สวัสดีนักอ่านทุกท่านนะคะ กลับมาพบกันอีกครั้งกับนิยายเรื่องใหม่เหมือนเคยค่ะ วันนี้ณิการ์มาพร้อมกับนิยายเรื่อง “ทางผ่านจอมเถื่อน” เป็นเรื่องราวของไอ้ช้อยกับกุลธิดา แน่นอนค่ะไอ้ช้อยคนเถื่อน เป็นเพื่อนรักคู่หูของไอ้เสริมจากเรื่อง “ปิ๊งรักสาวอ้วน(อ้วนยังไงก็รัก)” ค่ะ และสองหนุ่มก็เป็นลูกน้องสนิทมือซ้ายมือขวาและพ่วงตำแหน่งน้องชายที่รักของนายยักษ์ คีรี ดอว์สันจากเรื่อง “ถ่อย” ค่ะ สำหรับไอ้ช้อยแล้วกุลธิดาเป็นเพียงทางผ่าน และทางผ่านสายนี้แหละที่ทำให้เขาปวดหัวที่สุด หล่อนปิดบังความลับมาตลอดหลายปี และถ้าไม่บังเอิญเจอกันเขาคงไม่รู้ว่าตัวเองมีลูกกับหญิงสาว และแน่นอนว่าการเจอกันครั้งนี้เขาไม่ปล่อยเธอไปแน่ ในเมื่อเธอเป็นแม่ของลูกเขาและเป็นเมียเขา ยังไงเขาก็ไม่ปล่อยเธอไป แล้วทางผ่านที่เคยผ่านมาแล้วจะย้อนหวนคืนหรือไม่ ฝากนักอ่านเก็บเข้าชั้นหนังสือไว้อ่านแก้เหงาแก้เบื่อในช่วงอยู่บ้านกันด้วยนะคะ นิยายเรื่องนี้เป็นภาคต่อนิยายเรื่อง “ถ่อย” กับเรื่อง “ปิ๊งรักสาวอ้วน(อ้วนยังไงก็รัก)” ค่ะ สามารถอ่านแยกได้ไม่งงค่ะ เป็นคู่ของคนสนิทของพระเอกจากเรื่องถ่อยค่ะ นิยายชุดนี้มีทั้งหมด 3 เรื่อง 1.ถ่อย (ยักษ์ คีรี ดอว์สัน VS มายาวี) 2.ปิ๊งรักสาวอ้วน(อ้วนยังไงก็รัก) (ไอ้เสริม VS สมบุญ) 3.ทางผ่านจอมเถื่อน (ไอ้ช้อย VS กุลธิดา) คิดหื่นเชิญเสพ ณิการ์(ยักษ์)
“ไม่มีเงินเหรอ?” เสียงเข้มถามลูกหนี้ที่ทำให้ตัวเองต้องถ่อมาถึงที่นี่ และไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องมาทวงหนี้ด้วยตัวเองแบบนี้
“ไม่มีหรอก ฉันจะเอาที่ไหนมาให้ ธุรกิจที่มีก็ล้มละลาย”
“ละลายในกาสิโนน่ะสิ มาตอนนี้บอก...”
“พ่อคะ เกิดอะไรขึ้นคะ” ยังไม่ทันที่เสียงเข้มจะพูดจบประโยคความก็มีเสียงเล็กหวานใสกังวานดังแทรกเข้ามา พร้อมกับที่เธอวิ่งมาหาคนเป็นพ่อที่นั่งคุกเข่าอยู่กับพื้นพรมในห้องนั่งเล่นของบ้าน
“พวกคุณเป็นใคร ทำอะไรพ่อฉัน” น้ำเสียงเล็กร้องถามพร้อมกับกอดพ่อไว้แน่นแล้วมองจ้องเอาเรื่องชายชุดดำที่อยู่ในห้องนี้ และคนที่ยืนตรงหน้าที่เหมือนจะมีอำนาจสุดก็จ้องหน้าเธอเหมือนกัน
“ลูกสาวแกเหรอ สวยดีนี่ มาทุกครั้งไม่เคยเจอ” เขายิ้มเหี้ยมจ้องมองใบหน้าสวยสดใสในชุดนักศึกษา
“อย่าคิดแตะต้องลูกสาวฉันนะ”
“ถ้าไม่มีเงินมาจ่ายดอกก็ต้องแตะต้องแหละ พวกมึงลากผู้หญิงคนนี้ออกจากพ่อมันเดี๋ยวนี้” แล้วลูกน้องที่ตามติดเขามาด้วยก็มาดึงหญิงสาวแยกออกจากคนเป็นพ่อทันที
กรี๊ด...
เสียงกรี๊ดของเธอดังขึ้นพร้อมกับการดิ้นรน ส่วนคนเป็นพ่อก็กระเสือกกระสนจะช่วยลูกสาวตัวเอง แต่โดนเท้าใหญ่ของคนตรงหน้าถีบยันไว้จนต้องเสียหลักหงายหลังล้มไปกับพื้น
ตุ้บ!
“พ่อ!” เสียงเล็กร้องตกใจเมื่อเห็นพ่อโดนถีบล้มลงไปกับพื้น
“ถ้าไม่อยากให้พ่อเธอเจ็บตัวก็ไปกับฉัน”
เสียงเข้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินไปฉุดร่างเล็กจากการจับกุมของลูกน้องแล้วดึงลากเดินออกไปจากห้องนั่งเล่น ตอนนี้เขาต้องการห้องไหนก็ได้ในบ้านนี้ เพื่อทำการเก็บดอกเบี้ยในการมาครั้งนี้ ทุกครั้งเขากลับไปมือเปล่า แต่ครั้งนี้มีลูกสาวของลูกหนี้วัยกระเตาะอยู่ด้วย แล้วทำไมเขาจะต้องปล่อยเลยไม่สนใจด้วยเล่า
กรี๊ด...
“พ่อขา...ช่วยหนูด้วยค่ะ” เธอทั้งดิ้นและขืนเท้าตัวเองที่ถูกลากออกไป
“อย่าทำอะไรลูกสาวฉันเลย ลูกสาวฉันไม่รู้เรื่อง โอ๊ย!” แล้วก็ถูกถีบให้ล้มลงไปกับพื้นอีกครั้งพร้อมเสียงกรีดร้องของลูกสาวเบาลงและห่างออกไปเรื่อยๆ
แควก!
เสียงกระชากชุดของเธอขาดวิ่นไม่เหลือชิ้นดี ชุดนักศึกษาที่ใส่มาถูกคนเลวแปลกหน้ากระชากขาดและตอนนี้เธอมองหาทางหนีเอาตัวรอดแทบจะไม่มี ห้องนี้เล็กมาก เป็นห้องหนังสือขนาดเล็กของบ้านเธอ และเขายืนขวางทางประตู เธอดิ้นถอยหนีไม่สนใจว่าตอนนี้ตัวเองจะกึ่งเปลือยเพราะเสื้อผ้าถูกเขาฉีกทึ้ง
“ยะ...อย่าเข้ามานะ ยะ...อย่าเข้ามานะคนถ่อย” หล่อนต่อว่าเขาปากสั่น วิ่งถอยหนีจนหลังเนียนไปปะทะกับชั้นหนังสือข้างหลัง
หึหึ
"ไม่ได้หรอก ตอนนี้เธอต้องเป็นดอกเบี้ยให้พ่อเธอ เด็กน้อย”
เสียงเข้มเอ่ยพร้อมเดินก้าวยาวๆ ตรงไปกางแขนเท้ายันชั้นหนังสือกักร่างเล็กไว้ทันที ความสูงแค่ระดับอกของหล่อนทำให้เขาพึงพอใจนัก ใบหน้าคมเข้มมีไรหนวดเคราเขียวครึ้มขึ้นล้อมกรอบประดับความน่าเกรงขาม ทำให้สาวน้อยในวงแขนก้มหน้าสั่นกลัว
“รู้อะไรไหม ถ้าพ่อเธอเอาเธอมาขัดดอกเบี้ยกับฉัน พ่อเธอจะไม่เจ็บตัว และเราจะไม่มาที่บ้านเธอแบบนี้ ก็แปลกทุกครั้งที่ฉันมาก็ไม่เคยเจอเธอ เพราะพ่อเธอซ่อนเธอไว้สินะ แต่วันนี้โชคไม่เข้าข้างเธอ เธอเลยต้องมาเจอฉันเด็กน้อย” เขาเอ่ยพร้อมกับเชยคางของคนสั่นกลัวให้แหงนเงยขึ้นสบตาตัวเอง
“อือ!” เธอปัดมือใหญ่ออกจากคางตัวเองพร้อมกับรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีผลักเขาออกห่าง แต่ก็เพียงแค่สัมผัสเท่านั้น เพราะร่างใหญ่ยังคงยืนจังก้าอยู่ตรงหน้า
“ไม่ได้ผลหรอก ตอนนี้ยอมรับชะตากรรมตัวเองดีๆ เถอะ ถ้าต่อต้านพ่อเธอจะหมดลมหายใจ ถ้ายังอยากมีพ่อให้เรียกพ่อก็ควรว่าง่าย ยอมรับสิ่งที่ฉันจะยัดเยียดให้” เขาเชยคางเด็กสาวให้เงยขึ้นมาหาตัวเองอีกครั้งพร้อมกับเขาโน้มลงมาบดจูบปากอวบอิ่มสีระเรื่อของหล่อน
“อ่ะ...อื้อ...” การถูกจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัว และไม่เคยคิดว่าชีวิตจะถูกปล้นจูบแบบนี้ เด็กสาวดิ้นขัดขืนทุบตีอกแกร่ง แต่ถูกเขากอดรัดรั้งท้ายทอยปล้ำจูบหนักหน่วง
“อ่า...อื้อ...” เสียงครางอู้อี้จากการถูกบังคับจูบของเธอดังลอดออกมาจากริมฝีปากที่ถูกบดเร่า ตอนนี้เธอพยายามถอยลิ้นตัวเองหนีลิ้นของเขาที่รุกเร้าเข้ามาพร้อมกับตอนนี้เรียวลิ้นสากกระด้างน่าขยะแขยงของคนเลวกำลังดันกระพุ้งแก้มของเธออยู่
“อ่า...ปากหวานเป็นบ้าเด็กน้อย” เขาผละออกมาไล้เลียริมฝีปากตัวเองที่เปื้อนน้ำลายของหล่อนแล้วก็รั้งเรียวขาเล็กขึ้นมาเกี่ยวเอวสอบ อีกมือกดดันร่างเล็กไปกับชั้นหนังสือ
“นะ...นายจะทำอะไรฉัน”
“ก็จะยัดเยียดความเป็นผัวให้ยังไงล่ะ นี่แหละคือวิธีเก็บดอกเบี้ยของฉัน ไม่มีเงินก็ต้องจ่ายฉันแบบนี้แหละ” เขาพูดใส่หน้าเธอพร้อมกับใช้มืออีกข้างปลดกระดุมกางเกงตัวเองพร้อมรูดซิปกางเกงแล้วล้วงความเป็นเนื้อร้อนที่กำลังเหยียดตัวขยายใหญ่
“อือ...มะ...ไม่นะ ฉันไม่ต้องการแบบนี้” ร่างเล็กดิ้นขัดขืนพยายามรั้งขาตัวเองลง แต่ถูกมือของเขากอดเกี่ยวไว้ ส่วนตัวเธอก็ถูกร่างของเขาแนบเบียดไปกับชั้นหนังสือจนขยับไม่ได้ในตอนนี้
“งั้นพ่อเธอตาย ตกลงไหม” เขาขู่สั้นๆ แล้วเธอก็นิ่งเงียบไม่ดิ้นขัดขืนเหมือนก่อนหน้านี้
“มะ...ไม่นะ อย่าทำอะไรพ่อฉัน ฉันต้องทำยังไงบ้าง ได้โปรด...อย่าทำพ่อฉัน”
“ว่าง่ายๆ แบบนี้ก็ดี จะได้รีบทำรีบเสร็จ” พูดแค่นั้นก็นำเอ็นเนื้อร้อนที่ตื่นตัวพร้อมรบกรีดกรายเสียดสีเร่าร้อนไปกับกลีบสวาทอวบอูมของเธอที่ซ่อนอยู่ภายใต้กางเกงซับในและกางเกงชั้นในของเธอ
“อ่ะ...อื้อ...” สาวน้อยไร้เดียงสาครางกระเส่าเมื่อถูกเขาบดเอวเสียดสีแนบความน่ากลัวที่น่าเกลียดมากับความเป็นเพศสาวของตัวเอง
“อือ...เธอคงเสียวท้องน้อยสินะเด็กน้อย ไม่ต้องห่วงไปหรอก หลังจากนี้จะเสียวและมันมาก ฉันไม่เอาเปรียบเธอหรอก” เขาพูดพร้อมกับโน้มลงมาไซ้ซอกคอระหงของเธอ ตอนนี้เขาได้ยินเสียงหัวใจของเด็กสาวที่ดังรัวถี่ และกลิ่นเหงื่อไคลที่ซึมซับผุดโผล่ตามลำคอระหงบวกกับกลิ่นแป้งของเธอทำให้เขาปวดร้าวท่อนเนื้อที่เบียดสีอยู่กับความเป็นสาวของหล่อน
“อืม...ฉันไม่ไหวแล้วเด็กน้อย อ่า...” เขาจัดการถอดปราการที่ขวางกั้นความเป็นสาวอวบอูมของหล่อนกับเอ็นเนื้อของเขาออกทันที และไม่รอช้าที่จะยกเรียวขาเล็กของหล่อนขึ้นมาเกี่ยวเอวสอบอีกครั้ง และตอนนี้เนื้อของเขาและเนื้อของเด็กสาวกำลังแนบถูไถกัน
“อือ...อ่า...” ปากน้อยครางพร่า เพราะรู้สึกร้อนรุ่มปวดน้อยๆ ในท้องน้อยและเสียวในท้องอย่างเขาว่า แข้งขาของเธออ่อนแรงเมื่อเห็นความเป็นบุรุษของเขาวนเวียนถูไถกับความเป็นสาวของตัวเอง เธอรู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เธอเรียนเพศศึกษามา และตอนนี้เธอก็เรียนปีหนึ่งของมหาวิทยาลัยรัฐบาลในกรุงเทพฯ ใกล้ๆ บ้าน
“อ่า...ของเด็กอวบอูมไม่เหมือนของผู้หญิงที่ฉันเคยเอามา” เขาพูดเท่านั้นแล้วก็ยกยิ้มร้ายส่งให้คนตัวเล็กที่สั่นเทาตรงหน้าที่กำลังแหงนเงยมองหน้าตัวเองอยู่ แล้วเธอก็สะดุ้งกระแทกชั้นหนังสือเมื่อความใหญ่โตกรีดกรายเข้ามาในร่างของเธอแบบไม่ทันได้หายใจ
“กรี๊ด...จะ...เจ็บ! ฉันเจ็บ! ออกไป! ได้โปรด...อึก! ฮือๆๆ” เธอดิ้นทุบอกเขาอีกครั้งด้วยความทรมานกลางลำตัว และยิ่งไปกว่านั้น เขากอดรัดร่างเธอเข้าหาเพื่อให้เอ็นเนื้อของเขาสอดในกายเธอลึกกว่าที่สอดอยู่ เรียวขาเล็กที่กอดเอวจะตก เขาก็เกี่ยวรัดรั้งไว้
“เรื่องปกติ อย่าร้องไห้เลยน่า...ก็แค่ครั้งแรกเอง แต่หลังจากนี้ถ้าฉันมาเอากับเธอบ่อยๆ รับรองไม่เจ็บหรอก และตอนนี้ก็จะมีแต่ความสุข เชื่อฉันสิเด็กน้อย ปล่อยตัวตามสบาย ไม่ต้องเกร็ง” รู้ว่าหล่อนเจ็บ เพราะเขาใหญ่และยาว ตอนนี้เอวเล็กของเธอบิดเร่าถอยหนี เขากอดรั้งกระแทกเข้าหาพร้อมเริ่มเคลื่อนไหวโยกเร่าจังหวะบดเอวเสียวสวาทเพื่อให้เธอลืมความเจ็บปวดกลางกายความเป็นสาวที่คับแน่น
“อ่า...เจ็บ! อ่ะ...อื้อ”
เธอเจ็บเมื่อเขาเคลื่อนไหว แล้วก็ต้องครางซ่านออกมาเมื่อเขาบดจูบปิดปากน้อยของเธอที่กำลังจะร้องไห้ออกมา เธอพยายามทำตัวอ่อนคล้อยไปกับเขาตามที่เขาบอกให้ไม่เกร็ง และตอนนี้เหมือนความยืดหยุ่นในกายเธอปรับจูนตอบรับความใหญ่โตที่เคลื่อนไหวสอดเร่าจังหวะเข้าออกในกายเธอได้แล้ว แต่ก็ยังคงความเจ็บซ่านเมื่อเขารัวเอว
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
“อ่า...ดูดฉันแน่นมาก เธอดูดฉันแน่นมาก อือ...” ปากหนาผละจากปากอวบอิ่มของสาวเจ้าออกมาเอ่ยพร้อมเพิ่มแรงกระแทกความเสียวซ่านเข้าหาดุดันกว่าเดิมจนกายสาวไหวเด้งกระแทกชั้นหนังสือจนจุกเจ็บแผ่นหลังเนียน และยิ่งไปกว่านั้น เสียงครางเล็กตอนนี้ก็ดังซ่านกระเส่าออกมาให้เขาได้คึกคะนองจนเนินเนื้อที่สอดประสานกันดังหนักหน่วงเป็นจังหวะ
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
“อ่า...ไม่ไหวแล้ว ฉัน...อือ...ไม่ไหวแล้วร้อน อ่า...” สาวไร้เดียงสาเผลอตัวตวัดโอบเกี่ยวลำคอหนาแอ่นเด้งเร่าตอบสนองแรงสอดสวาทหนักหน่วงของบุรุษตรงหน้า แข้งขาอ่อนแรง เขาก็กอดอุ้มยกก้นหล่อนไว้
“อ่า...ตอดรัดดีมาก อ่า...เสียว อือ...”
เสียงคำรามพร่าเมื่อความเป็นสาวของหล่อนนั้นคับแน่นตอดรัดเร่าคลึงเขาหนักหน่วงเมื่อสอดกายฝากฝังเร้นลึกในร่างหล่อน และเขาก็ยกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจเมื่อหล่อนนั้นแอ่นเด้งตอบสนอง แม้จะไม่ประสีประสา แต่มันก็ทำให้เขาใจเต้นแรงไปกับกลิ่นกายสาวของเธอที่ปลายจมูกเขาซุกไซ้
“โอว์...ไม่ไหวแล้ว ฉันขอแรงๆ นะเด็กน้อย อ่า...เสียว อือ...รัดแน่นมาก อือ...”
“อ่ะ...อ่อย”
ร่างเล็กกึ่งเปลือยถูกโอบอุ้มยกขึ้น สองเรียวขาถูกบังคับให้ยกเกี่ยวเอวหนารั้งประคองร่างตัวเองไว้ พร้อมกับเรียวแขนของหล่อนนั้นตวัดกอดลำคอหนาไว้ด้วยความกลัวตก แล้วก็ต้องเด้งไหวตามแรงกระแทกที่แอ่นยกเร่าขึ้นของเอวสอบ ปากหนาของเขาขบเม้มตามซอกคอของเธอ กลิ่นเหงื่อไคลของเขาและกลิ่นโคโลญจน์ของเขาทำให้เธอรู้สึกล่องลอยไปในอากาศ
“โอว์...ดีเหลือเกิน แน่น อ่า...เสียว”
เกือบหนึ่งพันปีที่เฝ้ามอบถวายชีวิตของตัวเองคอยรับใช้นายท่านนาสูร และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเลือกอนาคตตัวเอง เขากลับเคว้งคว้างเดินไม่ถูก และยิ่งไปกว่านั้นเมื่อโชคชะตาส่งเด็กน้อยตัวเล็กอายุไม่กี่เดือนมาให้เขาได้ดูแล ‘เดหลี’ เขาดูแลเด็กน้อยไม่ต่างจากลูก แม้จะรู้ดีว่าอนาคตเด็กคนนี้จะเปลี่ยนชีวิตของตัวเอง ‘พาที’ นั่งใช้ความคิดอยู่คนเดียวในห้องนั่งเล่นของบ้านที่ตนเองและเดหลีอาศัยอยู่ด้วยกัน เพลานี้เด็กน้อยอายุเจ็ดขวบ เผลอแป๊บเดียวจากเด็กน้อยงอแงเอาแต่ใจ นอนตัวแดงแบเบาะ ตอนนี้รู้ความและขี้อ้อนมาก “คุณพาทีคะ คุณพาทีคะ” “หืม! เด็กน้อย” คนถูกเรียกหันมาหาเจ้าของเสียงเล็กสดใสของหนูน้อยวัยเจ็ดขวบ “แต่งงานคืออะไรคะ?” หนูน้อยเกาะแขนของผู้เปรียบเสมือนพ่อของตนเอง “คือคนสองคนรักกัน แล้วก็แต่งงานกัน เดี๋ยวโตขึ้นเดหลีก็จะเข้าใจเอง” พาทีลูบหัวหนูน้อยหน้ากลมที่แนบแขนตัวเองและกำลังแหงนเงยหน้าขึ้นมองจ้องหน้าตัวเอง เหมือนเขาที่กำลังก้มมองหน้ากลมๆ อ้วนๆ ของหนูน้อย “งั้นโตขึ้นเดหลีจะแต่งงาน และคุณพาทีต้องแต่งงานกับเดหลีด้วยนะคะ” “แต่งงานน่ะแต่งได้ แต่กับฉันไม่ได้เดหลี” “ทำไมไม่ได้คะ เดหลีรักคุณพาที ถ้าไม่แต่งกับคุณพาทีจะให้หนูแต่งกับใครคะ” หนูน้อยเจ็ดขวบตอบอย่างฉะฉาน ทั้งๆ ที่ไม่เข้าใจความหมายของคำว่า ‘รัก’ และ ‘แต่งงาน’ “โตขึ้นเธอจะรู้เองเดหลี ตอนนี้ได้เวลานอนแล้วนะ ไปนอนได้แล้ว เดี๋ยวฉันเอานมร้อนไปให้ดื่มก่อนนอนนะ” “อุ้มค่ะ” หนูน้อยยอมผละแขนสั้นๆ ที่กอดแขนใหญ่ออกมากางให้อีกฝ่ายอุ้มตัวเองกลับห้องนอน พาทียกยิ้มเอ็นดูท่าทางของหนูน้อยแล้วก็ช้อนอุ้มเด็กน้อยขึ้นแนบอกแล้วลุกขึ้นจากโซฟาพาเดินกลับห้องนอนด้วยเวลานี้ดึกมากแล้ว
“อ่ะ...อื้อ” เธอเบิกตากว้างในความมืดสลัวเมื่อรู้ว่าตอนนี้ตัวเองถูกคุกคามยามดึก “ชูว์! ฉันเองเด็กน้อย” เขายกมือมาปิดปากเธอพร้อมบอกให้รู้ว่าคือเขา “คุณนาสูร” “ใช่ ฉันเอง ก็บอกแล้วไงว่าเจอกัน” “ฟ้าอยู่” “เธอไม่ตื่นหรอก” เขาบอกตอบกลับ “แต่ไม่ได้นะคะ เราจะ...” “ทำไมจะไม่ได้ ก็ฉันหิวมาหลายวันแล้วน้อง เธอก็รู้ว่าฉันต้องการเธอมากแค่ไหน” เขารีบบอกสวนกลับโดยที่เธอยังพูดไม่สุดประโยคความ “พรุ่งนี้ฟ้าก็กลับแล้ว” เธอบอกพร้อมดันเขาไปนอนข้างๆ ตัวเองที่ยังมีพื้นที่ว่างอยู่ “ไม่มีพรุ่งนี้ทั้งนั้น ฉันต้องการวันนี้เด็กน้อย ขอเถอะนะ เพื่อนเธอไม่มีทางตื่นถ้าฉันไม่สั่งให้ตื่น เรามามีความสุขกันเถอะนะ ฉันรู้ว่าเธอเองก็โหยหาฉัน” มือใหญ่สอดเข้าไปในใต้ผ้าห่มแล้วบีบเคล้นเต้าของเธอ “อ่ะ...อื้อ คะ...คุณนาสูร ยะ...อย่าทำแบบนี้ค่ะ น้องอาย ถึงฟ้าจะไม่ตื่น แต่ฟ้าก็นอนอยู่ข้างๆ นะคะ” พึ่บ! แล้วผ้าห่มที่เธอแบ่งกันกับเพื่อนห่มนั้นก็ถูกถลกดึงรั้งขึ้นไปคลุมหัวของฟ้าใสทันที --- สวัสดีนักอ่านทุกคนค่ะ ณิการ์ขอฝากรูปเล่มนิยายเรื่อง “นาสูร” ภายใต้นามปากกา “ยักษ์” ด้วยนะคะ เป็นเรื่องราวของยักษ์ที่มาอายุนับพันกว่าปีกับมนุษย์สาวคนหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นนิยายแฟนตาซีอีโรติกค่ะเรื่องนี้ “นาสูร” เป็นยักษ์ที่หิวกามมาก กินดุมาก เขาไม่สนใจเนื้อเท่ากับลีลารักบนเตียง และ “พุดซ้อน” ก็สนองตัณหาของเขาได้ดีทีเดียว แล้วเขาทั้งสองจะรักกันได้ยังไง เมื่อทั้งสองต่างแตกต่างกัน มาลุ้นไปกับความรักของยักษ์และมนุษย์ด้วยกันนะคะ
เรื่อง “มังกรกัณฐ์” นามปากกา “ยักษ์” ภาคต่อ “นาสูร” ด้วยนะคะ นิยายชุดนี้จะมี 3 เรื่องนะคะ นาสูร(อีบุ๊กพร้อมโหลด),มังกรกัณฐ์(อีบุ๊กพร้อมโหลด) และกลืนกิน(กำลังเขียน) วันนี้ฝากเรื่อง “มังกรกัณฐ์” ด้วยนะคะ เป็นเรื่องของลุกชายพ่อนาสูรมาลุ้นไปกับความรักความหื่นและความเอาแต่ใจของหนุ่มลูกครึ่งยักษ์กันนะคะ
“ไอ้พร้อม ไอ้ห่า มึงมันหยาบเกินคน มึงไม่เป็นลูกผู้ชาย” “ก่อนจะว่าแบบนั้น มึงดูเอ็นกูยัง มึงดูเอ็นกูแข็งร้อนขนาดนี้ มึงยังปากดีว่ากูไม่เป็นลูกผู้ชายอีกเหรอ”
จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคนสองคนไม่เคยเจอกัน ไม่เคยรู้จักกัน แต่ต้องมาแต่งงานกัน แน่นอนว่าการคลุมถุงชนครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะคนแก่ทั้งสองที่ให้คำมั่นสัญญากัน พวกเขาที่เป็นหลานจึงจำต้องแต่งงานกัน "น่านน้ำ" หนุ่มเจ้าของไร่กาแฟ กับสาวมั่น "พิมพ์มาดา" ที่ต้องมาเจอกัน ทั้งสองไม่ใช่คนที่จะเชื่อฟังใครง่ายๆ ต่างคนต่างดื้อ และการคลุมถุงชนครั้งนี้จะต้องไม่เกิดขึ้น แล้วเรื่องราววุ่นวายจึงเกิดขึ้น หนี....ใช่ต้องหนีเท่านั้น....แต่หนีไปไงมาไงมา "รัก" กันได้ไง ที่สำคัญหนีไปหนีมามาเจอพ่อคน "เซ็กส์จัด" ใช่ค่ะว่าที่เจ้าบ่าวของเธอเซ็กส์จัดจนต้องยอมแพ้....และเธอก็ชอบความหื่น ห่าม ถ่อย ของคนที่ชังหน้าแบบไม่รู้ตัว......และน่านน้ำก็หลงเจ้าสาวจอมดื้อแบบไม่ตั้งใจรักเช่นกัน...... ------------ “นายทำบ้าอะไรของนาย” “ลงโทษเมีย” น้ำคำห้วนๆ ตอบกลับทันควัน พร้อมกับจ้องหน้าสวยที่ตอนนี้แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจในตัวเขาอยู่ในที แล้วเรื่องอะไรเขาต้องสนใจสายตาเกลียดชังที่หล่อนส่งมาให้ด้วยเล่า ในเมื่อพิมพ์มาดาเป็นของเขาและต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น “ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นายน่าน” เธอสั่งเสียงแข็งไม่ยอมเช่นกัน พร้อมดิ้นหนีจากแรงกดของบุรุษที่คร่อมเหนือตัวเองอยู่ในตอนนี้ เขาบังคับให้เธอพิงไปกับพนักโซฟาและตัวเขาก็คร่อมกักร่างเธอไว้ โดยมีสองมือใหญ่กดหัวไหล่เธอให้อิงพิงไปกับพนักเก้าอี้ สองมือทุบตีไปกับหน้าอกแกร่งแต่เหมือนกับว่าทุบกำแพงหินผาเจ็บมือเสียแรงเปล่า “ทำไมฉันต้องปล่อยด้วย เธอคิดยังไงถึงไปคบกับไอ้ปลัดธนูนั่นทั้งๆ ที่มีฉันเป็นผัวทั้งคน หรือฉันคนเดียวไม่พอฮึดา” โน้มหน้าลงไปเอ่ยข้างหูเธอพร้อมกับกัดดึงหูเธอแรงๆ ด้วยความโมโห “โอ๊ย! ฉันเจ็บนะไอ้ซาดิสม์!” “ก็กัดให้เจ็บ ถ้าไม่เจ็บจะกัดทำไมวะ บอกฉันมาไปถึงไหนต่อไหนกับมันแล้ว” เงียบ! ปากช่างเจรจาของสาวจอมพยศเม้มแน่นไม่ปริปากตอบเมื่อเขาถาม และนั่นยิ่งกระตุ้นไฟโทสะในอกของน่านน้ำไปใหญ่ “ฉันถามเธออยู่ทำไมไม่ตอบ” เขากระชากเสียงถามเธอดังกว่าเดิม และครั้งนี้ก็บีบหัวไหล่ของเธอที่กดไปกับพนักโซฟาด้วย “เจ็บนะเว้ย! นายมันบ้าไปแล้วนายน่าน นายมันคนซาดิสม์ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ฉันเจ็บ” ทุบตีแขนของเขาให้นำพามือที่บีบหัวไหล่ตัวเองออก ตอนนี้ดวงตาสวยสดใสได้อาบล้นไปด้วยน้ำตาแห่งความเจ็บปวด เมื่อเขาไม่ยอมปล่อยมือจากหัวไหล่แต่เขากลับทำตรงกันข้ามคือบีบแรงกว่าเดิม “ฉันไม่ใจอ่อนกับน้ำตาของผู้หญิงอย่างเธอหรอกนะดา อย่ามาบีบน้ำตาปัญญาอ่อนต่อหน้าฉัน” น้ำเสียงเฉียบขาดเอ่ยขึ้นพร้อมกับผละมือข้างขวามาบีบคางเล็กของเธอให้แหงนเงยเชิดหน้าขึ้นสบตาตนเอง แล้วเขาก็โน้มลงไปบดขยี้ปากอวบอิ่มสีระเรื่อที่เม้มแน่นของหล่อนจริงๆ ในเมื่อไม่ยอมพูดไม่ยอมตอบเขาก็ไม่คิดจะสนใจแล้ว เพราะตอนนี้สิ่งที่ต้องการคือการทำให้พิมพ์มาดาจำ จำว่าร่างกายของหล่อนคือของเขา นายน่านน้ำไม่ใช่ของใครอื่นที่ไหน ผู้ชายหน้าไหนก็ห้ามแตะ เพราะเนี่ยคือสมบัติของเขา ถ้าเขาไม่ยกให้ใครหน้าไหนก็ห้ามพาหล่อนหนี “อ่ะ อื้อ.....
เขาเป็นหมอที่มีรักเดียวมาตลอดหลายสิบปี แอบเฝ้ามองน้องน้อยตั้งแต่แรกเกิด ส่วนน้องน้อยก็หาได้รักเขาแบบชู้สาวไม่ สำหรับจงกลนีแล้วเขาคืออาจารย์หมอหน้านิ่งหน้าเดียว ไร้อารมณ์ทางสีหน้า แม้แต่ยิ้มเขาก็ยิ้มไม่เป็น แต่ก็ตกใจเมื่อเขายิ้มให้ตัวเองคนเดียว จะบ้าเหรอเขาเป็นอาจารย์ของเธอ และเธอกก็เคารพเขามาตลอด จะให้รักได้ยังไงกัน ++++++ “เอ้า...ปากกา เซ็นเอกสารแล้วค่อยนอนต่อก็ได้” “ค่ะ” เธอรับปากกาที่เขายื่นให้พร้อมกับเซ็นชื่อตรงที่เขาชี้มือ “เรียบร้อย ตอนนี้เธอเป็นเมียฉันแล้วนะ” “ยังไงคะ?” ถามทั้งๆ ที่นั่งหลับ “ก็เราจดทะเบียนสมรส..
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"