ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / นิยายสั้น / ภรรยาลับของเขา ความขายหน้าที่ถูกเปิดเผย
ภรรยาลับของเขา ความขายหน้าที่ถูกเปิดเผย

ภรรยาลับของเขา ความขายหน้าที่ถูกเปิดเผย

5.0

เจ้านายผลักฉันเข้าไปในห้องเพื่อรับมือกับคนไข้วีไอพีที่กำลังขู่จะฆ่าตัวตาย เธอคือเอวา เบญจรงค์ อินฟลูเอนเซอร์ด้านแฟชั่นชื่อดังที่กำลังคลุ้มคลั่งอาละวาดเพราะเรื่องคู่หมั้นของเธอ แต่เมื่อเธอโชว์รูปผู้ชายที่เธอรักให้ฉันดูทั้งน้ำตา โลกทั้งใบของฉันก็พังทลายลงในพริบตา มันคือเบน สามีของฉันที่แต่งงานกันมาสองปี เขาเป็นคนงานก่อสร้างใจดีที่ฉันเจอหลังจากอุบัติเหตุทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ ทว่าในรูปนี้ เขาคือภากร โลหะกุล มหาเศรษฐีผู้เหี้ยมโหดที่ยืนอยู่หน้าตึกระฟ้าซึ่งมีชื่อของเขาปรากฏหราอยู่ และในตอนนั้นเอง ภากร โลหะกุลตัวจริงก็เดินเข้ามาในห้อง เขาสวมสูทที่ราคาแพงกว่ารถญี่ปุ่นคันเล็กๆ ของฉันทั้งคัน เขาก้าวผ่านฉันไปราวกับฉันไม่มีตัวตน แล้วโอบกอดเอวาไว้ในอ้อมแขน “ที่รัก ผมอยู่นี่แล้ว” เขากระซิบ น้ำเสียงทุ้มลึกและอ่อนโยนแบบเดียวกับที่เขาเคยใช้ปลอบฉันหลังจากเจอเรื่องแย่ๆ มาทั้งวัน “ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหนอีกแล้ว ผมสัญญา” เขาเคยให้สัญญาแบบเดียวกันเป๊ะๆ กับฉันมาแล้วนับร้อยครั้ง เขาจูบหน้าผากเธอ ประกาศก้องว่าเขารักเธอเพียงคนเดียว...เป็นการแสดงให้ผู้ชมเพียงคนเดียวดู นั่นก็คือฉัน เขากำลังแสดงให้ฉันเห็นว่าชีวิตแต่งงานของเรา ชีวิตที่เราร่วมสร้างกันมาตอนที่เขาสูญเสียความทรงจำ เป็นเพียงความลับที่ต้องถูกฝังกลบให้มิด ขณะที่เขาอุ้มเธอออกจากห้อง ดวงตาเย็นชาของเขาสบตากับฉันเป็นครั้งสุดท้าย ข้อความนั้นชัดเจน...แกคือตัวปัญหาที่ต้องถูกกำจัด

สารบัญ

บทที่ 1

เจ้านายผลักฉันเข้าไปในห้องเพื่อรับมือกับคนไข้วีไอพีที่กำลังขู่จะฆ่าตัวตาย เธอคือเอวา เบญจรงค์ อินฟลูเอนเซอร์ด้านแฟชั่นชื่อดังที่กำลังคลุ้มคลั่งอาละวาดเพราะเรื่องคู่หมั้นของเธอ

แต่เมื่อเธอโชว์รูปผู้ชายที่เธอรักให้ฉันดูทั้งน้ำตา โลกทั้งใบของฉันก็พังทลายลงในพริบตา

มันคือเบน สามีของฉันที่แต่งงานกันมาสองปี เขาเป็นคนงานก่อสร้างใจดีที่ฉันเจอหลังจากอุบัติเหตุทำให้เขาสูญเสียความทรงจำ

ทว่าในรูปนี้ เขาคือภากร โลหะกุล มหาเศรษฐีผู้เหี้ยมโหดที่ยืนอยู่หน้าตึกระฟ้าซึ่งมีชื่อของเขาปรากฏหราอยู่

และในตอนนั้นเอง ภากร โลหะกุลตัวจริงก็เดินเข้ามาในห้อง เขาสวมสูทที่ราคาแพงกว่ารถญี่ปุ่นคันเล็กๆ ของฉันทั้งคัน

เขาก้าวผ่านฉันไปราวกับฉันไม่มีตัวตน แล้วโอบกอดเอวาไว้ในอ้อมแขน

“ที่รัก ผมอยู่นี่แล้ว” เขากระซิบ น้ำเสียงทุ้มลึกและอ่อนโยนแบบเดียวกับที่เขาเคยใช้ปลอบฉันหลังจากเจอเรื่องแย่ๆ มาทั้งวัน “ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหนอีกแล้ว ผมสัญญา”

เขาเคยให้สัญญาแบบเดียวกันเป๊ะๆ กับฉันมาแล้วนับร้อยครั้ง

เขาจูบหน้าผากเธอ ประกาศก้องว่าเขารักเธอเพียงคนเดียว...เป็นการแสดงให้ผู้ชมเพียงคนเดียวดู นั่นก็คือฉัน เขากำลังแสดงให้ฉันเห็นว่าชีวิตแต่งงานของเรา ชีวิตที่เราร่วมสร้างกันมาตอนที่เขาสูญเสียความทรงจำ เป็นเพียงความลับที่ต้องถูกฝังกลบให้มิด

ขณะที่เขาอุ้มเธอออกจากห้อง ดวงตาเย็นชาของเขาสบตากับฉันเป็นครั้งสุดท้าย

ข้อความนั้นชัดเจน...แกคือตัวปัญหาที่ต้องถูกกำจัด

บทที่ 1

สิ่งแรกที่ฉันได้ยินเมื่อเดินเข้ามาในคลินิกคือเสียงผู้หญิงกรีดร้อง มันไม่ใช่เสียงของความเจ็บปวด แต่เป็นเสียงของความเกรี้ยวกราดอย่างบ้าคลั่งชนิดที่ทำให้อากาศรอบตัวอึดอัดไปหมด

ฉันวางกระเป๋าลงบนโต๊ะทำงาน กลิ่นยาฆ่าเชื้อและกระดาษเก่าๆ ที่คุ้นเคยช่างดูขัดแย้งกับความโกลาหลที่ดังมาจากสุดทางเดิน

“เกิดอะไรขึ้นคะ” ฉันถามแพรว เพื่อนร่วมงานที่กำลังชะโงกหน้ามองออกมาจากห้องทำงานของตัวเองอย่างประหม่า

“เธอไม่อยากรู้หรอก” แพรวกระซิบ ดวงตาเบิกกว้าง “คนไข้วีไอพีน่ะสิ ตัวเป้งเลย”

เสียงแหลมดังตามมา เป็นเสียงแก้วแตกกระทบกำแพง เสียงกรีดร้องดังขึ้นอีก

“เขาเป็นของฉัน! ฉันจะฆ่าตัวตายถ้าต้องเสียเขาไป!”

ฉันเดินตรงไปยังต้นเสียง ในห้องให้คำปรึกษาที่ใหญ่ที่สุด หญิงสาวในชุดแบรนด์เนมยืนอยู่บนเก้าอี้ ถือเศษแจกันที่แตกจ่อคอตัวเอง ใบหน้าของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา เครื่องสำอางราคาแพงเลอะเทอะไปหมด เธอสวยมาก แต่ในตอนนี้เธอดูเหมือนหมาจนตรอก

“เอมิกา ขอบคุณพระเจ้า” หมอไมตรี เจ้านายของฉันรีบวิ่งเข้ามาหา สีหน้าซีดเผือด “คุณต้องจัดการเรื่องนี้”

เขาผลักฉันไปข้างหน้า “เธอคือเอวา เบญจรงค์ อินฟลูเอนเซอร์ด้านแฟชั่น คนของเธอโทรมา บอกว่าเธอจะยอมคุยกับนักบำบัดผู้หญิงเท่านั้น และคุณคือคนเก่งที่สุดที่เรามี”

เอวา เบญจรงค์ ชื่อนี้คุ้นๆ เหมือนเคยเห็นบนปกนิตยสารตามร้านสะดวกซื้อ

“และเธอมาที่นี่เพราะคู่หมั้นของเธอ” หมอไมตรีเสริมเสียงเบา “ภากร โลหะกุล หนึ่งเดียวคนนั้น”

หัวใจฉันหยุดเต้น

ภากร โลหะกุล

สามีของฉันชื่อเบน โลแกน เขาเป็นคนงานก่อสร้าง เขาเป็นคนง่ายๆ ใจดี และรักฉันมากกว่าสิ่งใดในโลก เราอาศัยอยู่ในอพาร์ตเมนต์เล็กๆ อีกฟากหนึ่งของกรุงเทพฯ

มันต้องเป็นเรื่องบังเอิญแน่ๆ นามสกุลโลแกนก็มีอยู่ทั่วไป ส่วนชื่อภากรอาจจะไม่ค่อยมี แต่ก็ยังเป็นไปได้

ฉันพยายามบอกตัวเองแบบนั้น พยายามกดความรู้สึกเย็นเยียบที่แผ่ซ่านไปทั่วอกลง มันก็แค่ชื่อเรื่องบังเอิญโง่ๆ ที่ไม่มีความหมายอะไรเลย

หมอไมตรีส่งแฟ้มคนไข้ใส่มือฉัน “นี่ข้อมูลของเธอ ขอให้โชคดี”

ฉันเปิดแฟ้ม มือสั่นเทา ใต้หัวข้อ “ชื่อคู่หมั้น” มีตัวอักษรพิมพ์ที่ดูเป็นทางการและชัดเจนว่า: ภากร โลหะกุล

ลมหายใจฉันสะดุด รู้สึกเหมือนเลือดทั้งตัวไหลลงไปกองที่เท้า

ฉันบังคับตัวเองให้ทำตัวเป็นมืออาชีพ ฉันเป็นนักบำบัด ฉันรับมือกับวิกฤตได้ ฉันสูดหายใจลึกๆ จัดชุดทำงานเรียบๆ ของตัวเองให้เข้าที่ แล้วเดินเข้าไปในห้อง

“คุณเอวาคะ” ฉันพูด น้ำเสียงสงบนิ่ง ทั้งที่ข้างในกรีดร้องโหยหวน “ฉันชื่อเอมิกา เราคุยกันได้ไหมคะ”

ทันทีที่เธอเห็นฉัน พลังงานที่บ้าคลั่งของเธอก็เปลี่ยนไป แววตาที่ดุร้ายอ่อนลงกลายเป็นความเปราะบางเหมือนเด็กๆ เธอทิ้งเศษแก้วลงพื้นเสียงดังเคร้ง

“เอมิกา” เธอครวญคราง ก้าวลงจากเก้าอี้ เธอวิ่งเข้ามาสวมกอดฉัน ซบหน้าร้องไห้ที่ไหล่ “คุณต้องช่วยฉันนะ”

ฉันกอดเธอไว้ ตัวแข็งทื่อ เธอเกาะฉันแน่นเหมือนเด็กๆ ท่าทีทั้งหมดของเธอบ่งบอกถึงชีวิตที่ได้ทุกอย่างที่ต้องการมาตลอด

เธอผละออก ปาดน้ำตาด้วยหลังมือ “เป็นเพราะภากรค่ะ ช่วงนี้เขาห่างเหินกับฉันมาก”

เธอควานหาโทรศัพท์มือถือ นิ้วปัดหน้าจออย่างรวดเร็ว “ดูสิคะ” เธอยื่นมันให้ฉันดู “นี่คือเรา เราดูสมกันมากเลยใช่ไหมคะ”

ในรูปคือเอวากำลังหอมแก้มชายหนุ่มในชุดสูทที่ตัดเย็บอย่างประณีต เขากำลังยิ้ม ดวงตาของเขามีรอยย่นในแบบที่ฉันคุ้นเคยจนเจ็บปวด

มันคือเบนของฉัน

ไม่สิ มันคือภากร โลหะกุล และเขากำลังยืนอยู่หน้าตึกระฟ้าที่มีโลโก้ของ ‘โลหะกุล กรุ๊ป’ ประทับอยู่

“เขารักฉันมากนะคะ” เอวาอวดอ้าง น้ำเสียงเริ่มมีพลังขึ้น “วันเกิดล่าสุดของฉัน เขาซื้อเกาะส่วนตัวให้ฉันเลยนะ เขาบอกว่าเขาจะทำทุกอย่างเพื่อฉัน ให้โลกทั้งใบกับฉันได้”

โลกของฉันกำลังเอียงกระเท่เร่ พื้นห้องเหมือนกำลังจะถล่มลงไป

“แต่มีบางอย่างเปลี่ยนไปเมื่อไม่กี่เดือนก่อน” เธอพูดต่อ ใบหน้าเศร้าหมองอีกครั้ง “ตั้งแต่เขากลับมา เขาหายตัวไปพักหนึ่งค่ะ คุณรู้ไหม สองปีเต็มเลย เขาประสบอุบัติเหตุอะไรสักอย่าง แล้วก็ความจำเสื่อม พอเขากลับมาได้ เขาก็...เปลี่ยนไป ดูเย็นชาขึ้น”

สองปี

เป็นเวลาเท่ากับที่ฉันแต่งงานกับเบนพอดี

ความจริงถาโถมเข้าใส่ฉันรุนแรงเหมือนโดนหมัดหนักๆ มันอัดอากาศออกจากปอดจนหมด เหลือไว้เพียงความว่างเปล่าที่เจ็บปวดรวดร้าว

ความทรงจำหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว ชัดเจนแจ่มแจ้ง

สองปีที่แล้ว คืนที่ฝนตกหนัก ซากรถที่บิดเบี้ยวบนถนนเปลี่ยว ฉันกำลังขับรถกลับบ้านหลังเลิกงานดึกเมื่อเห็นมัน ฉันจอดรถ หัวใจเต้นระรัว ฉันพบเขานอนสลบอยู่ เลือดไหลจากบาดแผลที่ศีรษะ เขาไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีโทรศัพท์ มีเพียงเสื้อผ้าที่สวมอยู่

ฉันเป็นนักบำบัด ไม่ใช่หมอ แต่ฉันรู้ว่าเขาต้องการความช่วยเหลือ ฉันขับรถพาเขาไปคลินิกเล็กๆ ที่ใกล้ที่สุด ผลวินิจฉัยออกมาว่า: ศีรษะกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ความจำเสื่อมโดยสิ้นเชิง

เขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร มาจากไหน หรืออะไรทั้งนั้น เขาเหมือนเด็กในร่างผู้ชาย หลงทางและหวาดกลัว ฉันรู้สึกสงสารเขาจับใจ ฉันจะทิ้งเขาไปเฉยๆ ไม่ได้ ตำรวจไม่มีเบาะแสอะไรเลย เขาไม่มีที่ไป

ฉันจึงพาเขากลับบ้าน

ฉันตั้งชื่อให้เขาว่าเบน เป็นชื่อพ่อของฉัน เรียบง่ายและแข็งแกร่ง

ในพื้นที่เล็กๆ ของอพาร์ตเมนต์ฉัน โลกใบใหม่ได้ถือกำเนิดขึ้น เขาต้องพึ่งพาฉันมาก เขารู้สึกขอบคุณฉันมาก สายตาของเขาจับจ้องมาที่ฉันตลอดเวลา เขาเรียนรู้ทุกอย่างใหม่หมด และฉันคือครูของเขา คือผู้นำทาง คือสิ่งเดียวที่เชื่อมโยยงเขากับโลกที่เขาจำไม่ได้

ความสัมพันธ์ของเราเติบโตอย่างรวดเร็วและลึกซึ้ง เขาเปิดเผยและจริงใจมาก เมื่อไม่มีอดีตมาถ่วงรั้ง เขาก็คือความรักที่บริสุทธิ์ เขาบอกฉันว่าเขารู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ในวันที่ฉันพบเขา

เขาเรียนทำอาหารให้ฉัน เขาสมัครงานที่ไซต์ก่อสร้างแถวบ้าน ภูมิใจที่ได้กลับบ้านพร้อมกับมือที่ด้านและสกปรก หาเงินมาเพื่อเราสองคน เขาจะเก็บเงินเป็นอาทิตย์ๆ เพื่อซื้อกุหลาบดอกงามให้ฉันเพียงดอกเดียว

เขารักฉันอย่างรุนแรงจนน่าทึ่ง เขาบอกว่าฉันคือดวงอาทิตย์ คือดวงจันทร์ คือท้องฟ้าทั้งใบของเขา เขาบอกว่าต่อให้ความทรงจำไม่กลับมา เขาก็ไม่สนใจ เพราะชีวิตของเขาเริ่มต้นที่ฉัน

หกเดือนหลังจากที่ฉันพบเขา เขาก็ขอฉันแต่งงาน เขาไม่มีแหวน มีเพียงก้อนหินเรียบๆ เล็กๆ ที่เขาเก็บมาจากริมแม่น้ำ เขาคุกเข่าลงบนพื้นในห้องนั่งเล่นเล็กๆ ของเรา ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยน้ำตา

“เอม” เขาพูด น้ำเสียงสั่นเครือด้วยอารมณ์ “ผมไม่มีอดีต แต่ผมรู้ว่าผมอยากให้อนาคตทั้งหมดของผมมีคุณอยู่ด้วย แต่งงานกับผมนะ”

ฉันตอบตกลงโดยไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียว

เราจัดพิธีเล็กๆ ที่สำนักงานเขต มีแค่เราสองคน มันเป็นวันที่มีความสุขที่สุดในชีวิตของฉัน

ปีแรกของชีวิตแต่งงานของเราเต็มไปด้วยความรักที่เร่าร้อนและความสุขเรียบง่าย เราไม่ได้มีเงินมากมาย แต่เรามีกันและกัน เราตัวติดกันตลอดเวลา เขาบูชาฉัน และฉันก็รักเขาหมดหัวใจ

แล้วเมื่อประมาณสามเดือนก่อน เขาบอกฉันว่าเขาต้องไปทำงานที่อื่น เขาพูดคลุมเครือ บอกว่าเป็นโครงการก่อสร้างใหญ่ต่างจังหวัด เขาไปอยู่หนึ่งสัปดาห์

พอกลับมา เขาก็เปลี่ยนไป ตอนแรกการเปลี่ยนแปลงมันเล็กน้อยมาก เขาดูเก็บตัวมากขึ้น แสดงความรักทางกายน้อยลง เขาเลิกเรียกฉันด้วยชื่อเล่นที่เขาเคยตั้งให้ เขาบอกว่าเขาแค่เหนื่อยจากงาน

ตอนนี้ฉันเห็นภาพทั้งหมดแล้ว “งาน” ที่ว่าไม่ใช่งาน มันคือความทรงจำของเขากำลังกลับมา มันคือการที่เขากลับไปสู่ชีวิตจริงของเขา สู่ชีวิตของภากร โลหะกุล

และชีวิตของเรา การแต่งงานของเรา เป็นเพียงจุดพักชั่วคราวระหว่างทาง เป็นความลับ เป็นความไม่สะดวก

เอวายังคงพูดต่อไป แต่เสียงของเธอดังห่างไกลออกไป สิ่งที่ฉันรู้สึกได้มีเพียงความจริงอันโหดร้ายที่ถาโถมเข้ามา

“คุณฟังอยู่รึเปล่าคะ” เอวาถามอย่างหงุดหงิด เธอจิ้มแขนฉัน “ตาคุณแดงๆ นะคะ คุณร้องไห้ให้ฉันเหรอ คุณคงคิดว่าชีวิตฉันน่าเศร้ามากสินะ”

คำพูดของเธอช่างน่าขันจนฉันเกือบจะหัวเราะออกมา

ทันใดนั้น ประตูห้องให้คำปรึกษาก็เปิดผางออก

“เอวา!”

ภากร โลหะกุล ยืนอยู่ที่ประตู เขาสวมสูทราคาแพงที่น่าจะแพงกว่ารถของฉันทั้งคัน เขาทรงอำนาจ ดูน่าเกรงขาม และแตกต่างจากผู้ชายที่ซ่อมก๊อกน้ำรั่วให้ฉันเมื่ออาทิตย์ที่แล้วโดยสิ้นเชิง

สายตาของเขาพบฉัน ในเสี้ยววินาทีนั้น ฉันเห็นแววตาตกใจ แววตาที่จดจำได้ แล้วมันก็หายไป ถูกแทนที่ด้วยหน้ากากที่เย็นชาและแข็งกระด้าง

เขาส่งสายตามาให้ฉัน มันไม่ใช่แค่การมอง มันคือคำเตือน คำสั่งที่เงียบงันและโหดร้ายให้ฉันหุบปาก

เขาก้าวผ่านฉันไปราวกับฉันไม่มีตัวตน แล้วโอบกอดเอวาไว้ในอ้อมแขน “ที่รัก ผมอยู่นี่แล้ว ไม่เป็นไรนะ”

“ภากร!” เธอร้องไห้ ซบลงในอ้อมกอดของเขา “คุณมาช้าจัง! ฉันกลัวมากเลย”

“ผมรู้ ผมรู้” เขากระซิบ น้ำเสียงทุ้มลึกและอ่อนโยนแบบเดียวกับที่เขาเคยใช้ปลอบฉันเวลาที่ฉันเจอเรื่องแย่ๆ “ผมจะไม่ทิ้งคุณไปไหนอีกแล้ว ผมสัญญา”

คำพูดนั้นเหมือนมีดที่กรีดลงกลางใจ เขาเคยให้สัญญาแบบเดียวกันเป๊ะๆ กับฉันมาแล้วนับร้อยครั้ง

เขาจูบหน้าผากเธอ “ผมรักคุณนะเอวา รักคุณคนเดียว”

ฉันหันหน้าหนี ทนดูต่อไปไม่ไหว ดวงตาของฉันร้อนผ่าว แต่ฉันปฏิเสธที่จะให้น้ำตาไหลออกมา

เขากำลังประกาศต่อหน้าสาธารณชน เป็นการแสดงให้ผู้ชมเพียงคนเดียวดู นั่นก็คือฉัน เขากำลังแสดงให้ฉันเห็นว่าฉันอยู่ตรงไหน เขากำลังแสดงให้ฉันเห็นว่าฉันไม่มีค่าอะไรเลย

เขาอุ้มเอวาขึ้นในอ้อมแขน ประคองเธอราวกับสมบัติล้ำค่า ขณะที่เขาเดินออกไป ดวงตาเย็นชาของเขาสบตากับฉันเป็นครั้งสุดท้ายผ่านไหล่ของเธอ ข้อความนั้นชัดเจน: แกคือตัวปัญหาที่ต้องถูกกำจัด

ฉันยืนนิ่งอยู่ที่นั่น นานหลังจากที่พวกเขาจากไป ห้องกลับมาเงียบสงัดอีกครั้ง ยกเว้นเสียงหัวใจของฉันที่แตกสลาย

ฉันเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานด้วยขาที่สั่นเทา ฉันหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา มือสั่นมากจนต้องพยายามถึงสามครั้งกว่าจะปลดล็อกได้

ฉันเลื่อนดูรายชื่อผู้ติดต่อจนเจอเบอร์ที่ไม่ได้โทรหามาหลายปี

แม่ของฉัน

เธอรับสายในกริ๊งที่สอง “เอมิกาเหรอลูก?” เสียงของเธอชัดเจน มีสำเนียงยุโรปจางๆ

“แม่คะ” ฉันพูด เสียงของฉันเป็นเสียงกระซิบที่ขาดห้วง “หนูต้องการความช่วยเหลือจากแม่ค่ะ”

“แน่นอนจ้ะที่รัก ทุกอย่างเลย มีอะไรเหรอ”

“หนู...หนูอยากย้ายประเทศค่ะ หนูอยากไปอยู่กับแม่ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”

มีความเงียบชั่วครู่ “แล้วสามีของลูกล่ะ แล้วเบนล่ะ”

ฉันหลับตาแน่น เสียงหัวเราะที่ขมขื่นและเจ็บปวดหลุดออกมาจากริมฝีปาก “เขาไม่ไปค่ะ”

ขณะที่ฉันกำลังเก็บของ เตรียมจะออกจากคลินิกและไม่กลับมาอีก เงาหนึ่งก็ทาบทับลงบนโต๊ะทำงานของฉัน

ฉันเงยหน้าขึ้น

เป็นภากร เขากลับมา

“เราต้องคุยกัน” เขาพูด น้ำเสียงต่ำและไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 20   เมื่อวานซืน17:33
img
img
บทที่ 1
29/10/2025
บทที่ 2
29/10/2025
บทที่ 3
29/10/2025
บทที่ 4
29/10/2025
บทที่ 5
29/10/2025
บทที่ 6
29/10/2025
บทที่ 7
29/10/2025
บทที่ 8
29/10/2025
บทที่ 9
29/10/2025
บทที่ 10
29/10/2025
บทที่ 11
29/10/2025
บทที่ 12
29/10/2025
บทที่ 13
29/10/2025
บทที่ 14
29/10/2025
บทที่ 15
29/10/2025
บทที่ 16
29/10/2025
บทที่ 17
29/10/2025
บทที่ 18
29/10/2025
บทที่ 19
29/10/2025
บทที่ 20
29/10/2025
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY