พันธนาการเธอไว้ด้วยความแค้น ความโหยหา หรือหวงหัวใจ ‘ฆนศิลา’ ไม่อยากคิดอีกต่อไป นับจากนี้แค่ต้องทำให้หัวใจที่เหมือนโดนทรยศให้รู้สึกถึงชัยชนะก็เท่านั้นครบตามสัญญาที่เฝ้ารอคอย สมใจแค้นเมื่อไหร่ต่างคนก็ต่างไป…‘งามฟ้า’ ไม่เคยคิดคนที่เคยหลอกล่อ ล่อลวงหัวใจสาวน้อยคนหนึ่ง จะไร้ความปราณี เถื่อนเช่นนี้เสียแรงที่เคยรัก เคยบูชาเมื่อเขาใจดำ ไร้ซึ่งหัวใจ ความลับเรื่องที่ปกปิดไว้ก็จะเป็นเช่นนั้นตลอดไปฆนศิลา ปิยรมย์ ไม่คู่ควรกับคำว่า ‘พ่อ’
บ้านหลังเล็กกะทัดรัด ร่มรื่นด้วยต้นไม้กินผลอยู่เบื้องหลังงามฟ้ากับลูกน้อย หญิงสาวหันมองเป็นครั้งสุดท้ายตั้งปณิธานแน่วแน่จะเอากลับมาเป็นเจ้าของให้ได้ ยอมทุกอย่างเพียงเพื่อให้ปู่ได้ตายตาหลับ
“แม่คาบไปไหนคาบ” เด็กชายดินอายุสี่ขวบกว่า แหงนใบหน้าถาม งามฟ้าละจากภาพเบื้องหลัง
“แม่จะพาลูกไปเที่ยวสักพักนะครับ ไม่นานเราจะกลับมาบ้านกันนะลูก”
“แม่งามตาแดง…” เด็กชายดินวัยอยากรู้อยากเห็นถามพาซื่อ
งามฟ้ายิ้มย่อตัวลงกอดลูก “แม่ไม่เป็นไรสักหน่อย ไปกันเถอะ” บีบจมูกเล็กเบาๆ ก่อนจะยืนขึ้นจูงมือตัวอวบ แก้มยุ้ยออกเดิน
แท็กซี่ที่มารอรับขนกระเป๋าเรียบร้อย สองแม่ลูกขึ้นนั่งบนรถ
ครู่ใหญ่ๆ ต่อมา แท็กซี่จอดลงหน้าคฤหาสน์หลังใหญ่ข้างเคียงก็มีคฤหาสน์คล้ายคลึงกัน
งามฟ้าล้วงเงินจากกระเป๋าใบเล็กที่สะพายอยู่จ่ายเงินค่าโดยสาร มองลุงแท็กซี่ลำเลียงกระเป๋าลงจากรถ ก้าวเดินไปกดกริ่ง เด็กรับใช้เปิดประตูเล็ก เดินออกมาเหมือนคอยท่าเนิ่นนานแล้ว แต่ไม่มีใครช่วยหิ้วกระเป๋าแม้แต่คนเดียว
“ตามเด็กไปนะ” แม่บ้านที่งามฟ้าคุ้นหน้าบอกว่าที่พักเธออยู่ที่ไหนก่อนให้เด็กคนหนึ่งเดินนำไป งามฟ้าอุ้มลูกไว้ในอกเพราะจอมซนหลับ กระเป๋าที่พามาจึงนำไปได้แค่ใบเล็กใบเดียว
บ้านหลังเล็กร่มรื่นด้วยต้นไม้อยู่หลังตึกทรงยุโรป ห่างพอสมควร
“ของที่ต้องใช้” เด็กรับใช้คนหนึ่งบอกก่อนเดินจากไป งามฟ้ามองไม่ถูพื้น กะละมัง ผ้าขี้ริ้วที่เด็กนำมาให้ เข้าใจความหมาย แต่หญิงสาวยังทำความสะอาดไม่ได้ต้องรอให้ลูกชายตื่นเสียก่อน ร่วมยี่สิบนาทีงามฟ้านั่งที่เก้าอี้ตรงระเบียงไม้เตี้ยขนานพื้นกอดลูก รู้สึกดีใจที่ดินไม่งอแงเมื่อตื่นจึงหาของเล่นจากกระเป๋าเพื่อให้ลูกเล่น ตัวน้อยได้ของเล่นไม่ดื้อไม่ซน งามฟ้าเดินไปเปิดหน้าต่างทุกบานเริ่มทำความสะอาด ซึ่งภายในบ้านมีเพียงฝุ่นนิดหน่อยเกาะทั่วเฟอร์นิเจอร์
คงคิดว่าเธอสุขสบายเพราะเป็นสะใภ้คนร่ำรวยสินะ มาถึงก็เริ่มกลั่นแกล้งกันแบบนี้ อยากบอกเขานักการเป็นสะใภ้ที่นั่นปีกว่าๆ ชีวิตไม่ได้สุขสบายเลย
ทำความสะอาดเหงื่อท่วมตัว งามฟ้าคิดถึงคนที่สร้างเรื่องราวทุกอย่างขึ้น ใจหมองเศร้าเป็นริ้วแปลบปลาบคล้ายหนามแหลมแล่นทำร้ายหัวใจที่ยังเต้น…
เจ็บ! ไม่เคยลืมเขา แต่ไม่ทำให้เธอเจ็บกว่าที่เคยเจออีกแล้ว
หญิงสาวยกมือเช็ดเหงื่อบริเวณหน้าผากก้มหน้าก้มตารีบทำให้เสร็จ บ้านหลังเล็กวาววับสะอาดสะอ้าน งามฟ้าล้างมือตรงก๊อกน้ำหน้าบ้านก่อนจะชวนลูกชายไปหิ้วกระเป๋าอีกสองใบ
“หิวนมคาบแม่งาม” เด็กชายร้องหานม งามฟ้าล้วงขวดนมที่ใส่น้ำอุ่นมาด้วยชงนมให้ลูกก่อนจะไป
“รอเดี๋ยวนะลูก”
เด็กชายดินตบมือดีใจ งามฟ้าตักนมจากกระป่องผสมน้ำต้มสุกที่ยังอุ่นซึ่งใส่เตรียมมา เขย่าเร็วๆ ยื่นให้ลูก
“ขอบคุงคาบ” ดินรับหลังจากนั้นเดินดูดนมตามหลังแม่ไปหิ้วกระเป๋า
“เที่ยวไหนคาบแม่งาม” เด็กชายดินถาม สายตามองโน่นนี่เพราะตอนมาถึงหลับ
“เที่ยวหาเงินครับลูก เอาไว้ซื้อขนมให้ลูกไงครับ” งามฟ้าคิดได้รวดเร็ว
ลูกชายถามไปอย่างนั้นตามวัยที่อยากรู้อยากเห็นไปเสียทุกอย่าง เมื่อเป็นอย่างนั้นงามฟ้าก็โล่งใจที่ไม่ต้องสรรหาคำโกหกอีก
ติด ติด ติด
ครู่ต่อมาเสียงมือถือดังขึ้น งามฟ้ามองหน้าจอเห็นว่าใครโทรมามือเล็กสั่นเทา วางผ้าขนหนูผืนเล็กซึ่งกำลังเช็ดผมที่เปียกชื้น “ค่ะมาถึงแล้ว” เธอรายงานความเป็นไป เขาวางสายไป งามฟ้านั่งชันเข่าข้างเตียงที่ลูกหลับใหลอยู่
คิดถึงความรัก ความหลัง ความเศร้า ที่ไม่เคยลืม
ไม่คิดเลยเธอจะกลับมาเจอพ่อของลูกในสภาพแสนน่าอัปยศอดสู ทุกข์ใจเศร้าเช่นนี้ อีกเรื่องที่เศร้าเป็นที่สุดคือลูกไม่มีโอกาสเรียกเขาว่า ‘พ่อ’ มันเจ็บ เจ็บกว่าความห่างเหิน หมางเมินที่เขามอบให้กัน
ห้าปีก่อนงามฟ้าเด็กสาวธรรมดาคนหนึ่งอาศัยอยู่กับปู่ซึ่งเป็นข้าราชการกินบำนาญ สาวน้อยได้เข้าเรียนมหาวิทยาลัยมีชื่อ มีเพื่อนใหม่ สังคมใหม่ ทรายชมพู ปิยรมย์สาวน้อยน่ารักถูกชะตากันจนเป็นเพื่อนสนิท แม้ฐานะทั้งสองช่างแตกต่างแต่ทรายชมพูไม่เคยรังเกียจงามฟ้า ทว่าโชคชะตากลั่นแกล้งให้เพื่อนรักทั้งสองผิดใจกันเพราะคู่หมั้นของทรายชมพู นิธิชให้ความสนใจงามฟ้าจนทรายชมพูตีตัวออกห่างงามฟ้า มองเพื่อนรักเป็นศัตรูตัวร้าย งามฟ้าพยายามอธิบายเพื่อนก็ไม่เข้าใจ เรื่องราวเลยเถิดเมื่ออยู่ปีสองนิธิชบอกยกเลิกการหมั้นหมายที่มีมาตั้งแต่เด็กบอกว่าไม่พร้อมแต่งงาน ทุกคนพุ่งเป้าการแย่งชิงหัวใจมาที่งามฟ้า
“เพื่อนสารเลว ฉันเกลียดแก!”
ทรายชมพูผู้อ่อนหวานต่อว่าตบหน้างามฟ้าด้วยความแค้น งามฟ้าพยายามอธิบายแต่คนในบ้านปิยรมย์กีดกันจนความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนขาดสะบั้นลง
“พี่อย่ามายุ่งกับงามนะ เราไม่ต้องเป็นเพื่อนกันแล้ว” งามฟ้าขับไล่นิธิชซึ่งมีบ้านหลังใหญ่ใกล้บ้านหลังเล็กของเธอ แต่นิธิชยังตื้อไม่เลิก งามฟ้าเสียใจร้องไห้อยู่นานหลายวัน
ในวันหนึ่งคุณน้าของทรายชมพูมาหางามฟ้า…เขาคือผู้ชายที่ทำให้เด็กสาวใจเต้นแรง ไม่เป็นตัวของตนเองตั้งแต่แรกพบแรกสบตา สาวน้อยยอมรับเธอหลงรักน้าของเพื่อนตั้งแต่เห็นรูปถ่ายของเขายิ่งเจอตัวจริงยิ่งมีความรู้สึกชื่นชมมากกว่าเดิม
ฆนศิลา ปิยรมย์ บุตรชายคนโตของคุณหญิงรุจยา ปิยรมย์ หนุ่มนักเรียนนอกวัยสามสิบรับตำแหน่งประธานกรรมการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขึ้นแท่นเป็นนักธุรกิจชั้นแนวหน้าของเมืองไทย
“มีเรื่องอยากคุยด้วย คงจำฉันได้” เสียงทุ้มจากริมฝีปากหยักได้รูปฟังนุ่มหูทำให้จิตใจห่อเหี่ยวของงามฟ้าดีขึ้น งามฟ้าไม่รอช้าอธิบายทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อเขาถามตรงๆ ฆนศิลาดูเหมือนจะเชื่อในคำพูดของงามฟ้า
“น้าจะคุยกับทรายให้นะ” ฆนศิลาใช้สรรพนามสนิทสนม น้ำเสียงอ่อนโยน งามฟ้าดีใจ
“จริงนะคะ ทรายจะเข้าใจงาม ไม่โกรธงามอีกใช่ไหมคะ” งามฟ้าจับมือเขย่าอย่างลืมตัว
แววตาลุ่มลึกมองสาวน้อย งามฟ้าหลบสายตาเขินอายขอโทษ
“ขอโทษเรื่องอะไร” ท่าทางไม่ถือเนื้อถือตัวว่าเด่นดัง อยู่คนละสังคมกับงามฟ้า ทำให้เด็กสาวยิ่งปลื้มฆนศิลาเข้าไปอีก ตั้งแต่วันนั้นงามฟ้าก็มีแขกประจำบ้านเป็นผู้ชายเนื้อหอมที่สาวๆ ต่างชะเง้อหาอยากชิดใกล้ ฆนศิลามารับส่งไปมหาวิทยาลัย งามฟ้ารู้สึกตัวเองเหมือนฝันไป เธอคล้ายซินเดอเรอล่าในเทพนิยาย อยู่ใกล้เขามากเท่าไหร่หัวใจเต้นแรง ปู่ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องเพื่อนๆ ของเธออยู่แล้วเพราะเชื่อใจ เด็กที่ไม่เคยทำให้ผิดหวังไม่ว่าเรื่องเรียนและการประพฤติ งามฟ้าสาวน้อยจิตใจดีงาม มองโลกในแง่ดี จึงถูกคนหัวใจหินทำร้ายทำลายให้ตรอมตรมอย่างไม่ปราณีหลังจากนั้นไม่นาน…งามฟ้าไม่อยากโทษว่าเป็นเพราะใคร มันไม่มีอะไรดีขึ้นมาได้ เพราะช่วงเวลาโหดร้ายในชีวิตผ่านมาเนิ่นนานแล้ว
“แม่คาบ ปู่ไปไหน…ปู่คาบหาดิน…” ลูกชายละเมอ ยกสองมือสะเปะสะปะ
“ลูก” งามฟ้าตกใจคลานเข่าขึ้นบนเตียงตะกรองกอดร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน ป้ายน้ำตาแก้มนุ่มละมุน
“แม่อยู่นี่ครับดิน อย่ากลัวนะ โอ๋ ไม่ร้องนะ” งามฟ้าปลอบลูก
เด็กชายดินผ่อนคลายซุกอกแม่ งามฟ้าลูบแก้มตุ้ยนุ้ย “ขอโทษนะลูก ที่ความลับของลูกจะต้องตายไปกับแม่ด้วย” เธอกระซิบขอโทษลูก ที่ไม่สามารถมอบใครสักคนมาแทนปู่ที่ลูกรักมาก… เพราะคนเป็นพ่อไม่ต้องการให้ลูกเกิดมา ทำไมเธอต้องไปวอนขอให้เขารับรู้เรื่องนี้ละ อย่าทำเช่นนั้นเลย
บนตึกใหญ่ฆนศิลายืนอยู่ริมระเบียงห้องนอนซึ่งอยู่ด้านหลังตึก ดวงตาสีถ่านมองลงไปยังบ้านหลังเล็ก ใจครุ่นคิดป่านนี้ผู้หญิงคนนั้นจะทำอะไรอยู่
ทำอะไรก็ช่างทำไมเขาต้องสนใจด้วย ได้พามาแก้แค้นให้สาแก่ใจก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ และจะมีเวลาอีกหนึ่งปีให้ทำเรื่องนี้
ร่างสูงร้อยแปดสิบห้าเซ็นฯ ในชุดเสื้อคลุมสีเทา หยิบหนังสือที่อ่านค้างไว้ขึ้นมา รู้สึกครึมใจเมื่อคิดถึงการรายงาน ว่าการต้อนรับผู้อาศัยวันนี้เป็นไปตามที่ต้องการ สะใจทำให้หญิงสาวพลัดพรากจากไอ้ผู้ชายคนใหม่ที่รู้สึกชังน้ำหน้า เขาจะทำให้เธอพลาดจากทุกอย่างที่หวัง แต่อ่านหนังสือไม่กี่บรรทัดใจก็วุ่นวายไม่เลิก ร่ำๆ อยากเริ่มเรื่องที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่คืนนี้เสียเลย ร่างสูงจึงเดินขึ้นเตียงนอน ข่มตาหลับเพื่อจะได้เลิกฟุ้งซ่านเสียที ร่างสูงจึงเดินลงจากห้องนอนไปยังสวนหลังตึกซึ่งมีบ้านหลังเล็กอยู่ใกล้
อทิตยาคือหญิงสาวที่นายพลภัทรอุปการะไว้ตั้งแต่อายุสิบขวบ เธอรัก เคารพนายพลเหมือนพ่อแต่กลัวคุณหญิง ภรรยานายพลมาก ดังนั้นเมื่อโตเป็นสาวเธอก็ไม่กล้าเข้าใกล้นายพลอีก จนกระทั่งภัทรกร ลูกชายคนโตของนายพลเข้ามาแทรกซึมให้หัวใจที่ว้าเหว่อบอุ่นขึ้น เธอหลงรักเขาอย่างห้ามใจไม่ได้ เธอยอมเป็นคนในความลับ เพื่อรอวันที่จะได้ทะเบียนสมรสจากเขา แต่แล้ววันหนึ่งคนรักเขากลับมา เขาไม่รีรอที่จะมอบเงินให้เธอ ตัดสัมพันธ์ที่เธอหวงแหนลง แล้วเธอจะพูดอะไรได้ นอกจากทำตามที่เขาต้องการ ทว่าเมื่อรู้ว่าตั้งท้องเธอก็เปลี่ยนใจ อยากให้ภัทรกรรู้เรื่องลูก แต่เขากลับคิดว่าเธอโกหกเพราะคิดจะจับเขา หญิงสาวเสียใจมาก เธอยอมไปจากบ้านดลจิตรตามที่คุณหญิงสั่ง เพราะที่นี่ไม่มีใครช่วยเธอได้ นายพลเธอก็ไม่อยากให้เดือดเนื้อร้อนใจเพราะเธอ
กัญญายอมมาเป็นผู้หญิงของรอน กวี อลอนโซแทนน้องเพื่อใช้หนี้ให้พ่อ แม้เธอจะต้องทิ้งรักแรกแต่ก็ไม่สามารถหลีกหนีได้ ทว่าวันหนึ่งกลับเจอว่าน้องสาวและคนรักเก่ากำลังคบหาจะแต่งงานกัน เธอได้รับรู้ที่ผ่านมาไม่มีใครสนใจถึงความเสียสละของเธอแม้แต่น้อย กัญญารู้สึกโดดเดี่ยว เสียใจเป็นที่สุด และในเวลานั้นรอนก็กำลังจะแต่งงาน ยุติความสัมพันธ์กับเธอ ซ้ำจะยกเธอให้ลูกน้องเขา เธอไม่มีค่ากับใครเลยหรือ?
เขาทิ้งเธอไว้ไปในวันฝนพร่ำเพื่อไปหาคนรักที่รอคอยมาเนิ่นนาน ความฝันที่จะได้เคียงคู่พลันมลายลง เธอเป็นแค่คนผ่านทาง เธอจะไม่ร้องไห้ แต่ทำไม น้ำตาไหลไม่หยุดแบบนี้เล่า ------------------------ เพราะยินยอมพร้อมใจเป็นเด็กเลี้ยงของหมอดลทัช เมื่อเขาจะจากไป โดยที่ไม่บอกกล่าวล่วงหน้า ชลรัมภาจำต้องยอมรับความทุกข์ ความปวดร้าวให้ได้ ทว่าเมื่อต้องเจอหน้าเขาอยู่ร่ำไป เพราะเธอคือเพื่อนรักน้องสาวเขา เธอจะทำตัวเช่นไรดี ให้เขาไม่สมเพช ไม่เห็นน้ำตาที่ไม่มีค่าของเธอ
เพราะอนาคตของน้องสาว เพราะแม่ พลอยหวาน สาวสมองขี้เลื่อยจึงต้องมารับกรรมที่ไม่ได้ก่อ คีตะคราม เขาหล่อ แต่เขาร้าย แต่ไม่ปราณีเธอ แม้เป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ วันที่หลานชายเขาฟื้นขึ้นมาจากการหลับใหล เธอรู้ว่าตนเองท้อง ทว่าพ่อของลูก คนใจร้ายคนนั้นไม่ยอมรับฟัง เขายังต้องการให้เธอไปให้ไกลตาหลานชายของเขา แต่กลับไปบ้าน สักวันคนบ้านนั้นอาจจะรู้เรื่องน้องสาว ที่ไม่เคยเหลียวแลพี่สาวอย่างเธอ ดังนั้นเธอต้องไปหางาน หาเงินเอาข้างหน้า คลอดลูกเมื่อไหร่ จะเอามาให้พ่อเขาก็แล้วกัน ไม่โกรธแม่ใช่ไหมลูก? เธอน้ำตาไหล เธอหวังลูกจะตอบกลับเป็นประโยคเดียวกับคำถามของเธอ
เรื่องราวของอัญชลียาผู้ซึ่งยึดมั่นในความผูกพัน จนกลายเป็นความรัก แม้รู้ว่าคุณอคินของเรามีให้แค่เงินและสัมพันธ์ทางกายเธอก็ยังไม่เปลี่ยนใจจากเขา จนกระทั่งวันที่ต้องลาจากมาถึง เพราะคนรักที่เขาสัญญาจะแต่งงานด้วยกลับมาจากเมืองนอก ความผูกพันของเธอก็ดูไร้ค่าจนน่าสมเพชตนเอง และเรื่องราวที่เกิดขึ้นมากมายทำให้ความรักกลายเป็นความแค้น เรื่องราวจะเป็นอย่างไรติดตามกันในเล่มนะคะ ------ “ฉันไปนะอันอัน อย่าลืมฝากคีย์การ์ดไว้ที่เคาน์เตอร์นะ” “อะไรกันแค่คีย์การ์ด ฉันจะเอาไปทำไม” อันอัน เช็ดหน้าเดินไปหาเสื้อผ้า ดึงของใช้ตนเองออกมา” “เธอจะโมโหทำไม เอ๊ะ! หรือว่าคิดไม่ทำตามสัญญา อย่าเชียวนะ นั่นๆ ดึงไปให้หมดเลยเสื้อผ้าพวกนั้น” เขายืนมอง ปากก็พูดไล่อีกครั้ง หญิงสาวหันไปมองเขา “เลือดเย็นกับฉันจังเลยนะอคิน ทั้งที่เมื่อคืนปากบอกว่าชอบฉัน” อดไม่ได้จะตัดพ้อ แต่เขาคงฟังเป็นถ้อยคำน่ารำคาญ เพราะหันหลังหนีไปอีกครั้ง หยิบกุญแจรถขึ้น “เวลาเข้าด้ายเข้าเข็ม กำลังมันส์จะให้พูดว่าเกลียดหรือไง เธอเองก็ชอบนี่น่า พอๆ อย่าหาเรื่อง นั่นเช็คนะ ดูแลตัวเองด้วย” อย่างน้อยยังมีน้ำใจ แม้จะออกมาเพราะเธอคาดคั้น อัญชลียาหันมองเช็ค ใจแห้งเหี่ยวเดินเข้าไปแต่งตัว พร้อมกับเจ้าของห้องหรูเดินห่างไป เสียงประตูปิดลง หญิงสาวผู้ไม่เคยแสดงความอ่อนแอ นั่งลงปาดน้ำตา ขอบคุณทุกการสนับสนุนค่ะ ทรายสีรุ้ง
เขารักคนอื่น กำลังจะแต่งงานกัน ในค่ำคืนหนึ่งเธอกลายเป็นของเขาด้วยความงงๆ อยากบอกเขาให้รับผิดชอบ เพราะไม่รู้จะทำอย่างไร แต่คนที่เขาจะแต่งงานเป็นคนที่เธอรัก เคารพ อารยายอมตัดใจ แม้อุ้มท้องและโดนพ่อด่าทอ ทุบตี ว่าแย่งของคนอื่นเธอก็ไม่อาจโต้แย้ง ---------------------- “อย่าเพิ่งไป” มือใหญ่คว้ามือเธอไว้ อารยาสะบัด “จะกลับแล้ว ถ้าคุยเรื่องไร้สาระ” “การที่เรานอนกันดุเดือดคืนนั้น เธอพูดว่าไร้สาระเหรอ ฉันคงจะคิดผิดเสียแล้ว ว่าเธอไร้เดียงสา” ดวงตาคมโตหันไปถลึงตา “พูดอะไรเงียบไปเลยนะ” โยธินหัวเราะขื่น “แสดงท่าทีแบบนี้ ยอมรับแล้วสินะ” อารยากำหมัดแน่น มองซ้ายขวา ที่นี่คงให้เธอตะโกนให้หายแค้นใจได้ “ยอมรับแล้วไง คุณก็ไม่สามารถทำอะไรให้ฉันกลับมาเป็นคนเดิม พอๆ เลิกพูดเรื่องนี้ อย่ามายุ่งกับฉันอีก!” ไม่คิดจะกลายเป็นคำพูดนี้ที่ปิดการสนทนา เธอแหงนมองท้องฟ้า ห้ามน้ำตาไม่ให้ไหล ไม่มีอะไรดีขึ้น จะร้องไห้ไปทำไม “เธอหวังอะไรล่ะ น่าจะรู้ฉันจะแต่งกับพี่สาวเธอเท่านั้น” อารยากำหมัดแน่น พลั่ก! “โอ้ย!” โยธินกุมจมูก สบถเสียงดัง “เธอเป็นบ้าอะไร เจ็บนะ” “ให้คุณมีสติและคิดบ้าง ตั้งแต่เกิดเรื่อง ฉันเคยอ้อนวอนอะไรคุณบ้าง ฉะนั้นอย่ามาตัดสินว่าฉันคิดหรือไม่คิดอะไร เข้าใจไหม” โยธินอึ้งไปแต่ไม่ยอมแพ้ “ผู้หญิงเก็บกด อยากลองจะว่างั้น แล้วทำไมไม่บอกกันดีๆ ล่ะ แอบลอบเข้าไปมันคงเร้าใจใช่ไหม ก็แน่ล่ะ หุ่นผมมันคงน่ากิน” อารยายกมือจะซัดอีกครั้งแต่กลับโดนรวบที่เอว ก่อนใบหน้าบึ้งตึงจะก้มลงมาบดจูบปากเธอ หญิงสาวพยายามกระทืบเท้าเขาและดิ้น คนบ้านี่ ทำอะไรอีก
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
“ผู้หญิงคนนี้เป็นของมาร์โก ใครก็ห้ามมายุ่งอีกเด็ดขาด” เขาประกาศให้รับรู้ทั่วกัน แต่ถามว่าผู้หญิงของเขาตอนนี้มีสีหน้ายังไง ถามได้! เธอยังช็อกไม่หายปล่อยให้เขาจับจูงเข้าไปในห้องจนเหตุการณ์สงบแล้วเธอก็ยังไม่รู้ตัวเหมือนเดิม! พระเจ้านี่มันเรื่องบ้าอะไร! เธอกลายเป็นผู้หญิงของมาเฟียได้ยังไง เรื่องชักจะวุ่นวายเกินไปแล้ว เธอตามไม่ทันจริง... ตั้งสติไว้ยัยแอน เธอต้องตั้งสติ ตั้งสติบ้าอะไร เขาก็ประกาศอยู่ว่าเธอเป็นของเขา ไม่ ๆ ไม่ใช่ พวกเราแค่นอนด้วยกันคืนเดียว ยังไงก็แค่เรื่องเข้าใจผิด ยังไงเขาก็คงคิดจะขู่เล่น ๆ โธ่เอ้ยยัยโง่ เขาประกาศขนาดนั้น ลองไปสิเธอได้ถูกผูกติดกับเตียงแน่ ชาตินี้อย่าหวังจะไปไหนได้เลย เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าคนนั้นคือมาเฟียมาร์โก มาเฟียที่มีอิทธิพลสุดในเมืองนี้! เธอจะบ้าตายเพราะเถียงกับตัวเองนี่แหละ แถมยังต้องมานั่งเสียใจที่มาเจอคนที่น่ากลัวที่สุดในเมือง พระเจ้าแกล้งเธอเกินไปแล้ว แบบนี้เธอจะทำยังไงดี!!
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"