เพื่อชดใช้หนี้ให้แก่เขา เธอต้องจำยอมเป็นเจ้าสาวของเขา เขาผู้ที่ทุกคนขนานนามว่าเป็นเสมือนปีศาจ เขามีอำนาจที่ทำให้ทุกคนยอมสยบแทบเท้า เธอรู้สึกท้อแท้ และสิ้นหวัง เขาโหดเหี้ยม และไร้ความเมตตา แต่แล้วความอ่อนหวานของเธอ ก็ทำให้เขาต้องจำนนต่อความลุ่มหลงที่ไม่อาจห้ามใจได้ ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว เขาก็ไม่สามารถถอนตัวออกจากเธอได้เสียเเล้ว ความปรารถนาอันแรงกล้า ก่อให้เกิดเรื่องราววุ่นๆ ของพวกเขา แล้วความรักแบบมีเงื่อนไขนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร
ค่ำคืนอันมืดมิดในช่วงฤดูใบไม้ร่วง มีเพียงแสงจันทร์เลือน ๆ ทำให้รู้สึกหนาวจับใจ
โรงแรมข่ายเยว่ เป็นโรงแรมระดับหกดาว ที่หรูหราที่สุดในเมืองอานไท่ คืนนี้โรงแรมนี้ได้ถูกชายผู้มีอำนาจ และมีอิทธิพลระดับโลกอย่าง เหลิ่งมู่เฉิน สั่งปิดเพื่อจัดงานเลี้ยงเฉลิมฉลอง
เหลิ่งมู่เฉินสวมชุดสูทสีดำ นั่งอยู่ที่ห้องวีไอพีสุดหรู นิ้วเรียวยาวขาวสะอาดคีบมวนบุหรี่ไว้คั้นกลาง ควันจาง ๆ ของบุหรี่ค่อย ๆ ลอยขึ้นไปในอากาศ บดบังสายตาของเขา
“นายครับ วันนี้ทุกคนดื่มกันเต็มที่แล้ว ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วนะครับ” ชายหนุ่มผิวสีเข้ม คิ้วหนา ตาโต เสียงทุ้มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เขาเอ่ยขึ้น
“นายครับ ผมได้ยินมาว่าคุณหนูตะกูลฉิน เป็นคลาสโนวี่ตัวแม่ คบผู้ชายไม่เลือกหน้า นายไม่กลัวหล่อนจะทำให้เสื่อมเสียเหรอครับ?” ชายอีกคนพูดขึ้น
ฟังจากน้ำเสียงของทั้งสอง ดูเหมือนพวกเขาจะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานในครั้งนี้เลย แต่เจ้าบ่าวอย่างเขากลับไม่ได้รู้สึกเป็นเดือดเป็นร้อนอะไร
คนพวกนี้ถ้าไม่เมาก็คงจะไม่กล้าพูดอะไรออกมา
“ฉินฉางชุนติดหนี้ฉันมากมาย ใช่ว่าส่งลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนมาขัดดอกแล้วเรื่องมันจะจบง่าย ๆ” เหลิ่งมู่เฉินพูดอย่างนิ่ง ๆ
“นายครับ หมายความว่าฉางชุนแค่พยายามจะซื้อเวลาออกไปเหรอครับ ถ้าอย่างงั้นก็คุ้มเกินคุ้มเลยน่ะสิ?” หลิงหยี่เจ๋ซึ่งเป็นมือขวาคนสนิทของมูลเฉินเอ่ยขึ้น
มู่เฉินยังคงทำหน้านิ่ง ๆ แล้วสูบบุหรี่ต่อไป “พวกนายคอยจับตาดูฉางชุนไว้ก็แล้วกัน ฉันจะทำให้มันตายทั้งเป็น!”
“นายครับ งั้นคืนนี้นายเองก็จะจัดหนักจัดเต็มเจ้าสาวของนายด้วย ใช่ไหมครับ?” “หรือว่า.... ?” หนึ่งในลูกน้องของเขายิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย ไม่มีใครเคยเห็นฉินหย่าหลินมาก่อน จะเคยก็แต่ได้ยินกิตติศัพท์ของหล่อนมาบ้าง
“นายครับ ได้ยินมาว่าเธอสวยเผ็ดมากเลยนะครับนาย โดยเฉพาะหุ่น เซ็กซี่อย่าบอกใครเชียว อีกอย่างเธอมีหนุ่ม ๆ ลุมล้อมมากหน้าหลายตา คงจะมีประสบการชำชองไม่เบาเลยครับ”
พวกผู้ชายที่นั่งอยู่บนโซฟา ต่างพากันพูดถึงเจ้าสาวกันอย่างสนุกปาก
แต่ผู้หญิงที่ยืนอยู่ด้านขวาของมู่เฉิน กลับมีสีหน้าไม่พอใจ ที่พวกผู้ชายเหล่านั้นเอาแต่พูดถึงผู้หญิงคนนั้นอยู่ได้
“พวกนายพูดจบกันยัง!” ในที่สุดเธอก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้น
“โว้ ๆ ดูสิ!คุณอานน่าของเราโกรธใหญ่แล้ว” หลาย ๆ คนคงพอจะดูออกว่าอานน่า ที่คอยร่วมเป็นร่วมตายกับมู่เฉินมา มีความรู้สึกอย่างไรกับเขา
เป็นความจริงที่ว่าทั้งสองคนมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาต่อกัน ทั้งสองมีความสนิทกันฉันท์ชู้สาวแล้ว ทว่าเธอกลับไม่ถูกยกย่องให้เป็นภรรยาของเขา แต่กลับถูกฉินหยาหลินมาตัดหน้าไป เธอคิดว่าหล่อนไม่มีคุณสมบัติอะไรที่เหมาะสมกับคนอย่างเหลิ่งมู่เฉินเลยสักนิด
“โกรธเหรอ?” มู่เฉินดับบุหรี่ที่อยู่ในมือลง แล้วเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าของเขายังคงนิ่งอยู่ แต่ริมฝีปากของเขายกขึ้นเล็กน้อย
“มู่เฉินคะ” อานน่าเรียกเขาเบา ๆ เธอรู้สถานะของตัวเธอดี ถึงแม้ความสัมพันธ์ของเธอกับมู่ฉินจะสนิทกันเพียงไร แต่เธอก็ไม่เคยล้ำเส้นไปมากกว่านี้
“นายครับ พาเจ้าสาวมาโชว์ตัวหน่อยไหมครับ ให้เราได้เห็นเป็นบุญตากันสักครั้ง!” ลูกน้องคนหนึ่งเอ่ยขึ้น และมีเสียงเห็นด้วยดังตามมา
มู่เฉินยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มพรวดเดียวหมดด้วยทวงท่าที่สง่างาม แล้วพยักหน้าตอบตกลง
ณ ห้องเพรสซิเดนเชียลสวีท หญิงสาวที่หน้าตางดงาม ในชุดเจ้าสาวที่ถูกสั่งตัดมาจากฝรั่งเศส วันนี้เป็นคืนวันแต่งงานของเธอ ถึงจะเป็นงานแต่งของเธอ แต่กลับไม่มีญาติสนิทของเธอเข้าร่วมงานเลยสักคน เธอแค่ต้องลงนามลงในกระดาษแผ่นหนึ่ง ซึ่งต้องแลกกับชีวิตของเธอทั้งชีวิต
ถึงแม้ใจเธอจะไม่ยินยอม แต่เธอก็ต้องตอบแทนพระคุณของผู้ที่ชุบเลี้ยงเธอมา เธอจึงจำใจยอมแต่งงานกับปีศาจร้ายในคราบมนุษย์อย่างมู่เฉินแทนพี่สาวของเธอ
ปีนี้เธอเพิ่งจะมีอายุได้เพียงยี่สิบสองปี ชีวิตของเธอกำลังจะได้เริ่มต้นขึ้น แต่กลับต้องมาแต่งงานกับผู้ชายที่มีอายุแก่กว่าเธอถึงหกปี ตอนนี้ในใจของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
เธอกลัวมาก แต่เธอก็ไม่มีทางเลือก
วันนี้ทั้งวันเธอไม่ได้กินอะไรเลย ตอนนี้เธอรู้สึกเวียนหัวมาก บนโต๊ะมีเพียงไวน์แดงขวดหนึ่งตั้งอยู่ ไม่มีอาหารอื่นเลย เธอเป็นเด็กดีมาตลอด เธอไม่เคยดื่มแอลกอฮอร์มาก่อนเลยในชีวิต
เธอรู้ดีตั้งแต่วินาทีที่เธอตัดสินใจตกลงแต่งงานแทนพี่สาวของเธอ ทุกอย่างจะไม่เหมือนเดิมอีก ทางที่เธอเลือกนั้นได้พาเธอออกห่างจากอนาคตที่เธอเคยวาดฝันไว้ ตอนนี้เธอทำได้แต่ปล่อยให้มันเป็นไปตามโชคชะตา
เธอรู้สึกหิว ริมฝีปากสีชมพูที่ถูกทาด้วยลิปกลอสแห้งผาก เธอกัดริมฝีปากของตัวเองเบา ๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองเป็นลมไป และรอคอยผู้ชายที่น่ากลัวคนนั้น
เสียงดังปัง ก่อนที่ประตูจะถูกเปิดออก มีชายรูปร่างสูงใหญ่และดุดันสองคนเดินเข้ามา
“นายหญิง เชิญ” น้ำเสียงของพวกเขาไม่ได้มีความเกรงใจเลยสักนิด ถึงแม้พวกเขาจะเรียกเธอนายหญิง แต่เธอกับไม่รู้สึกว่าเขาให้ความเคารพเธอเลย
“พวกคุณจะพาฉันไปไหน?” ‘ฉินหย่าหยิง’ ถอยหลังไปชิดมุมห้อง ด้วยท่าทางที่หวาดกลัวราวกับลูกกระต่ายน้อย
ไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบประโยคชายสองคนนั่นก็อุ้มเธอขึ้นพาดบ่า
การขัดขืนของหย่าหยิงนั้นไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลย
“โอ้ย!” ยังไม่ทันที่หย่าหยิงจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เธอก็ถูกโยนลงบนพื้นดังตุ้บ!ถึงจะมีพรมรองรับแต่มันก็ทำให้เธอรู้สึกเจ็บอยู่ดี
“ฉินหย่าหลิน เงยหน้า!” มู่เฉินเอ่ยเสียงเรียบ แต่กลับดูมีพลัง
ใช่! ตอนนี้เธอคือฉินหย่าหลินไม่ใช่ฉินหย่าหยิง
เธอไม่กล้าเงยหน้าขึ้น ถ้าหากถูกจับได้ว่าเธอเป็นเจ้าสาวตัวปลอม เธอต้องตายแน่ ๆ !
เพื่อชดใช้หนี้ให้แก่เขา เธอต้องจำยอมเป็นเจ้าสาวของเขา เขาผู้ที่ทุกคนขนานนามว่าเป็นเสมือนปีศาจ เขามีอำนาจที่ทำให้ทุกคนยอมสยบแทบเท้า เธอรู้สึกท้อแท้ และสิ้นหวัง เขาโหดเหี้ยม และไร้ความเมตตา แต่แล้วความอ่อนหวานของเธอ ก็ทำให้เขาต้องจำนนต่อความลุ่มหลงที่ไม่อาจห้ามใจได้ ก่อนที่เขาจะรู้สึกตัว เขาก็ไม่สามารถถอนตัวออกจากเธอได้เสียเเล้ว ความปรารถนาอันแรงกล้า ก่อให้เกิดเรื่องราววุ่นๆ ของพวกเขา แล้วความรักแบบมีเงื่อนไขนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"