงเลยแม้แต่น้อย “ตอนนี้ต่อให้พ่นอะไรออกมา มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว เพราะฉันไม่ให้อภัยเธอ!” เขาตวาดลั่น คนใต้ร่างสะดุ้งสีหน้าตื่นกลัว มือหนาจับสาบเสื้อ ที่เคยถูกกระชากมาก่อนหน้า ออกแรงดึง แควก! มันขาดติดมือ เจ้าของเสื้อชะงักดวงตาเบิกกว้าง กรีดร้องขึ้นมาทันที พยายามดิ้นรนผลักดันอีกฝ่ายเพื่อให้พ้นจากการโดนกระทำ แต่ทว่าอารมณ์ของเขา กลับรุนแรงเกินกว่า เรี่ยวแรงเธอจะต้านทานเอาไว้ได้ “ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน ได้ยินไหม!” คนหน้ามืด ไม่ฟังเสียง ตอนนี้ในหัวเขาแค่ต้องการเอาคืน กับการกระทำไร้ซึ่งการไตร่ตรองของอีกคน คนอย่างพีรดล ไม่มีวันยอมให้ใครมาหยาม เท่าที่ผ่านก็ถือว่ายอมมามากพอแล้ว ริมฝีปากบางถูกฉกฉวยอย่างรวดเร็ว จนคนใต้ร่างร้องครางในลำคอ พยายามผลักไสอีกฝ่าย แต่ร่างกายนั้นกลับไม่สะดุ้งสะเทือนแม้แต่น้อยเลย มือหนาลูบไล้ไปตามสัดส่วน ทำเอาเลือดในกายชายหนุ่มเริ่มร้อนฉ่า กระโปรงนักศึกษาถูกรั้งออก เจ้าของน้ำตาเริ่มคลอ ความหวาดกลัวแล่นพล่าน เธอไม่น่าโมโหจนน่ามืด แล้วหลงลืมไปว่า แท้จริงแล้วพีรดลเป็นคนเช่นไร หมดสิ้นแล้วซึ่งหนทางเอาตัวรอด อยากหลับโดยไม่รับรู้อะไรอีกเลย เขาถอนริมฝีปากจ้องมองอีกคน เห็นน้ำตาเธอกำลังไหลรินออกมา ทว่ามันได้ทำให้รู้สึกสงสาร เมื่ออารมณ์ตอนนี้มันกระเจิงไปไกล นาฎสุรีย์มีดีกว่าที่คิด เรือนร่างเย้ายวน ตรงหน้าทำเอาหายใจแทบไม่ออก ตัวตนแข็งขืนจนแทบปริแตก มันกำลังต้องการปลดปล่อย “ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันขอโทษ ฉันผิดเอง นายอย่าทำอะไรฉันเลยนะ...” เธออ้อนวอนทั้งน้ำตา “มันสายไปแล้ว เธอไม่ควรเข้ามาที่ห้องฉันตั้งแต่แรก...” เขาตอบเสียงรอดไรฟัน จะให้ผละไปได้ยังไง ในเมื่อเธอทำให้เขาแทบคลั่งแบบนี้
เธอถูกจ้างให้แย่งชิงชายคนหนึ่ง ทว่าหญิงคนนั้นเสียใจจนฆ่าตัวตาย เธอจมอยู่กับความเสียใจจนกระทั่งได้พบกับเขา ชายผู้เอื้อมมือมาปลุกปลอบและทำลาย
เธอยอมเสียสละทุกอย่างเพื่อความรัก แต่คนรักกลับมีคนอื่น เธอเลยตัดสินใจแต่งงานกับเขา เพื่อเอาคืนคนพวกนั้น โดยหวังให้เขาคือเครื่องมือระบายความแค้น ทว่าเป็นเธอเองที่ตกหลุมกับดักที่ตนเองวางไว้ ใครจะรู้ว่าเขาจะนำพาให้เธอตกอยู่ในห้วงอารมณ์พิศวาส จนอยากจะถอนตัว
เพราะวัยเพียงสิบสี่มิลันดาถูกปฏิเสธความรักที่มีให้กับคมฉณัฐอย่างไร้เยื่อใยความเสียใจทำให้เด็กสาวตัดสินใจเรียนต่อเมืองนอก คมฉณัฐจะทำเช่นไรเมื่อกลับมาเด็กสาวกลายเป็นสาวสะพรั่งดีกรีศัลยแพทย์เกียรตินิยม
ไม่รู้ว่าเป็นคราวซวยหรือสวรรค์กลั่นแกล้งกันแน่ เมื่อไฮโซสาวสร้างข่าวฉาวไม่เว้นแต่ละวันอย่างเมริยา สิทธิศักดิ์โสภณ ต้องตกกระไดพลอยโจน ถูกจับแต่งงานกับหนุ่มรูปกายภายนอกดูสุภาพบุรุษ ท่าทางสุขุมนุ่มลึก อย่างด็อกเตอร์ กันตธร วัชรเดชานนท์ เพียงเพราะสองคนถูกแอบถ่ายขณะเข้าโรงแรมด้วยกัน ทว่าเมริยาไม่เคยคิดเลยว่า ภาพลักษณ์ของชายคนนี้แท้จริงเป็นแค่ภาพลวงตากันตธรเองก็ไม่คิดเช่นกันว่าภาพลักษณ์ของเธอแท้จริงคือสิ่งหลอกลวง เมื่อเขาไม่ใช่อย่างที่เธอคิด และเธอไม่ใช่อย่างที่เขาคิด การอยู่ร่วมบ้านจึงกลายเป็นเรื่องวุ่นปั่นป่วน ********************************* “ชุดคุณเลือกเอาเองก็แล้วกัน เผื่ออยากใส่แบบวาบหวิวโชว์เยอะๆ แบบที่คุณชอบไง” ชายหนุ่มประชดแล้วยักไหล่ คนถูกเยาะเย้ยสุดทน อารมณ์เริ่มขุ่นมัวอีกครั้ง เมริยากัดริมฝีปากแล้วจ้องมองว่าที่เจ้าบ่าว “ใช่! อย่างฉันมันต้องแหวกมันต้องเว้าเอาให้เห็นถึงข้างในนั้นล่ะถึงจะเป็นสไตล์ของฉัน!” คนสวยย้อนจ้องหน้าเขาไม่วางตา “เชิญตามสบาย อยากจะแหวกขนาดไหนก็เชิญผมไม่ว่าอะไรหรอก” เมริยาจ้องมองแผ่นหลังเขาที่หายเข้าไปในห้องลองเสื้อ มือบางกำแน่นด้วยความเดือดดาล โอ้ย! เธอโมโหจนแทบจะกระอักออกมาอยู่แล้ว ไอ้หมอนี่ต้องตายด้วยมือเธอสักวัน *********************************** เมริยาเห็นสันกรามอีกฝ่ายรู้ดีว่าเขากำลังทรมาน ค่อยๆ ใช้แขนชันกายขึ้นโน้มใบหน้าใกล้ใบหูกระซิบแผ่ว “หลับแล้วเหรอคะ คุณสามี...”คนฟังขนลุกซู่ รีบลุกพรวดขึ้นมาด้วยความตกใจ “เฮ้ย! คุณทำอะไร!”เขาร้องลั่น คนตัวเล็กลุกนั่งแสร้งยิ้มหวานยั่วยวน กันตธรอ้าปากค้างเห็นชุดที่สาวเจ้าใส่เล่นเอาใจสั่น สติแทบคงไว้ไม่อยู่ สะบัดไล่ความคิดด้านมืดออก จะตกหลุมพรางของเธอไม่ได้ “ถะ...ถอยออกไปเลยนะ ผมขอเตือนวันนี้คุณไม่ได้แอ้มผมหรอก”ชายหนุ่มบอกเสียงสั่น “แน่ใจเหรอคะที่รักขา...”หญิงสาวแสร้งลากเสียงหวานก่อนเขยิบกายเข้ามาใกล้ “ออกไปเลยคุณ ผมไม่มีวันทำอะไรคุณหรอก อย่ามาหื่นขอร้อง”กันตธรกระถดกายหนี *********************************************
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง