
© 2018-now MeghaBook
1. วิวาห์ฟ้าแลบ
10. Forbidden Love ของต้องห้ามทายาทมาเฟีย
ผู้เขียน: Rock La porte
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ฉันนี่แหละเจ้าของบ้าน
เมื่อเข้าสู่ฤดูร้อน แสงแดดแผดจ้า
ลู่ชิงชิงทนต่อแดดจ้าทำงานพาร์ทไทม์แจกใบปลิวอยู่หน้าประตูห้าง
ทันใดนั้นไม่ไกลออกไปก็หันไปเห็นชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งเดินเข้ามาทางประตูด้านข้างของห้าง
เมื่อมองจากแผ่นหลังแล้ว ดูเหมือนจะเป็นหลินซั่วแฟนของเธอ กับฉินฮันเยว่ที่เป็นเพื่อนสนิทของเธอ
วันนี้หลินซั่วต้องไปสัมภาษณ์งานไม่ใช่เหรอ?
ลู่ชิงชิงรู้สึกร้อนใจมาก เธอจึงรีบตามไปทันที
แต่แล้วเมื่อเธอเข้าไปในห้างสรรพสินค้าก็พบว่าพวกเขาหายไปเสียแล้ว
หลังจากเดินวนอยู่หลายรอบ จู่ ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ได้รับข้อความเตือนการใช้บัตรเครดิต
เคาน์เตอร์เครื่องประดับ ยอดค่าใช้จ่าย 250000 บาท
ลู่ชิงชิงตกใจกับตัวเลขนี้จนมือสั่นไปหมด นี่มันรายได้เกือบครึ่งปีของเธอเลยนะ
ไม่ช้าลู่ชิงชิงก็หาเคาน์เตอร์รับเงินเจออย่างรวดเร็ว แล้วเธอก็เห็นว่าพนักงานแคชเชียร์กำลังสวมแหวนเพชรที่แวววาวลงบนนิ้วนางที่ขาวกระจ่างใสและนุ่มนิ่มของฉินฮันเยว่
เพชรบนแหวนมีขนาดใหญ่มาก แล้วก็งดงามมากด้วย มันเป็นเพชรที่ลู่ชิงชิงหมายตามานานมากแล้ว
เมื่อเห็นรอยยิ้มที่พึงพอใจบนใบหน้าของฉินฮันเยว่ ลู่ชิงชิงก็รู้สึกหัวสมองว่างเปล่าไปหมด
หลินซั่วตกงานมาหกเดือนแล้ว เขากินอยู่กับเธอทุกอย่าง แต่ตอนนี้เขากลับกล้าที่ใช้บัตรของเธอไปซื้อแหวนเพชรให้กับเมียน้อยเนี่ยนะ?
ผู้เขียน: Kaiser Abarca
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 กลับประเทศไปหย่า
“วันนี้ต้องถ่ายรูปหลักฐานการนอกใจของเฟิงเยี่ยนให้ได้!”
ถังชีชีกำมือเล็ก ๆ ของเธอด้วยความฮึกเฮิม เธอปรับหมวกแก๊ปให้แน่นขึ้น ก้มหน้าลงเพื่อหลีกเลี่ยงกล้องวงจรปิด แล้วก็เดินเข้าไปในคลับระดับไฮเอนด์
วันนี้ เธอมาที่นี่เพื่อจับชู้!
เธอกับเฟิงเยี่ยนแต่งงานกันมาหนึ่งปีแล้ว แต่หลังจากที่จดทะเบียนสมรสไปแล้ว เธอก็ไม่ได้เจอเขาอีกเลย
การแต่งงานแบบนี้มันไม่มีความหมายอะไรเลยสักนิด พวกเขาไม่ได้รักกัน ขืนอยู่ด้วยกันไปก็เสียเวลาชีวิตเปล่า ๆ !
ล่าสุด เพื่อนรักของเธอที่ต่างประเทศเล่าให้ฟังว่า มักจะเห็นสามีของเธอไปไหนมาไหนกับผู้หญิงคนอื่นบ่อย ๆ แถมทั้งคู่ยังดูสนิทสนมกันมากอีกด้วย
เธอจึงจำเป็นต้องกลับไปเพื่อหาหลักฐานบางอย่าง เพื่อที่เธอจะได้เป็นฝ่ายขอหย่ากับเฟิงเยี่ยนก่อนอย่างมีเหตุผล!
มองจากระยะไกล เธอเห็นผู้หญิงคนหนึ่งพาเฟิงเยี่ยนไปที่ห้องเพรสซิเด้นท์ สวีท ประตูเปิดแง้มอยู่ เธอซ่อนตัวอยู่ด้านข้าง แล้วก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนนั้นคุยโทรศัพท์
“ฉันรู้แล้วน่า ครั้งนี้ฉันจะไม่พลาดแน่นอน ฉันจะติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณไว้ แล้วก็จะบันทึกวิดีโอที่แสนจะโรแมนติกเอาไว้ขู่เขา.....”
ผู้เขียน: เกาะครีต
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ถูกโจมตีและย้อนเวลา
ฉู่ชิงหวงมีอมยิ้มอยู่ในปาก ขณะที่มือก็แกะกล่องเครื่องมือออกอย่างชำนาญ “คราวนี้เป็นคนใหญ่คนโตซะด้วย ไม่รู้จะผ่ายังไงดี”
“ชิงหวง เธอเป็นแพทย์นิติเวชนะ ตอนชันสูตรศพช่วยวางมาดเคร่งขรึมหน่อยจะได้ไหม แล้วก็ช่วยหยุดกินก่อนได้หรือเปล่า?” เสี่ยวตงที่เป็นเพื่อนร่วมงานมองใบหน้าเปื้อนยิ้มของฉู่ชิงหวงแล้วถามขึ้นอย่างปวดเศียรเวียนเกล้า
เป็นผู้หญิงยิงเรือ ทั้งยังหน้าตาสะสวย อายุก็ตั้ง 28 แล้ว แต่กลับยังไม่มีแฟน มีคนตั้งไม่รู้เท่าไรมาตามจีบเธอเพราะใบหน้าสะสวยนั้น แต่กลับถูกความนิยมชมชอบที่มีต่อการผ่าศพจนพิลึกพิลั่นของเธอขู่จนเสียขวัญ หนีกระเกิดกระเจิงไปหมดแล้ว!
“รุ่นพี่ น้ำตาลช่วยให้สมองแล่นนะ มีประโยชน์กับงาน พี่เอาหน่อยไหม?” ฉู่ชิงหวงล้วงเอาอมยิ้มในกระเป๋าตัวเองยื่นให้กัวเสี่ยวตง
กัวเสี่ยวตงทำหน้าถมึงทึง “ไม่เอา การชันสูตรครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่ผ่าน ๆ มา จะสะเพร่าไม่ได้ ผู้ตายเป็นถึงนายทหารชั้นผู้ใหญ่ ได้ยินว่าเกี่ยวพันกับความลับสุดยอด น่าจะถูกฆ่าปิดปาก หัวหน้าก็ไม่รู้คิดยังไง ถึงสั่งให้เราสองคนมาชันสูตร ทั้งที่รู้อยู่ว่าไม่ใช่งานที่ดีเด่อะไร...”
“อย่าเสียงดังสิ!” ฉู่ชิงหวงเอ่ยขัดกัวเสี่ยวตง ก่อนจะใช้มือช่องท้องของผู้ตายออก ไม่นึกว่าในนั้นจะมีกุญแจอยู่ดอกหนึ่งจริง ๆ ด้วย “กุญแจ”
“กุญแจอะไร?” กัวเสี่ยวตงยื่นหน้าเข้าไปถามด้วยความใคร่รู้
ฉู่ชิงหวงเอากุญแจออกมาล้างให้สะอาด แล้วเพ่งดูให้ชัด ๆ “เป็นกุญแจตู้เซฟธนาคาร ก่อนตายเขาน่าจะถูกโจมตี ก็เลยกลืนกุญแจลงท้อง”
ผู้เขียน: ซีไซต์
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ดาราเจ้าบทบาท
ประตูตำหนักเย็นถูกปิดมิดชิด อดีตฮองเฮาสกุลหลิวกำลังนอนเกลือกกลิ้งด้วยความทรมานบนพื้นอันเย็นเยียบหลังได้รับพระราชทานยาพิษจากผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีของตนเอง
เบื้องหน้าคือบุรุษผู้หนึ่งใบหน้าคมคายหล่อเหลาอยู่ในอาภรณ์สีทองสูงส่งสง่างาม รอบกายคล้ายจะมีรัศมีบางอย่างแผ่กระจายออกมาดูเยือกเย็นน่ากลัวยิ่งนัก ทว่าบัดนี้เขาผู้นั้นกำลังมองนางด้วยสายตารังเกียจทั้งอำมหิต
หลิวฉูฉู่นอนดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นเปล่งเสียงกรีดร้องโหยหวนดูน่าเวทนา ทว่ากลับไม่มีผู้ใดสนใจเสียงร้องนั้นเลยแม้แต่น้อย นางค่อย ๆ ขยับร่างกายเข้าหาเขาผู้นั้นอย่างช้า ๆ อีกเพียงนิดเดียวนิ้วมือเรียวก็จะสัมผัสรองเท้าของเขาอยู่แล้ว ทว่าคนผู้นั้นกลับขยับกายห่างไม่ยอมให้นางได้แตะต้องตัวเขาเลยแม้แต่น้อย
"ฝะ ฝ่าบาท มะ หม่อมฉัน ทรมานเหลือเกิน"
ดวงตาของหลิวฉูฉู่แทบจะหลุดออกมาจากเบ้า เมื่อความทรมานนั้นถึงที่สุด โลหิตสด ๆ ไหลออกมาจากปากของนางเป็นสายกระทั่งคำที่จะเอื้อนเอ่ยยังไม่อาจพูดได้มีเพียงเสียงแหบแห้งที่หลุดออกมา ยังมีสายตาเย็นชาของคนผู้นั้นที่เฝ้ามองการตายของนางด้วยความรู้สึกสาแก่ใจ
"เจ้ากล้าวางยารัชทายาททั้ง ๆ ที่เจ้าเป็นผู้ชุบเลี้ยงเขามากับมือตนเอง เขาอายุเพียงเจ็ดขวบเท่านั้น หลิวฉูฉู่การตายของเจ้าครานี้ยังน้อยไปนัก สกุลหลิวเลี้ยงบุตรีให้เป็นคนต่ำช้าเลวทราม ต้องโทษประหารเก้าชั่วโคตร บิดามารดา ข้าก็ไม่ละเว้นแม้แต่ผู้เดียว"
เสียงกรีดร้องโหยหวนพลันดังขึ้นในขณะที่ร่างสูงค่อย ๆ สะบัดผ้าเดินออกจากตำหนักเย็นไป หลิวฉูฉู่ดวงตาเบิกค้างไม่อาจทนความเจ็บปวดได้อีกต่อไป ลมหายใจพลันขาดสะบั้นก่อนตายเจ็บปวดทรมานทั้งกายและใจสาสมกับความผิดที่นางได้ก่อเอาไว้
ความเงียบเข้าปกคลุมแสงตะเกียงรำไรสาดส่องร่างกายเล็กในอาภรณ์ขาว ทว่าแปดเปื้อนไปด้วยคราบโลหิต ปิดฉากชีวิตฮองเฮาผู้เคยมีอำนาจสูงสุดในวังหลัง ไร้คนเหลียวแล สิ้นวาสนากระทั่งชีวิตบัดนี้ยังไม่อาจรักษาเอาไว้ได้.....
ผู้เขียน: ribbo
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 มาแบบงงๆ
เพล้ง!!!
เสียงของแจกันเคลือบลายคราวอย่างดี ตกกระแทกพื้นก่อนจะแตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี ก่อนมีสาวใช้คนหนึ่งรีบวิ่งไปแจ้งแก่นายท่านของบ้าน
อี้ชุนสาวใช้ของอนุเซียง รีบวิ่งมายังห้องของนายท่านต้วน ก่อนจะรีบรายงาน "เรียนนายท่านเจ้าค่ะ คุณหนูสามทำแจกันลายครามในห้องโถงแตกเจ้าค่ะ"
ตุ๊บ!!!
นายท่านต้วน รึต้วน อู๋เอิ๋น ตบโต๊ะเสียงดังลั่น ทันที่เมื่อได้ยินสิ่งที่สาวใช้รายงาน นังลูกสารเลววันๆก่อแต่เรื่อง แจกันลายครามใบนั้นเขาเพิ่งได้มามิกี่วันก่อน เขาตั้งใจจะเอาไปมอบแกขุนนางท่านหนึ่ง แล้วเช่นนี้จะทำเยี่ยงไรต่อ
"ไปลากนังเด็กสารเลวนั้นมา"
"เจ้าค่ะนายท่าน"
อนุเซียงที่ตอนนี้นั่งอยู่ข้างกับนายท่านต้วน นางถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ทัน ทุกอย่างกำลังเป็นไปตามแผนการ ก่อนจะรีบตีหน้าเศร้า "ท่านพี่ใจเย็นๆก่อน อย่าได้ทำอันใดรุนแรงนักนะเจ้าค่ะ นางยังเด็กมิค่อยรู้ความเท่าใด"
"ฮึ!! เจ้าอย่าเข้าข้างนังตัวซวยนั้นเลย ครานี้ข้าจะเฆียนนางให้ตาย ตัวกาละกิณี"
มินานคุณหนูสามก็ถูกลากและนำตัวมายังลานกลางบ้าน นางตัวสั่นไปหมด วันนี้อยู่ดีๆคนของอนุเซียงก็เข้ามาหานาง บอกว่าท่านย่าเรียกหา ระหว่างทางนางเห็นแจกันอันใหม่ที่ท่านพ่อเพิ่งได้มา มันถูกตั้งวางไว้ที่ห้องโถงใหญ่ นางเห็นว่ามีกระดาษบางอย่างตกอยู่ข้างๆ ไม่คิดเลยว่าตอนที่กำลังจะหยิบกระดาษชิ้นนั้นขึ้นมาดู
นางกลับถูกสาวใช้ของอนุเซียงพลักจากด้านหลัง ทำให้ร่างนางเซเล็กน้อย แต่แจกันที่อยู่เบื้องหน้ากลับถูกกระแทกและตกหล่นลงพื้น พอนางหันมาอีกทีสาวใช้คนนั้นก็มิได้อยู่ตรงนั้นแล้ว กลายเป็นบ่าวที่เห็นเหตุกราณ์ เห็นว่านางเป็นคนทำแจกันตกลงมาแตก
"ทะ ท่านพ่อให้คนไปตามข้ารึเจ้าค่ะ"
เพี๊ยะ!!!
ต้วน อู๋เอิ๋นยั้งมือไว้ไม่ทัน เขาเข้ามาตบหน้าบุตรสาวตัวน้อยทันที ก่อนจะชี้หน้านางอย่างโมโห "นางสารเลว วันนี้ถ้าข้ามิตีเจ้าให้ตายคามือ ข้าคงอกแตกตาย เด็กๆไปเอาหวายมาให้ข้า"
ผู้เขียน: ณดารินทร์
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ตอนที่ 1 สบตา
ตอนที่ 1 สบตา
พชร คลาร์ก มาเฟียหนุ่มลูกครึ่งไทยอเมริกัน ผู้มีเรือนร่างสูงใหญ่ ผิวพรรณขาวเนียนละเอียด ใบหน้ารูปไข่ สันกรามโค้งมนเด่นชัด คิ้วเข้ม ดวงตาคมกริบสีน้ำตาล จมูกโด่งจัด รับกับริมฝีปากหยักได้รูปสีแดงสดราวผู้หญิง ทุกสิ่งที่กล่าวมาล้วนทำให้มาเฟียหนุ่มหล่อเหลาราวเทพเจ้าปั้นแต่ง จนทำให้เป็นที่หมายปองของสาวๆครึ่งค่อนประเทศ ยังไม่รวมถึงการเป็นทายาทคนที่สองของตระกูลคลาร์ก ตระกูลมาเฟียที่เก่าแก่ของอเมริกา ผู้เป็นเจ้าของโรงแรมและกาสิโนชื่อดังอย่าง แกรนด์ คลาร์ก
และการที่ผู้หญิงเข้ามาให้เขาเลือกมากมาย มันทำให้เขากลายเป็นคาสโนว่า เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่น และไม่ยอมคบกับใครจริงจังเลยสักคน แม้ปีนี้เขาจะอายุย่างเข้า 27 ปีแล้วก็ตามที
มาเฟียหนุ่มยืนมองความยิ่งใหญ่และหรูหราของกาสิโนที่พ่อของตัวเองบุกเบิกสร้างขึ้นมาอย่างยากลำบากด้วยความภาคภูมิใจ และสองปีที่เขารับหน้าที่บริหารแทนพ่อ เขาสามารถทำให้มันเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก นำมาซึ่งเม็ดเงินมหาศาลจนต่อยอดความยิ่งใหญ่เพิ่มขึ้นไปอีก
“รถพร้อมแล้วครับนาย”
หลุยส์ และลูคัส บอดี้การ์ดคนสนิท โค้งตัวให้เจ้านายหนุ่ม ก่อนจะพากันขึ้นรถยนต์คันหรู เพื่อมุ่งหน้าไปยังร้านอาหารไทยชื่อดังของลาสเวกัส เพื่อทานข้าวกับนางแบบสาวชื่อดังของประเทศไทย ที่เป็นหนึ่งในคู่ควงของเขาในอดีต ซึ่งตอนนี้เธอเดินทางมาทำงานที่นี่ เลยหาโอกาสมากระชับความสัมพันธ์กับเขาอีกนิด เพราะหวังที่จะได้เป็นตัวจริงของเขาหากเธอปรนนิบัติเขาได้ถูกใจ
“แพท วิกกี้คิดถึงจังเลยค่ะ”
ร่างบางในชุดเดรสสั้นแสนเซ็กซี่สีแดง ตรงเข้าสวมกอดเขาทันทีที่เขาเข้ามาในร้านอาหารไทยแห่งนี้ เธอสื่อสารกับเขาด้วยภาษาอังกฤษที่เธอถนัด เพราะเธอเองก็เป็นลูกครึ่ง และที่เธอได้เจอและมีความสัมพันธ์กับเขา เพราะเธอเรียนปริญญาโทคลาสเดียวกับเขาที่อเมริกานั่นเอง
หนุ่มหล่อกอดเธอตอบ ก่อนที่ทั้งคู่จะผละออกจากกัน และเป็นสาวสวยคนนั้นที่เขย่งตัวขึ้น ใช้แขนตวัดรอบลำคอหนา แล้วจูบเขาอย่างเร่าร้อนโหยหาซึ่งเขาเองก็จูบตอบเธอเสียเร่าร้อนพอกัน โดยที่ไม่ได้สนใจสายตาอยากรู้อยากเห็นนับสิบคู่ที่มองตรงมาที่เขาและเธอเลย
ผู้เขียน: Arny Gallucio
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 มีเรื่องกับคนใหญ่คนโต
ที่ห้องสูทของโรงแรม แสงไฟสลัว ๆ คลุมเครือ
เวินหมั้นกำลังจูบกับชายแปลกหน้าที่หน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งอย่างโซซัดโซเซ
คืนนี้กู้ฉางชิงแฟนเก่าของเธอประกาศหมั้น เธอจึงมาดื่มที่บาร์จนเมาหนักมาก ด้วยความยั่วยุจากผู้ชายและฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ เวินหมั้นจึงตามผู้ชายคนนี้มาที่นี่
ในเมื่อกู้ฉางชิงยังสามารถเพิกเฉยต่อความสัมพันธ์สี่ปี แล้วก็ไปเกาะลูกสาวของตระกูลที่ร่ำรวยและทอดทิ้งเธอไปได้อย่างนี้แล้ว
งั้นเธอก็สามารถที่จะทำอะไรตามอำเภอใจได้เช่นกัน
ขณะที่ทั้งสองคนกำลังจะมีอะไรกันนั้น......
เวินหมั้นซบไปที่หัวไหล่ของชายคนนั้น ลืมทุกสิ่งรอบตัวไป แล้วก็พึมพำชื่อของคน ๆ นั้นออกมาเหมือนแมวน้อยตัวหนึ่ง“กู้ฉางชิง!”
การกระทำที่กำลังใกล้ชิดกันทั้งหมดสิ้นสุดลงอย่างกะทันหัน
มีเสียงเบา ๆ ดังขึ้น แล้วแสงไฟก็สว่างขึ้นในทันที......
แสงที่ส่องสว่างทำให้เธอมองเห็นใบหน้าของชายคนนั้นได้อย่างชัดเจน
เขาคือโฮ่วซ่าวถิง หัวหน้าทนายความคนสำคัญในประเทศ ซึ่งก็เป็นคนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นท่านพญายมในแวดวงกฎหมายนั่นเอง เขามีทรัพย์สินมากมายนับไม่ถ้วนในชื่อของเขา ถือได้เป็นผู้ชายหัวกะทิตัวจริงอย่างไม่มีผิด
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เขามีตัวตนที่น่าเหลือเชื่ออย่างมาก ซึ่งเขาคือพี่เขยของกู้ฉางชิง ผู้ชายสารเลวที่คบซ้อนคนนั้น
ผู้เขียน: นันทฉัตร ไชยวัฒนา
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 การกลับมาของเทพธิดา
ณ โรงแรมจินซือ เมืองหวย
ท่าน เสิ่นเหยียนเป่ยมีกำหนดการร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ข่าวลือเรื่องคู่ควงของเขากำลังเป็นกระแสให้คนพูดถึงกันไปทั่ว ก่อนที่เขาจะเดินทางมาถึงเสียอีก ทุก ๆ คนต่างรู้เรื่องนี้ ว่ากันว่าหญิงสาวคนนั้นหน้าตางดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์
ท่ามกลางความคาดหวังของทุกคน เมื่องานเลี้ยงได้เริ่มไปสักพัก ประตูห้องจัดเลี้ยงก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง การปรากฎตัวของชายหญิงคู่หนึ่งสร้างความฮือฮาไปทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยง
ขณะที่ทั้งสองค่อย ๆ เดินเคียงคู่กันเข้ามาในห้องจัดงานเลี้ยง เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นเรื่อย ๆ
คนที่เดินเข้ามา เป็นท่านเสิ่นตัวจริงเสียงจริง เขาสวมชุดสูทลายทางสีดำกับรองเท้าหนังสีน้ำตาลเข้ม และข้างกายของเขาก็มีสาวงามนางหนึ่ง
เธอสวมชุดเดรสสีดำยาวเกือบถึงพื้น พร้อมด้วยชุดเครื่องประดับพลอยไพลิน ใบหน้ารูปไข่ถูกแต่งแต้มไปด้วยเครื่องสำอางบาง ๆ ความงดงามของเธอเปล่งประกายไปทั่วทั้งห้องจัดเลี้ยง จนไม่มีใครสามารถละสายตาไปจากเธอได้
แต่เมื่อได้เห็นใบหน้าของเธอชัด ๆ พวกเขาต่างพากันอ้าปากค้าง พวกเขาเหลือบมองไปทาง ถังยี่ซู เจ้าของงานวันเกิด กับ สีจั้นถิง ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างกายหล่อน โดยไม่ได้ตั้งใจ
แขกเหรื่อหันกลับไปซุบซิบกันเรื่องการปรากฏตัวของหญิงสาวคนนี้ “เมื่อกี้เห็นผู้หญิงคนนั้นไหม ใช่ ซ่งชิงเหอ หรือเปล่า?” แขกคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
“ใช่แล้วล่ะ เธอคือซ่งชิงเหอแน่ ๆ !” แขกอีกคนตอบ
“คุณพระช่วย! หล่อนยังไม่ตายอีกเหรอ? ทำไมถึงยังไม่ตายล่ะ? นังฆาตกร! เธอกล้าดียังไงถึงโผล่หน้ามาที่นี่” แขกอีกคนพูดแทรก
“ว่าแต่ว่า หล่อนทำหน้ามาใหม่รึป่าวนะ? สวยขึ้นผิดหูผิดตาขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“ใครจะไปรู้ล่ะ? หล่อนเป็น คู่เดทของท่านเสิ่น แค่คิดก็น่าสนุกแล้ว!”
ทุก ๆ คนต่างเห็นพ้องต้องกันว่า กำลังจะมีเรื่องสนุก ๆ เกิดขึ้นอย่างแน่นอน
การปรากฏตัวของชิงเหอ ไม่เพียงแต่สร้างความประหลาดใจให้กับแขกทุกคนในงานเลี้ยง แต่ยังทำให้พวกเขาหวาดกลัวอีกด้วย เพราะผู้ชายที่เธออยู่ด้วยคือเหยียนเป่ย คู่แข่งทางธุรกิจของจั้นถิง!
ผู้เขียน: กวินทร์แก้ว
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 บทนำ
บทนำ
บ้านสวน, อัมพวา
เสียงกุกกักดังขึ้นกลางดึกทำให้ชญานินสะดุ้งตื่น เธอตัดสินใจเปิดไฟแค่ห้องนอนเพราะห้องของเธออยู่ติดกับโถงห้องนั่งเล่นทำให้ไฟสามารถส่องสว่างถึงแม้จะเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม แต่เธอก็สามารถเห็นความเคลื่อนไหวและของภายในโถงห้องนั่งเล่น เธอค่อยๆ เปิดประตูห้องอย่างระมัดระวัง แต่เมื่อเธอเปิดประตูกว้างขึ้นก็พบร่างท้วมของผู้ชายคนหนึ่งที่เธอรู้จักเป็นอย่างดี เธอถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะเดินออกจากห้องและเอ่ยเรียกชายร่างท้วม
"พ่อค่ะ มาทำอะไรกลางดึกแบบนี้ค่ะ พ่อดื่มเหล้ามาอีกแล้วเหรอ" ชญานินเอ่ยพลางขมวดคิ้วเมื่อได้กลิ่นสุราจากชายร่างท้วมที่เธอเอ่ยเรียกว่า 'พ่อ' เธอชินแล้วกับการเห็นชายร่างท้วมกลับมาพร้อมกลิ่นสุรา แต่เธอก็ไม่เคยชินกับการที่พ่อส่งเสียงดังกลางดึก แม้พักหลังจะบ่อยขึ้นก็ตาม
บ้านของเธอเป็นบ้านสวนอยู่ริมแม่น้ำ ห่างจากถนนใหญ่ไม่มากแต่ก็ไม่มีเพื่อนบ้าน หากเกิดอะไรขึ้นก็ไม่มีใครรู้ รอบตัวบ้านก็มีสวนผลไม้เล็กๆ ที่แม่เป็นคนทำไว้ตั้งแต่เธอจำความได้และหลังจากสูญเสียแม่ไปจากโรคร้ายเธอก็คอยดูแลสวนหลังกลับจากงานร้านกาแฟและช่วงวันหยุดเพียงคนเดียว เพราะเธอไม่มีเงินมากมายที่จะจ้างคนมาดูแล
"มีเงินหรือเปล่า พ่อต้องการเงินสักห้าหมื่น" ธนัทพงษ์เอ่ยขึ้นพลางรื้อค้นลิ้นชักไปทั่วโถงห้องนั่งเล่น ชญานินมองตามร่างท้วมที่เดินไปทั่วก่อนจะเอ่ยตอบกลับไป
"หนูไม่มีเงินแล้วค่ะ เมื่อวานพ่อก็มาเอาไปแล้วสามหมื่น เงินก้อนสุดท้ายที่หนูมี กว่าจะได้เงินเดือนจากร้านกาแฟก็สิ้นเดือนค่ะพ่อ"
"แกต้องมี! ถ้าแกไม่มีให้ฉันพวกเจ้าหนี้ก็จะมาฆ่าพวกเราและยืดบ้าน แกต้องการให้เป็นแบบนั้นหรือไง! " ธนัทพงษ์เดินมาตะคอกใส่ชญานินก่อนจะเดินชนไหล่หญิงสาวเข้าห้องนอนของเธอเพื่อรื้อค้นหาเงินต่อโดยไม่ฟังคำพูดของเธอที่เริ่มสั่นเครือพลางน้ำตาเอ่อคลอหันไปมองผู้เป็นพ่อ
ผู้เขียน: ณดารินทร์
👉👉คลิกที่นี่เพื่ออ่านบทยอดนิยม
บทที่ 1 ตอนที่ 1 สาวน้อยร้อยบอดี้การ์ด
ตอนที่ 1 สาวน้อยร้อยบอดี้การ์ด
“อีกแล้วหรอคะพ่อ พลอยบอกแล้วไงคะ ว่าพลอยไม่อยากมีบอดี้การ์ด แล้วดูสิ ไม่มีใครอยู่กับพลอยได้เกินสองเดือนเลย เห็นไหมคะ ว่าพลอยไม่เหมาะกับการมีบอดี้การ์ด”
คนสวยโอดครวญ เพราะเช้าวันนี้แทนที่จะเป็นวันที่ปลอดโปร่งโล่งสบายของเธอ เมื่อบอดี้การ์ดคนล่าสุดมาขอลาออก แต่บิดาที่เคารพดันบอกว่าหาบอดี้การ์ดคนใหม่ให้เธอได้แล้ว นี่มันยังผ่านมาแค่ไม่กี่ชั่วโมงเอง ความปลอดโปร่งใจของเธอก็หายไปหมดแล้ว
“เพราะพลอยเอาแต่ใจตัวเองมากไปไงลูก ขี้เหวี่ยงขี้วีน ไม่ทำตามที่คนของพ่อบอกเลย ใครเขาจะทนอยู่กับลูกได้”
“พลอยก็ปกตินะคะ ไม่ได้ขนาดนั้นซะหน่อย อีกอย่างก็ไม่เห็นมีเหตุการณ์อันตรายอะไรเลย ให้พลอยใช้ชีวิตปกติเหมือนเพื่อนๆ ก็ได้นี่คะ”
คนตัวบางขยับมานั่งใกล้บิดาอีกนิด แล้วสวมกอดเขาไว้อย่างต้องการออดอ้อน ซึ่งคนเป็นพ่อก็ยกแขนกอดลูกสาวสุดที่รักเอาไว้แนบอก เมื่อเธอต้องการอะไร ไม่ว่าจะยากเย็นหรือแพงแสนแพงแค่ไหน เขาพร้อมจะหามาบรรณาการเจ้าหญิงของเขาได้หมด แต่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียวที่เขาไม่เคยตามใจลูกสาวสุดที่รักเลย เพราะนั่นมันหมายถึงความปลอดภัยและชีวิตของเธอ
“เห้อ ลูกก็รู้ว่ามันไม่ได้”
“แต่พ่อขา”
“ไม่ต้องมาออดอ้อนพ่อเลยยัยพลอย เราน่ะมันจำเป็นที่สุดที่จะต้องมีคนดูแล ส่งเรียนต่อสู้ป้องกันตัวก็ไม่ได้เรื่อง ชอบเที่ยวกลางคืน แต่งตัวก็โป๊ ถ้าไม่มีคนดูแล เราอาจไปเมาจนโดนลากไปทำมิดีมิร้ายแล้วก็ได้”
พชร พี่ชายคนรองเดินเข้ามาทันได้ยินน้องสาวออดอ้อนคนเป็นพ่อในเรื่องเดิมๆ ที่ไม่ว่าจะขอมากี่ครั้ง ทั้งพ่อ แม่ พี่ชาย และเขา ก็ไม่มีใครยอมตามใจเธอเลยสักคน