จงแสดงวิธีที่ทำให้คนคนหนึ่งอยู่กับเราไปตลอดกาล... สำหรับ คิรินทร์ มันก็เรื่องง่าย ๆ อยากให้อยู่ด้วยตลอดไปก็แค่จับล่าม! จับขัง! แค่นั้นก็พอแล้ว
KEEP IN CAGE
INTRO
เสียงริงโทนโทรศัพท์มือถือดังรอบที่สาม... สี่ หรือห้า ก็ไม่แน่ใจ
‘กองทัพ’ ทำแค่ปรายหางตาไปมอง หน้าจอโทรศัพท์ของเขาโชว์รูปน่ารัก ๆ ของเด็กผู้ชายวัยเดียวกันเต็มจอ แน่นอนว่านั่นคือแฟนของเขาเอง ช่วงนี้กองทัพกับปั้นจั่นไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยครั้งสักเท่าไหร่ สาเหตุหลัก ๆ ก็เพราะว่า ปั้นจั่นย้ายที่อยู่ใหม่ บ้านของพวกเขาเลยห่างใกล้กันมากกว่าเดิม... ส่วนสาเหตุรอง ๆ เขาไม่อยากพูดถึงมันนัก
กองทัพคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องแปลกเท่าไหร่ มันคงดีแล้วล่ะมั้งที่ห่างกัน... อยากรู้เหมือนกันว่าความรู้สึกเบื่อหน่ายมันจะจางหาย เลือนลางไปบ้างหรือเปล่า... ตอนนี้มั่นใจว่าเขาเบื่อ ๆ แต่แน่นอนว่ายังรู้สึกรัก ตามประสาคนเคย ๆ นั่นเอง...
กลางดึกภายในคลับ @Alanholic สุดหรู... ชั้นที่กลุ่มกองทัพเลือกนั่งอยู่คือชั้นที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเข้มครบครัน ช่วงที่เบื่อหรือเครียดกลุ่มพวกเขามักจะมานั่งดื่มกันที่นี่ กลิ่นแอลกอฮอลล์ละควันบุหรี่ลอยคละคลุ้งเต็มไปหมด แสงสว่างวูบวาบบนโต๊ะปรากฏขึ้นอีกครั้งพร้อมกับเสียงริงโทนที่เริ่มดังบ่อยจนน่ารำคาญ
“ไม่รับสายเหรอคะ ทัพ...” สาวสวยที่นั่งอยู่ข้างกายเขาเอ่ยถาม กองทัพแค่นยิ้มเหยียด ก่อนจะใช้สายตาบอกเธอว่าไม่ควรยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขา เจ้าหล่อนแกล้งยิ้มเจื่อน ๆ กองทัพคือผู้ชายหน้าตาหล่อเหลาเอาการคนหนึ่ง แต่การใช้สายตาเหยียดหยามกันเขาก็โคตรถนัดเลยจริง ๆ ไม่นานเกินรอกองทัพก็คว้าโทรศัพท์แล้วลุกเดินออกไป เขาหาที่สงบ ๆ ได้ก็เลื่อนหน้าจอเพื่อรับสายของปั้นจั่นทันที
“...”
‘ทัพ!’
“มันดึกแล้วทำไมยังไม่นอนอีก” เขาตัดปัญหาดื้อรั้นของปั้นจั่นด้วยการยอมรับสายสักครั้ง ตอนนี้ก็แค่หลับตาแล้วพ่นลมหายใจออกมา ถ้าคำตอบมันน่าพึงพอใจ สาบานว่าไกลแค่ไหนเขาก็จะไปหาปั้นจั่นตอนนี้ เวลานี้เลย!
‘นอนเหรอ! จะให้เราหลับลงได้ยังไง ทัพก็รู้เราร้อนใจอยู่!’
“ถ้าจะพูดเรื่องวินล่ะก็... เงียบไปเลยเหอะ” แต่สุดท้าย...ปั้นจั่นก็ไม่เคยแสดงความรักที่มีต่อกันสักครั้ง แค่คำว่าคิดถึงง่าย ๆ ก็ไม่เคยพูดมัน กองทัพถอนหายใจออกมาขับไล่ความรู้สึกน่าหงุดหงิด ช่วงนี้ไม่ว่าจะคุยกันเมื่อไหร่ ปั้นจั่นก็มักจะขอให้เขาตามหาเพื่อนอีกคนที่ชื่อ ‘วินเนอร์’ ตลอด...
‘กองทัพ! เราขอร้อง ทัพรู้จักผู้ชายคนนั้นไม่ใช่เหรอ? เราคิดว่าเขาต้องรู้แน่ ๆ ว่าพี่เฟียสจับวินไปซ่อนไว้ที่ไหน ทัพช่วยเราหน่อยนะ... นะ...’
“…”
‘นะ... ทัพ...’
“หึ อยากจะช่วยเพื่อนมาก ๆ ว่างั้น!? แน่ใจเหรอปั้นจั่น ที่จะพาตัวเองไปพัวพันกับไอ้เวรคิงส์!”
‘ใช่! เราไม่กลัวมันหรอก อีกอย่าง เรายังมีทัพอยู่นี่...’ และต่อให้กองทัพภาวนาให้ปั้นจั่นตัดใจเรื่องวินเนอร์เท่าไหร่ แต่คำพูดที่ได้ยินเต็มสองหูก็คือความเป็นจริงอยู่วันยังค่ำ ฝ่ามือหนาเต็มไปด้วยเส้นเลือดในแบบฉบับของผู้ชายกำเข้าหากันแน่น กองทัพแค่แค่นหัวเราะในลำคอออกมาเมื่อคิดอะไรบางอย่างได้... มุมปากเขาแสยะยิ้มร้ายกาจ น่ากลัว แต่ผิดกันตรงที่คนในสายมองไม่เห็นความร้ายของมันสักนิด
“ได้สิ... ถ้าปั้นอยากเจอมันมากนัก ทัพจะพาไปหามันให้ถึงที่เลย”
เวลาผ่านไปไม่นานนัก...
‘ปั้นจั่น’ เด็กผู้ชายหน้าหวาน สวยราวกับผู้หญิงก็มายืนอยู่หน้าสถานที่ที่ไม่เคยคิดว่าสักวันหนึ่งจะต้องมาเหยียบมันสักครั้ง มันทั้งเสียงดัง อึกทึก วุ่นวายเต็มไปด้วยควันรถ ฝุ่นละออง แถมยังเหมือนแหล่งมั่วสุมของเหล่าวัยรุ่นวัยคึกคะนองอีก ถึงแม้ว่าบางคนอาจจะชอบมาเพราะมันช่างท้าทายและเผลอ ๆ อาจจะได้ของเดิมพันที่ทำให้สบายไปทั้งชาติอีกด้วย!
“ทำไมทัพยังไม่ถึงอีกนะ...” เด็กหนุ่มบ่นพึมพำกับตัวเอง พร้อมทั้งยกมือมาลูบแขนคลายความหนาวไปด้วย หน้าสนามแข่งรถก็ยังมีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมา หลายคนมองมาที่เขาและใช้สายตาน่ารังเกียจมองกัน ปั้นจั่นไม่โอเคกับคนแบบนี้สุด ๆ เขาคงอุ่นใจมากกว่านี้ถ้ามีกองทัพอยู่ข้าง ๆ พอก้าวเท้าเข้ามาเหยียบหลังรั้วเหล็กสูง ๆ แล้ว เสียงเพลงและเครื่องยนต์ก็ดังกระหึ่มขึ้นมา เด็กน้อยยกมือมาปิดใบหูตัวเองและเบ้หน้ายุ่งเหยิง ที่ยอมมาที่แบบนี้ก็เพราะว่ากองทัพบอกว่าจะได้เจอกับผู้ชายคนนั้นหรอกนะ
ผู้ชายที่เจอกันกลางร้านอาหารวันนั้น
ผู้ชายที่ดูเหมือนเป็นนักเลงหัวไม้และสามารถห้ามฟีรอสได้ด้วยประโยคเดียว!
“บ้าจริง!” ปั้นจั่นพูดเบา ๆ อีกครั้ง เมื่อหันไปเจอผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่กำลังจับจ้องมาที่ตนเอง พวกมันแกล้งแซวนั่นนี่และดูท่าว่าจะมีอีกคนเดินเข้ามาหากัน เด็กคนนั้นรีบหันหลังเดินหนี แต่พอเดินไปได้เพียงแค่สามสี่ก้าวก็โดนกระชากต้นแขนจนเซถลากลับมาที่เดิม
“อ๊ะ!”
“ทัพบอกให้รอข้างหน้าไง” ปั้นจั่นถอนลมหายใจออกมาเมื่อหันกลับมาเจอ กองทัพ แต่แล้วก็ต้องย่นจมูกเมื่อได้กลิ่นควันบุหรี่ กลิ่นเหล้า แถมยังมีกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงอ่อน ๆ อีก...
“ทัพ...!”
“อือ ก็ทัพน่ะสิ คิดว่าใครงั้นเหรอ?” ผู้ชายร่างสูงก้มหน้าลงมาถาม คำพูดเขาดูปกติแต่ปั้นจั่นคิดว่าสีหน้าและแววตาเขาต่างหากที่แปลกไป ตั้งแต่นาทีแรกที่สบตากัน อยู่ ๆ ความกลัวก็แล่นพล่านขึ้นมาดื้อ ๆ คงเพราะว่าวันนี้กองทัพใส่ชุดสีดำไปทั้งตัวด้วยล่ะมั้ง...
“ไงวะ วันนี้ว่างเหรอมึง...” เสียงทุ้มต่ำที่ดังมาจากด้านหลังของปั้นจั่นทำให้กองทัพละสายตาจากใบหน้าสวยแล้วมองผ่านศีรษะปั้นจั่นไปราวกับว่ากำลังเจอคนที่อยากเจออยู่พอดิบพอดี เสียงผู้ชายคนนั้นมาพร้อมกับควันบุหรี่ซึ่งลอยออกมาจากริมฝีปากของเขา ปั้นจั่นอยากหันไปมองบ้างแต่กองทัพกลับโอบไหล่เขาเอาไว้แน่น แล้วกดศีรษะให้จมแผงอกแกร่งทันที
“อืม ได้ข่าวว่ามึงมาแข่งรถสนามนี้ก็เลยแวะมาว่ะ”
“มาเฉย ๆ?”
“ได้ไงวะ มึงจะแข่งกับกูอีกไหมล่ะ คราวนี้ถ้ามึงชนะ...อยากได้ของกำนัลเป็นอะไรก็บอกมาได้เลย” ปั้นจั่นมุดรอดจากวงแขนกองทัพแล้วหันมาเผชิญหน้ากับเขา แววตาสีเข้มเลื่อนมาปะทะที่ร่างเด็กตัวเล็กทันที เขาเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่งอาจเพราะจำปั้นจั่นไม่ได้ ถึงแม้จะเคยเจอกันมาแล้วก็ตาม...แต่พอเห็นใบหน้าดุดัน แต่โคตรจะสวยของเด็กในอ้อมแขนของศัตรูคู่อริ ใบหน้าเจ้าเล่ห์ก็แผลงฤทธิ์ในทันที
“ว้าว ใครวะ...โคตรน่ากิน”
“ไอ้บ้า! มีสิทธิ์อะไรมองคนอื่นด้วยสายตาบะ... อื้อออ!!” ฝ่ามือหนายกขึ้นมาปิดริมฝีปากคนตัวเล็กตรงหน้าทันทีก่อนที่ปั้นจั่นจะทำเสียเรื่องมากไปกว่านี้
‘คิรินทร์’ ยกยิ้มมุมปากราวกับเจอของถูกใจ สายตาคมกริบมองแค่ใบหน้าแสนดื้อของปั้นจั่นเพียงเท่านั้น ถึงแม้ว่ากองทัพกำลังจะพูดข้อตกลงอะไร สิ่งเดียวที่เขาต้องการคืนนี้... ก็คือเด็กขี้พยศตรงหน้าคนเดียวเพียงเท่านั้น!!!
“เอาแบบนี้แล้วกัน” คิรินทร์อมยิ้มแล้วเงยขึ้นมาพูดกับกองทัพที่กำลังยืนยื้อรั้งกับปั้นจั่นอยู่แบบนั้น กองทัพเงยขึ้นมามองหน้าเขาแล้วเลิกคิ้วขึ้น ไม่ได้ตอบโต้อะไร
“…”
“ถ้าครั้งนี้กูชนะมึง เอาเด็กคนนี้เป็นของเดิมพัน” คำพูดของคิรินทร์ทำเอาปั้นจั่นชะงักกึก! ดวงตาเรียวตี่ ๆ เท่าเมล็ดถั่วเบิกกว้างมากเท่าที่มันจะกว้างได้ ปั้นจั่นจับฝ่ามือของกองทัพที่ทาบบนริมฝีปากเขาทันที คนตัวเล็กกว่าส่ายหน้าหวืดพร้อมกับเงยหน้าขึ้นไปมองคนรักด้วยสายตาขอร้องปนอ้อนวอน แต่ทว่า กองทัพกลับเหยียดยิ้มส่งให้แทน จากนั้นเขาก็เลื่อนสายตาไปมองอีกฝ่ายที่ยืนกอดอกอมยิ้มอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล
“เอาสิ ถ้ามึงชนะ... กูยอมยกเมียให้มึงเลย”
“!!!”
วินาทีนั้น...ปั้นจั่นเหมือนโดนคนที่รักมากที่สุดคนหนึ่ง ใช้ปลายเท้าขยี้หัวใจของเขา ให้จมไปกับพื้นดินเลย!
" เพื่อนรัก " คือจุดชนวนที่ทำให้คนไร้ความรู้สึกอย่างเขานึก " แค้น " ความเจ็บปวดของเขามันมีมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อต้องมองเห็นคนสำคัญทนทรมาน... และเขา...คือคนที่จะทำให้เด็กคนนั้น " จำฝังใจ " กับบาปที่มันตั้งใจก่อขึ้น โดยมีเพียงเขาเท่านั้นที่จะเป็นคนชำระล้าง!!!
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง