“พี่ธันวา...” ดารัณเรียกเหมือนละเมอ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน เขามายังไง เธอฝันไปใช่ไหม? ธันวาประคองใบหน้าที่เขรอะไปด้วยคราบน้ำตาแล้วประทับริมฝีปากของตนกับริมฝีปากนุ่มสั่นระริกอย่างรวดเร็วและรุนแรง มันไม่ใช่จูบปลอบขวัญแต่มันเป็นจูบลงลงทัณฑ์ หญิงสาวรู้สึกว่ามันเป็นจูบลงโทษ ไม่อยากคิดต่อเลยว่าถ้าผู้ชายแสนอบอุ่นอย่างเขาโกรธจัดขึ้นมาจะร้ายกาจเพียงใด เอ๊ะ! แล้วเขาจะมาโกรธเธอทำไมกันเล่า ในเมื่อเธอไม่ไดทำอะไรผิดเสียหน่อย รู้สึกเจ็บเมื่อเขาขบเม้มริมฝีปากเธออย่างรุนแรงอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน เขาแทบดูดกลืนวิญญาณของเธอไปพร้อมกับมอบจูบเร่าร้อนและหนักหน่วงจนเธอแทบขาดอากาศหายใจ “เด็กโง่! ทำไมชอบทำให้เป็นห่วงนักนะ” น้ำเสียงเข้มดุคนตัวเล็กด้วยความโมโห หมอหนุ่มอย่าง “ธันวา” จำใจต้องแต่งงานกับ “ดารัณ” ผู้หญิงที่คุณแม่ของเขาวางแผนจับเขาให้แต่งงานกับผู้หญิงที่แม่เลือก เขาไม่เคยนึกเลยว่าเด็กผู้หญิงที่เคยเจอเมื่อ 9 ปีก่อน คนที่เขาเคยวิ่งหนี วันนี้จะกลายเป็นสาวสวยและหวานฉ่ำจนเขาต้องวางแผนลักพาตัวภรรยาตัวเอง!.
ฝนหลงฤดูกระหน่ำลงอย่างหนักรถจี๊ปคันเก่าที่ว่าเก๋าก็ยังติดหล่มยากจะดึงดันให้หลุดพ้น ชายหนุ่มกระโดดลงจากรถลงมาช่วยชาวบ้านเข็นรถขึ้นจากหล่ม
“คุณหมอไม่ต้องลงมาหรอกครับ” ชายวัยกลางคนกล่าวเสียงดังแข่งกับเสียงฝน
“ไม่ช่วยได้ไง ต้องช่วยซิ” หมอหนุ่มหัวเราะพลางเช็ดน้ำฝนที่สาดเข้าหน้า “ลุงไปหาไม้มาหนุนล้อก่อน เราช่วยเข็นกันสองสามแรงจะได้ออกจากหล่มได้เสียที”
“คุณหมอเลยต้องมาลำบากเพราะพวกเราเลย” ชายวัยกลางคนพึมพำแล้วไปหาไม้แถวๆ นั้นมาหนุนใต้ล้อรถเพื่อให้รถหลุดจากหล่ม
“โธ่! ลำบากอะไรกัน”
ชายหนุ่มออกแรงดันรถ เขาตะโกนบอกให้เด็กหนุ่มอีกคนที่อยู่หลังพวงมาลัยเหยียบคันเร่งเต็มที แต่รถก็ขยับขึ้นไปนิดก่อนจะไหลลงมาที่เก่าซ้ำยังดีดโคลนใส่คนที่อยู่ท้ายรถจนเนื้อตัวมอมแมมไปหมด
ท้องฟ้ามืดมิดมีเพียงแสบแลบแปลบปลาบจากสายฟ้า ชายหนุ่มเม้มปากเน้นอย่างครุ่นคิด เขาออกมาตรวจคนไข้ที่อยู่ไกลจากโรงพยาบาลหลายสิบกิโลเมตร แต่ขากลับติดพายุฝนจนเริ่มค่ำมืดก็ยังไปได้ไม่ถึงครึ่งทาง รถจี๊ปคันเก่าก็ดันมาติดหล่มเสียอีก เห็นท่าว่าคืนนี้อาจจะได้ตากฝนอยู่แถวนี้จนถึงรุ่งเช้าเป็นแน่ ขณะที่เขากำลังคิดหาทางออก แสงไฟวาบก็ส่องมาทางเขาจนต้องยกมือขึ้นป้องแสงที่แยงตา
“ไอ้หมอ! ไอ้หมอธันวา!”
หมอหนุ่มเจ้าของชื่อเพ่งสายตาหลังแว่นตาจ้องมองไปผู้มาใหม่ ชายหนุ่มร่างใหญ่ในชุดเสื้อกันฝนเนื้อหนาสีเขียวทหารเดินเข้ามาใกล้แล้วยื่นมามาข้างหน้า ธันวาหรือหมอธันวาจับมือเพื่อนที่ที่ช่วยดึงเขาขึ้นจากโคลน เพื่อนตบไหล่สองสามทีแล้วหันไปสั่งลูกน้องที่ตามมาให้ช่วยกันลากรถจี๊ปขึ้น
“หมอเอากระเป๋ามาแล้วไปกับเราก่อน” พิชญะสั่งเพื่อน “เราเอารถมาสองคัน เดี๋ยวให้ลูกน้องจัดการลากรถหมอกลับไปเอง”
“ได้ๆ”
ธันวาเอื้อมมือไปหยิบเป้ส่วนตัวกับกระเป๋าเครื่องมือเดินตามหลังเพื่อนมาที่รถรถโฟร์วิลล์ที่มีสติกเกอร์ ‘ไร่ฉายฉาน’ ติดอยู่ประตูรถ โชคดีที่เขาออกตรวจเพียงลำพัง ถ้าวันนี้มีพยาบาลติดตามมาด้วยคงลำบากไม่น้อย ธันวาก้าวขึ้นนั่งแล้ว พิชญะก็ส่งผ้าขนหนูผืนกำลังดีให้ซับหน้าก่อนจะพารถเคลื่อนออกไป
“โชคดีที่นายผ่านมาทางนี้พอดี” ธันวาถอดแว่นตาออกแล้วเช็ดหน้าที่เปื้อนน้ำฝน เขามองแว่นตาในมือมีโคลนเลอะติดแว่นของเขาด้วย
“ไม่ได้บังเอิญผ่านมาแต่ตั้งใจมาเลยล่ะ” พิชญะหัวเราะและบังคับรถฝ่าสายฝนด้วยความชำนาญ
“อ้าว! ยังไงกันละ?” ธันวามองเพื่อนแล้วขมวดคิ้ว “ที่บ้านมีใครไม่สบายหรือเปล่า คุณรินหรือลูกชายของนายป่วยเหรอ”
พิชญะแหงนหน้าหัวเราะเสียงดัง “คนที่บ้านเราปกติดีทุกคน แต่คนที่บ้านนายนั้นแหละมีปัญหาแน่ๆ”
“ตกลงมันอะไรกัน นี่เรางงไปหมดแล้ว”
“ไม่ได้กลับบ้านกี่เดือนแล้วล่ะ” พิชญะถามยิ้มๆ “บ้านที่กรุงเทพฯนะ”
ธันวาโคลงศีรษะไปมา เขากำลังจะบอกว่าไม่กี่เดือนนี่เอง แต่พอนับนิ้วในใจก็กว่าครึ่งปีแล้วกระมั้ง เอ...หรือจะนานกว่านั้นแล้วนะ แต่คงไม่ถึงปีแน่ๆ เอ๋? หรือจะครบปีแล้วละนี่?
“แม่นายโทรมาตามให้กลับบ้าน”
“มีใครเป็นอะไรหรือเปล่า?” คุณหมอหนุ่มเริ่มเป็นกังวล จริงๆ แม่ของเขามักจะโทรศัพท์พูดคุยกันบ่อยๆ เขาจึงไม่รู้สึกห่างเหินคนที่บ้านนัก เพียงแต่ค่เขามีบางอย่างที่ทำให้ไม่อยากกลับบ้านก็เท่านั้น
“อันนี้ไม่รู้นะ” พิชญะยักไหล่ “แต่คงเป็นกังวลที่ติดต่อนายไม่ได้เสียที ก็พอดีเมียเราเห็นฝนลงหนักกลัวนายจะออกจากหมู่บ้านหลังเขาไม่ได้ เราก็เลยต้องรับรถมารับนายไง”
“อ่อ! นี่คำสั่งเมีย” ธันวาหัวเราะออกมาบ้าง เพื่อนซี้ของเขาแต่งงานไปเมื่อปีที่แล้วและตอนนี้ก็มีลูกชายตัวน้อยน่ารักวัยไม่ถึงขวบดีนัก “ไอ้เราก็นึกว่าเป็นห่วงเพื่อน”
“ทำเป็นหัวเราะไป มีเมียเมื่อไหร่เดี๋ยวก็รู้เอง”
ธันวาส่ายหน้าไปมานี่เขาก็เพิ่งอกหักทั้งที่ไม่ได้บอกรักก็เพราะไอ้คุณเพื่อนซี้นี้นะ แต่ในเมื่อผู้หญิงไม่ได้รักเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้ รอยยิ้มจางไปเมื่อนึกถึงเรื่องที่บ้าน เขาก็แอบถอนหายใจหนักๆ ไม่ได้กลับบ้านร่วมปีคงทำให้แม่ไม่ค่อยพอใจนัก การที่เขามาทำงานเป็นแพทย์ชนบทอย่างนี้แม่ก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยอยู่แล้ว แม้จะเข้าใจดีว่าแม่อยากให้เขากลับไปทำงานอยู่ใกล้ๆ แม่มีหุ้นในโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังและหวังใจให้เขาทำงานที่นั้น แต่หัวใจเขาปฏิเสธการทำงานในเมืองหลวง แม่เรียกว่าเขาเป็นพวกกินอุดมการณ์ เกือบสิบปีแล้วที่เขาทำงานอย่างนี้ทำให้เขากลับบ้านแทบนับครั้งได้เพราะไม่ต้องการได้ยินเสียงบ่นว่าของแม่
แต่ถ้าแม่โทรมาตามให้กลับบ้านนี่คงไม่ธรรมดาแน่ๆ จริงๆ งานที่นี่เขาก็วางระบบทุกอย่างไว้ดีแล้ว แล้วตลอดหลายปีมานี่เขาแทบไม่เคยลาหยุดเลย ถ้าจะลากลับบ้านสักอาทิตย์สองอาทิตย์คงไม่เป็นไร อย่างน้อยก็กลับไปให้แม่บ่นว่าจะได้สบายใจก็แล้ว.
นางเป็นฮูหยินที่ถูกต้อง แต่เขากลับเฉยชาใส่ มีเพียงบนเตียงเท่านั้นที่เขาเร่าร้อนจนนางแทบมอดไหม้ จ้าวจื่อรั่วอายุเพียงสิบหกปีเป็นลูกอนุของเสนาบดีสกุลจ้าว ถูกสับเปลี่ยนตัวมาเป็นเจ้าสาวมาแต่งงานกับแม่ทัพที่ชายแดนใต้ กู้ตงหยางบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีฉายาแม่ทัพปีศาจที่แสนเหี้ยมโหด "เจ้าติดค้างข้า ไม่ว่าจะเล่นลิ้นอย่างไร เจ้าย่อมรู้ดีว่าสกุลจ้าวปลิ้นปล้อน เจ้าอย่าได้หวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย" พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่นั่งเพียงลำพัง แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้ ชีวิตนางจะได้พบความสุขเช่นคนอื่นบ้างไหม.
มันควรเป็นOne night stand แต่เขากลับไม่ยอมให้จบลงแค่นั้น “ก็บอกแล้วไง ถ้าอยากกัดก็กัดผมนี่ อื้ม” ไรอันพูดเสียงพร่าเร่งขยับเอวสอบถี่รัว ร่องรักคับแน่นดูดรัดลำเอ็นจนทำให้เขาอดกลั้นไม่ไหว กระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุดปลดปล่อยน้ำรักในกายสาวพร้อมแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสม อยากจะบ้า! ไรอันอดสถบไม่ได้ ยัยพนักงานเวอร์จิ้นทำเขาเสียผู้เสียคนจริงๆ จากที่เคยตั้งกฎให้ตัวเองจะไม่ยุ่งกับพนักงาน ไม่มีเซ็กส์ในที่ทำงาน. 4เรื่องสั้น แนวPWP > >หลงสวาท boss คลั่งรัก / คลั่งรัก น้องเมียแสนหวาน/ เมียเด็กของคุณป๋า / เล่นกับไฟ
พันดาว สตั๊นท์เกิร์ลสาววัยยี่สิบหกปี เธอเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุสิบแปดปี แต่ก่อนหน้านี้เธอใช้ชีวิตในค่ายมวยเล็กๆ เธอเป็นเด็กที่ถูกแม่เอามาทิ้งให้ลุงทองดีช่วยเลี้ยง แล้วหายไปไม่ส่งข่าว ด้วยความสงสารลุงทองดีจึงเลี้ยงเหมือนลูก แต่เนื่องจากสภาพร่างกายบอบช้ำ จึงผันตัวเองมาครูมวยแทน ประจวบกับรุ่นน้องเปิดโรงเรียนสตั๊นท์แมนให้ลุงทองดีเป็นครูสอนเทคนิกการป้องกันตัว เบื้องหน้าพันดาวจะเป็นสาวห้าญไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่เธอมีคนรักที่คบหาตั้งแต่อยู่โรงเรียนสอนสตั๊นท์แมนด้วยกัน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นพระเอกละครสุด Hot ในวันที่ทั้งคู่เดินทางไปเข้าฉากสำคัญที่ประเทศจีน พันดาวได้เห็นภาพบาดตาที่คนรักนอกใจ และวันนั้นเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ระเบิดทำงานผิดพลาดพาให้ดวงจิตของพันดาวทะลุมิติมายังดินแดนที่ไม่มีบันทึกไว้ในประวัติศาตร์ พันดาวฟื้นตื่นมาอยู่ในร่างเด็กสาวอายุสิบหกนามว่า เหมยซิง เมืองที่พันดาวไม่รู้จัก ทุกอย่างประหลาดไปหมด ราวกับตัวเองอยู่ในภาพยนตร์จีนกำลังภายใน พล็อตละครแนวย้อนยุคทะลุมิติเคยเห็นมาเยอะแล้ว แต่ทำไมหญิงสาวอย่างเธอต้องมาดูแลชายร่าง ‘ผัก’ อย่างเขา! รับภารกิจส่งร่างผักกลับเมืองหลวง! บุรุษคนหนึ่งแต่งงานมีภรรยาได้หลายคนเป็นที่ยอมรับได้ แต่สตรีนางหนึ่งจะรักใคร่ชายสองคนไม่ได้ คิดถึงเรื่องนี้นางก็อยากเอาหัวโขกต้นไม้ใหญ่ให้ได้สติ นางไม่ใช่หญิงมากรักสองใจนะ! นางแค่...แค่ไม่รู้ว่าตนเองคิดอย่างไรกันแน่.
หมอสาวสู้ชีวิตแต่อกหักทั้งที่ยังไม่ได้บอกรัก เผลอOne Night Standกับผู้ชายคนหนึ่ง ใครเลยจะรู้ว่าเป็นพรหมลิขิตหรือเวรกรรม ทำให้เธอมาเจอกับมาเฟียหนุ่มที่ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องของคืนนั้นผ่านเลยไป . . . . "คุณนี่นะเอาใจผู้หญิงไม่เก่ง" เธอทำจมูกย่นใส่เขา "ผิดแล้วผมเอาใจไม่เก่งแต่เอาเก่งนะ เรื่องนี้ผมมั่นใจ" "อีริค!" เธอขึงตาใส่ด้วยใบหน้าแดงเรื่อ "ให้ตายสิ" เขาพึมพำ "ผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ คุณร่ายมนตร์ใส่ผมหรือเปล่า" "คุณเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนั้นด้วยหรือคะ?" "แต่ก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่องdestiny แต่การได้พบคุณมันอยู่นอกเหนือความคาดหมาย บางทีพรหมลิขิตอาจมีจริงก็ได้" หญิงสาวได้แต่อมยิ้ม นั้นสิ ผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอได้เจอกับผู้ชายสุดเพอร์เฟกต์อย่างเขาได้ ถ้าวันนั้นก้องภพไม่ประกาศตัวคนรัก เธอคงไม่อกหักจนเสียการควบคุมแล้วได้เจอเขาที่หน้าลิฟต์พอดีอย่างนั้น แถมเจอกันด้วยความบังเอิญอีกด้วย
“เมื่อชะตากำหนดมาให้ทั้งสองครองคู่ ไม่ว่าจะพลัดหลงกันไปทางใดก็ย่อมได้กลับมาพบกันอีกครา” เรื่องราวความรักของหลัวเสี้ยวเวยและหยางเหลาหู่ คู่หมั้นคู่หมายที่มิเคยได้พบหน้า แม้เดิมทีหยางเหลาหู่คิดว่านางตายไปแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่า ‘สาวใช้’ ที่เขารับเข้ามาทำงานนั้นจะเป็นคู่หมั้นของเขาเอง เมื่อชะตากำหนดให้ทั้งสองได้เป็นคู่ชีวิต แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ต้องมาคอยลุ้นกันว่า สาวใช้ตัวจิ๋วกับคุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬจะลงเอยอย่างไร ....... “นั้นของข้ามิใช่รึ” เขาปลดสายจูงม้า เห็นนางกินพุทราเชื่อมท่าทางเอร็ดอร่อยจึงอดหยอกล้อนางไม่ได้ “แค่พุทราเชื่อม ท่านจะแย่งข้ารึ” นางทำท่าหวงขึ้นมา มันก็แค่พุทราเชื่อม แต่นางไม่ได้กินนานแล้วนี่ “แต่นั้นมันของๆ ข้า เจ้าควรให้ข้ากินก่อน” เขาไม่ชอบกินขนมของหวาน แต่เห็นนางหวงแบบนี้แล้วนึกอย่างแย่งชิง หลัวเสี้ยวเวยส่ายหน้าไปมา กลัวถูกแย่งของกินจึงอ้าปากงับพุทราเชื่อมลูกสุดท้ายไว้ในปาก เหลือเพียงไม้เสียบเปล่าๆ ในมือ คิดว่าอย่างไรของอยู่ในปากนางแล้วเขาไม่มีทางแย่งชิงเอาไปแน่ ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นมือมารั้งท้ายทอยของนางไว้ โน้มหน้าลงมาประกบปากที่เผยอขึ้นอย่าตกใจของนาง เรียวลิ้นหนาตวัดเอาพุทราเชื่อมในปากของนางมาสู่ปากของเขา 'หวานล้ำเกินคาดคิดจริงๆ'
มู่ลี่หยางใช้ชีวิตเป็นพรานป่าหาของป่าไปขายอยู่หลายปี แต่เข้าป่าครั้งนี้เขาได้พบหญิงสาวผู้หนึ่งหมดสติอยู่จึงช่วยนางไว้ ทว่าทันทีที่นางลืมตา นางกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง เขาจึงจำเป็นต้องดูแลนาง แต่ที่ทำให้เขาหนักใจ ก็คือนิสัยนอนละเมอของนาง เหตุใดทุกครั้งที่นางละเมอต้องมาอยู่บนเตียงเขาด้วยเล่า! “พี่ลี่หยาง!” “นอนดีๆ อย่าฟุ้งซ่าน คืนนี้เจ้าต้องพักผ่อน” “ข้ารู้ แต่ไม่ต้องมัดข้าขนาดนี้ก็ได้”" “ไม่ได้” เขาสะบัดมือเพียงคราวเดียว เปลวเทียนในห้องก็ดับลง “หากจะนอนเตียงเดียวกับข้าก็อย่าดื้อ อย่าซุกซน” “พี่ลี่หยาง” เสียงหวานเอ่ยขึ้น “นอนเสีย!” เขาตวาดทีเดียวหญิงสาวก็เงียบเสียงไป แม้ได้เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา นางก็มีความสุข ขอเพียงได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยอมทำทุกอย่าง แม้จะถูกมัดเป็นบะจ่างก็ยอม.
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"